ฝ นเห นม งกรส คร ม ส เข ยว.ส แดง

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 1

โจทย์ ตะลยุ โลก 100 ขอ้

  1. การแบ่งโครงสรา้ งของโลกเป็นธรณภี าค ชวี ภาค อทุ กภาค และ ก. คา้ นวณดว้ ยวิธีหาอายสุ มั บรู ณ์ บรรยากาศใชเ้ กณฑใ์ นข้อใด ข. การเปรียบเทยี บอายุของลา้ ดับชันหนิ ก. องค์ประกอบทางกายภาพ ข. องคป์ ระกอบทางชีวภาพ ค. การสืบลา้ ดับจากซากดกึ ดา้ บรรพ์ท่อี ยูใ่ นชนั หนิ ค. องค์ประกอบสง่ิ แวดลอ้ ม ง. องคป์ ระกอบทางเคมี ง. คา้ นวณจากความเขม้ ของเกลอื ท่ีเหลืออยู่ในน้าทะเล
  1. แกส๊ ชนิดใดพบน้อยมากในบรรยากาศโลกยุคแรก 8) จากการศกึ ษาการเคลื่อนท่ีออกของแผน่ เปลือกโลก 1. แผ่นพันเจียแยกออกเปน็ สองแผ่น ก. ไอนา้ ข. คาร์บอนไดออกไซด์ 2. แผน่ กอนดว์ านาแยกออกเปน็ แผ่นอินเดีย แผน่ อเมรกิ าใต้ และ แผ่นแอฟรกิ า ค. ไฮโดรเจนซัลไฟต์ ง. ออกซเิ จน 3. แผน่ แอฟริกาแยกออกจากแผน่ อเมรกิ าใต้ 4. แผ่นออสเตรเลียเคล่ือนท่ีออกจากแผ่นแอนตารก์ ตกิ
  2. บรรยากาศ 2 ชนั ที่สามารถมกี ารเคล่อื นท่ีในแนวตงั ไดค้ ือข้อใด 5. แผน่ อนิ เดียเคลื่อนทเี่ ข้าชนกบั แผ่นยเู รเซีย ก. สตราโทสเฟยี รแ์ ละเทอรโ์ มสเฟยี ร์ ข. โทรโพสเฟียรแ์ ละมีโซสเฟียร์ ข้อใดเรยี งล้าดับขันตอนไดถ้ ูกตอ้ ง ค. สตราโทสเฟียร์และมีโซสเฟียร์ ง. โทรโพสเฟียร์และเอกโซสเฟียร์
  1. ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ ง ก. 1 – 2 – 3 – 4 - 5 ข. 1 – 3 – 5 – 2 - 4 ก. บรรยากาศเป็นสว่ นที่มคี วามสา้ คญั ที่สุดต่อสิ่งมชี วี ติ ท่อี าศยั อยู่ ค. 1 – 3 – 5 – 4 - 2 ง. 5 – 4 – 3 – 2 - 1 บนโลก ข. ธรณีภาคคือสว่ นของโลกที่ของแข็งและสว่ นที่เปน็ ทะเล 9) เปลือกโลกมสี ว่ นประกอบตามข้อใด มหาสมุทร ก. แผน่ ดนิ พืนทวปี และใตม้ หาสมุทร ค. อทุ กภาคเปน็ ส่วนของเปลือกโลกที่เป็นของแขง็ กบั ทะเลทีอ่ ยู่ ข. แผ่นดิน ภเู ขา สันปนั น้า แมน่ า้ มหาสมุทร ถ้า บนพนื มหาสมุทร ค. แผน่ ดนิ ส่วนที่อย่ใู ตท้ ะเลซ่ึงติดกบั แผน่ พนื ทวปี ง. ชีวภาคเปน็ ส่วนของโลกทีม่ ีส่งิ มชี วี ิตอาศัยอยซู่ งึ่ รวมถงึ อุทก ง. เปลือกโลกท่เี ป็นพนื ดินท่ีประกอบดว้ ยซลิ ิกา อะลูมินา ภาค บรรยากาศ และธรณภี าค และแมกนีเซยี ม

จากรูป ตอบคา้ ถามขอ้ 5-6 C A 10) เปลอื กโลกบริเวณใดทม่ี ีความบางมากท่สี ดุ และเป็นจุดต้่าสดุ ของ EB เปลือกโลก ก. ร่องลึกมนิ ดาเนา มหาสมุทรแปซฟิ กิ D ข. รอ่ งลึกตองกา มหาสมทุ รแปซิฟกิ ค. รอ่ งลึกกีโอต์ มหาสมุทรแปซฟิ ิก

  1. ข้อใดเรยี งลา้ ดบั โครงสรา้ งโลกตามความหนาจากน้อยไปมาก ง. ร่องลกึ กน้ มหาสมทุ รมารีนา มหาสมุทรแปซฟิ กิ ก. C – D – E – B - A ข. A – B – C – D - E 11) การทแ่ี ผน่ เปลอื กโลก(A)เคล่อื นท่เี ขา้ ชนแผน่ เปลอื กโลก(B)และแผน่ ค. A – B – E – C - D เปลอื กโลก(A)มุดตวั เขา้ สู่ใต้แผ่นเปลือกโลก (B) ข้อใดอธบิ าย ง. D – C – E – B – A ปรากฏการณ์นีได้ถูกต้อง ก. แผ่นเปลอื กโลก(A)มคี วามหนาน้อยกวา่ แผน่ เปลอื กโลก(B)
  2. ขอ้ ใดเรยี งล้าดับตามอณุ หภูมจิ ากมากไปนอ้ ย ข. แผน่ เปลอื กโลก(A)มคี วามหนามากกว่าแผน่ เปลอื กโลก(B) ก. B – E – A – D - C ค. แผน่ เปลือกโลก(A)เป็นแผ่นพืนทวีป แผน่ เปลอื กโลก ข. E – B – A – C - D (B)เป็นแผน่ เปลือกโลกพืนมหาสมทุ ร ค. E – A – B – D - C ง. ขอ้ 1 และ 3 ถูกต้อง ง. A – B – E – C – D
  3. ชนั “ฐานธรณภี าค” อยตู่ รงส่วนใดของโครงสรา้ ง
  4. การหาอายขุ องโลกโดยวธิ ีการใดจงึ จะไดค้ ่าท่ีแมน่ ย้ามากทส่ี ดุ ก. ชันเปลอื กโลก

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 2

ข. รอยตอ่ ของเปลอื กโลกกับชันเนือโลก ง. เปน็ ชันที่อยู่ใตเ้ นือโลกสว่ นกลาง

ค. รอยต่อของชนั เนือโลกสว่ นบนกับชนั เนอื โลกสว่ นลา่ ง 19) ชันใดของโครงสร้างโลกที่เป็นแหล่งแร่มหาศาลส้าหรับใช้ใน ง. รอยตอ่ ชนั เนือโลกกับชันแก่นโลก อุตสาหกรรม

  1. ถ้าเปลอื กโลกมคี วามหนาประมาณ 0.70 กิโลเมตร ชนั ธรณภี าค ก. ชนั เปลือกโลก ข. ชนั เนอื โลก

หนา 0.100 กโิ ลเมตร ชนั เนอื โลก สว่ นบนจะมีความหนาเทา่ ใด ค. แกน่ โลกชนั นอก ง. แกน่ โลกชนั ใน

ก. 30 กิโลเมตร ข. 50 กโิ ลเมตร 20) แก่นโลกชนั ในประกอบด้วยธาตใุ ดเป็นสว่ นใหญ่ ค. 150 กโิ ลเมตร ง. 170 กโิ ลเมตร ก. ซลิ กิ าและเหลก็ ออกไซด์ ข. เหล็กและนกิ เกิล

  1. นักวิทยาศาสตร์ศึกษาสภาพของชันแก่นโลก พบว่ามีการมีการ ค. ฟลูออไรด์และเหลก็

เคลื่อนที่ของสารละลายเหล็กเหลวภายในชันนอกของแก่นโลก ซ่ึง ง. เหล็ก ทองแดง และนิกเกิล

การเคลอ่ื นตัวของของเหลวรอ้ นนที ้าให้เกดิ สิ่งใด 21) ความพรนุ ของหินท่ีเกิดขนึ หลังภูเขาไฟระเบดิ ขึนอย่กู บั ปัจจยั ใด ก. การเคล่ือนทีข่ องแผ่นเปลอื กโลกตลอดเวลา ก. รปู รา่ งและความสูงของภูเขาไฟ ข. การปะทุของภเู ขาไฟและการเกิดหินอัคนี ข. ต้าแหนง่ ของรอยแยกบนพนื ค. ปรากฏการณแ์ สงเหนอื แสงใตบ้ รเิ วณขวั โลกเหนอื และขวั โลก ค. อตั ราการเย็นตัวของลาวา ง. องคป์ ระกอบทางเคมขี องแกมมา ใต้ ง. สนามแม่เหล็กทห่ี ่อหมุ้ โลกให้พ้นอันตรายจากรงั สีตา่ งๆจาก 22) แนวคิดหรอื สมมตฐิ านทยี่ อมรับเป็นทฤษฎแี ลว้ วา่ ปัจจยั ที่ทา้ ให้ เปลือกโลกเคล่ือนทคี่ ือขอ้ ใด นอกโลก ก. การแผ่รงั สคี วามร้อนภายใต้แกน่ โลก ข. กระแสการพาความรอ้ นในชันเนอื โลก

  1. การเกดิ แผน่ ดนิ ไหวเกิดขึนทบ่ี ริเวณใดของโครงสร้างโลก ค. กระแสการน้าความรอ้ นภายใต้ชันธรณีภาค ง. พลงั งานความร้อนใตช้ ันฐานธรณภี าค ก. ฐานธรณีภาค ข. ธรณภี าค

ค. แก่นโลก

ง. ชันของโครงสร้างโลกที่มหี นิ หลอมละลาย

  1. แนวแบ่งเขตโมโฮโรวซิ ิกหมายถงึ ขอ้ ใด 23) เทอื กเขาหิมาลยั เกิดจากปรากฏการณธ์ รณกี ายภาพแบบใด ก. เป็นแนวแบ่งเขตระหวา่ งชันเปลือกโลกกับชันเนือโลกส่วนบน ก. การเกดิ แผ่นดินไหว ข. เปน็ แนวแบง่ เขตระหว่างชันธรณภี าคกบั ชนั ฐานธรณีภาค ข. การแยกตวั ของแผน่ เปลือกโลก ค. เปน็ แนวแบ่งเขตระหวา่ งเปลือกโลกชันนอกกับเปลอื กโลก ค. การชนกันของแผ่นเปลือกโลก ชนั ใน ง. การระเบดิ ของภเู ขาไฟ ง. เปน็ แนวแบง่ เขตระหวา่ งเปลือกโลกพืนทวีปกับเปลือกโลกใต้ มหาสมทุ ร 24) ข้อใดแสดงการเกิดเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้เคียงกับแนวคิดของ นกั วทิ ยาศาสตรม์ ากทีส่ ุด
  2. ชันเนือโลกส่วนบนที่เป็นชันถัดลงมาจากจากชันเปลือกโลก มี ก. แผน่ อินเดียเลือ่ นชนขอบแผ่นยูเรเซียแบบเฉือนแล้วมุดลง ลักษณะส้าคัญอยา่ งไร ใตข้ อบเกดิ เทอื กเขา ก. เปน็ ของเหลวหนดื รอ้ นหลอมเหลวอยภู่ ายใน ข. แผ่นอนิ เดยี เลอื่ นชนขอบแผน่ ยูเรเซียแบบเฉอื นท้าให้เกดิ ข. เปน็ ของแข็งทม่ี ีความรอ้ นและความหนาแน่นสงู มาก เทอื กเขาเป็นแนวยาว ค. เป็นของแขง็ และของเหลวหนดื ประกอบดว้ ยซิลิเกตและเหลก็ ค. แผ่นอินเดียเลื่อนชนมุดดันลงใต้แผ่นยูเรเซียแล้วดันให้ ง. มอี ณุ หภมู ิสูงกวา่ ชันอืน่ ๆทา้ ให้สสารอยใู่ นสภาพท่ีเปน็ ลอยขึนจนเกิดเทือกเขา ของเหลวร้อน ง. แผ่นอินเดียเล่ือนชนดันกบั แผน่ ยูเรเซียท้าให้เกิดเทือกเขา
  1. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะพิเศษของชนั ฐานธรณีภาค ตามแนวขอบแผน่ ที่ชนกัน

ก. มสี ภาพเป็นพลาสตกิ (Plastic) 25) ข้ออธิบายถึงผลของบรรยากาศที่มตี อ่ ธรณีภาคได้ถกู ตอ้ ง ข. มสี ภาพเปน็ ไดนามิก(Dynamic) ก. ปริมาณน้าฝนท่ีตกมากท้าให้เกิดดินถล่มและเกิดหลุมใน ค. มีสภาพยดื หยุ่น(Elastic) พนื ทต่ี า่ งๆ

โดย ครูสลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 3

ข. ความแปรปรวนของชันบรรยากาศก่อให้เกิด 30) ลักษณะส้าคัญทางธรณีวิทยาบริเวณที่เรียกว่า “วงแหวนไฟ (Ring

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติบนพืนผิวโลกได้แก่ of Fire)”เปน็ อย่างไร

แผน่ ดนิ ไหวและภเู ขาไฟประทุ ก. บริเวณฝ่งั ทะเลทม่ี ไี ฟอยู่ลอ้ มรอบเป็นวงกลม

ค. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ฝนตก กระแสลม ท้าให้เกิด ข. บริเวณทม่ี ีการมดุ ตวั ของแผน่ เปลอื กโลกรอบชายฝง่ั มหาสมทุ ร

กระบวนการกดั กร่อน ผผุ งั พดั พา กัดเซาะ ตกตะกอนซ่ึง แปซิฟกิ

ท้าใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลงบนพืนผิวโลก ค. ภูมิประเทศท่ีมีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงและมีรอยเลื่อนเป็น

ง. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมขิ องโลกทา้ ใหเ้ กดิ กระบวนการผุ จา้ นวนมากเรียงรายเปน็ วงแหวน

พังและกดั กร่อนของพนื ผวิ โลก ง. สภาพพนื ท่ีชายฝง่ั ทะเลทม่ี ปี รมิ าณแก๊ส CO₂ อยูห่ นาแน่น ท้า

  1. การเคล่ือนตัวของแผ่นเปลือกโลกก่อให้เกิดแรงเครียดสะสมภายใน ให้อุณหภมู บิ ริเวณรอบชายฝัง่ สูงขึน

แผ่นเปลือกโลกซึ่งจะท้าให้เกิดการเปล่ียนแปลงของเปลือกโลกท่ี 31) ขอ้ ใดคอื สาเหตุของการเกิดแผน่ ดนิ ไหว

เรยี กวา่ “แรงเทคโนทิก” ซึ่งประกอบดว้ ยแรงในข้อใด ก. คลนื่ สนึ ามิ ข. โลกหมุน

ก. แรงเคน้ ดึงและแรงเค้นอัด ค. น้าขึน นา้ ลง ง. การเคลอื่ นตัวของแผ่นเปลอื กโลก

ข. แรงเค้นเฉอื นและแรงเค้นอดั 32) ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของแผ่นดินไหวทเี่ กดิ จากการกระทา้ ของมนุษย์ ค. แรงเคน้ ดึงและแรงเคน้ เฉือน ก. การท้าเหมืองแร่ ง. แรงเคน้ อัด แรงเคน้ ดงึ และแรงเคน้ เฉือน ข. การทดลองระเบิดปรมาณู

  1. พนื ที่ในข้อใดที่อยบู่ ริเวณทเี่ รยี กว่า “วงแหวนไฟ” ค. การสรา้ งและกักเกบ็ นา้ ในเขอ่ื น

ก. แนวรอยตอ่ ภูเขาหมิ าลยั ง. การเคล่ือนย้ายอุกาบาตรในทุ่งนา

ข. บรเิ วณเทอื กเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก 33) การเกดิ แผ่นดนิ ไหวจะมเี หตุการณ์ทอ่ี าจจะเกดิ ขึนเรียงลา้ ดบั ตามข้อ ค. บรเิ วณขอบมหาสมทุ รแปซิฟกิ ทังหมด ใด ง. บริเวณรอยต่อภูเขาแอลปใ์ นทวปี ยุโรป ก. แผ่นดนิ ไหวน้า (Foreshock) แผน่ ดนิ ไหวตาม (Aftershock)

  1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงวงแหวนไฟไมถ่ ูกต้อง แผ่นดนิ ไหวหลัก (Mainshock)

ก. เป็นบริเวณทีเ่ กดิ แผน่ ดนิ ไหวค่อนข้างรุนแรงทสี่ ดุ ในโลก ข. แผ่นดินไหวหลกั (Mainshock) แผ่นดนิ ไหวน้า (Foreshock)

ข. เปน็ แนวรอยตอ่ ที่ลอ้ มรอบมหาสมทุ รแปซฟิ ิก แผ่นดินไหวตาม (Aftershock)

ค. เปน็ บริเวณท่ีมภี ูเขาไฟอยูม่ ากเพราะธรณภี าคมีการ ค. แผ่นดินไหวน้า (Foreshock) แผ่นดินไหวหลัก (Mainshock)

เคลอ่ื นทต่ี ลอดเวลา แผ่นดินไหวตาม (Aftershock)

ง. สว่ นหนึง่ ของวงแหวนผา่ นดา้ นตะวันออกของทวปี ง. แผ่นดนิ ไหวหลัก (Mainshock) แผน่ ดนิ ไหวตาม

ออสเตรเลยี (Aftershock) แผ่นดินไหวน้า (Foreshock)

  1. วงแหวนไฟ (Ring of Fire) หมายถงึ ขอ้ ใด 34) ขอ้ ใดเรียงล้าดับความเรว็ ที่เกิดขึนของคล่ืนไหวสะเทือนจากมากไป

ก. บริเวณที่เกิดภูเขาไฟ แผ่นดินไหว และคาบอุบัติซ้าตาม นอ้ ยไดถ้ กู ตอ้ ง

แนวรอยเตกรอบโลก ก. คลื่นปฐมภมู ิ คล่ืนเลิฟ คลื่นทุติยภมู ิ คลน่ื เรยล์ ี

ข. บรเิ วณที่เกิดแนวเทือกภูเขาไฟใต้มหาสมุทรและ ข. คลื่นทตุ ยิ ภมู ิ คลื่นปฐมภมู ิ คลื่นเลฟิ คลื่นเรยล์ ี

แผน่ ดินไหวบอ่ ยครังมากทสี่ ุดบริเวณกลางมหาสมทุ ร ค. คลน่ื เลฟิ คลืน่ เรยล์ ี คลน่ื ปฐมภมู ิ คลืน่ ทุตยิ ภูมิ

แปซิฟิก ง. คลน่ื ปฐมภมู ิ คล่นื ทุติยภมู ิ คลน่ื เลิฟ คลื่นเรย์ลี

ค. แนวมุดตวั ตามรอยแยกของเปลอื กโลกตลอดชายฝัง่ 35) ขอ้ ใดกล่าวถึงคลน่ื ไหวสะเทือนได้ถูกต้อง ตะวนั ตกของสหรฐั อเมรกิ าเลยไปจนถึงหมเู่ กาะใน ก. คลน่ื ทตุ ิยภูมิเคล่ือนท่ดี ว้ ยความเร็วมากกวา่ คลื่นปฐมภมู ิ แปซฟิ ิกใตแ้ ละผา่ นไปยังเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ข. คลน่ื ปฐมภูมเิ ดินทางผา่ นชันแกน่ โลกไดด้ กี ว่าคลน่ื ทตุ ยิ ภูมิ ค. คล่ืนปฐมภูมิเป็นคล่นื ตามขวาง คล่นื ทุตยิ ภมู เิ ป็นคลืน่ ตามยาว ง. แนวเขตท่เี กิดไฟปา่ มากทส่ี ดุ ในช่วงฤดูรอ้ น มีลกั ษณะวง ง. คลื่นทุติยภมู ิเคลือ่ นท่ผี ่านตวั กลางทเ่ี ปน็ ของเหลวได้ดีกว่าคลื่นปฐม แหวนใหญ่

ภูมิ

โดย ครูสลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 4

พิจารณาข้อมลู แลว้ ตอบคาถามข้อ 36-38 ข. แผน่ ดินไหวในประเทศไทยมักเกิดในบริเวณแนวรอยเลือ่ นมี การเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยเกิดขึนมาหลายครังนับจาก พลงั

