หากใครที่กำลังสนใจอยากเรียนต่อ การเขียน Motivation Letter เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นตัวพรีเซนต์ความสามารถและความสนใจที่เรามีต่อหลักสูตรการเรียนและมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัคร ช่วยเพิ่มโอกาสและสร้างความน่าสนใจ หากเขียนดี พรีเซนต์ตัวเองเริ่ด โอกาสที่จะได้ถูกตอบรับเข้าเรียนต่อก็ใกล้แค่เอื้อม Show
นอกเหนือจาก Motivation Letter แล้วก็มีอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า SoP (Statement of Purpose) ซึ่งมีความคล้ายกัน บางครั้งทั้งสองคำนี้สามารถใช้แทนกันได้เลย แต่จุดที่แตกต่างกัน คือ SoP จะเน้นใช้สมัครเรียนต่อในระดับปริญญาโทขึ้นไป หากมีเทคนิคการเขียน SoP ก็มีสิทธิ์ที่จะติดมหาวิทยาลัยระดับโลกได้เลย แต่สำหรับบทความนี้ จะพาน้องๆ ไปดูวิธีการเขียน Motivation Letter ให้ดี ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปดูกัน Motivation Letter คืออะไร?Motivation Letter คือ จดหมายที่ใช้สำหรับสมัครเรียน โครงการแลกเปลี่ยน อาสาสมัคร สมัครเข้าทำงานในองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ฝึกงาน หรือสมัครงานบริษัทต่างๆ แต่ Motivation Letter ส่วนใหญ่จะใช้ในการสมัครเรียนต่อมากกว่า ซึ่งหากน้องๆ ต้องการที่จะเรียนต่อ จะต้องรู้วิธีการเขียนว่าเขียนอย่างไรให้กรรมการประทับใจ และเห็นว่าเรามีความตั้งใจและความทะเยอทะยาน รวมถึงมีความสามารถหรือทักษะอะไรที่จะทำให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในสถาบันของเขา หากเตรียมความพร้อมในการเขียนได้ดี รับรองว่าโอกาสดีๆ ไม่หลุดมือแน่นอน! โดยในการเขียน Motivation Letter ควรเขียนอธิบายถึงเหตุผล ประสบการณ์ และแรงจูงใจที่ทำให้อยากศึกษาต่อในสาขานั้น นอกจากนี้ อาจเขียนถึงจุดมุ่งหมายในอนาคตหลังจากจบการศึกษา ว่าจะนำความรู้ไปใช้ต่อยอดในชีวิตได้อย่างไร วิธีเขียน Motivation Letter ต้องมีอะไรบ้าง?ก่อนที่จะเริ่มเขียน Motivation Letter ก็ควรที่จะต้องรู้เทคนิคกันสักหน่อย เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกตอบรับจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่น้องๆ สนใจเข้าศึกษาต่อ มาดูกันว่า วิธีเขียน Motivation Letter ให้ปัง โดนใจ มีเอกลักษณ์ และน่าสนใจจนกรรมการวางไม่ลง ต้องทำอย่างไรบ้าง? ช่องทางการติดต่อในการเขียน Motivation Letter ข้อมูลส่วนตัวเป็นสิ่งที่จำเป็น ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล และข้อมูลติดต่อของเรา เช่น ที่อยู่ อีเมล เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และเบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น โดยข้อมูลเหล่านี้ต้องอยู่บริเวณด้านบนของกระดาษ สามารถจัดให้อยู่มุมไหนก็ได้ตามการออกแบบของตัวเอง ตัวอย่างการเขียนช่องทางการติดต่อใน Motivation Letter Somjai Wariarak Ban Laem, Phetchaburi 123-456-7891 Linkedin.com/in/somjaiwariarak บทนำหลังจากที่ใส่ข้อมูลการติดต่อของน้องๆ ไปแล้ว วิธีการเขียน Motivation Letter ในขั้นตอนถัดมา คือ การเขียนบทนำ โดยในส่วนนี้ถือเป็นส่วนที่ต้องเขียนให้ผู้อ่านรู้สึกว่าน่าสนใจ อยากอ่านต่อ หรืออยากทำความรู้จักกับเรามากขึ้น โดยสิ่งที่ควรเขียนลงไปในบทนำ มีดังนี้
