Login
Statistics
Most Viewed Posts
citationic styles="apa,mla,harvard,vancouver,chicago,ieee"] ในยุคที่ธุรกิจต่างก็แข่งขันกันด้วยนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์จึงเปรียบเหมือนทรัพยากรที่มีค่าขององค์กร หากองค์กรไหนมีพนักงานที่มีความคิดสร้างสรรค์มาก แน่นอนว่าย่อมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ ขณะเดียวกันพนักงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง ทำให้ได้เปรียบในการสมัครงานและเพิ่มโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ อย่างไรก็ตามหลายคนมักมองว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นพรสวรรค์เฉพาะบุคคลเท่านั้น แต่ความจริงแล้วความคิดสร้างสรรค์เป็นทักษะที่ไม่ว่าใครก็สามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะแบบไอน์สไตน์ก็สามารถมีความคิดสร้างสรรค์ได้เช่นกัน “Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results” – Albert Einstein – อยากได้ผลลัพธ์ใหม่ต้องไม่ใช้วิธีการเดิมๆ การที่จะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้ต้องรู้จักคิดนอกกรอบ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสาเหตุที่ทำให้คนเราคิดนอกกรอบไม่ได้ก็คือกรอบความคิดของเราเอง กรอบความคิดของคนเรานั้นถูกสร้างขึ้นจากรูปแบบวิธีคิดที่ถูกใช้ในการแก้ปัญหาซ้ำๆ แล้วได้ผล จนสมองของเราจดจำว่าเมื่อเจอชุดเหตุการณ์หรือปัญหาอะไรก็ตาม สมองก็จะใช้กรอบความคิดนี้ในการแก้ปัญหา และคอยปัดไอเดียที่อยู่นอกกรอบทิ้งไปเสมอ สิ่งนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ และมักมองข้ามไอเดียดีๆ มากมายที่ตั้งอยู่ตรงหน้า เพียงเพราะว่ามันอยู่นอกเหนือกรอบที่เราวางไว้ เราจึงมองว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไม่กล้าลองเพราะไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ทำให้เราคิดวนเวียนอยู่ในกรอบเดิมๆ หาทางออกไม่ได้สักที ทั้งที่เราควรคิดนอกกรอบเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นเราจึงต้องหมั่นฝึกตัวเองให้คิดนอกกรอบอยู่เสมอเพื่อกระตุ้นสมองให้คอยสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ และฝึกให้สมองหาแนวทางที่ต่างออกไปในการแก้ปัญหา ฝึกคิดนอกกรอบและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์หากคุณเคยเจอปัญหาที่รู้สึกว่าแก้ไม่ตก หรือเคยรู้สึกตันเพราะคิดงานไม่ออก มาลองฝึกคิดนอกกรอบแบบไอน์สไตน์ตามขั้นตอนนี้กันค่ะ รับรองว่าไม่ว่าใครก็สามารถแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้ด้วย 4 ขั้นตอนนี้
อ้างอิง: หนังสือ How to Think Like Einstein, Simple Ways to Break the Rules and Discover Your Hidden Genius |