อดีต พงศาวดารโดยกล่าวว่า อาณาจักรไทยซ่ึงเป็นอาณาจักรที่มี ค. แนวรอยเลือ่ นมีพลังในประเทศไทยมจี ้านวนหลายสิบแนว ความเจริญรุง่ เรอื งมาตังแตส่ มัยพทุ ธกาลได้เกิดแผ่นดนิ ไหวหลายครัง ง. แนวรอยเลื่อนมพี ลังในประเทศไทยสว่ นใหญ่จะอยใู่ นภาค ครังที่รุนแรงท่ีสุดท้าให้อาณาจักรถึงกับล่มสลาย เกิดขึนเมื่อวันเสาร์ ตะวนั ตกและภาคเหนือ

เดอื น ๗ แรม ๗ ค้่า พ..ศ.๑๐๐๓ เวลากลางคืน ในบันทึกกลา่ วว่า “... 41) บริเวณพืนทเ่ี ส่ียงตอ่ การเกิดแผ่นดินไหว จงั หวัดใดบ้างท่ตี อ้ งที่ตอ้ ง

สุริยอาทิตย์ก็ตกไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงเหมือนดังแผ่นดินดังสน่ัน คา้ นงึ ถงึ ความแขง็ แรงของอาคารและสิ่งปลูกสรา้ งเพอ่ื ใหส้ ามารถ

หว่ันไหว ประดุจว่าเวยี งโยนกนครหลวงที่นีจกั เคลื่อนจักพังไปนนั แล ทนตอ่ การเกดิ แผน่ ดนิ ไหว

แล้วก็หายไปครังหนึ่ง ครันถึงยามก็ดังซ้าเข้ามาเปน็ ค้ารบสอง แล้วก็ ก. เชียงใหม่และเชยี งราย

หายไปนันแล ถึงปัจฉิมยามซ้ากด็ ังมาอีกเป็นด้ารบตามหนที่สามนดี งั ข. อุตรดติ ถแ์ ละพษิ ณโุ ลก

กว่าทกุ ครังทกุ คราวท่ีไดย้ ินมาแลว้ กาลนันเวยี งโยนกนครหลวงท่ีนันก็ ค. กรงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล

ยุบจมลงเกิดเป็นหนองอันใหญ่ ยามนนั คนทงั หลายอันมใี นเวยี งทน่ี ันก็ ง. สุรินทรแ์ ละหนองบวั ลา้ ภู

วนิ าศฉบิ หายตกไปในนา้ ทีน่ นั สนิ ...” 42) บริเวณใดที่มีความเสีย่ งในการเกดิ แผน่ ดนิ ไหวน้อยท่สี ดุ

  1. ขนาดของแผน่ ดนิ ไหวที่เกดิ ขนึ ทีโ่ ยนกนครพอจะคาดคะเนได้ว่ามี ก. เขตมุดตัวของเปลอื กโลก

ประมาณเทา่ ใด ข. รอยเลือ่ นบนพนื ทวีป

ก. 4.5 แมกนจิ ดู ข. 5.0 แมกนจิ ดู ค. แนวของเทือกเขากลางมหาสมทุ ร

ค. 6.8 แมกนจิ ดู ง. มากกว่า 7 แมกนิจดู ง. ขอบของเปลือกโลกสองแผน่ ท่ีเคลือ่ นไถลสมั พทั ธ์ซ่ึงกันและ

  1. อาณาจกั รโยนกทีก่ ลา่ วถึงคือบรเิ วณใดในปจั จุบัน กัน

ก. กว๊านพะเยา อา้ เภอเมอื ง จงั หวัดพะเยา 43) บรเิ วณที่มคี วามเสี่ยงตอ่ การเกดิ แผน่ ดนิ ไหวมากทส่ี ดุ คือข้อใด

ข. บงึ บอระเพ็ด อ้าเภอเมอื ง จังหวดั นครสวรรค์ ก. บรเิ วณเขตมดุ ตัวของเปลือกโลก

ค. บงึ โยนก วิทยาลยั โยนก จังหวัดล้าปาง ข. แนวของเทือกเขากลางมหาสมทุ ร

ง. ทะเลสาบเชยี งแสน อ้าเภอเชยี งแสน จังหวัดเชยี งราย ค. บรเิ วณทอี่ ยูห่ ่างจากขอบแผ่นของเปลอื กโลกมากๆ

  1. การเกิดแผ่นดินไหวทโ่ี ยนกนครซึง่ เกิดขึน 3 ครงั นันมีลกั ษณะการ ง. บริเวณขอบของเปลอื กโลกสองแผ่นท่เี ลื่อนไถลสัมพทั ธ์ซง่ึ กนั เกิดแผ่นดินไหวคลา้ ยกบั ข้อใด และกนั

ก. เกดิ แผ่นดนิ ไหวนา้ 1 ครัง แผ่นดนิ ไหวหลัก 2 ครงั 44) ปัจจุบันภเู ขาไฟทม่ี พี ลงั อยูบ่ นโลกเปน็ จ้านวนประมาณเท่าใด

ข. เกดิ แผน่ ดนิ ไหวนา้ 2 ครัง แผ่นดินไหวหลัก 1 ครงั ก. 100 ลกู ข. 1,000 ลูก

ค. เกดิ แผน่ ดินไหวหลัก 2 ครัง แผ่นดินไหวตาม 1 ครงั ค. 10,000 ลูก ง. 100,000 ลกู

ง. เกิดแผน่ ดินไหวนา้ 1 ครัง แผน่ ดินไหวหลกั 1 ครัง 45) คล่นื ในตัวกลางขณะเกิดแผน่ ดนิ ไหวมี 2 ชนดิ คือ คลืน่ ปฐมภมู ิ

แผน่ ดินไหวตาม 1 ครงั หรือคล่ืน P และคลื่นทุติยภูมิหรือคลื่น S คลื่นทังสองชนิดจะ

  1. ประเทศไทยจะได้รบั ผลจากการเกิดแผน่ ดินไหวอันเนอื่ งมาจากการ ออกจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหวภายในเปลือกโลกพร้อมกันด้วย กระทบกันของแผ่นธรณภี าคคู่ใดมาก ก. แผน่ ยูเรเซยี กบั แผน่ แปซฟิ กิ อัตราเร็วท่ีแตกตา่ งกัน ซึง่ คล่ืน P อตั ราเรว็ 8 กิโลเมตรต่อวินาที ข. แผ่นยูเรเซยี กบั แผ่นอินเดีย ค. แผ่นแปซิฟิกกับแผน่ นาสกา และคล่ืน Sมีอัตราเร็ว 5 กิโลเมตรต่อวินาที ถ้าแผ่นดินไหวใน ง. แผน่ แอนตาร์กตกิ กับแผ่นออสเตรเลีย – อินเดยี มหาสมุทรอินเดียท่ีเวลา 07.59 น. และศูนย์วัดแผ่นดินไหวที่
  2. ขอ้ ใดไมถ่ กู ต้อง ก. ประเทศไทยมีแผ่นดินไหวขนาดท่รี ู้สึกไดโ้ ดยเฉล่ยี แลว้ 1 จังหวัดเชียงใหม่ตรวจจับคล่ืนแผ่นดินไหวครังแรกท่ีได้เวลา ครงั ทกุ ๆ 5 ปี 08.02 น. หลังจากนันอีกนานเท่าใดจึงสามารถตรวจจับคล่ืน

แผ่นดนิ ไหวได้อีกครงั

ก. 1 นาที 12 วนิ าที ข. 1 นาที 48 วนิ าที

ค. 3 นาที 12 วินาที ง. 4 นาที 48 วนิ าที

โดย ครูสลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 5

  1. แผน่ ดินไหวที่รู้สึกได้ในประเทศไทยมักจะมีศนู ยเ์ กดิ แผ่นดินไหวอยู่ 52) ในอดีตนักวิทยาศาสตร์เช่ือว่าแผ่นเปลือกโลกเป็นแผ่นเดียว

ในประเทศใด ขนาดใหญ่ ต่อมามีการเคลื่อนตัวออกจากกันเป็น 2 แผ่นใหญ่

ก. ไทย ข. พม่า ข้อใดดังต่อไปนีระบกุ ารแยกตัวออกจากกันของแผน่ เปลอื กโลก ค. ลาว ง. อินโดนีเซยี ขนาดใหญไ่ ด้ถูกตอ้ ง

  1. คาบอุบตั ิซา้ หมายถึงข้อใด ก. แผ่นลอเรเซยี เคลอ่ื นทไี่ ปทางตอนใต้ ก. ศูนย์การเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณเดิมท่ีเคยเกิดขึนในทกุ ๆ ข. แผ่นลอเรเซยี เคลือ่ นท่ีไปทางตอนเหนือ รอบ 50 ปี อาจเป็นร้อยปี พันปี หรือมากกวา่ ค. แผ่นกอนด์วานาเคลื่อนที่ไปทางตอนเหนือ ข. ระยะเวลาครบรอบของแผ่นดินไหวในบริเวณเดิมที่เคย ง. แผ่นกอนด์วานาและแผ่นลอเรเซยี เคล่อื นท่ีติดไปด้วยกัน เกิดขึน ณ ท่ีนันแล้วกลับมาเกิดขึนซ้าในท่ีเดิมอีก อาจเป็น รอ้ ยปีหรือมากกวา่ นนั 53) รอยต่อของขอบแผ่นเปลือกโลกสามารถอธบิ ายไดจ้ ากการเคลอ่ื นท่ี ค. การเกิดแผน่ ดินไหวตามทกุ ๆ ระยะเวลา 50 นาที ภายหลัง ของแผ่นเปลือกโลกในขอ้ ใด การเกิดแผ่นดินไหวหลัก เพ่ือค้านวณอัตราการเกิด ก. การชนกัน การแยกกัน และการผา่ นกนั ข. การมุดตัว การยกตัว และการแทรกตัว

แผน่ ดินไหวในรอบตอ่ ไป อาจเปน็ รอ้ ยปี พนั ปหี รอื นอ้ ยกว่า ค. การลอยตวั การทรงตวั และการจมลง

นัน ง. การชนกัน การมดุ ตัว และการทรงตวั ง. จา้ นวนคาบของการเกดิ แผน่ ดินไหวในรอบปที เ่ี กิดในบรเิ วณ

  1. กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคของโลก มีสาเหตมุ าจากขอ้

    เดิม โดยค้านวณจากความถ่ีและช่วยค้านวณการเกิด ใด แผ่นดินไหวตามในแตล่ ะครัง อาจเป็นร้อยปี พันปีหรือน้อย ก. เกิดแนวชันหินที่ไมต่ อ่ เน่อื ง กว่านนั ข. แผน่ ดนิ ไหวและภูเขาไฟปะทุ ค. การเคลือ่ นตัวของแผ่นเปลือกโลก

    1. ไซโมกราฟ (Seimograph) เป็นเครอ่ื งมอื ที่ใช้ประโยชน์เก่ยี วกบั เรื่อง ง. อุณหภูมิและความกดดนั ภายในโลก ใด ก. เครือ่ งวัดคลื่นสึนามิ 55) ทฤษฎีพันเจีย กล่าวว่า ในอดีตทวีปต่างๆ มีผืนแผ่นเดียวกัน ข. เคร่ืองตรวจหาจุดศนู ยเ์ กิดคล่ืนไหวสะเทือน

ค. เครอื่ งวดั ความถีค่ ล่นื จากการปะทขุ องภเู ขาไฟ ต่อมาการเกิดการเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยา ท้าให้ทวีปต่างๆ

ง. เครือ่ งวัดความไหวสะเทอื นทเ่ี กิดจากแผ่นดนิ ไหว แยกออกจากกัน หลักฐานในข้อใดสนับสนนุ ทฤษฎีนี

  1. มาตราท่ใี ช้บอกความเสยี หายเนื่องจากแผน่ ดินไหวคือขอ้ ใด ก. ขอบของทวีปต่างๆมีสว่ นตอ่ กันได้พอดี

ก. รกิ เตอร์ ข. เมอร์คลั ลี ข. หินบะซอลต์ทชี่ อบแยกบรเิ วณเทอื กเขากลางมหาสมุทร

ค. ไมห์ ง. แมกนิจูด แอตแลนติกมีอายุน้อยกว่าหินบะซอลต์ท่ีอยู่ไกลจาก

  1. รอยเลอ่ื นใดในประเทศไทยทมี่ รี อยต่อกับรอยเลื่อนของพมา่ และมกั รอยแยกนนั

เกิดแผ่นดนิ ไหวเป็นประจา้ ค. ซากดึกด้าบรรพข์ องส่งิ มชี วี ิตชนิดเดียวกันในชันหนิ เดยี วกัน

ก. รอยเลือ่ นพะเยา ค. รอยเลอ่ื นแมฮ่ ่องสอน แต่กระจากอยูใ่ นทวปี ตา่ งๆ ท่ีอย่ไู กลจากรอยแยกนนั ค. รอยเล่อื นแม่ทา ง. รอยเลอ่ื นเจดีย์สามองค์ ง. ถกู ทกุ ขอ้

  1. แนวรอยเล่ือนท่ีปรากฏขึนตามแผนท่ีแสดงพืนท่ีเส่ียงภัยต่อการ 56) จากรปู ข้อใดแปลความหมายได้ถกู ตอ้ ง เกดิ แผ่นดินไหวของประเทศไทยทม่ี ีทังในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้นัน เมื่อพิจารณาถึงแนวรอยเลื่อนทเี่ กิดขนึ รอยเล่ือน Rock B ในขอ้ ใดท่มี แี นวโนม้ ต่อเนื่องจากภาคเหนอื ลงมาสูภ่ าคกลาง Rock A

ก. รอยเลือ่ นแมท่ า รอยเล่ือนแม่ปงิ และรอยเลอ่ื นแกลง ก. ถ้าหิน A เป็นส่วนหนึ่งของหิน B จะอายุน้อยกว่าหินที่มัน ข. รอยเล่ือนแม่สะเรียง รอยเลื่อนแม่ปงิ และรอยเลื่อนแกลง แทรกอยู่ และหิน A มโี อกาสทจี่ ะโผล่ขึนมา ค. รอยเล่ือนนา้ ปาด รอยเลื่อนเพชรบรู ณ์ และรอยเลื่อนระนอง เปน็ ส่วนหน่งึ ของหิน ง. รอยเล่อื นศรสี วสั ด์ิ รอยเลื่อนด่านเจดียส์ ามองค์ และรอย ข. ถ้าหิน B เป็นส่วนหน่ึงของหิน A หิน A จะมีอายุน้อยกว่า เลอื่ นแกลง หินทมี่ ันแทรกอยู่ และหิน B มโี อกาสที่จะ

โดย ครูสุลกิฟลี โสพนั ธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 6

แทรกตดั ผา่ นเปน็ ส่วนหนง่ึ ของหนิ A 60) การลดระดับของน้าทะเลที่ชายฝั่งฉับพลัน เกดิ ขึนกอ่ นการเกิดสนึ ามิ

ค. ถ้าหิน A เป็นส่วนหน่ึงของหิน B หิน A จะมีอายุเท่ากับหิน เนื่องจากเหตใุ ด

ทมี่ ันแทรกอยู่ และหิน A มโี อกาสทจ่ี ะ ก. มกี ารเคล่ือนทข่ี องแผน่ เปลือกโลกแนวนอน

โผลข่ ึนมาเป็นส่วนหน่งึ ของหิน B ข. มีการเคลอ่ื นท่ีของแผน่ เปลอื กโลกในแนวดง่ิ

ง. ถ้าหิน B เป็นส่วนหน่ึงของหิน A หิน B จะมีอายุน้อยกว่า ค. มกี ารโกง่ งอของชันหนิ รองรับแผ่นเปลือกโลกอยา่ งรวดเรว็

หินที่มันแทรกอยู่ และหิน A มีโอกาสท่ีโผล่ขึนมาเป็นส่วน ง. มีการครดู กนั ของแผ่นเปลอื กโลก

หนง่ึ ของหนิ B 61) ภูเขาไฟมยี อดรูปมนและป้อม อาจเกิดจากสาเหตุใด

  1. นกั วิทยาศาสตร์ได้จดั ล้าดบั อายุทางธรณีนับจากกการเกิดโลกและ ก. เกิดจากการทับถมของเศษตะกอนทพ่ี ่นออกมาจากภูเขาไฟ

สง่ิ มชี ีวติ ใช้หลักฐานรอ่ งรอยจาก ข้อใดบา้ งเพือ่ จัดลา้ ดบั เหตกุ ารณ์ท่ี ข. เกดิ จากการทับถมของเศษตะกอนทพี่ ่นจากภูเขาไฟสลับกบั

เคยเกดิ ขึนจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ นั ลาวา

1. ซากบรรพชวี ิน ค. เกิดจากลาวาเหลว

2. อายุของพืนมหาสมุทร ง. เกดิ จากลาวาเขม็ ขน้ มากเหมอื นยาสีฟนั

3. การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลอื กโลก 62) ขอ้ ใดไม่ใช่ชินส่วนของภเู ขาไฟ 4. การสลบั ขัวของสนามแม่เหลก็ โลก 5. การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของพืนผวิ โลก ก. ทฟั ฟ์ ข. บมู 6. การเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่นภูเขาไฟปะทุ ค. บอมบ์ ง. บล็อก แผน่ ดินไหว

  1. การปะทุของภูเขาไฟเกิดขึนมักจะน้าความเสียหายให้ทังชีวิต ส่ิงกอ่ สร้าง ตลอดจนการเปลย่ี นแปลงของภูมิลกั ษณข์ องภูเขาไฟ

ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ข. 1, 2, 3, 5 เอง แตข่ ณะเดียวกนั ก็พบวา่ การปะทุของภูเขาไฟแตล่ ะครงั ก็ให้ ก. 1, 3, 5 ง. 2, 4, 6 ประโยชนห์ ลายประการยกเวน้ ข้อใด ค. 2, 4, 5, 6 ก. เปน็ แหล่งทอ่ งเท่ียว

  1. จากขอ้ มลู ต่อไปนี ข. ช่วยปรบั ระดบั เปลอื กโลกไห้อยใู่ นภาวะสมดลุ

1. การเคล่ือนที่ของแผน่ เปลอื กโลก ค. พนื ท่บี ริเวณใกลเ้ คยี งเป็นแหล่งดนิ ดีเหมาะแกก่ ารเพาะปลกู

2. รอยตอ่ และรอยแยกของแผ่นเปลอื กโลก พืชหลายชนิด

3. อายโุ ลก ง. พน้ ทบี่ รเิ วณใกลเ้ คยี งจะอดุ มสมบรู ณ์ไปด้วยแร่ธาตุท่นี ้ามาใช้

4. การค้นพบซากพืชซากสตั วด์ กึ ดา้ บรรพ์ ในอตุ สาหกรรมหลายชนิด

5. การเปลีย่ นแปลงของอากาศท่ีทา้ ไห้เกิดการสะสมของตัว 64) แรงดันภายใตภ้ ูเขาไฟทที่ า้ ไห้เกดิ การระเบิดเกิดจากสาเหตใุ ด ตะกอน ก. การเคลอื่ นท่ีของแรใ่ นแมกมา ข. การตกผลกึ อย่างต่อเนือ่ งของแร่ในแมกมา 6. ภาวะแม่เหลก็ บรรพกาล

ข้อใดทีม่ ารถใช้เป็นหลกั ฐานท่ีสนับสนนุ วา่ โลก มกี ระบวนการ ค. ปริมาณของไอน้าท่มี ากขึน

เปลย่ี นแปลงตลอดเวลา ง. ปรมิ าณของแร่ท่ีมากขึน

ก. 3-4-5-6-1 ข. 1-2-3-4-5 65) ลาวาทม่ี กี ารแขง็ ตวั และอัตราการไหลเรว็ มากมักจะก่อไหเ้ กิดภเู ขา ค. 2-3-4-5-6 ง. 4-5-6-1-2 ไฟท่มี รี ปู ทรงตามขอ้ ใด ก. กรวยกรวดภเู ขาไฟ

  1. เม่อื สงั เกตแผนท่ีบนภาพถ่ายทางดาวเทียม จะพบแนวเทอื กเขา ข. ภูเขาไฟรปู โล่ กลางมหาสมุทรเป็นแนวยาวชดั เจนใดในบรเิ วณใดบ้าง ค. กรวยภเู ขาไฟแบบสลับชนั ก. กลางมหาสมทุ รแปซิฟิก ง. บะซอลต์โคน ข. กลางมหาสมุทรแอตแลนตกิ ค. กลางมหาสมทุ รแอนตารก์ ตกิ 66) บริเวณหุบเขาทรดุ ตัวตามแนวสันกลางมหาสมทุ รมกี ารเคลือ่ นตวั ง. แนวขอบชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้ฝั่งตะวนั ออก ของขอบแผ่นธรณภี าคในลักษณะใด