ตัวอย่างการเขียนบทนำใน Motivation Letter Dear Professor Elina Brown, My name is Somjai Wariarak. I would like to express my interest in applying for the English literature program at Cambridge University. I have always dreamed of becoming a writer and inspiring people with my creative writing. I believe that by joining this program, I will be right on the path toward my ultimate goals. เนื้อหาในส่วนเนื้อหานั้นถือเป็นจุดขายของตัวน้องๆ เลย วิธีการเขียน Motivation Letter ส่วนนี้ น้องๆ ควรที่จะกล่าวถึงทักษะที่มี ผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา เรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิต ทำให้คณะกรรมการเห็นถึงความสนใจ และความตั้งใจที่มาสมัครเรียนในหลักสูตรที่ฝันไว้ แนะนำว่าตรงนี้ต้องเขียนให้ผู้อ่านเห็นว่าเราไม่ได้มาเล่นๆ นะ เราพร้อมลุย มีความมุ่งมั่น มีเป้าหมาย และแพชชั่นที่ชัดเจน ตัวอย่างการเขียนเนื้อหาใน Motivation Letter My passion for becoming a writer started when I joined a book club back in high school. Being a part of that book club helped me to realize how impactful a book can be. I learned how to write through hours of practice. Now I would like to gain advanced knowledge by attending the English Literature program at Cambridge University. บทสรุปมาถึงส่วนสุดท้ายของการเขียน Motivation Letter กันแล้ว คือ บทสรุปนั่นเอง บทสรุปถือเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้จุดอื่นๆ เพราะหากเริ่มต้นมาดี แต่มาตกม้าตายตอนจบ ก็อาจทำให้น้องๆ พลาดโอกาสสำคัญได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการเขียนบทสรุปนั้นไม่ได้ยาก ซึ่งเทคนิคในการเขียนทิ้งท้าย มีดังนี้
ตัวอย่างการเขียนบทสรุปใน Motivation Letter Studying English Literature at Cambridge University is an opportunity to maximize my potential. I would love to dedicate myself wholeheartedly. I am determined to make the most out of this program. I believe that being a part of this program will empower my career development in the future. Thank you for your consideration Sincerely, Somjai Warairak เทคนิคการเขียน Motivation Letter ให้ปังโดนใจหลังจากที่รู้แล้วว่า Motivation Letter มีองค์ประกอบ และแต่ละส่วนมีแนวทางการเขียนอย่างไรบ้าง ต่อไปก็จะเป็นเทคนิคการเขียนที่จะช่วยให้ Motivation Letter ของน้องๆ เป็นที่จดจำในสายตาของกรรมการได้ ซึ่งมีเทคนิค ดังนี้ ต้องแยกให้ออกก่อนระหว่าง Motivation Letter กับ SoPการเขียนผิดรูปแบบ หรือผิดจุดประสงค์ อาจทำให้โอกาสดีๆ หายวับไปกับตาได้เลย ดังนั้น ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่า Motivation Letter กับ SoP มีความเหมือนหรือแตกต่างกันขนาดไหน สำหรับน้องๆ ที่ยังสับสนอยู่ ทั้ง 2 แบบมีการใช้งาน ดังนี้ Motivation Letter