โดย ครูสุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 7

ก. เคลอ่ื นทีห่ นีห่างออกจากกัน ง. การปลดปล่อยแร่ธาตุจากภูเขาไฟลงสทู่ ะเล

ข. เคลอ่ื นตวั เขา้ หากนั 73) หินแปรท่เี ปลยี่ นมาจากหินปนู คอื ข้อใด ค. เคลือ่ นตัวมดุ ลงไปใต้อกี แผ่น ง. เคลื่อนตัวเฉือนกัน ก. หนิ ชนวน ข. หนิ ไนส์ ค. หินชีสต์ ง. หนิ ออ่ น

  1. ของทวปี ใดมีรูปร่างต่อกันได้พอดี ก. ตะวันตกของแอฟฟรกิ ากับตะวนั ออกของอเมรกิ าใต้ 74) หินชินหนงึ่ มกี ารสะสมตัวเป็นชนั ๆ ของหนิ ทราย หินปูน และ ข. ตะวันตกของเอเชียกับตะวนั ออกของอเมริกาเหนือ หินดินดาน หินชนิดใดมีอายมุ ากท่ีสุด

ค. ตะวนั ตกของยุโรปกบั ตะวนั ออกของเอเชยี ก. หนิ ทราย ข. หนิ กราวดมน ง. เหนอื ของออสเตรเลยี กบั ใต้ของอเมรกิ าใต้ ค. หินปนู ง. หนิ ดินดาน

  1. จากหลกั ฐานต่อไปนี 75) ซากดกึ ด้าบรรพส์ ่วนใหญจ่ ะพบอยใู่ นหนิ ชนิดใด

1. แทง่ เสาหนิ บะซอลตใ์ นเขตอ้าเภอเขาสมิง จังหวดั ตราด ก. หินแปร ข. หินอัคนี 2. ภเู ขาพระองั คารและภเู ขาพนมร้งุ จงั หวัดบรุ ีรัมย์ ค. หินชสี ต์ ง. หนิ ตะกอน 3. แหล่งดินขาวทีเ่ ขาปากคา้ อา้ เภอแจห้ ม่ จังหวดั ลา้ ปาง 4. เสาหนิ ท่แี พะเมอื งผี จังหวัดแพร่ 76) การหาอายุสัมบรู ณ์ของหินหรอื ซากดกึ ด้าบรรพ์ทางธรณ๊วทิ ยาใช้ วิธีการใด

ข้อใดแสดงถงึ การมภี เู ขาไฟลาวาในอดตี ของประเทศไทย ก. วธิ ีการตรวจสอบทางอายกุ ัมมนั ตรังสี ข. ตรวจสอบเปรยี บเทียบกบั ฟอสซลิ อืน่ ๆ ก. 1, 2, 3 และ 4 ข. 1, 2 และ 3

ค. 3 ง. 3 และ 4 ค. ตรวจสอบจากลา้ ดับชันหินและความสัมพันธข์ องโครงสรา้ ง

  1. ดนิ ทีเ่ กิดจากกการสลายของลาวาบะซอลต์กับลาวาไรโอไลต์แตกตา่ ง ทางธรณวี ทิ ยา กันอยา่ งไร ง. วิธที ีการทางรังสีเอก็ ซ์

ก. ไมม่ คี วามแตกตา่ ง 77) ความร้เู รอื่ งการลา้ ดับชันหนิ น้ามาใชป้ ระโยชน์ ยกเวน้ ขอ้ ใด

ข. มแี ร่ธาตุแมกนเี ซยี มและเหล็กแตกตา่ งกัน ก. ท้าไห้เขา้ ใจธรณีวทิ ยาประวัติในบริเวณนันๆ

ค. ลาวาบะซอลต์ไหด้ ินทีม่ ปี ริมาณซิลิกามากกวา่ ข. ใชเ้ ปน็ ข้อมูลพืนฐานแก่วชิ าธรณวี ิทยาสาชาอ่นื ๆ

ง. ลาวาบะซอลตใ์ ห้ดินท่ีมรี พู รนุ มากกวา่ ค. ใช้ท้านายหรทอคาดการณก์ ารเกดิ แผ่นดินไหวหรอื ภูเขาไฟ

  1. ดนิ ที่มคี วามอดุ มสมบูรณ์มากซึง่ เกิดจากเถา้ ภเู ขาไฟจะมลี ักษณะ ปะทเุ ฉพาะแห่ง ง. นา้ ไปสู่การคน้ พบแหล่งแร่เศรษฐกิจ แหล่งเชือเพลงิ อยา่ งไร ธรรมชาติ เชน่ นา้ มันดบิ และแก๊สธรรมชาติ ก. สดี ้า มีรพู รนุ มาก ข. สีขาว มีรพู รุน

ค. สดี ้า มเี นอื แน่น ง. สขี าว มีเนือแนน่ 78) ขอ้ ใดเปน็ การบอกอายุหนิ เชิงเทียบ

  1. แคลดรี า หมายถึงข้อใด ก. ใชส้ ารกมั ตรังสี ข. การผพุ ังของแมน่ ้า ก. แอง่ ขนาดใหญ่ซงึ่ มภี เู ขาไฟเกดิ ขึนกลางแอง่ ข. แอ่งภเู ขาไฟขนาดใหญ่ที่เอยี งลาดชนั ลงสูก่ ้นเอ่งเปน็ รูป ค. อายหุ ินในแต่ละ้ ชนั นอ้ ยกว่าหรือมากกว่า กระจาด มกั เปน็ ลานหรอื เปฯ็ ทรี่ าบกวา้ ง ค. แอง่ ขนาดใหญ่เกิดจากการาจมตวั ของปลอ่ งปะทบุ รเิ วณ ง. เปรยี บเทยี บกับอายุของหินเกลือ
  1. แหล่งไดโนเสาร์ทพ่ี บในประเทศไทยมกั จะพบในชนั หนิ อะไร

ดา้ นขา้ ง ก. หนิ ดนิ ดานและหินปูน ข. หินชนวนและหินทราย ง. ทรี่ าบลุ่มน้าขังขนาดใหญ่ สว่ นยอดภเู ขาไฟไมม่ ี ค. หินกรวดมนละหนิ ทรายแดง ง. หินทรายและหนิ แปง้

  1. เกลอื ทท่ี า้ ไหน้ า้ ทะเลมีรสเค็มมาจากข้อใด 80) การเกดิ ซากดึกดา้ บรรพ์มีดังนี ก. สงิ่ มชี ีวิตใตท้ ะเล 1. ซากดึกด้าบรรพ์เกิดขนึ ผิวโลก ข. เกลือจากอากาศทน่ี า้ ฝนชะลงทะเล 2. ชันหินถูกดนั ขึนไปมาและถูกกดั เซาะ ค. การกดั กร่อนของหินจากพนื ทวีป 3. สตั วห์ รือพืชตายถูกลงฝงั ลงในชันหนิ 4. ซากแขง็ ตัวและมีตะกอนมาตกทบั ถม

โดย ครูสุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 8

ขอ้ ใดเรียงลา้ ดบั ขันตอนการเกดิ ซากดกึ ดา้ บรรพไ์ ด้ถูกตอ้ ง 86) ฟอสซิลในขอ้ ใดพบในตวั อยา่ งนีที่สามารถใช้เปน็ ฟอสซิลดชั นไี ด้

ก. 1-2-3-4 ข. 4-3-2-1 ก. หอยแครง ข. แอมโมไนต์ ค. 3-4-2-1 ง. 2-3-4-1 ค. แมงดาทะเล ง. ช้าง

  1. เหตใุ ดซากดึกด้าบรรพ์ของสัตว์มกี ระดกู สันหลังจึงเป็นซากดกึ ด้า 87) ข้อใดตา่ งจากพวก บรรพ์ที่พบไดน้ อ้ ย

ก. โครงรา่ ยกายภายนอกเป็นเนือเย่ือจงึ เนา่ เปื่อยงา่ ย การเก็บ ก. มโี ซซอรัส ข. กลอสโซพเทรสี รกั ษาซากจงึ เปน็ ไปได้ยาก ค. ลสี โทรซอรัส ง. ไซโนกาทสั

ข. จ้านวนนอ้ ยกวา่ เม่อื เปรียบเทยี บกบั ซากดึกดา้ บรรพ์ของสตั ว์ 88) ข้อใดถูกตอ้ งเก่ยี วกับสถานที่แหง่ นี

ไม่มกี ระดูกสันหลงั ก. เคยเปน็ ทะเลมาก่อน ปจั จุบันเปน็ บก

ค. สัตวม์ กี ระดูกสนั หลงั มรี ะยะเวลาทางววิ ฒั นาการสนั กว่าพืช ข. เคยเปน็ บกมากอ่ น แล้วเป็นทะเลในภายหลัง

หรือสัตว์ไม่มกี ระดูกสันหลงั ค. ไมเ่ คยเปน็ ทะเลเลย

ง. ส่วนใหญจ่ ะอาศัยอยูบ่ นบก และเมื่อลม้ ตายลงการเก็บรกั ษา ง. เป็นทะเลทังอดตี และปัจจุบัน

ซากเปน็ ไปได้ยากกว่าในนา้ 89) ยุคท่ีสงิ่ มชี วี ิตจา้ นวนมากบนโลกเป็นสตั วเ์ ลอื ยคลานและเปน็ ชว่ งท่ี

  1. ทดลองหยดกรดเกลือเจือจางลงบนหินชนิดหนึ่งแล้วเกิดฟองขนึ มา แผน่ ทวีปพนั เจียเรมิ่ แตกออกคือยคุ ใด

แสดงวา่ เปน็ หินชนิดใด ก. Cenozoic ข. Mesozoic

ก. หนิ ทราย ข. หินดินดาน ค. Paleozoic ง. Precambrain

ค. หนิ ปูน ง. หนิ แกรนิต 90) ซากดกึ ดา้ บรรพ์มีประโยชนห์ ลายด้าน ยกเว้นข้อใด

  1. นักวิทยาศาตรเ์ ชื่อว่าแผน่ เปลือกโลกในอดีตเป็นแผน่ เดียวกนั ก. ท้าใหส้ ามารถสง่ เริม ปรบั ปรุง แกไ้ ขความรู้ ทฤษฎี และทา้

เมื่อ225 ล้านปีก่อน ต่อมาอีก 25 ล้านปีจึงแยกออกจากกัน ความเขา้ ใจววิ ฒั นาการของสงิ่ มชี วี ติ กับส่งิ แวดลอ้ ม

อีก 65 ล้านปีต่อมา แผน่ แอนตารก์ ตดิ และแผน่ ออสเตรเลียจึง ข. เป็นเสมือนลายแทงส้าหรบั ใช้ส้ารวจหาแหลง่ แร่รตั นชาติ

เล่ือนแยกออกมาจากแผ่นกอนด์วานา และแยกออกมาจนอยู่ แร่เศรษฐกิจ และวตั ถดุ บิ สา้ หรับอสุ าหกรรม

ในสภาพปัจจบุ นั ระยะเวลาทแ่ี ผน่ เปลือกโลกเคล่อื นตวั จนอยู่ ค. ทา้ ให้เรียนร้ถู ึงกฎเกณฑก์ ารด้ารงชพี ของส่ิงมชี ีวติ แต่ละชนดิ

ในสภาพปัจจบุ นั ใชเ้ วลาเทา่ ใด ง. ทราบถึงความสัมพันธข์ องสิ่งมชี วี ติ กับสภาพแวดล้อมในอดีต

ก. 225 ล้านปี ข. 315 ลา้ นปี 91) ซากดกึ ด้าบรรพท์ ่ีมลี กั ษณะสมบรู ณ์ สว่ นใหญม่ กั พบในทะเล ค. 340 ลา้ นปี ง. 430 ล้านปี มากกว่าบนบก ข้อใดสามารถอธิบายได้ดีทีส่ ุด ก. ตะทต่ี กทบั ถมในทะเลมขี นาดเล็กและเม็ดละเอยี ด

  1. ซากดึกดา้ บรรพไ์ ดโนเสารข์ องประเทศไทยภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ข. ความเค็มของนา้ ทะเล ช่วยชะลอการสลายของซากสัตว์ พบในหินชนดิ ใด ค. โครงสรา้ งรูปร่างของสัตว์ มีความแข็งมากกว่าสัตวบ์ นบก ง. การฝังกลบของตะกอนที่มขี นาดตา่ งๆ กัน ช่วยท้าไห้ซาก ก. หนิ ทราย ข. หินปูน สัตว์ชะลอการสลายตวั ค. หินบะซอลต์ ง. หินดินดาน
  2. พายหุ มนุ เขตร้อนทมี่ ีความเรว็ ลมรอบศูนย์กลางระหวา่ ง 60 ถงึ 118 พจิ ารณาชนั้ หนิ ทว่ี างซ้อนกันดงั รปู แล้วตอบคาถามข้อ (85-88) กิโลเมตรต่อชว่ั โมงคอื ข้อใด

ก. พายเุ ฮอร์รเิ คน ข. พายุไตฝ้ นุ่ ค. พายุไซโคลน ง. พายุโซนรอ้ น

  1. เมฆก้อนหน่งึ อยู่สงู จากพนื ประมาณ 10 กโิ ลเมตร เม่ือเวลาผา่ นไป 6
  1. ชนั หินในข้อใดเก่าแก่ทส่ี ดุ นาที เมฆก้อนนีจะมีระยะเชิงมุมเปล่ียนไป 30 องศา เมฆก้อนนีจะ

ก. ชัน ก ข. ชนั ข อยู่ห่างทเี่ ร่มิ เปน็ จดุ สังเกตเปน็ ระยะทางขนานกับผิวโลกกก่ี โิ ลเมตร ค. ชัน ค ง. ชนั ง ก. 5.0 ข. 5.2 ค. 5.4 ง. 5.8

โดย ครูสลุ กิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 9

  1. การเคลอื่ นทข่ี องหินหนดื ท้าแผ่นธรณภี าคเกดิ การเคลอื่ นท่ีโยอาศัย 100)เม่ือตรวจสอบสมบัติทางความแข็งแรง พบว่าแร่ขีดเป็นรอยท่ีผิว

หลกั การในข้อใด กระจกซงึ่ ตรงกับมาตรฐานความแขง็ ของโมหใ์ นข้อใด

ก. การน้าความร้อน ข. การพาความรอ้ น ก. ทลั ก์ ข. ฟลอู อไรต์ ค. การแผค่ วามรอ้ น ง. การคายความรอ้ น ค. ออรโ์ ทเครส ง. ควอตซ์

  1. เพราะเหตุใดสามารถนา้ พชื และสัตว์เลอื ยคลานมาเป็นหลกั ฐานทาง ตะลยุ โจทยด์ าราศาสตร์และอวกาศ 100 ขอ้ ธรณีวทิ ยาทีส่ นบั สนนุ การแยกของตัวของทวปี ใด

ก. เป็นสงิ่ ทมี่ ชี ีวิตเกดิ ขนึ พรอ้ มกบั มนษุ ย์

ข. มอี ยู่เป็นจา้ นวนมากสังเกตได้ง่าย 101) ณ อณุ หภูมิ 100 องศาเซลเซียสจะมคี ่าเทา่ กับขอ้ ใด

ค. มีลกั ษณะใหญ่พอท่จี ะสามารถนา้ มาช่ังน้าหนกั และวดั ขนาด ก. 173 เคลวิน ข. 273 เคลวิน

ทแ่ี ทจ้ ริงได้ ค. 373 เคลวิน ง. 473 เคลวนิ

ง. เป็นซากดกึ ด้าบรรพอ์ ายุมากกวา่ 200 ลา้ นปีทม่ี ีลักษณะ 102) เอกภพหมายถึงขอ้ ใด ข. การขยายตัวของเอกภพ คล้ายกันในทวีป ก. ระบบของดาราจักร

  1. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ลักษณะของแผน่ ดินไหวได้ถกู ต้อง ค. ระบบสุริยะจักวาล ง. การยบุ ตวั ของดาวฤกษ์

ก. มคี า่ วดั หน่วยเป็นมาตราเมอรค์ ลั ลี 103) ปรากฏการณใ์ ดทีส่ นับสนุน ทฤษฏบี ิกแบง ข. คา่ พลงั งานทปี่ ลดปล่อยออกมาในการเกดิ แผ่นดินไหว ก. การชนกันของดาวหางกบั ดาวเคราะห์ ค. ปริมาณความเสียหายอนั เนือ่ งมาจากการเกิดแผ่นดนิ ไหวบน ข. การขยายตวั ของเอกภพ ค. การเกดิ ลมสุรยิ ะ พืนผิวโลก ง. การยุบตัวของดาวฤกษ์ ง. วดั ไดจ้ ากความเสยี หายของอาคารบ้านเรือน และการ

  1. ปรากฏการณ์ใดที่ไม่ได้สนับสนุนทฤษฏบี กิ แบง

    บาดเจ็บเสียชวี ิตของผู้คน ก. อุณหภูมิพนื หลงั ของเอกภพมคี า่ เทา่ กบั 2.73 เคลวนิ ข. ดาราจกั รเคลื่อนที่เข้าใกลส้ เปกตรมั สแี ดง จ. ค. ดาราจักรทุกแห่งเคลื่อนท่ีดว้ ยความเรว็ เท่ากนั สมา้่ เสมอ ง. การพบพลงั งานจากทุกทศิ ทุกทางในปริมาณเทา่ กบั มวลของ

    1. หลักฐานใดไม่ไดส้ นบั สนุนแนวคิดของอัลเฟรด เวเกเนอร์ วตั ถดุ ้า ก. การนา้ ทวีปมาต่อกันไดอ้ ยา่ งพอดี ข. ฟอสซลิ แตล่ ะทวปี มลี กั ษณะเหมอื นกนั 105) หลังเกิดบิกแบงปริมาณอนภุ าคกบั ปริมาณปฏิอรภุ าคควรเปน็ ตาม ค. ลักษณะของคนชาวอเมรกิ าใตก้ ับชาวอเมริกาเหนือคลา้ ยกนั ง. โครงสร้างของหินและลักษณะภูมิอากาศในอดีตของแต่ละ ขอ้ ใดจงึ เกิดกาแลก็ ซีและดวงดาวตา่ งๆ ขึนดามที่เปน็ อยู่ ทวีปทีม่ คี วามเหมือนกัน ก. มีปรมิ าณเทา่ กนั ข. อนภุ าคมปี ริมาณมากกวา่ จ. ค. ปฏิอนุภาคมีปริมาณมากกวา่ ง. เปน็ ไปได้ทุกข้อ
    2. นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ใช้ข้อมูลหรือวิธีการใดในการศึกษา สว่ นประกอบของโลก 106) ขณะเกิดบกิ แบงมีอนภุ าคพ้นฐานหลายชนิดยกเว้นข้อใด ก. การเจาะผิวโลกเขา้ ไปสา้ รวจโดยไมใ่ ช้ยานบงั คบั ข. ชินสว่ นของอุกกาบาตที่ตกผา่ นชนั บรรยากาศมายังพนื โลก ก. นวิ ทริโน ข. อเิ ลก็ ตรอน ค. การปะทุของภูเขาไฟท่ีพ่นชินส่วนและวัตถุออกมาสู่ พนื ผิวโลก ค. โฟตอน ง. นิวตรอน ง. การเดินทางของคลื่นไหวสะเทือนผ่านชันหินต่างๆ ภายใน โลก 107) อนภุ าคท่เี กดิ ขนึ ในขณะเกิดบกิ แบงจะมีประจไุ ฟฟา้ อนภุ าคในขอ้

จ. ใดทไี่ มม่ ปี ระจุไฟฟา้

  1. ข้อสรุปใดไมถ่ ูกตอ้ งเกยี่ วกับสิง่ มีชีวติ ท่ีเปน็ ซากดกึ ด้าบรรพ์ดชั นี ก. นวิ ทริโน ข. อเิ ล็กตรอน ก. มีอายุยาวนานหลายล้านปี ข. พบมากแผก่ ระจายในวงกว้าง ค. ควาร์ก ง. นวิ ตรอน ค. มีวิวฒั นาการทางโครงสร้างอย่างรวดเรว็ ง. มีความแตกต่างกนั ในแต่ละช่วงอายุอย่างเด่นชัด 108) อนุภาคควารก์ รวมตัวเป็นโปรตอน หลังเกอดบิกแบงนานเทา่ ไร

จ. ก. 10-6 วนิ าที ข. 10-6 นาที

ค. 106 วนิ าที ง. 106 นาที

โดย ครูสุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 10

  1. หลงั เกดิ บกิ แบง 3 นาทจี ะเกิดส่ิงใดขึน 117) ดาราจักรเป็นระบบของดาวฤกษ์ท่ีอยู่ร่วมกันด้วย.......

ก. สสาร ข. อะตอม (A)......ของดาว และ.........(B)........ที่จุดศูนย์กลางของดาราจกั ร

ค. โมเลกลุ ง. นิวเคลยี ส อยากทราบว่า A และ B คือขอ้ ใด

  1. เมื่อเกิดการระเบดิ ใหญ่หรอื บิกแบง ข้อใดเกดิ ขนึ หลังสุด ก. A คือ แรงนิวเคลียร์ B คือ เนบวิ ลา ข. A คือ แรงโนม้ ถว่ ง B คอื หลมุ ด้า ก. อนุภาคนิวตรอน ข. นวิ เคลยี สฮีเลยี ม ค. A คือ แรงหนีศนู ย์กลาง B คอื เนบวิ ลา ง. A คอื แรงแม่เหลก็ B คอื กระจุกดาว ค. อะตอมไฮโดรเจน ง. อะตอมฮีเลยี ม
  1. อะตอมของฮีเลียมมอี งค์ประกอบอยา่ งไร 118) สิ่งที่ทา้ ใหร้ ูปรา่ งกาแลก็ ซมี ีรปู แบบแตกตา่ งกนั ในลกั ษณะแบบ ก. โปรตอน 1 อนุภาค นิวตรอน 1 อนภุ าค ข. โปรตอน 1 อนภุ าค นิวตรอน 2 อนุภาค กังหัน แบบกังหันคาน และแบบวงรคี อื อะไร ค. โปรตอน 2 อนุภาค นิวตรอน 2 อนุภาค อเิ ล็กตรอน 1 อนุภาค ง. โปรตอน 2 อนภุ าค นิวตรอน 2 อนภุ าค อิเลก็ ตรอน 2 อนภุ าค ก. อายุของกาแล็กซี ข. ขนาดของกาแลก็ ซี

ค. มวลรวมของกาแลก็ ซี

  1. เมอ่ื บิกแบงเกดิ ขนึ หลังจากนันอกี นานเทา่ ใดจึงเกิดดาราจักร ง. ความเรว็ ในการหมนุ รอบตวั เองของกาแล็กซี

ก. 1000 ลา้ นปี ข. 5000 ลา้ นปี 119) ดาราจักรทางชา้ งเผือก มีลกั ษณะรูปทรงอยา่ งไร

ค. 1000 ล้านลา้ นปี ง. 15000 ลา้ นลา้ นปี ก. รูปชาม ข. รูปโดนทั

  1. ภายหลังเกิดบิกแบง ดาราจักรแห่งแรกท่ีเกิดขึนมีองค์ประกอบ ค. รูปทรงกลม ง. รูปก้นหอย

สา้ คญั คือข้อใด 120) ดาราจักรข้อใดตา่ งจากพวก

ก. ไฮโดรเจนและฮีเลียม ข. ฮเี ลยี มและโปรเตยี ม ก. ดาราจกั รแอนโดเมดา ข. ดาราจักรเอ็ม 110

ค. โปรเตียมและคาร์บอน ง. ไฮโดรเจนและดวิ ทเี รียม ค. ดาราจักรทางชา้ งเผือก ง. ดาราจักรเอม็ 81

  1. อัตราการขยายตัวของเอกภพเป็นอยา่ งไร 121) รูปร่างของดาราจกั รทางชา้ งเผอื กได้จากการท่ีนกั วิทยาสตร์ศกึ ษา

ก. คงตวั ข. ลดลง ค. เพ่มิ ขึน วิเคราะห์จากสิ่งใด

ง. ไมส่ ามารถระบชุ ัดเจน ณ ปัจจุบัน ก. ดาราจักรเพือ่ นบา้ น ข. การยบุ ตัวของเนบวิ ลา

  1. ให้พิจารณาปรากฏการณจ์ ากขอ้ ความตอ่ ไปนี ค. ดาวฤกษ์ท่ีอยใู่ นดาราจกั รของเรา

ก. พลังงานสามารถเปลยี่ นเป็นมวลสารได้ ง. การเกิดดาราจักรหลังบิกแบง 1000 ล้านปแี สง

ข. เอกภพมีการรวมตวั กนั เปน็ กระจุกหรือตัง่ กล่มุ ดาราจกั ร 122) ดาราจกั รเพือ่ นบา้ นสามารถสงั เกตไดด้ ้วยตาเปลา่ ยกเวน้ ข้อใด

ค. การเคล่ือนทข่ี องดาราจกั รต่างๆ เข้าใกลส้ เปกตรัมสแี ดง ก. ดาราจักรโอโรออน ข. ดาราจกั รแมนเจนแลนใหญ่

ง. การเคลอ่ื นที่ของดาวฤกษอ์ อกจากดาราจกั รเขา้ ใกล้สเปกตรมั ค. ดาราจักรแอนโดเมดา ง. ดาราจักรแมกเจสแลนเลก็

สแี ดง 123) ถา้ ตอ้ งการสงั เกตดาราจกั รแอนโดรเมดาซงึ่ อยู่บริเวณทองฟา้ ดา้ น ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื นักเรียนสามารถสงั เกตเหน็ โดยใช่กลุ่มดาว จ. การพบพลงั งานทแ่ี ผร่ ังสีออกมาของวัตถุดา้ ทเ่ี ทยี บได้กบั ในขอ้ ใด ก. ระหวา่ งกลุม่ ดาวสงิ โตกับกลมุ่ ดาววัว 2.73 เคลวนิ ข. ระหวา่ งกลมุ่ ดาวคา้ งคาวกับกลมุ่ ดาวคนคู้ ค. ระหวา่ งกลุ่มดาวมา้ ปีกกับกลมุ่ ดาวนายพราน ฉ. การพบอุณหภมู พิ ืนหลังของกล้องโทรทรรศน์วิทยโุ ดยนาย ง. ระหว่างกลุม่ ดาวแคสสโิ อเปยี กับกล่มุ ดาวมา้ ปกี

เพนซยี สกับนายวลิ สัน

ข้อใดทนี่ กั วิทยาศาสตร์ใชเ้ ป็นเหตผุ ลสนับสนุนทฤษฏีบกิ แบง

ก. ก, ข, ค ข. ข, ง, จ

ค. ง , จ , ฉ ง. ก , ค , จ

  1. ดาราจักรแต่ละดาราจักรประกอบดว้ ยส่งิ ใดบา้ ง 124) ข้อใดถูกต้อง เกี่ยวกับดาวฤกษ์ท่ีอยู่ในกลุ่มเดียวกันซ่ึงมีความ

ก. ดาวฤกษ์และเนบิวลา ข. กาวฤกษ์แสนลา้ นดวง ใกลเ้ คียงกนั มากทีส่ ุด

ค. ดาวฤกษ์ เนบวิ ลา ระบบสุริยะ และทีว่ า่ ง ก. อายุ ข. อนั ดบั ความสว่างปรากฏ

ง. ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ อุกกาบาต และฝุ่นละออง ค. ระยะหา่ งจากโลก ง. ตา้ แหนง่ ที่ปรากฏ

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 11

  1. คา้ วา่ 1 ปี แสงหมายถึงอะไร ข. ธาตไุ ฮโดรเจนและฮีเลียมของดาวแคระขาวยบุ ตวั ลงด้วยแรง

ก. ระยะทางที่แสงใช่เวลาเดนิ ทาง 1 ปี โน้มถว่ ง

ข. ระยะทางจากดวงอาทิตยถ์ งึ โลก ค. ซากทีเ่ หลอื อยขู่ องเนบวิ ลาจากการยุบตัวเป็นระบบสุริยะของ

ค. เวลาที่แสงเดนิ ทางจากดวงอาทติ ย์ถงึ โลก เรา

ง. หนว่ ยของเวลาแบบหนึง่ ง. กล่มุ แกส๊ ภายนอกเนบวิ ลาดาวเคราะหก์ ระจายออกมายุบเปน็

  1. ระยะทาง 1 ปีแสง มีคา่ เทา่ กับข้อใด ธาตุหนัก

ก. 5.9 x 106 กิโลเมตร ข. 9.5 x 106 กิโลเมตร จ.

  1. เมือ่ สงั เกตดาวฤกษ์บนท้องฟ้าจะพบว่าแต่ละดวงจะมีความสวา่ งไม่

ค. 5.9 x 1012 กิโลเมตร ง. 9.5 x 1012 กิโลเมตร เท่ากันหรือเกือบเท่ากัน ข้อใดใช้เหตุผลอธิบายความสว่างปรากฏ

  1. ค้าวา่ “ กอ้ นแก๊สรอ้ นขนานใหญ่ ” หมายถงึ ขอ้ ใด ของดาวฤกษท์ ่ีมีความสวา่ งเท่ากนั

ก. ดาวฤกษ์ ข. ดาวฤกษก์ อ่ นเกิด ก. ความสว่างปรากฏของดาวฤกษ์ท่ีมีอุณหภูมิต่างกัน เม่ือ

ค. จุดบนดวงอาทติ ย์ ง. จดุ แดงขนาดใหญข่ องดาวพฤหสั บดี ระยะหา่ งเทา่ กนั จะมคี วามสว่างเทา่ กนั

  1. ดาวฤกษด์ วงแรก คอื ขอ้ ใด ข. ระยะห่างจากผสู้ ังเกตอาจไมเ่ ท่ากันแต่ความสวา่ งของดวงหน่ึง ก. กลมุ่ เนบวิ ลาที่มีกลมุ่ ไฮโดรเจน คารบ์ อน และฮเี ลยี ม ข. ดาวที่มมี วลมากประกอบดว้ ย ไฮโดรเจน ฮีเลยี ม ท่ีอย่ไู กลสวา่ งกว่าอกี ดวงหนงึ่ ทอี่ ยู่ใกล้ ค. ดาวทีเ่ กิดจากการยบุ ตัวของอะตอมไฮโดรเจน และฮเี ลียม ง. แหล่งก้าเนิดธาตุต่างๆ เชน่ ฮีเลียม ลเิ ทยี ม และเบรีลเลียม ค. อุณหภูมิพืนผิวของดาวฤกษ์แต่ละดวงเท่ากัน เม่ืออยู่ห่าง

จากผู้สังเกตมากเกินกว่าท่ีสายตาจะจ้าแนกความสว่างท่ี

แตกต่างได้

  1. ดาวฤกษท์ ุกดวงจะมีลกั ษณะเหมอื นกนั ยกเว้นขอ้ ใด ง. ข้อ 2 ถกู ตอ้ ง และเปน็ เหตุผลของขอ้ 3

ก. มแี สงในตวั ข. มีพลงั งานในตวั จ.

  1. อุณหภูมิ ณ บริเวณแกนกลางของดาวฤกษ์ก่อนเกิดมีค่าประมาณ

ค. แหล่งก้าเนิดธาตตุ ่างๆ ง. ระบบดาวและระยะหา่ ง เทา่ ใดจึงสามารถท้าใหเ้ กิดปฏกิ ิรยิ าเทอร์โมนิวเคลียร์ขนึ เพอื่ เปน็ ดาว

  1. ตาวทฤษฏีววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ ปัจจยั ส้าคญั ที่สุดทีก่ ้าหนด ฤกษ์ท่สี มบูรณ์

เสน้ ทางการววิ ัฒนาการคอื ข้อใด ก. 15 เคลวิน ข. 15 ล้านเคลวิน

ก. อณุ หภมู ิของดาวฤกษ์ ข. ความสวา่ งของดาว ง. 15 ลา้ นล้านเคลวิน ง. 1.5 ลา้ นลา้ นเคลวนิ

ค. มวลของดาว ง. องค์ประกอบของสสารในดาว จ.

  1. ความสว่างของดาวฤกษ์เป็นพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงนันใน 1
  1. จากววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์จงพิจารณาขอ้ ความต่อไปนี วินาทีต่อ 1 หน่วงพืนท่ี ความสว่างเป็นปริมาณที่มีหน่วย แต่อันดับ ก. ดาวฤกษท์ ง่ั หลายก้าเนิดจากเนบิวลา ข. ดาวฤกษ์ทีม่ สี แี ดงควรจะมอี ายุมากกว่าดาวฤกษ์สนี า้ เงนิ ความสว่างไมม่ ีหนว่ ย อยากทราบว่าหนว่ ยของความสว่างคือขอ้ ใด ค. วาระสุดท้ายของดาวฤกษท์ ี่มีมวลน้อยกวา่ ดวงอาทติ ยจ์ ะ กลายเปน็ ดาวนิวตรอน ก. จลู ข. พารเ์ ซก ค. ปแี สง ง. นวิ ตัน

ขอ้ ใดถูกต้อง 137) ตามวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ในช่วงสุดทา้ ยจะเปน็ อะไร ก. ก ข. ข ค. ก และ ข ง. ก , ข และ ค ก. ดาวแคระดา้ ข. ดาวแคระขาว

ค. หลุมดา้ ง. ดาวนวิ ตรอน

  1. ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ ง 138) เม่ือใช่สเปกตรัมจัดเรียงชนิดของดาวฤกษ์ ข้อใดจัดล้าดับจาก ก. ดาวฤกษ์ที่มมี วลมาก อายยุ าว พลังงานมาก มเี ชอื่ เพลงิ มาก อณุ หภมู สิ ูงไปต้า่ ไดถ้ กู ตอ้ ง ข. ดาวฤกษ์ทม่ี ีมวลนอ้ ย อายุยาว พลังงานนอ้ ย มเี ชอ่ื เพลิงนอ้ ย ก. M – O – B – K ค. ดาวฤกษท์ ม่ี มี วลมากจบชวี ิตดว้ ยการระเบดิ เปน็ ดาวแคระขาว ข. A – F – G – K ง. ดาวฤกษท์ ีม่ มี วลนอ้ ยจบชวี ิตดว้ ยการระเบิดเป็นดาวนวิ ตรอน ค. O – K – B - A ง. G – K – O – M จ.
  2. ปฏิกริ ิยาขอ้ ใดเกดิ ขนึ บนดวงอาทติ ย์
  3. ธาตุหนักต่างๆที่มีอยู่ในอวกาศ เช่น ยูเรเนียม ทองค้า เกิดขึนจาก สาเหตุขอ้ ใด ก. ฟวิ ชนั ข. ฟชิ ชัน ก. เปลอื กนอกของดาวยกั ษ์แดงถกู แรงสะท้อนจากซเู ปอรโ์ นวา ค. ซเู ปอร์โนวา ง. เนบิวลา

โดย ครูสุลกิฟลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 12

  1. สิ่งท่ีเกดิ ขนึ กบั ดาวฤกษ์ทุกดวงเมอื่ เขา้ สรู่ ะยะสดท้ายเป็นไปตามข้อ 146) เนบิวลาทีอ่ ยู่ในกลุม่ นายพราน จัดเปน็ เนบิวลาชนิดใด

ใด ก. เนบิวลาเรืองแสง M31 ข. เนบวิ ลาสว่างใหญ่ M42

ก. ความหนาแนน่ เพิ่มขนึ ข. การระเบดิ ซเู ปอรโ์ นวา ค. เนบวิ ลามืดหัวมา้ M47 ง. เนบวิ ลาสะทอ้ นแสง M101

ค. การกลายสภาพเป็นดาวนวิ ตรอน ง. มวลสลายไปหมด 147) ข้อใดจัดเป็นเนบิวลามดื

  1. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ”ดาวยกั ษแ์ ดง (Red gian)” ไดถ้ ูกตอ้ ง ก. เนบวิ ลาปู ข. เนบิวลาสามแฉก

ก. ดาวฤกษ์ทม่ี มี วลมากกวา่ ดวงอาทติ ยท์ ีก่ ้าลงั จะเกิดซูเปอรโ์ นวา ค. เนบวิ ลานกอนิ ทรี ง. เนบิวลาถุงถา่ นหิน

ข. ดาวฤกษ์ท่ถี ูกปล่อยพลังงานออกมาสูงมาก ทา้ ใหม้ ขี นาดใหญ่ 148) ขอ้ ใดกล่าวถึงระบบสรุ ิยะไดถ้ ูกตอ้ ง ขึน ก. การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง จะท้าให้เกดิ พายุสุริยะขึนอยา่ ง รุนแรง ค. ดาวฤกษ์ที่ยบุ ตวั เปน็ ดาวนิวตรอนจนมอี ุณหภมู สิ ูงขึน ท้าใหม้ ี ข. ดาวหางเรอื งแสง เมอ่ื โคจรมาอย่ใู กล้ดวงอาทิตย์ ขนาดใหญ่มาก ค. ดาวพฤหสั บดมี ีดวงจันทร์ 4 ดวง ง. เม่ือโลกอยู่ในต้าแหน่งที่ไกลจากดวงอาทิตย์ที่สุด จะเป็น ง. ดาวฤกษ์ทมี่ ขี นาดใหญ่มาก เนื่องจากเกดิ ปฏิกริ ยิ าเทอร์โม วนั ทอ่ี ากาศบนโลกหนาวเยน็ ที่สดุ นิวเคลยี ร์อยา่ งรนุ แรง

จ.

  1. นกั วทิ ยาศาสตรใ์ ชห่ ลกั การในข้อใด ทใี่ ช้เปรยี บเทยี บอันดับความ

สว่างของดาวฤกษ์ จ. ก. ใชร้ ะยะห่างจากโลก 10 พารเ์ ซก ข. ใชค้ วามสวา่ งทสี่ งั เกตได้จากโลกระยะทาง 10 ปแี สง 149) เหตใุ ดจงึ กล่าววา่ ระบบสรุ ิยะเกิดจากเนบิวลาร่นุ หลัง ค. ใชพ้ ลงั แสงทวี่ ดั ไดจ้ ากโลกในระยะหา่ ง 3.26 ปแี สง ก. เนบวิ ลามวี วิ ฒั นาการต่อจากดาราจักรรุ่นแรก ง. ใชป้ รมิ าณพลังงานทต่ี กบนพนื โลกใน 1 หนว่ ยเวลา ข. มอี งคป์ ระกอบของธาตหุ นัก ซ่ึงเนบวิ ลารุ่นแรกไม่มี ค. ระบบสรุ ยิ ะเกิดจากกลุ่มแก๊สที่กระจายออกมาจากเนบวิ ลา จ. ง. ธาตุตา่ งๆ ในระบบสรุ ะเหมอื นกบั ดาราจกั รแหง่ แรกที่เกดิ หลงั บิกแบง

  1. ดาว A และดาว B วัดมุมแพรัลแลกซไ์ ด้ 0.1 และ 1 ดาวดวงใดอยู่

หา่ งจากโลกมากกวา่ และดาวทัง 2 ดวงอยูห่ า่ งกันเท่าใด จ. ก. ดาว A อยู่ห่างจากโลกมากกวา่ ดาว B และดาว 2 ดวงอยหู่ ่าง

  1. ในการก้าเนิดระบบสุริยะจักรวาลของเรา มวลสารส่วนใหญ่ของ กัน 32.6 ปแี สง ข. ดาว A อยู่หา่ งจากโลกมากกวา่ ดาว B และดาว 2 ดวงอยหู่ า่ ง เนบวิ ลาลากลายเปน็ อะไร

กัน 29.3 ปีแสง ก. ฝนุ่ อวกาศ ข. ดวงอาทติ ย์ ค. ดาว B อยู่หา่ งจากโลกมากกวา่ ดาว A และดาว 2 ดวงอยู่ห่าง ค. ดาวเคราะหท์ ัง่ 8 ดวง กนั 3.26 ปแี สง ง. ดาว B อยู่ห่างจากโลกมากกวา่ ดาว A และดาว 2 ดวงอยู่หา่ ง ง. ดาวเคราะห์นอ้ ยและดาวเคราะห์ 8 ดวง

กนั 29.3 ปแี สง 151) แหลง่ กา้ เนดิ ดาวหางท่ีโคจรอยรู่ อบนอกของระบบสริ ิยะคอื ข้อใด ก. เศษเหลอื จากดาวเคราะหน์ อ้ ย จ. ข. เศษเหลอื จากดาวเคราะหย์ กั ษ์ ค. อุกกาบาดที่มาจากระบบสุริยะขา้ งเคียง

  1. กระจุกดาวลกู ไก่ ซง่ึ เราสามารถสงั เกตไดด้ ว้ ยตาเปล่าในยามค้า่ คนื ง. ดาวเคราะหแ์ คระทอี่ ยู่นอกวงโคจรของระบบสุรยิ ะ

จัดเปน็ กระจกุ ดาวอย่างไร 152) ขอ้ ใดถกู ตอ้ งเก่ยี วกับอันดับความสว่าง

ก. ดาวฤกษ์เกดิ ใหม่ ข. ดาวฤกษ์ก่อนเกิด ก. มีค่าบวกเทา่ นนั ข. คา่ มากแสดงว่าสวา่ งมาก