SoP (Statement of Purpose)
วางเอาต์ไลน์ก่อนเขียนจริงอีกวิธีที่ช่วยให้การเขียน Motivation Letter ง่ายขึ้น คือ การวางเอาต์ไลน์ เพราะเอาต์ไลน์ที่ดีจะช่วยเรียบเรียงความคิดของเราให้เป็นระบบ ไม่เขียนวกไปวนมา หรือเรียบเรียงลำดับก่อนหลังไม่ถูกต้อง อย่าลืมนะว่าการเขียน Motivation Letter ที่ดีนั้นต้องได้ใจความ ไม่ยืดเยื้อ กระชับ เข้าใจง่าย พูดง่ายๆ และไม่สร้างความสับสนให้กับผู้อ่าน หากเขียนไม่ดีมันก็ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของจดหมายเราได้ เขียนให้สอดคล้องกับคณะที่สมัครในการเขียน Motivation Letter น้องๆ จำเป็นต้องเขียนให้สอดคล้องกับคณะที่สมัครด้วย ดังนั้น สำหรับน้องๆ ที่สนใจเข้าเรียนมากกว่าหนึ่งคณะ หรือหนึ่งมหาวิทยาลัย จำเป็นต้องระมัดระวังใ และใส่ใจกับการเขียนในทุกฉบับ เพราะการเขียนตามใจตัวเอง แต่ไม่คำนึงถึงคณะที่สมัคร สามารถทำให้เราพลาดโอกาสในการเรียนต่อคณะที่ใฝ่ฝันได้ แนะนำว่าหากน้องๆ มีทักษะหรือความสามารถอะไรที่เกี่ยวข้องกับคณะที่สมัครก็ให้เขียนไปตามนั้นเลย หากยังนึกภาพไม่ออก พี่ๆ มีตัวอย่างมาให้น้องๆ ดูเป็นแนวทางว่าควรจะเขียนอย่างไร ตัวอย่างการเขียน Motivation Letter I am writing to apply for the bachelor’s degree in Materials Engineering at your university. I have always been interested in becoming an engineer since I was young. I studied rigorously during high school to gain all the important knowledge I could use to complete this degree. I am confident that I have the skills and dedication to become successful in this field, and I believe that this degree will help me reach my professional goals. ใช้คำที่ตรงประเด็น เข้าใจง่ายการใช้คำที่ตรงประเด็นและเข้าใจง่ายในการเขียน Motivation Letter จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่น และเข้าใจง่าย พยายามอย่าเขียนอะไรที่ยืดเยื้อจนเกินพอดี ไม่ใช้คำที่ซับซ้อนเข้าใจยาก บางคนอาจคิดว่าการใช้คำยากๆ หรือประโยคที่ซับซ้อน ทำให้จดหมายเราดูดี โดดเด่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกคำง่ายๆ ที่ตรงความหมายและถูกบริบทก็เพียงพอแล้ว โดยเน้นการเขียนให้ตรงประเด็นตามที่เราจะสื่อ และพยายามดึงเอาจุดเด่น และความสามารถของเรามาแสดงให้กรรมการเห็น อย่าเขียนหลายประเด็นในการเขียน Motivation Letter ควรเลือกโฟกัสเพียงแค่ประเด็นที่สำคัญ เราไม่จำเป็นจะต้องเขียนหมดทุกอย่าง เพียงแค่น้องๆ ดึงเอาจุดแข็งที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับคณะที่เราต้องการไปศึกษาต่อ พร้อมทั้งบอกเล่าประสบการณ์ว่าทำไมสิ่งนี้จึงเป็นจุดแข็งของเรา และมันมีประโยชน์อย่างไรในการเรียนสาขาหรือคณะนี้ ใส่อารมณ์และความรู้สึกลงไปการเขียน Motivation Letter แน่นอนว่าเป็นการสื่อถึงความเป็นตัวตนของเราและทักษะความสามารถที่เรามี ดังนั้น น้องๆ ควรแสดงให้เห็นถึงแพชชั่นของเรา