ค. ดาวฤกษ์ทม่ี ีอายมุ าก ง. กาวฤกษ์รุ่นเดยี วกบั ดวงอาทิตย์ ค. คา่ เปน็ ศูนย์แสดงว่าไมม่ ีแสงในตวั ง. เปน็ ปริมาณทีไ่ มห่ นว่ ย

  1. ข้อใดกล่าวถึงเนบิวลาไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ดาวฤกษท์ ี่อยู่ในบรเิ วณเนบวิ ลามักจะเปน็ ดาวท่มี อี ายมุ าก 153) ตามหลักการจัดอันดับความสว่างของดาว ดาวดวงใดมีความสว่าง ข. เมื่อมองเนบิวลาผ่านกลอ้ งสองตาจะเห็นเปน็ ฝา่ สขี าวจางๆ มากท่สี ุด ค. ตน้ ก้าเนดิ ของเนบิวลาคอื สสารดั่งเดมิ หลังการเกดิ บกิ แบง ก. ดาว A มอี นั ดบั ความสว่าง 6 เท่านัน ข. ดาว B มีอนั ดับความสว่าง 1 ง. เนบิวลาหัวมา้ ในกลุม่ ดาวนายพราน เป็นตัวอยา่ งของ ค. ดาว C มีอันดบั ความสวา่ ง 0 เนบิวลาประเภทเรืองแสง ง. ดาว D มีอนั ดบั ความสว่าง -2

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 13

  1. ดาวศุกร์เม่ือสว่างน้อยท่ีสุดมีความสวา่ ง -3.5 ดาวซีรีอัสมีอันดบั 162) ข้อใดจับคู่แนวคิดหรือทฤษฎที ่ีสามารถอธิบายการเกิดของเอกภพ

ความสว่าง -1.5 ดาวศกุ ร์มคี วามสว่างมากกวา่ ดาวซรี อี สั กเี่ ทา่ และระบบสุรยิ ะท่ีไดร้ บั การยอมรบั มากทีส่ ุด

ก. 2.5 ข. 3.0 ก. Big Bang Theory, Milky Way Galaxy

ค. 6.25 ง. 15.6 ข. Big Bang Theory, Nebular Hypothesis

  1. ข้อใดเรียงล้าดับความสวา่ งทป่ี รากฎของดาวจากสว่างน้อยไปมาก ค. Milky Way Galaxy, Nebular Hypothesis ไดถ้ กู ต้อง ง. ผิดทกุ ข้อ

ก. ดาวศกุ ร์เมื่อสว่างทส่ี ดุ ดวงจนั ทรเ์ มื่อสวา่ งที่สดุ ดาวซีรอี ัส 163) ข้อใดกลา่ วถึงดวงอาทติ ย์ไดถ้ กู ตอ้ ง

ข. ดาวซีรอี ัส ดาวศกุ ร์เมื่อสว่างท่ีสดุ ดวงจนั ทรเ์ ม่อื สว่างทสี่ ดุ ก. มอี ายุพอๆกบั โลก

ค. ดาวศกุ รเ์ มื่อสว่างท่สี ดุ ดาวซีรอี ัส ดวงจันทรเ์ ม่ือสว่างทสี่ ุด ข. มมี วลประมาณ 50% ของมวลระบบสุริยะ

ง. ดวงจันทร์เมื่อสว่างทส่ี ดุ ดาวศกุ รเ์ มอ่ื สว่างทีส่ ดุ ดาวซีรอี สั ค. องคป์ ระกอบส่วนใหญเ่ ป็นไฮโดรเจน

จ. ง. จะมีวาระสดุ ท้ายเปน็ ดาวแคระด้า

  1. ข้อใดถูกต้องเก่ียวกับอันดับความสว่างของดาวศุกร์เมื่อสว่างท่ีสุด

กบั อนั ดับความสว่างของดวงอาทิตย์ 164) พลงั งานความรอ้ นที่โลกได้รับจากดวงอาทิตยจ์ ะมรี ังสีต่างๆ ปะปน

ก. ค่าใกล้เคยี งกัน ข. คา่ ของดาวศุกร์มากกว่า มาเนอ่ื งจากปฏิกิรยิ าชนดิ ใด

ค. คา่ ของดาวศกุ รน์ อ้ ยกวา่ ง. เปรียบเทียบกนั ไมไ่ ด้ ก. นิวเคลียรฟ์ ิชชัน ข. นิวเคลยี รฟ์ วิ ชนั

  1. ดาวฤกษ์ในข้อใดทม่ี อี ุณหภูมผิ วิ ของดาวต่้าทสี่ ดุ ค. เทอร์มอนิวมอเนียร์ ง. เทอรม์ ไิ ดนามิกฟิวชัน

ก. มีแสงสีน้าเงนิ ข. มีแสงสีแดง 165) ระบบสุริยะเป็นส่วนหนึ่งของดาราจักรทางช้างเผือก โดยอยู่

ค. มแี สงสีเหลอื ง ง. มีแสงสสี ม้ ตา้ แหนง่ ใดของดาราจกั รของเรา

  1. ดวงดาวใดมีอณุ หภมู สิ ูงท่สี ุด ข. ดวงดาวแก้ว สีสม้ ก. ปลายขอบของดาราจกั รหา่ งจากจดุ ศูนยก์ ลาง 3,000 ปีแสง ก. ดาวปารชิ าต สสี ้มแดง ง. ดาวรวงข้าว สขี าวน้าเงนิ ข. ปลายแขนของดาราจักรห่างจากจุดศูนย์กลาง 30,000 ปี ค. ดาวซรี ีอสั สีขาว แสง
  2. นกั เรยี นคนหนง่ึ พจิ ารณาภาพถา่ ยดาวสองภาพซ่ึงถ่ายห่างกัน 6 ค. บรเิ วณกลุ่มดาวหงส์ห่างจากจดุ ศนู ย์กลาง 1,000 ปแี สง เดือน พบว่าดาวดวงหน่ึงมตี ้าแหน่งเปล่ียนไป2.6 มลิ ลิเมตรเม่ือ ง. ใกลบ้ รเิ วณจดุ ศูนย์กลางห่างจากจุดศนู ย์กลาง 3 ล้านปีแสง เทียบกับดาวดวงอื่น ภาพถ่ายทังสองมีความกวา้ งเท่ากัน 6.24 เซนติเมตรซง่ึ เทยี บขนาดเชิงมุมเท่ากบั 20 พิลิปตา ดาวดวงหนึง่ จ. หา่ งจากโลกก่ีพาร์เซก ก. 1.2 ข. 2.6 166) ขอ้ ใดระบุคุณสมบตั ขิ องดวงอาทติ ย์ได้ถกู ตอ้ งที่สุด ค. 2.4 ง. 3.2 ก. ดาวยกั ษ์แดงชนิด M ข. ดาวฤกษ์สีแดงชนิด K ค. ดาวฤกษ์สีเหลืองชนิด G ง. ดาวแคระสีเหลอื งชนดิ O
  1. ในระบบสุรยิ ะแถบดาวเคราะหน์ ้อยอยู่ในบริเวณใด 167) ข้อใดคือเกณฑ์ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้แบ่งเขตพืนท่ีรอบดวงอาทิตย์ ก. อยู่ระหว่างแถบดาวเคราะห์ชันในกบั ดาวเคราะห์ชนั นอก เป็น 4 เขต ข. อยู่ระหวา่ งดาวเคราะห์ชนั ในกบั เขตของดาวหาง ก. ลกั ษณะการกอ่ ตวั เป็นบริวารของดวงอาทติ ย์ ค. อยู่ระหวา่ งดาวเคราะห์ชนั นอกกับเขตของดาวหาง ข. ขนาดและมวลของดาวเคราะหท์ เี่ ป็นบริวารของดวงอาทิตย์ ง. อยู่แถบนอกสดุ ของระบบสุริยะ ค. ลักษณะของคาบการโคจรและความหนาแน่นของดาว เคราะห์ จ. ง. ลักษณะและระนาบวงโคจรของดาวเคราะห์ท่ีเป็นบริวาร ของดวงอาทติ ย์
  2. นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าดาวเคราะห์น้อยจ้านวนมากทีโ่ คจรรอบ ดวงอาทิตย์ซึ่งอยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารและดาว จ. พฤหัสบดี ไม่สามารถรวมตัวกันเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ เช่นเดยี วกับโลกหรอื ดาวองั คาร เนอ่ื งจากสาเหตใุ นข้อใด 168) ข้อใดเรียงล้าดับรายชื่อดาวเคราะห์ในระบบสุริยะตามล้าดับ ก. แรงโน้มถว่ งของดวงอาทติ ย์ ระยะทางหา่ งจากดวงอาทติ ยจ์ ากน้อยไปหามากไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ข. แรงโนม้ ถว่ งของดาวพฤหสั บดี ก. ดาวพุธ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวพฤหสั บดี ดาวเนปจนู ค. แรงโน้มถว่ งระหวา่ งดาวองั คารและดาวพฤหัสบดี ข. ดาวพุธ ดาวองั คาร โลก ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ง. แรงดนั และแรงโน้มถว่ งของดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ ค. โลก ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนัส ดาวเนปจูน ง. โลก ดาวพฤหสั บดี ดาวศกุ ร์ ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 14

  1. ปัจจบุ ันดวงอาทิตย์และโลกมอี ายยุ าวนานเทา่ ไหร่ ค. วงโคจรของดาวพลูโตไม่แยกตัวอย่างชดั เจน แต่จะซ้อนทับ

ก. ดวงอาทิตย์มีอายมุ ากกว่าโลก 400 ลา้ นปี กนั กับดาวเพ่อื นบ้าน

ข. โลกมีอายเุ ทา่ กบั ดวงอาทิตย์ 4.6 ล้านปี ง. ข้อ 2 และ 3 ถกู ต้อง

ค. โลกมอี ายนุ ้อยกว่าดวงอาทติ ย์ 4.6 ล้านปี จ. ง. ดวงอาทิตยเ์ กดิ พรอ้ มโลกจึงมีอายุ 4.6 ลา้ นปี

  1. หนว่ ยเวลาในข้อใดไมถ่ ูกก้าหนดจากเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์

ก. วนั ข. สัปดาห์ ค. เดอื น ง. ปี

  1. ลมสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์และเคลอ่ื นที่มายังโลกแท้จริงแล้วคือ 179) ข้อใดกล่าวถงึ สรุ ิยปุ ราคาไม่ถกู ต้อง ขอ้ ใด ก. เมือ่ เงาของดวงจันทร์มีขนาดเชิงมมุ มากกว่าดวงอาทิตย์ จะ ก. อนุภาคโปรตอนและนิวตรอน เห็นสรุ ิยุปราคาวงแหวน ข. อนภุ าคอิเล็กตรอนและนิวตรอน ข. สรุ ยิ ปุ ราคาเตม็ ดวงจะตอ้ งเกดิ ขึนในช่วงแรม 15 ค้่าเท่านนั ค. อนุภาคอิเลก็ ตรอนและโปรตอน ค. ในปี พ.ศ.2552 มีสุรยิ ปุ ราคาเต็มดวงเกดิ ขึน ง. อนภุ าคโฟตอนและนวิ ทรโิ น ง. ถ้าระนาบการโคจรของดวงจันทร์รอบโลกอยู่ใน
  1. ขอ้ ใดไม่ได้เกดิ จากพายุสรุ ิยะ ระนาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ จะสังเกต

ก. การเกิดแสงเหนอื แสงใต้ สรุ ยิ ปุ ราคาทุกเดือน

ข. วงจรวิเลก็ ทรอนกิ สบ์ นดาวเทียมเสยี หาย จ. ค. การเกดิ ฝนดาวตก ง. การติดต่อสอ่ื สารโดยวิทยุคลน่ื สนั ขดั ขอ้ ง 180) เหตใุ ดจึงไมเ่ กิดสรุ ิยปุ ราคาทุกเดือนทัง ๆ ที่ใน 1 เดือนนันจะต้องมี

เดือนดบั อยอู่ ย่างน้อย 1 ครังเสมอ

ก. ระนาบวงโคจรของดวงจันทร์และของโลกไม่ได้อยู่ท่ีจุดตัด

  1. ดาวเคราะห์ใดตอ่ ไปนอี ยู่ใกล้ดวงอาทติ ยม์ ากกวา่ ดวงอืน่ ของวงโคจรท่ังสอง

ก. ดาวพฤหัสบดี ข. ดาวศุกร์ ข. ระนาบวงโคจรของดวงจันทร์รอบโลกเอียงท้ามุมกับ

ค. ดาวเสาร์ ง. ดาวเนปจนู ระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ประมาณ10

  1. ดาวพฤหัสบดมี อี งค์ประกอบหลักเป็นอะไร องศา

ก. เหลก็ ข. ไฮโดรเจนและฮีเลยี ม ค. ระยะเวลาของวงโคจรและการหมุนรอบตัวเองของดวง

ค. หิน ง. แอมโมเนยี จันทรแ์ ละโลกไม่เท่ากัน

  1. ดาวเคราะห์ชันนอกมอี งค์ประกอบสว่ นใหญ่ท่สี า้ คัญคือขอ้ ใด ง. คาบของการโคจรของดวงจันทร์รอบโลกโคจรรอบดวง

ก. เหลก็ และนกิ เกิล ข. คาร์บอนและเหลก็ อาทติ ย์แตกต่างกัน

ค. ไฮโดรเจนและฮเี ลียม ง. ไฮโดรเจนและคาร์บอน จ.

  1. เมือ่ เกดิ สุริยปุ ราคาเตม็ ดวงวนั นันควรจะเป็นวนั ใด
  1. หากโลกมีแกนทา้ เอยี งมากขนึ น่าจะสง่ ผมกระทบตามขอ้ ใด ก. แรม 1 คา่้ ข. ขนึ 8 ค่า้

ก. ขวั โลกเหนอื มีเวลากลางวันยาวนานขึน ค. แรม 8 ค้่า ง. แรม 15 ค่้า

ข. แต่ละฤดูกาลมีระยะเวลายาวนานขึน 182) เมื่อวันท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ.2551 ได้เกิดปรากฏการณพ์ ระจันทร์ ยิ ม ใ น ข ณ ะ นั น ดว ง จั น ท ร์ อ ยู่ ทิ ศ ตะ วั น ตก เ ยื อ ง ไ ป ท า ง ทิ ศ ใ ต้ ค. บรเิ วณท่ีเกดิ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เท่ยี งคืนยาวนานขนึ เล็กน้อยและมีดาวเคราะห์สองดวงอยู่ด้านบน ข้อความใด กลา่ วถึงปรากฏการณ์นถี ูกตอ้ งท่สี ดุ ง. อณุ หภูมิร้อนจะสูงขนึ อณุ หภูมิฤดหู นาวจะลดลง ก. ดาวเคราะห์ทม่ี องเห็นสวา่ งกว่าเรียกวา่ ดาวประจา้ เมอื ง ข. ดาวเคราะหท์ มี องเห็นสวา่ งน้อยกว่าคอื ดาวเสาร์ จ. ค. วนั นันข้างแรมเพราะดวงจันทรเ์ ปน็ เสียว ง. วันนันเปน็ ข้างขนึ เพราะดา้ นสวา่ งของดวงจันทร์หันเขา้ หาด

  1. ตามนิยามของสมาพันธ์ดาราศาสตร์สากล ปัจจุบันดาวดวงใดไมใ่ ช่ วงอาทิตย์

ดาวเคราะห์ จ.

ก. ดาวพลโู ต ข. ดาวเนปจูน 183) พรศักดส์ิ ังเกตเห็นดวงอาทิตย์ท้ามุมเงยกับฟ้าเทา่ กบั 53 องศา เขาพบว่าเงาของเสาธงทอดตัวลงบนพืนสนามใยขณะนันยาว ค. ดาวยเู รนัส ง. ดาวเสาร์ 7.2 เมตร ขอ้ ใดไม่ถูกต้อง ก. เสาธงสงู 9.6 เมตร

  1. ในวันท่ี 24 สิงหาคม พ.ศ.2549 สมาพันธ์สากล ได้มีมติให้ลด ข. ในเวลาเทยี งของวนั นนั เงาจะสนั กว่า 7.2 เมตร ฐานะดาวพลูโตจากการเปน็ ดาวเคราะหเ์ นื่องมาจากเหตใุ ด ก. มีวงโคจรที่ไม่ได้รับอิทธิพลมาจากสนามโน้มถ่วงของดวง อาทิตย์ ข. มวลของดาวพลูโตไม่สามารถยึดเหนี่ยวส่วนท่ีเป็นของแข็ง ให้คงตัวเปน็ ทรงกลมได้

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 15

ค. ถ้าพรศกั ด์อิ ยทู่ ซ่ี กี โลกเหนอื เงาของเสาธงในตอนเข้าจะต้อง 189)ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้ม

ชีไปทางตะวนั ตกเฉยี งเหนอื เสมอ ถ่วงดวงอาทิตย์กระท้า หากดาวเคราะห์ดวงใดดวงหน่ึงมี

ง. ถ้าพรศักดทิ์ เ่ี สน้ ศนู ยส์ ูตรและวันนนั กลางวันเท่ากับกลางคืน ความเรว็ ในการโคจรลดนอ้ ยลงจะเกิดผลตามขอ้ ใด

เวลาท้องถิน่ จะมีค่าประมาณ 9.34 น. ก. ดาวเคราะห์จะมีคาบการโคจรมากขึน

จ. ข. ดาวเคราะหจ์ ะหลุดออกจากวงโคจร

  1. ผู้ใดก้าลงั หนั หน้าไปทางทศิ ตะวันตก ค. เกิดวงโคจรใหมข่ องดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ขนึ

ก. กอบศักดนิ์ ัง่ เรือหันหนา้ ไปทางหัวเรือเพ่ือเดินทางจากภูเก็ต ง. ดาวเคราะห์จะถูกดึงดดู เขา้ ส่ดู วงอาทติ ย์

ไปกระบี่ จ.

ข. รังสขี บั รถไปท้างานตอนเชา้ เห็นแสงแดดสอ่ งผ่านกระจกมา 190) เชื่อเพลงิ ในข้อใดเหมาะสมทจ่ี ะใช้ในการส่งยานอวกาศมากที่สดุ

ทางซา้ ยมือ ก. ออกซีเจนเหลว

ค. นิรมลมองจันทรุปราคาเต็มดวงตอนหวั ค้า่ ข. เบนซินเกรดสงู

ง. อา้ รวยนั่งที่ท่านา้ ตอนหัวค่า้ เหน็ เดือนหงายอยูใ่ กลข้ อบฟา้ ค. ไนโตรเจนเหลวและออกซเิ จน

จ. ง. ไนโตรเจนเหลวและออกซเิ จนเหลว

185)ผาชะนะได จังกวัดอุบลราชธานี ตั่งอยู่ที่ลองจิจูด 105 องศา

37 ลิปดาตะวันออก ส่วนกรุงเทพมหานครตังอยู่ที่ลองจิจูด 191) ดาวเทียมที่สา้ รวจทรพั ยากรธรรมชาตขิ องไทยคอื ข้อใด

100 องศา 32 ลิปดาตะวันออก ท่ีผาชนะไดเห็นดวงอาทิตย์ ก. ไทพัฒ ข. ธอี อส

ขึนเวลา 6.00 นาฬิกา ท่ีกรุงเทพมหานครจะเห็นดวงอาทติ ย์ ค. ไทยคม 3 ง. ไทยคม 4

ขนึ เวลาเท่าใด (ชว่ั โมง:นาที:วนิ าที) 192) ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์ของกระสวยอวกาศในปัจจุบนั ก. เพื่อการทอ่ งเทีย่ ว ข. เพอ่ื ส่งดาวเทยี มเขา้ สวู่ งโคจร ก. 5:39:40 ข. 5:40:00 ค. ค. เพ่ือใช่เป็นสถานีอวกาศ ง. เพอ่ื วจิ ยั ทางวทิ ยาศาสตร์

6:20:00 ง. 6:20:20 193) ในปี พ.ศ.2551 ประเทศอินเดียได้ส่งยานอวกาศส้ารวจอวกาศ ออกไปนอกโลกเปน็ ผลส้าเรจ็ การส่งยานดังกลา่ วมีวัตถุประสงค์

  1. ท้าไมกล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลสามารถเห็นดาวต่างๆได้ชัดเจนกว่า ใด ก. น้าดาวเทียมส้ารวจทรัพยากรไปติดตังเหนือประเทศ กล้องอื่นๆ อินเดยี ข. ไปส้ารวจดวงจันทร์ ก. เลนส์มีขนาดโตมากกว่า ข. เลนสม์ ี ค. โคจรรอบโลก ง. นา้ หอ้ งปฏิบตั ิการไปต่ังใหแ้ กสถานอี วกาศนานาชาติ คณุ ภาพดีมากกวา่ จ. ค. มีเทคโนโลยีการถา่ ยภาพทท่ี ันสมัยกว่า ง. อากาศ
  2. องคก์ ารยูเนสโกและสมาพนั ธ์ดาราศาสตร์สากลได้ประกาศให้ปี หอ่ หมุ้ โลกไม่รบกวน 2009 เปน็ ปีดาราสตร์สากล เพือ่ เฉลิมฉลองเหตกุ ารณใด ก. ครบ 470 ปีแหง่ การตีพมิ พ์ผลงานของโคเปอรน์ โิ คลัส
  3. สิ่งที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศเห็นแตกต่างจากกล้องโทรทรรศน์บน ซึ่งเสนอแนวคิดว่าด้วยการโคจรรอบดวงอาทิตยข์ อง ดาวเคราะห์ โลกมากทีส่ ุดคอื อะไร ข. ครบ 400 ปีแห่งการใช่กล้องโทรทรรศน์ส้ารวจท้องฟ้า เปน็ ครงั แรกของกาลเิ ลโอ ก. ดาวฤกษไ์ ม่กะพริบแสง ค. ครบ 330 ปแี หง่ กฎความโน้มถ่วงของนวิ ตนั ง. ครบ 80 ปีแห่งการค้นพบการขยายตัวของเอกภพโดย ข. ดาวเคราะห์กะพริบแสง ฮบั เบลิ

ค. กลุ่มดาวตา่ งๆมีรูปรา่ งบดิ เบียวไปจากท่ีสงั เกตบนโลก จ.

ง. ดาวฤกษ์มรขนาดใหญ่ขึนอย่างเห็นได้ชัดเจนก้าลังขยาย 195) ขอ้ ใดไม่เปน็ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยอี วกาศ

เท่ากัน

188)ในการศึกษาวตั ถุทอ้ งฟา้ เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งกล้องโทรทรรศนข์ ึนไป

โคจรรอบโลก

ก. เปน็ การสังเกตในระยะใกล้ ซึง่ จะได้ภาพทช่ี ดั เจนกว่า

ข. ในอวกาศมีอุณหภูมิท้าให้เลนส์มีการขยายตัวน้อยกว่าอยู่

บนโลก

ค. การสังเกตการณ์บนโลกมีบรรยากาศโลกรบกานท้าให้ไม่

สามารถเหน็ ภาพระยะไกลได้อยา่ งชดั เจน

ง. เพราะในอวกาศไม่มแี สงจากเมอื งมารบกวนท้าให้ภาพที่ไดม้ ี ก. การพยากรณอ์ วกาศ

ความคมชดั ข. การส่ือสารวิทยคุ ลน่ื สัน

ค. จพี เี อส (GPS)

ง. การสา้ รวจทรพั ยากรธรรมชาติ

โดย ครูสลุ กิฟลี โสพนั ธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 16

จากตารางข้อมูลตอ่ ไปน้ีตอบคาถามขอ้ (196-198)

ความสูงจาก ความเรว็ ในวง คาบของการโคจร ความเร็วจากผวิ โลกทจ่ี ะขึน ความเรว็ หลุดพ้น ผิวโลก (km) โคจร (km/s) ถึงวงโจร (km/s) (km/s)

0 7.91 1 ช่ัวโมง 24.3 นาที 7.91 11.2

161 7.80 1 ช่วั โมง 27.7 นาที 8.00 11.0

322 7.70 1 ชวั่ โมง 30.8 นาที 8.10 10.9

644 7.53 1 ชว่ั โมง 37.5 นาที 8.26 10.6

1,609 7.06 1 ช่วั โมง 57.7 นาที 8.66 10.0

8,045 5.26 4 ชว่ั โมง 46.6 นาที 9.85 7.4

35,880 3.07 24 ชว่ั โมง 10.8 7.3

∞ 11.2

  1. ยาน A มีความจ้าเป็นทจ่ี ะตอ้ งเดินทางไปสา้ รวจดาวเสาร์ เม่อื ยาน A ถกู ปล่อยขึนจากผวิ โลกในระยะความสูง 1,609 กิโลเมตร โดยใชเ้ วลา 2.85

นาที ยาน A จะตอ้ งใชค้ วามเรว็ เทา่ ใดจึงจะขนึ ถงึ วงโคจรได้สา้ เร็จ

ก. 8.00 กิโลเมตรตอ่ วินาที ข. 8.42 กิโลเมตรต่อวินาที

ค. 8.66 กโิ ลเมตรต่อวินาที ง. 9.26 กิโลเมตรตอ่ วินาที

  1. ยาน B ถกู ปล่อยจากฐานเมอื่ เวลา 06.09 น. และเข้าสวู่ งโคจรทีร่ ะยะความสูง 8,045 กิโลเมตร เพือ่ เขา้ สูว่ งโคจรในเวลา 07.09 น. ขณะยาน B มี

ความเรว็ ในวงโคจรทเ่ี หมาะสมเทา่ ใดจึงจะโคจรอยไู่ ด้

ก. 3.06 กโิ ลเมตรต่อวินาที ข. 4.06 กิโลเมตรตอ่ วนิ าที

ค. 5.26 กโิ ลเมตรต่อวนิ าที ง. 6.06 กโิ ลเมตรต่อวนิ าที

  1. ยาน C เปน็ ยานทต่ี ้องเดนิ ทางไปสา้ รวจดาวเสารใ์ นเวลาทจี่ า้ กัด เพือ่ ใหย้ าน C ท่กี า้ ลงั โคจรอยู่ ณ ท่ีความสูง

644,000 เมตร สามารถเดินทางไปโคจรรอบดสาวเสาร์ได้ ยาน C จะตอ้ งใช่ความเรว็ เท่าใด

ก. 7.53 กโิ ลเมตรต่อวนิ าที ข. 8.26 กิโลเมตรตอ่ วินาที

ค. 10.60 กิโลเมตรตอ่ วินาที ง. 10.90 กโิ ลเมตรตอ่ วนิ าที

  1. จากตารางขอ้ มลู การโคจรของดาวเทียม

ดาวเทียม วงโคจร ระยะความสูงของวงโคจรประมาณ (km) ความเร็วโคจรรอบโลก (km/s) A LEO 0 7.90 B LEO 644 7.53 C MEO 5.26 D GEO 8,045 3.07 35,880

ดาวเทยี ม D ควรเป็นดาวเทียมประเภทใด ข. ดาวเทยี มทางทหาร ก. ดาวเทียมสือ่ สาร ง. ดาวเทยี มสา้ รวจทรัพยากรธรรมชาติ ค. ดาวเทียมอุตุนยิ มวทิ ยา ข. เจ้าหน้าทใ่ี นสถานีจะอย่ใู นสภาวะไรน้ ้าหนกั

  1. ข้อใดไมถ่ กู ต้องเกีย่ วกบั สถานอี วกาศนานาชาติ ง. มีเจ้าหน้าทีป่ ระจา้ การอยู่ตลอดเวลา ก. วิจัยเทคโนโลยใี หม่ๆทไ่ี ม่สามารถท้าได้บนโลก ค. อยใู่ นวงโคจรคา้ งฟา้

แนวข้อสอบเขา้ มหาลัยชดุ ท่ี 1

  1. คล่นื ในขอ้ ใดมอี ัตราการเคลอ่ื นทีก่ ระจายออกไปไกลท่ีสุด

ก. คล่ืน P ข. คล่ืน S ค. คลืน่ L ง. คลน่ื R จ. คลื่น O

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 17

  1. ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ ง จ. ดร.อัลเฟรด เวเกเนอร์ ได้ตงั สมมติฐานวา่ แผ่นดินทงั หมดบน

ก. ธรณีภาคคอื ส่วนประกอบทเ่ี ป็นดินและหิน โลกแตเ่ ดมิ เปน็ แผน่ เดียวกัน

ข. แกน่ โลกมอี งคป์ ระกอบหลักเป็นเหล็กและซิลกิ า 208) ประเทศไทยอยูบ่ นเปลือกโลกแผ่นใด ค. บริเวณแก่นโลกชนั นอกจะเกิดได้เฉพาะคลืน่ ปฐมภมู เิ ทา่ นัน ง. แนวโมโฮโรวิซกิ เปน็ แนวรอยต่อระหวา่ งชนั เปลือกโลกกับเนอื ก. ยเู รเชยี ข. ออสเตรเลีย ค. แปซิฟกิ

โลก ง. อินเดีย จ. แอตแลนตกิ จ. แก่นโลกชนั ในอย่ใู นสถานะทเ่ี ปน็ ของแข็ง

  1. ข้อใดกลา่ วผดิ ฉ. ก. Subduction zone คือแนวหรือเขตการชนกันของแผ่นธรณี
  1. ขอ้ ใดเรียงล้าดับชนั โลกจากดา้ นนอกไปดา้ นในไดถ้ กู ตอ้ ง ภาค ก. Asthenosphere, Inner core, Mesosphere ข. Mesosphere, Asthenosphere, Inner core ข. การมดุ ตวั ของแผ่นมหาสมุทรกับแผ่นมหาสมทุ รจะเกดิ เป็นร่อง ค. Lithosphere, Asthenosphere, Mesosphere ลกึ ก้นสมุทร ง. Outer core, Lithosphere, Asthenosphere จ. Mesosphere, Lithosphere, Asthenosphere ค. บรเิ วณรอบมหาสมทุ รแปซิฟกิ จะพบภเู ขาไฟเปน็ แนว

ฉ. ง. วงแหวนไฟเกิดจากการมุดตัวของแผน่ ทวปี ลงไปใต้แผ่นสมุทร จ. ผดิ ทุกข้อท่ีกลา่ วมา

  1. หลกั ฐานท่ใี ชส้ นับสนุนทฤษฎีทวีปเลอื่ นและการขยายตัวของพืน ท้องมหาสมทุ รศกึ ษาได้จากหนิ ชนิดใด ฉ.
  1. ข้อใดไมส่ มั พนั ธ์กัน

ก. สันเขาใตส้ มุทรเกดิ จากแผ่นธรณภี าคทแ่ี ยกออกจากกนั

ก. หินทราย ข. หนิ แกรนติ ข. ร่องลึกก้นสมทุ รเกิดจากการเคล่อื นท่เี ข้าหากนั ของแผ่น ค. หินบะซอลต์ มหาสมทุ ร ง. หนิ ปูน จ. หนิ ทรายแปง้ ค. หมู่เกาะภูเขาไฟรปู โคง้ เกดิ จากการยุบตัวของแผ่นมหาสมุทร

  1. ปรากฏการณท์ างธรณีภาคใดท้าใหเ้ กิดเทือกเขาหมิ าลัย ง. เทือกเขาหิมาลัยเกิดจากการเคลอื่ นทเ่ี ขา้ หากนั ของแผน่ ทวปี ก. แผน่ ดนิ ไหว จ. มคี า้ ตอบมากกวา่ 1 คา้ ตอบ ข. การแยกตวั ของแผ่นเปลอื กโลก

ค. การชนกันของแผน่ เปลอื กโลก 211) จากภาพบรเิ วณรอยแยกกลางมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ข้อใดกลา่ ว

ง. การระเบดิ ของภูเขาไฟ ถกู ต้อง

จ. พนื มหาสมทุ รแยกตัวจากพืนดิน

ฉ.

  1. ขอ้ ใดมโี อกาสพบการเกิดแผ่นดนิ ไหวมากท่ีสุด

ก. แนวเทอื กเขาแอลป์

ข. แนวเทอื กเขาหิมาลยั ในทวีปเอเชีย

ค. สันกลางมหาสมุทรแอตแลนติก A. หินบะซอลตบ์ ริเวณ 1 มอี ายมุ ากกวา่ หินบะซอลต์บรเิ วณ 4

ง. บริเวณวงแหวนไฟ B. หนิ บะซอลต์บรเิ วณ 5 มอี ายนุ ้อยกว่าหินบะซอลต์บริเวณ 3

จ. แนวสันเขาใตม้ หาสมทุ รอนิ เดยี C. หนิ บะซอลตบ์ ริเวณ 2 และบรเิ วณ 5 มอี ายุใกลเ้ คียงกัน

ฉ. ก. AและB ข. A และ C ค. B และ C

  1. ข้อใดกล่าวถงึ พนั เจยี ไม่ถูกตอ้ ง

ก. แผ่นทวปี ท่เี คยรวมเปน็ แผ่นเดียวกันในอดตี เรยี กว่า พันทาลสั ง. A,B และ C จ. C เทา่ นัน

ซา 212) ดาวดวงใดมคี วามสวา่ งมากทีส่ ดุ ข. ประเทศอินเดียเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในมหาทวีปทางใน ก. ดาว A มีโชติมาตรปรากฏเทา่ กบั -3 ข. ดาว B มโี ชติมาตรปรากฏเทา่ กบั 0 อดีต ค. ดาว C มีโชตมิ าตรปรากฏเทา่ กบั 2 ค. ขอบทวีปอเมริกาใต้และแอฟริกาเป็นหลักฐานของการ ง. ดาว D มีโชตมิ าตรปรากฏเทา่ กับ 5 จ. ดาว E มีโชติมาตรปรากฏเทา่ กับ -4 เคล่ือนทีข่ องธรณีภาค ง. มหาทวีปในอดีตแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ลอเรเซียร์และกอนด์

วานา

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 18

  1. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง 220) ขอ้ ใดกล่าวถงึ ดาวฤกษ์มวลมากไดถ้ ูกต้อง

ก. ภูเขาไฟพนมรุง้ เปน็ ภูเขาไฟสลบั ชันเช่นเดยี วกับภเู ขาไฟฟจู ิ ก. เกิดปฏกิ ริ ยิ านิวเคลยี ร์ฟิวชนั เร็ว ปล่อยพลังงานออกมามาก

ข. ภูเขาไฟรปู โล่เกิดจากหินลาวาของหินบะซอลตม์ คี วามหนดื ตา้่ สนิ อายุขยั เรว็

ค. ภูเขาไฟสลับชันมีลกั ษณะกรวยสงู ฐานแคบ มีการระเบดิ รนุ แรง ข. เกิดปฏิกริ ยิ านิวเคลยี รฟ์ ิชชันช้า ปล่อยพลงั งานออกมามาก สนิ

ที่สดุ อายขุ ยั เร็ว

ง. ภูเขาไฟรปู กรวยเกดิ จากการทบั ถมระหว่างลาวากบั ชินส่วน ค. เกิดปฏกิ ริ ิยานวิ เคลยี รฟ์ วิ ชันชา้ ปลอ่ ยพลังงานออกมานอ้ ย สิน

ภูเขาไฟ อายุขยั ช้า

จ. ภูเขาไฟฟจู ิเกดิ จากการทับถมของลาวาที่เป็นกรด ง. เกิดจากปฏิกริ ยิ านิวเคลยี รฟ์ ิชชันเรว็ ปล่อยพลงั งานออกมา

ฉ. น้อย สินอายุขัยช้า

  1. "เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลาประมาณ 15.35 น.เกิด จ. เกิดปฏกิ ริ ยิ านิวเคลียรฟ์ วิ ชันตอ่ เน่อื ง ปล่อยพลงั งานออกมา

เหตุการณ์แผ่นดนิ ไหวทอี่ ้าเภอจอมทอง จงั หวัดเชียงใหม่ ขนาด 4.2 น้อย ไม่มีการสินอายขุ ัย

ในระดับความลึก 4 กิโลเมตร" จากรายงานข่าวดังกล่าวมี ฉ.

ความสัมพนั ธก์ บั ข้อใดมากท่ีสุด 221) ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ต้อง

ก. เคร่อื งตรวจวดั เรมิ่ จบั สัญญาณคลื่นได้ ก. ระบบสรุ ยิ ะเกดิ จากเนบิวลารุน่ ใหม่ เน่อื งจากพบธาตหุ นกั เชน่

ข. เครือ่ งใชใ้ นบา้ นสั่นไหวชัดเจน ดีบกุ ตะกวั่ ทองค้า

ค. เกดิ โคลนทรายพุ่งขนึ จากพนื ดนิ เล็กน้อย ข. ดาวฤกษก์ ่อนเกิด เกิดจากการยุบตวั ของเนบวิ ลา จนแกน่ กลาง

ง. แผน่ ดนิ ระดบั สายตาบดิ เบยี ว มอี ุณหภมู สิ ูงหลายแสนเคลวิน

จ. สงิ่ กอ่ สร้างมคี วามเสยี หายอยา่ งมาก ค. แหล่งพลงั งานของดาวฤกษเ์ กดิ จากปฏกิ ริ ิยาเทอรโ์ มนวิ เคลยี ร์

  1. ขอ้ ใดต่อไปนไี ม่ใชซ่ ากดกึ ดา้ บรรพ์ (Fossil) ทบ่ี ริเวณผวิ ของดาวฤกษ์ ง. ใน 1 วนิ าที ดวงอาทิตยผ์ ลิตฮีเลียมได้เพมิ่ 596 ล้านตนั และ ก. ไมก้ ลายเป็นหนิ ข. แกรปโตไลต์ เบาลงประมาณ 4 ลา้ นตนั ค. ฮมี าไทต์ ง. ฟิวซูลนิ ดิ จ. ดาวฤกษ์ท่ีมีมวลมากจะมีอายุสนั และจะจบชีวิตดว้ ยการระเบดิ

จ. ช้างแมมมอธ อยา่ งรนุ แรงท่เี รยี กวา่ ซูเปอรโ์ นวา

  1. ซากไทรโลไบตท์ ่ีเกาะตะรเุ ตา จงั หวดั สตลู พบหนิ ชนดิ ใด

ก. หนิ ทราย ข. หินปูน 222) ดาว A อยหู่ ่างจากโลกระยะทาง 32.6 ปีแสง จงหามุมแพรลั แลกซ์ ค. หินดินดาน ง. หนิ ชนวน จ. หินออ่ น ของดาว A

ก. 10 พลิ ปิ ดา ข. 1 พิลิปดา

  1. ดาวฤกษ์ในขอ้ ใดตอ่ ไปนมี ีอณุ หภมู ผิ วิ ต่้าทีส่ ุด ค. 0.1 พลิ ิปดา ง. 0.01 พลิ ิปดา

ก. ดาว A - สีนา้ เงนิ ข. ดาว B - สสี ้มแดง จ. 0.02 พิลิปดา

ค. ดาว C - สีขาว ง. ดาว B - สเี หลอื ง 223) ขอ้ ใดตอ่ ไปนีกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ ง จ. ดาว E - สสี ม้ ก. เนบิวลาในกระจกุ ดาวลูกไก่เป็นเนบวิ ลาประเภทสะทอ้ นแสง

  1. ดาวฤกษ์ท่อี ยู่ใกลร้ ะบบสรุ ยิ ะทีส่ ุดตรงกับข้อใด ข. แอลฟาเซนเทารี B เป็นดาวฤกษท์ ีอ่ ยู่ใกลร้ ะบบสรุ ิยะมากท่ีสดุ ค. การแปรแสงของดาวฤกษ์ขนึ อยู่กบั มวลและดนั ภายในของดาว ก. พรอ็ กซมิ าเซนเทารี ข. ดวงอาทิตย์ ฤกษ์ ค. ดาวซีรีอัส ง. ดาวบเี ทลจสุ ง. เนบวิ ลาผ้าคลมุ ไหล่เปน็ ซากของซเู ปอรโ์ นวามอี ายุประมาณ

จ. ดาวพลูโต 5,000 - 10,000 ปมี าแลว้ จ. ระบบสรุ ยิ ะกา้ เนดิ จากกล่มุ แกส๊ ฝุ่น และสสารระหวา่ งดาวที่

  1. ดาว A มีมุมแพรัลแลกซ์ 0.1 พิลปิ ดา ต้าแหนง่ ทเี่ ปลีย่ นไปของดาว

A เทียบกบั ดาวพนื หลังเม่อื ผ่านไป 6 เดือน จะมีค่ากี่พลิ ิปดา

ก. 0.1 พิลปิ ดา ข. 0.2 พิลปิ ดา รวมกันเรยี กวา่ เนบวิ ลาสรุ ยิ ะ

ค. 0.4 พิลปิ ดา ง. 0.6 พิลปิ ดา 224) ในการเตอื นภยั จากพายใุ ชป้ ระโยชนจ์ ากดาวเทียมดวงใด จ. 0.8 พลิ ปิ ดา ก. THEOS ข. GOES - J ค. THAICOM

ง. LANDSAT-7 จ. ถูกทุกขอ้

โดย ครูสุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 19

  1. พายุสุริยะก่อให้เกดิ ผลกระทบตอ่ อยา่ งไร 230) ข้อใดต่อไปนเี ป็นเนบิวลามดื (Dark nebula) ทังหมด

ก. รบกวนการท้างานของดาวเทียม ก. เนบวิ ลานกอินทรี เนบวิ ลาสามแฉก

ข. ทา้ ใหแ้ กน่ โลกพลกิ กลบั ดา้ น ข. เนบวิ ลาผา้ คลมุ ไหล่ เนบิวลาปู

ค. ทา้ ใหเ้ กดิ ภาวะเรอื นกระจก ค. เนบวิ ลาวงแหวน เนบวิ ลาดอกกุหลาบ

ง. การเกิดปรากฏการณแ์ สงเหนอื แสงใต้ ง. เนบิวลาหวั มา้ เนบิวลาถุงถา่ น

จ. ถูกมากกวา่ 1 ข้อ จ. เนบวิ ลานกอนิ ทรี เนบวิ ลาหวั มา้

ฉ.