บรรยายออกมาให้กรรมการได้รับรู้ ทำอย่างไรก็ได้ให้เขาเห็นถึงความพยายามของเราและประสบการณ์ที่สั่งสมมา ให้เขารับรู้ถึงแรงผลักดันแรงบันดาลใจที่น้องๆ มีต่อคณะที่อยากเรียน และแสดงให้เห็นว่าเรามีความเหมาะสมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของคณะนี้ แต่ก็อย่าลืมว่าน้องๆ ก็ต้องเขียนให้เป็นธรรมชาติและคงความเป็นตัวของตัวเอง รวมถึง การให้ข้อมูลที่เป็นความจริงเท่านั้นอีกด้วย ใช้ภาษาที่กึ่งทางการ ไม่ติดเล่นจนเกินไปภาษาที่ใช้ในการเขียน Motivation Letter ควรที่จะมีโทนไปในทางที่เป็นทางการและจริงจังในระดับหนึ่ง การที่เราเขียนแบบติดเล่นเกินไป หรือใส่มุกขำขันลงไปอาจทำให้ผู้อ่านตีความหรือเข้าใจจดหมายของเราผิดเพี้ยนไปได้ เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัยใช้ภาษาแบบกึ่งทางการจะดีกว่า อย่าเขียน Motivation Letter เลียนแบบคนอื่นแน่นอนว่าการเขียน Motivation Letter คือ การเขียนจดหมายเพื่อพรีเซนต์ตัวเอง การที่น้องๆ ไปเขียนลอกเลียนแบบจดหมายของคนอื่นก็อาจจะทำให้จดหมายของเราขาดความเป็นตัวของตัวเอง สื่อความหมายและแสดงตัวตนของน้องๆ ได้ไม่ดี ดังนั้น พยายามเขียนด้วยความคิดและสำนวนของตัวเองจะทำให้จดหมายของเราออกมาเป็นธรรมชาติและสื่อตัวตนของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี ตรวจทานก่อนส่งเสมออีกสิ่งที่จะทำให้ผู้อ่านประทับใจหรือไม่ประทับใจจดหมายของเรา คือ ความถูกต้อง ดังนั้น ก่อนที่น้องๆ จะส่งก็ควรที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ คำศัพท์ หรือ ไวยากรณ์ บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ต้องระวังมากๆ โดยน้องๆ สามารถให้เพื่อนๆ ผู้ปกครอง หรือคุณครูช่วยตรวจทานให้ก่อนส่งก็ได้ หรือจะใช้เครื่องมือตรวจสอบคำศัพท์และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย เช่น
สรุป Motivation Letter คือจดหมายที่แสดงถึงแรงจูงใจ หรือเหตุผลที่อยากจะเข้าศึกษาต่อ ซึ่งอาจจะมีรูปแบบในการเขียนที่คล้ายคลึงกับ SoP แต่จดหมายทั้งสองอย่างนั้นมีจุดที่แตกต่างกัน โดยการจะเขียน Motivation Letterให้มีความน่าสนใจจะต้องวางเอาต์ไลน์ก่อนเสมอ ที่สำคัญจะต้องเขียนให้สอดคล้องกับคณะที่อยากเข้า เขียนให้ตรงประเด็น และใช้ภาษาที่น่าสนใจ เป็นต้น ส่งเมล์สมัครงาน เขียนยังไง
*เพิ่มเติม. การเขียนจดหมายสมัครงาน มีอะไรบ้างที่อยู่ของผู้ส่ง. วัน เดือน ปี. ชื่อ และที่อยู่ผู้รับ. คำขึ้นต้นจดหมาย. เนื้อหาของจดหมาย. คำลงท้ายจดหมาย. ลายเซ็น. สิ่งที่ส่งมาด้วย. จดหมายภาษาอังกฤษเขียนว่าอย่างไร(n) letter, See also: correspondence, mail, Syn. หนังสือ, Example: ทางมหาวิทยาลัยจะจัดส่งจดหมายแจ้งผลการสอบให้นักศึกษาทราบ, Count Unit: ฉบับ, แผ่น, Thai Definition: หนังสือที่มีไปมาถึงกัน จดหมายแนะนําตัว เขียนยังไงสิ่งที่ควรเขียนในจดหมายแนะนำตัวควรจะครอบคลุมเนื้อหาดังต่อไปนี้ค่ะ เป้าหมายและความคาดหวังทางด้านอาชีพในอนาคต เหตุผลที่ทำให้น้อง ๆ สนใจทางด้านนี้ มีอะไรบ้างที่น้อง ๆ ได้ทำและเรียนรู้เพื่อให้เข้าใกล้ความสำเร็จในเป้าหมายของตัวเองมากที่สุด |