  1. ขอ้ ใดต่อไปนเี รยี งลา้ ดับจากระบบใหญ่ไประบบเล็กไดถ้ กู ต้อง

ก. ระบบสุริยะ โลก กาแล็กซี่ เอกภพ แนวขอ้ สอบเข้ามหาวิทมยาลยั ชดุ ที่ 2

ข. เอกภพ กาแล็กซี ระบบสุรยิ ะ โลก 231) แผน่ ธรณีภาคในข้อใดที่ไมม่ ีพืนทวีปรองรบั ค. เอกภพ ระบบสุริยะ กาแลก็ ซี โลก ง. โลก ระบบสรุ ิยะ กาแลก็ ซี เอกภพ ก. แผน่ ยูเรเชีย ข. แผ่นอเมริกาเหนอื จ. ระบบสรุ ยิ ะ โลก เอกภพ กาแล็กซี ค. แผน่ อเมรกิ าใต้ ง. แผ่นอนิ เดยี -ออสเตรเลยี ฉ. จ. แผน่ คอคอส

  1. ดาวเทียม A, B, C และ D โคจรที่ระดับความสงู จากผวิ โลกต่างกนั ดงั ภาพ ดาวเทียมดวงใดต้องใชค้ วามเรว็ ในการโคจรรอบโลกมาก 232) ขอ้ ใดกลา่ วถึงหนิ อัคนภี เู ขาไฟไดถ้ ูกต้อง ที่สุด ก. ผลกึ รามีขนาดใหญ่ ข. หนิ บะซอลต์เปน็ หนิ อคั นีภูเขาไฟ

ค. ลักษณะการเย็นตัวของหนิ มีการเยน็ ตัวอยา่ งชา้ ๆ

ง. การเยน็ ตวั ของหนิ ดงั กลา่ วจะมีการเย็นตวั ภายในเปลอื กโลก

จ. มีลักษณะเปน็ เหล่ียม มีการประสานตวั กันอย่างแน่นสนิท

ก. A ข. B ค. C 233) ในการศึกษาโครงสร้างทางธรณีวิทยา กลุ่มหินฟิโอไลต์ใน ง. D จ. B และ C กลุ่มอัลตราเมฟิกมีความสัมพันธ์กับโครงสร้างโลกส่วนใดของ โลกมากท่ีสุด

  1. ยานอวกาศส้ารวจดาว A โดยเม่อื ยานเขา้ ใกลด้ าว A ทร่ี ะยะห่าง ก. เปลอื กโลก และเนอื โลกสว่ นบน ข. เนือโลกส่วนบน และเนือโลกสว่ นล้าง จากโลกประมาณ 1.08 x 10 เมตร ได้สง่ ขอ้ มลู ด้วยคลน่ื วทิ ยกุ ลบั มา ค. ฐานธรณีภาค และเนือโลกสว่ นล้าง ง. เนือโลกส่วนล้าง และแก่นโลกชนั นอก ยงั โลกทันที อยากทราบวา่ ตอ้ งใช้เวลานานเท่าใดที่สณั ญาณจะสง่ จ. แกน่ โลกชันนอก และแก่นโลกชันใน

มาถึงโลก (ก้าหนดใหอ้ ัตราเร็วแสงเทา่ กับ 3 x 10 เมตรต่อวินาที) 234) รอยเล่อื นใดในประเทศไทยที่อย่ใู นภาคใต้ ก. รอยเล่ือนทา่ แขก ก. 1 ชวั่ โมง ข. 3.24 ช่วั โมง ข. รอเลอื่ นปวั ค. รอยเลือ่ นด่านเจดียส์ ามองค์ ค. 10 ชั่วโมง ง. 15 ชวั่ โมง ง. รอยเล่ือนคลองมะลยุ่ จ. รอยเลอ่ื นเชียงแสน จ. 24 ชวั่ โมง

  1. ซากดกึ ด้าบรรพใ์ นประเทศไทยสว่ นมากพบในหินอะไร
    1. ขอ้ ใดเรยี งล้าดบั หนว่ ยของระยะทางระหว่างดาวจากหนว่ ยใหญ่ไป ก. หนิ แอนดีไซต์ ข. หินบะซอลต์ เล็กไดถ้ กู ต้อง ค. หนิ ทราย ง. หินออ่ น ก. ปแี สง พารเ์ ซกหนว่ ยดาราศาสตร์ จ. หินไรโอไลต์

ข. พารเ์ ซก ปีแสงหนว่ ยดาราศาสตร์

ค. หนว่ ยดาราศาสตรป์ ีแสงพารเ์ ซก

ง. ปีแสง หนว่ ยดาราศาสตร์ พารเ์ ซก

จ. พารเ์ ซก หนว่ ยดาราศาสตร์ ปีแสง

โดย ครูสลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 20

  1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงขนาดของการเกิดแผน่ ดินไหวไม่ถกู ตอ้ ง จ. การเคลื่อนทีช่ นกนั ของเปลอื กโลก

ก. แอมพลิจูดทว่ี ดั ไดจ้ ากคล่ืนของการเกดิ แผน่ ดินไหว 242) ข้อใดไมไ่ ด้เปน็ ภเู ขาไฟมากอ่ น

ข. พลงั งานทีม่ ีการปลดปลอ่ ยออกมาในรูปของคล่นื ไหวสะเทอื น ก. ภูพระองั คาร จังหวัดบรุ ีรมั ย์

ค. พลังงานทีม่ กี ารปลดปล่อยออกมาจากจุด Focus ข. แนวชุดหอนแอนดไี ซต์ จงั หวัดลพบรุ ี

ง. ความเสยี หายทีเ่ กดิ ขึนบนโลกจากการตรวจจบั ได้ ค. เสาหนิ บะซอลต์ จังหวดั ตราด

จ. ความสูงของคล่ืนแผ่นดินไหวท่ีสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว ง. แพะเมอื งผี จงั กวดั แพร่

ตรวจจบั ได้ จ. แนวชดุ หนิ ไรโอไลต์ จงั หวัดสุโขทยั

ฉ. ฉ.

  1. คล่นื ในขอ้ ใดต่อไปนีสามารถทะลุผ่านไปยงั แก่นโลกได้ 243) ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกบั ลาวา

ก. คลืน่ ปฐมภมู ิ ข. คลน่ื ทุตยิ ภูมิ ก. ลาวาขน้ ไหลชา้ เย็นตวั เย็ว

ค. คลนื่ เลิฟ ง. คล่นื เรยล์ ี ข. ลาวาเหลว ไหลเรว็ เยน็ ตวั ช้า

จ. คลน่ื จีเวฟ ค. ลาวาข้นจะท้าใหเ้ กิดภเู ขาไฟแบบกรวย

  1. การศึกษาอายุทางธรณีวิทยาด้วยวิธีการใดใช้ในการศึกษาซากดกึ ง. ลาวาเหลวจะท้าให้เกิดภเู ขาไฟแบบโล่ ด้าบรรพ์ทต่ี อ้ งระบุอายุท่ีแน่นอน ก. การล้าดบั ชันหนิ ในพนื ทีข่ องประเทศ ก. ก และ ง ข. ข และ ค ข. การเปรียบเทียบอายขุ องลา้ ดับชนั หนิ ค. ข , ค และ ง ง. ก , ข และ ค

จ. ก , ข , ค และ จ

ค. การศึกษาอายุของหินโดยใชก้ ารค้านวณค่าคร่ึงชวี ิต 244) ข้อใดกล่าวถึงส่งิ มชี ีวิตทเ่ี ป็นซากดึกดา้ บรรพ์ดัชนีไดถ้ ูกตอ้ ง

ง. การค้านวณจากความเข้มข้นของเกลือท่ีอย่ใู นทะเล ก. มีอายยุ าวนานหลายปี

จ. การศึกษาซากดึกด้าบรรพ์ท่ีอยู่ในชันหินโดยเทียบจากแกรป ข. พบมากแพร่กระจายเปน็ วงกวา้ ง

โตไลต์ ค. มีววิ ฒั นาการทางโครงสรา้ งอย่างรวดเรว็

239)ขอ้ ใดคือเหตผุ ลท่ีสนบั สนนุ สมมติฐานทเ่ี กดิ จากการคน้ พบบรรพชีวนิ ง. มคี วามแต่งตา่ งกนั ในแตล่ ะชว่ งอายุอยา่ งเด่นชดั กลอสโซพเทริส และสัตว์เลอื ยคลานมีโซซอรสั ท่กี ระจายอยู่ในทวปี ต่างๆ ของโลก ก. ก และ ง ข. ข และ ค ก. แผ่นเปลือกโลกมกี ารเคลอ่ื นท่ีด้วยการพาความร้อนในชันแมน ค. ข , ค และ ง ง. ก , ข และ ค

จ. ก , ข , ค และ ง

เทลิ ส่วนลา่ ง 245) ชุดหนิ ในจงั หวดั ใดที่มีโอการพบซากดกึ ด้าบรรพม์ ากทส่ี ดุ

ข. เดมิ แผน่ เปลอื กโลกตา่ งๆ ในปจั จุบันและอดีตเปน็ แผน่ เดียวกนั ก. เชียงใหม่ ข. กาญจนบุรี

ค. สัตว์และพืชส่วนมากมีวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษตระกูล ค. ชลบุรี ง. กาฬสินธุ์

เดียวกนั จ. ประจวบคีรขี นั ธ์

ง. เปน็ กลุม่ ส่งิ มีชีวิตที่มกี ารววิ ัฒนาการเร็วทส่ี ุด 246) อนุภาคท่ีเกิดขนึ ในขณะเกิดบกิ แบงจะมสี ิง่ ที่เรียกวา่ ปฏอิ นุภาค แต่

จ. การเคลือ่ นทีข่ องแผน่ เปลอื กโลกมีความสัมพันธก์ ับวิวฒั นาการ อนุภาคในขอ้ ใดที่ไมม่ ปี ฏอิ นภุ าค

ของส่ิงมีชีวติ ก. นิวทริโน ข. โฟตอน

ฉ. ค. ควาร์ก ง. อิเลก็ ตรอน

  1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ซากดึกด้าบรรพ์

ก. คดขา้ วสาร ข. เขยี วหนุมาน จ. ทุกอนภุ าคต้องมีปฏอิ นภุ าคเสมอ

ค. ไมก้ ลายเปน็ หิน ง. รอยเทา้ ไดโนเสาร์ 247) ข้อใดกล่าวถึงการกา้ เนิดเอกภพไม่ถกู ต้อง จ. อา้ พนั เคลือบแมลง ก. ขณะเกิดบกิ แบง เกิดอนภุ าคท่ีประกอบไปด้วยควารก์ ,

  1. สาเหตุในขอ้ ใดทีท่ า้ ใหล้ กั ษณะของภูเขามรี ูปรา่ งต่างกันมากทสี่ ดุ อเิ ลก็ ตรอน, นิวทริโน และโฟตอน

ก. การดันกันของหนิ หนดื ใต้ผวิ โลก ข. หลงั จากเกดิ บกิ แบงได้ 3 นาที โปรตอนและนวิ ตรอนได้รวมตัว

ข. การทีเ่ ปลือกโลกมคี วามทนทานต่อการกร่อนไม่เทา่ กนั กันเป็นนิวเคลยี สของฮเี ลยี ม

ค. การยกตวั ขนึ ของพนื ทวีป ค. หลงั เกิดบิกแบงเพียงเล็กนอ้ ย อุณหภูมิของเอกภพลดลงจนทา้

ง. การที่เปลือกโลกโดนบีบอดั จนโคง้ งอ ให้ควารก์ รวมตัวกนั เป็นโปรตรอนและนิวตรอน

โดย ครูสุลกิฟลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 21

ง. สารทังหลายเกดิ จากการรวมตวั ของอนภุ าคและปฏิอนภุ าค 255) ลมสุรยิ ะที่เกดิ จากดวงอาทิตย์และเคลื่อนท่มี ากยงั โลก คอื อนุภาค

จ. ดาวฤกษ์รุน่ แรกท่ีเกิดหลงั จากบิกแบงมอี งคป์ ระกอบเพียง ในขอ้ ใด

ไฮโดรเจนและฮีเลียมเท่านัน ธาตุหนักอื่นๆ เกิดขึน ก. อนุภาคโปรตอนและนวิ ตรอน

หลังจากดาวฤกษ์รุ่นแรกเกดิ การระเบดิ ข. อนภุ าคอเิ ลก็ ตรอนและนิวตรอน

ฉ. ข. Top, Strange, Up ค. อนุภาคอิเล็กตรอนและโปรตอน ง. Charm, Top, Up ง. อนุภาคโฟตอนและนิวทรโิ น

  1. ขอ้ ใดคือ ควารก์ บนทังหมด จ. อนุภาคโฟตอนและนิวตรอน

ก. Bottom, Down, Strange

ค. Up, Strange, Charm

จ. Charm, Down, Up 256) ดาว A อยู่ห่างจากโลก 200 ปีแสง ถ้าในวันนีดาว A มีระยะใกล้

3 ระเบดิ Supernova และสมมตปิ ีนีคือ พ.ศ. 2600 ดงั นัน จะมองเหน็

  1. ขอ้ ใดคือ ควารก์ ล่างทงั หมด ข. Top, Strange, Up แสงจากดาวดงั กลา่ วนนั อกี เม่อื ใด ง. Charm, Top, Up ก. Up, Strange, Charm ก. เห็นทนั ที ข. พ.ศ. 2700 ค. Bottom, Down, Strange ค. พ.ศ. 2800 ง. พ.ศ. 2900 จ. Charm, Down, Up จ. พ.ศ. 3000 250)ข้อใดคือการรวมตัวของการเกิดโปรตอนในกระบวนการเกิด Big bang 257) ถ้าดาวดวงหนึ่งอยู่ห่างจากโลก 100 ปีแสง แสดงว่าดาวดวงนีอยู่ ก. การรวมตัวของ 1 ควาร์กบน กับ 1 ควารก์ ล่าง หา่ งจากโลกกี่กิโลเมตร ข. การรวมตัวของ 1 ควาร์กบน กับ 2 ควารก์ ลา่ ง ก. 5.9 x 106 กโิ ลเมตร ข. 9.5 x 1012 กิโลเมตร ค. การรวมตวั ของ 2 ควาร์กบน กบั 1 ควารก์ ล่าง ค. 5.9 x 1012 กิโลเมตร ง. 5.9 x 1012 กิโลเมตร ง. การรวมตัวของ 2 ควาร์กบน กบั 2 ควาร์กล่าง จ. 9.5 x 1014 กโิ ลเมตร

จ. การรวมตวั ของ 1 ควาร์กบน กบั 1 ควารก์ ลา่ ง 258) ดาว A มีอันดับความสว่าง -3.5 ดาว B มีอันดับความสว่าง

22 -8.5 ดาวดวงใดมีความสว่างมากกว่ากันและมากกว่ากัน

ฉ. ประมาณกี่เทา่

251)ข้อใดคือการรวมตัวของการเกิดนิวตรอนในกระบวนการเกิด Big

bang ก. ดาว A สวา่ งมากกว่า B ประมาณ 5 เทา่

ก. การรวมตวั ของ 1 ควารก์ บน กบั 1 ควาร์กลา่ ง ข. ดาว A สวา่ งมากกวา่ B ประมาณ 13.5 เทา่

ข. การรวมตวั ของ 1 ควารก์ บน กบั 2 ควาร์กล่าง ค. ดาว B สวา่ งมากกวา่ A ประมาณ 5 เทา่

ค. การรวมตัวของ 2 ควารก์ บน กับ 1 ควารก์ ลา่ ง ง. ดาว B สวา่ งมากกวา่ A ประมาณ 100 เทา่

ง. การรวมตัวของ 2 ควาร์กบน กับ 2 ควารก์ ล่าง จ. ดาว B สวา่ งมากกว่า A ประมาณ 150 เท่า

จ. การรวมตวั ของ 1 ควาร์กบน กับ 1 ควาร์กล่าง ฉ.

22 ให้ใชข้ ้อมูลจากตารางความเรว็ โคจรรอบโลกในระยะความสูงต่างจาก

ฉ. พ้ืนโลก ในการตอบคาถาม ข้อที่ (259-260)

  1. กาแล็กซีหน่ึงห่างจากระบบสุริยะประมาณ 1.73 x 107 พาร์เซก

พบวา่ มกี ารเคลื่อนทดี่ ว้ ยอัตราเร็วประมาณก่กี ิโลเมตรต่อวินาที ความสงู จากพืนโลก ความเรว็ โคจรรอบโลก

ก. 300 ข. 1,300 ค. 1,700 (กิโลเมตร) (กโิ ลเมตรตอ่ ชัว่ โมง)

ง. 2,200 จ. 3,200 160 28,102

  1. กล่มุ ดาวในสเปกตรมั ใดทีม่ อี ุณหภูมพิ ืนผวิ สงู กวา่ ดาวสขี าว 800 26,819 1,000 26,452 ก. M ข. F ค. G 5,000 26,021 42,000 10,324 ง. B จ. K
  1. ดาวฤกษ์ดวงหนึ่งอยู่ห่างจากโลก 6.52 ปีแสง มุมแพรัลแลกซ์

ของดาวดวงนีมีค่าเท่าใดเม่ือสังเกตจากโลก (ระยะทาง 3.26 ปี 259) ทร่ี ะดับความสูงจากพืนโลก 160 กโิ ลเมตร จรวดโคจรรอบโลก

สงเทา่ กับ 1 พาร์เซก) 1 รอบ จะใช้เวลาเท่าใด (ก้าหนดให้รัศมีของโลกมีค่า 6,370

ก. 0.005 พลิ ปิ ดา ข. 0.05 พลิ ิปดา ค. 0.5 พลิ ิปดา กโิ ลเมตร)

ง. 1.5 พลิ ปิ ดา จ. 15 พลิ ิปดา

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 22

ก. 1.46 ชว่ั โมง ข. 2.23 ช่วั โมง ข. ประเทศอัฟกานิสถาน แนวสันเขาใต้มหาสมุทรอินเดีย

ค. 3.14 ชว่ั โมง ง. 6.76 ชวั่ โมง ประเทศตรุ กี

จ. 9.98 ช่วั โมง ค. ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศอิหร่าน ต้านตะวันตกของ

  1. ดาวเทียมส่ือสารน่าจะโคจรทีร่ ะยะความสูงประมาณเท่าใดจากพนื ประเทศเมก็ ซิโก ง. ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศพม่า และแนวเทือกเขากลาง โลก มหาสมทุ รแอตแลนติก ก. 160 กิโลเมตร ข. 800 กโิ ลเมตร จ. แนวสันเขาใต้สมุทรอินเดีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศ

ค. 1,000 กิโลเมตร ง. 5,000 กโิ ลเมตร พม่า

ง. 42,000 กโิ ลเมตร ฉ.

แนวขอ้ สอบเข้ามหาลยั ชดุ ที่ 3 266)ข้อใดกลา่ วไมถ่ ูกต้อง ก. แมกนิพูดเป็นหน่วยวัดปริมาณพลังงานท่ีปลดปล่อยจากศูนย์

261)ขอ้ ใดกล่าวถึงความสัมพันธข์ องโครงสร้างโลกไดถ้ ูกต้อง เกิดแผ่นดนิ ไหว ชนั Inner core ชัน Outer core ชนั Mesosphere ข. มาตราขนาดโมเมนต์แผ่นดินไหว วัตได้จากค่าความแข็งแกร่ง

ก ของแข็งอุณหภมู สิ งู หินหลอมละลาย โลหะหลอมละลาย ของหนิ (Stength) ข โลหะหลอมละลาย โลหะหลอมละลาย หินหลอมละลาย ค. มาตราเมอร์คัลลีเป็นมาตราวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่ ค โลหะหลอมละลาย ของแข็งอุณหภมู สิ ูง หินหลอมละลาย ง หนิ หลอมละลาย โลหะหลอมละลาย ของแขง็ อุณหภมู สิ ูง กา้ หนดจากความรู้สึก จ หนิ หลอมละลาย ของแข็งอณุ หภมู สิ ูง โลหะหลอมละลาย ง. แมกนิจูดเป็นมาตรวัดที่บอกขนาดของแผ่นดินไหวได้อย่าง

  1. ข้อใดมีความสัมพันธ์กับการศึกษาล้าดับชันหินบริเวณแนวแบ่ง แทจ้ รงิ เขตโมโฮโรวซิ ิกมากท่ีสุด จ. ถกู ทุกข้อท่ีกลา่ วมา
  2. กลุม่ หนิ โอฟิโอไลต์ ประเทศโอมาน
  3. ภเู ขาไฟมายอน ประเทศฟิลปิ ปินส์ ฉ.
  4. อกุ กาบาตเหลก็ ประเภทออกตะฮไี ตรต์
  5. ทะเลแดง บรเิ วณมหาสมทุ รอินเดยี 267) ข้ อใ ดกล่ าวถึ งการป ะทุ แบบ ฮา วายเอียนของภูเข าไฟลูกหน่ึงได้
  6. ถกู ทุกข้อทกี่ ลา่ วมา ถกู ต้อง ก. ลาวามีความหนืดมาก มีลาวาปะทุพุ่งจากปากปล่องเหมือน
  7. ขอบทวปี ใดในปัจจุบันมีรปู รา่ งต่อกนั ไดพ้ อดี นา้ พุ ก. ด้านตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้กับด้านตะวันตกของ ข. ลาวามคี วามหนดื นอ้ ย มธี ารลาวาไหลซมึ ออกมาเลก็ น้อย แอฟรกิ า ค. ลาวามคี วามหนืดมาก ลาวาพุ่งออกจากปล่องด้วยความเร็วสงู ข. ดา้ นตะวันตกของเอเชยี กบั ด้านเหนอื ของอเมริกาเหนอื มาก ค. ด้านตะวันออกของออสเตรเสยี กับด้านตะวันตกของยุโรป ง. ลาวามคี วามหนดื น้อย เกิดการระเบิดของลาวาอยา่ งรนุ แรง จ. ลาวามีความหนืดมาก มธี ารลาวาไหลอยตู่ ลอดเวลาในปริมาณ มาก

ฉ.

  1. การสร้างอาคารสูงบริเวณจังหวัดไตต้องค้านึงถึงความแข็งแรงของ

ง. ดา้ นใต้ของอเมรกิ าใตก้ บั ด้านเหนอื ของออสเตรเสีย อาคารเพอ่ื รองรับการเกิดแผน่ ดินไหว

จ. ด้านตะวนั ออกเอเชียกบั ตันตะวนั ตาของอเตเสยี ก. พะเยา, เชยี งราย, กาญจนบรุ ี

ฉ. ข. กรงุ เทพมหานคร, ปทมุ ธานี, สรุ ินทร์ ค. จนั ทบุรี, ตราด, นครราชสมี า 264)ข้อใดเปน็ รอยตอ่ ที่เกิดจากการชนกันของแผน่ ธรณีภาคทวปี ง. นครศรธี รรมราช, ตรัง, สตูล จ. กรงุ เทพฯ, กาญจนบรุ ี, นครนายก ก. เทอื กเขาหมิ าลัย ข. ร่องลกึ มาเรียนา ฉ. ค. เกาะรูปโคง้ ญ่ปี นุ่ ง. ภูเขาไฟวสิ เุ วียส 269)ขอ้ ใดไม่สมั พันธก์ ัน จ. ภูเขาไฟฟจู ิ ก. มโี ซซอรัส บรเิ วณที่พบในทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกา ข. ลสี โทรซอรัส สตั วเ์ ลือยคลานอาศยั อยูบ่ นบก 265)ขอ้ ใดเรยี งส้าตับบรเิ วณที่มโี อกาสเกดิ แผ่นดินไหวจากมากไปนอ้ ยได้ ค. ไซโนกาทัส บริเวณทีพ่ บในอินเดยี และทวีปแอฟริกา ถกู ตอ้ ง ก. ประเทศญีป่ ุน่ แนวสนั เขาใต้มหาสมทุ รอาร์กตกิ ประเทศไทย

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 23

ง. กลอสโชพเทรสี เป็นเฟิรน์ มีเมล็ดใชส้ ปอร์ในการสบื พันธุ์ ก. หนิ ทราย หนิ กรวดมน และหนิ ปูนเทา่ นัน

จ. อึโอแรพเตอร์ อาศัยอยใู่ นทวีปอเมรกิ าไต้ ข. หนิ กรวดมน หินปูน และหนิ ดนิ ตานเทา่ นัน

  1. ข้อใดเรยี งลา้ ตบั ขนั หินจากหนว่ ยใหญ่ไปหนว่ ยเลก็ ไดถ้ ูกต้อง ค. หินปูนและหินแกรนติ

ก. ชนั หนิ , กลมุ่ หนิ , หมวดหิน, หม่หู นิ ง. พบไดใ้ นหนิ ทงั 4 ชนิด

ข. กลุ่มหนิ , หมวดหนิ , หมู่หิน, ชันหิน จ. ไมพ่ บในหินทงั 4 ชนดิ

ค. หมวดหนิ , หมหู่ ิน, กลมุ่ หิน, ชันหนิ 276) ดาวฤกษ์ 3 ดวง A B และ C มสี ที ผ่ี ิวดาวไดแ้ ก่ สนี ้าเงนิ ,สเี หลอื ง ง. หมู่หนิ , หมวดหิน, ชนั หนิ , กล่มุ หนิ และสขี าว คนลา้ ตับ ขอ้ ใดเรยี งส้าคบั ดาวทีม่ ีอุณหภูมสิ งู ไปต่า้ ได้ ถูกต้อง จ. กลุ่มหนิ , หมวดหิน, ชันหนิ , หม่หู นิ ก. ดาว A, ดาว B และดาว C ข. ดาว A, ดาว C และดาว B

ฉ.

  1. ข้อใตกล่าวไมถ่ กู ต้อง

ก. ไทรโลไบต์ สูญพันธใ์ุ นยดุ เพอรเ์ มียน ค. ดาว C, คาว A และดาว B ง. ดาว B, ดาว C และดาว A

ข. ยคุ จแู รสซกิ เป็นยคุ ทองของไดโนเสาร์ จ. ดาว B, ดาว A และดาว C

ค. สตั วเ์ ลยี งลกู ดว้ ยนมแพรห่ ลายในยคุ ไซลูเรยี น 277) ดาวฤกษ์ทอี่ ยู่ใกลโ้ ลกมากท่สี ุดตรงกับข้อใด

ง. แครปโตไลต์ กา้ เนดิ ในยุคแคมเบียน ก. พร็อกซมิ าเซนเทารี ข. ดวงอาทติ ย์

จ. ยคุ รีเตเซียส สัตว์เลือยคลานเจริญมากในยุคนี ค. ตาวเสาร์ ง. ดาวชีรีอสั

ฉ. จ. ตาวเนปจูน

  1. ข้อใดเปน็ สมบัตขิ องหินออบซเิ ดียน

ก. มีความแขง็ แรง เนอื หยาบ มีสีเขม้ 278) ดาว TRAPPIST 1 อยู่ห่างจากโลกของเราประมาณ 90 ปแี สง ข้อ ข. เนือเรียบ สีด้าวาว ไมม่ ผี ลกึ ใดต่อไปนกี ลา่ วถกู ตอ้ ง ค. เนอื ละเอยี ด มีรอยขนาน เป็นแผ่นบางๆ ก. ภาพดาวทเี่ ราเห็นเป็นภาพในอดีตของตาวเมอ่ื 20 ปที ่ผี า่ นมา ง. เนอื หยาบ มีรอยขนาน มีรอยแตกชรขุ ระ ข. ภาพดาวท่ีเราเห็นเปน็ ภาพในอดตี ของดาวเม่อื 40 ปีที่ผา่ นมา จ. เนอื หยาบ สขี าวใส มีรพู รนุ ค. ภาพตาวที่เราเห็นเป็นภาพในอนาคตของดาวอกี 20 ปี ขา้ งหนา้ ฉ.

273)"ไดโนเสาร์ปากนกแก้ว" จากลักษณะดงั กล่าวตรงกับขอ้ ใด

ก. อิสานโนชอรัส อรรถวภิ ชั นช์ ิ ง. ภาพดาวท่เี ราเห็นเป็นภาพในอนาคตของดาวอีก 40 ปี

ข. สยามโมไทรนั นสั อิสานเอนซีส ขา้ งหนา้

ค. ชิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์คี จ. ภาพดาวที่เราเห็นเป็นภาพในอนาคตของดาวอกี 40 x 108

ง. สยามโมชอรวั สธุ ธี รนิ ปีขา้ งหน้า

จ. ไทรนั โนชอรัส สแตน ฉ.

279)นักวิทยาศาสตร์ได้ส่งดาวเทียมส้ารวจอวกาศดวงใด เพื่อ

  1. ค้านวณหาอายุของซากดึกด้าบรรพ์ขึนหนึ่งจากธาตุ ตรวจสอบคล่ืนไมโครเวฟจากอวกาศตามการค้นพบของอาร์โน

ยูเรเนียม 238 มคี า่ คร่ึงชวี ติ 4.510ปี ถ้าหินกอ้ นนมี ีมวล 80 เพนเซียส และโรเบริ ต์ วิลสัน

กรัม มธี าตุยเู รเนยี ม 228 เหลือ 2:5 กรัม จงหาอายขุ องหิน ก. ดาวเทียม Sputnik ข. ดาวเทียม Jon๐ I

นี ข. ดาวเทียม Sina ง. ตาวเทยี ม COBE

ก. 4,510 ปี ข. 11,275 ปี จ. ตาวเทยี ม GeoEye-1

ค. 22,550 ปี ง. 36,800 ปี ศึกษาขอ้ มลู จากตารางต่อไปนแี ล้วตอบคา้ ถามข้อ (280-281)

จ.. 43,000 ปี ดาว อนั ดบั ความสว่าง A -6

  1. จากภาพชันหินต่อไปนี สามารถพบซากดึกด้าบรรพ์ได้ในชันหิน B -4

ใดบา้ ง

C0

D1

โดย ครูสุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 24

  1. จากข้อมูลในตารางดาวที่สว่างมากท่ีสุดและสว่างน้อยที่สุดตรงกบั 285)กาแล็กซี A เป็นกาแล็กซีขนาดใหญ่ประเภทวงรี เคลื่อนที่ห่างจาก

ขอ้ ใด โลกตัวยความเร็วประมาณ 1.125 KS-1ก้าหนดให้ค่าคงที่ฮับเบิล

ก. ดาว A สวา่ งมากทสี่ ดุ และดาว D สวา่ งนอ้ ยทีส่ ุด H0 = 75 Kns' Mpe-1 อยากทราบว่ากาแล็กซีนีอยู่ห่างจากโลก ข. ดาว C สวา่ งมากทสี่ ดุ และดาว A สวา่ งนอ้ ยท่ีสุด ประมาณกี่ Mpc

ค. ดาว D สวา่ งมากทสี่ ุดและดาว C สวา่ งน้อยทส่ี ุด ก. 0.07 Mpc ข. 5 Mpc ค. 15 Mpc

ง. ดาว D สว่างมากทส่ี ดุ และดาว A สวา่ งนอ้ ยทส่ี ุด ง. 84 Mpc จ. 100 Mpc

จ. ดาว B สวา่ งมากท่สี ดุ และดาว A สว่างนอ้ ยทสี่ ดุ 286)"หนงึ่ หนว่ ยดาราศาสตร"์ ตรงกบั ขอ้ ใด ก. ระยะทางจากโลกถงึ ดวงอาทิตย์ ฉ.

  1. ขอ้ ใดกล่าวได้ถกู ต้อง

ก. ดาว A สว่างมากกวา่ ตาว D 7 เท่า ข. ระยะทางจากโลกถึงตาวฤกษ์

ข. ดาว 8 สวา่ งมากกว่าตาว A 2 เท่า ค. ระยะทางจากตวงอาทติ ยถ์ ึงดาวฤกษ์

ค. ดาว B สวา่ งมากกวา่ ดาว C 39 เทา่ ง. ระยะทางจากดาวฤกษ์ถงึ ดาวฤกษ์

ง. ดาว D สวา่ งมากกวา่ ดาว 8 40 เท่า จ. ระยะทางจากดาวฤกษถ์ งึ ดวงอาทิตย์

จ. ดาว D สว่างมากกวา่ ดาว B 97.7 เทา่ 287)พลังงานจากดวงอาทติ ยไ์ ดจ้ ากปฏกิ ิรยิ าใด

ฉ. ก. การระเบิดอยา่ งต่อเนื่อง ข. การระเบดิ ซูเปอรโ์ นวา

  1. ข้อใดเรยี งลา้ ตับความสว่างของดาวจากสวา่ งมากทส่ี ดุ ไปนอ้ ยท่ีสุด ค. การรวมตัวของนวิ เคลยี ส H เป็น He ได้ถกู ต้อง ง. การสลายตัวของธาตขุ นาดใหญ่ ก. ดาวเสาร์เมอ่ื รบิ หร่ีทสี่ ดุ , ดาวตวงแก้ว, ดาวปารชิ าต จ. การกระจัดกระจายของพลงั งานในอวกาศ ข. ดาวพฤหัสบดเี มือ่ รบิ หรที่ ีส่ ุด, .ดาวศกุ ร์เม่ือรบิ หรท่ี ่สี ดุ , ดาว ดวงแกว้

ค. ดาวศุกรเ์ มือ่ ริบทร่ีทส่ี ดุ , ดาวดวงแก้ว, ดาวเสารเ์ มอ่ื รบิ หรที่ สี ุต 288)ดาวเทยี มดวงใดต่อไปนีไมใ่ ชด่ าวเทยี มของประเทศไทย

ง. ดาวปา่ ริชาด, ดาวตวงแกว้ , ดาวพฤหสั บดีเม่อื รบิ หร่ีทส่ี ดุ ก. ดาวเทยี ม THEOS ข. ดาวเทยี ม TMSAT

จ. ดาวพฤหสั บดี, ดาวศุกร,์ ดาวปารชิ าต ค. ดาวเทียม THAICOM ง. ดาวเทยี ม TIROS

ฉ. จ. ถกู ทกุ ขอ้ ท่กี ลา่ วมา

  1. จากภาพตอ่ ไปนี ถา้ สังเกตตาว D ที่ต้าแหน่ง C จะเห็นดาว D ตาม

ลักษณะในขอ้ ใด 289)ข้อใดกลา่ วไมถ่ กู ต้อง

ก. จรวดเชือเพลิงแข็งมถี ังเกบ็ เชือเพลิงและออกซิเจนเหลวเพื่อใช้

ในการสนั ดาป

ข. การออกแบบจรวดเป็นท่อนเพ่ือลดแรงต้านการเคล่อื นท่ี

ค. ไซออลคอฟสกี เสนอให้ใชเ้ ชอื เพลิงเหลวในเครอ่ื งยนตจ์ รวด

ง. จรวดตอ้ งมีความเร็วอย่างน้อย 7.91 Km/S จึงสามารถขึนสูว่ ง

ก. อยตู่ า้ แหน่งกลางศรี ษะของผู้สังเกต โคจรระดบั ต่า้ ได้

ข. ปรากฏเฉยี งไปทางซา้ ยมอื ของผูส้ งั เกต จ. ยานขนส่งอวกาศท้าหน้าที่ในการปล่อยยานโตยใช้แขนกลยก

ค. ปรากฏเฉียงไปทางขวามอื ของผู้สงั เกต ดาวเทียมออกไปปลอ่ ยในอวกาศ

ง. ปรากฏเฉียงใต้ไปทางขวามอื ของผสู้ งั เกต ฉ. จ. ไม่สามารถมองเห็นดาว D ได้ 290)ดาวเทียม A, B, C และ D โคจรท่ีระดับความสูงจากผิวโลกต่าง

กันตังภาพ ดาวเทียมใดต้องใช้ความเร็วในการส่งมากท่ีสุด และ

284)เปรียบเทียบภาพถ่ายดาว A เตือนกุมภาพันธ์กับเดือนพฤษภาคม ดาวเทียมใดทโ่ี คจรรอบโลกมากทีส่ ุด ตามลา้ ดบั

พบว่าเกิดมมุ แพรัลแลกซ์ 2.5 พิลิปดา อยากทราบว่า ถ้าต้องการให้

ภาพดาว A ขยับไปจากต้าแหน่งเดิมเทียบกับต้าแหน่งดาวพืนหลัง

เท่ากับ 5 พิลิปดาราจะตอ้ งถ่ายภาพดาวนอี ีกครังประมาณเดอื นใด

ก. เดือนมกราคม ข. เดือนกมุ ภาพนั ธ์

ค. เตือนมิถนุ ายน ง. เตอื นสงิ หาคม

โดย ครูสุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 25

ก. Aและ B ข. B และD ค. Aและ D 296)ขอ้ ใดไม่ใช่หนิ ภูเขาไฟ

ง. D และ A จ. D และ C ก. หินแกรนิต ข. หินบะซอลต์ ค. หินพัมมิช

แนวข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยชุดที่ 4 ง. หนิ เหล็กไฟ จ. หนิ ไรโอไลต็

297)ในการแบ่งชันของโลกตามลกั ษณะมวลสาร ชันเนือโลกส่วนใหญม่ ี

291)เมื่อเปลือกโลกภาคฟืน้ ทวีปกับเปลือกโลกภาคพืนมหาสมุทรชนกนั สถานะในขอ้ ใด ข. ของเหลว ค. ของไหล จะเกิดเหตกุ ารณ์ลักษณะใด ก. ของแข็ง จ. แกส๊ ก. ทังเปลือกโลกภาคพืนทวีปและเปลือกโลกภาคพืนมหาสมุทร ง. พลาสมา

จะยกตัวขนึ 298)จากข้อมูลในอดีตท่ีผ่านมา ข้อใดคือบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวท่ี

ข. ทังเปลือกโลกภาคฟ้ืนทวีปและเปลือกโลกภาคพืนมหาสมุทร ค่อนข้างรนุ แรงและมากทสี่ ุดของโลก

จะจมตัวลง ก. แนวรอยต่อของขวั โลกเหนอื ผา่ นเกาะไอซแ์ ลนด์

ค. เปลือกโลกภาคพืนมหาสมุทรจะมีการขยายตัวมากขึนท้าให้ ข. แนวรอยต่อของแผ่นธรณีภาคบริเวณเทือกเขาแอลป์และ

ทวปี มีการแยกออกจากกนั หมิ าลยั

ง. เปลือกโลกภาคพืนทวีปจะถูกายกตัวขึน ส่วนเปลือกโลก ค. แนวรอยต่อของแผน่ ธรณีภาคบริเวณขอบมหาสมทุ รแปซีฟิก

ภาคพนื มหาสมุทรจะจมลง ง. แนวรอยต่อของแผ่นธรณีภาคบริเวณแนวสันกลางมหาสมุทร

จ. เปลือกโลกภาคพืนทวีปจะจมลง ส่วนเปลือกโลกภาคพืน แอตแลนติก

มหาสมทุ รจะถกู ยกตวั ขนึ จ. ไมม่ ขี อ้ ใดถกู ตอ้ ง

ฉ. ฉ.

292)ขอ้ ความใดไมถ่ กู ตอ้ งเกีย่ วกบั โลก 299)เมื่อประมาณ 200 ล้านปีทแ่ี ลว้ มหาทวีปพนั เจยี เร่มิ แยกออกเป็น 2

ก. ภายในโลกมคี วามร้อนและอุณหภมู ิสูงมาก มหาทวปี ใด

ข. เปลือกโลกเป็นชนั ทีบ่ างท่สี ุดและมคี วามหนาสม้่าเสมอ ก. ลอเรเซีย และกอนตว์ านา ข. ยูเรเซยี และกอนตว์ านา

ค. โครงสร้างภายในโลกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เปลือกโลก ค. อเมรกิ า และแอฟรกิ า ง. เอเชยี และออสเตรเลยี

เนอื โลก และแกน่ โลก จ. อนิ เดีย และมาตากัสการ์

ง. สัณฐานของโลกมีรูปร่างกลมรี เส้นผ่านศูนย์กลางในแนวนอน 300)ซากดกึ ด้าบรรพใ์ นข้อใดต่อไปนมี ีช่วงอายเุ กา่ แก่ทส่ี ดุ

ยาวกว่าเส้นผา่ นศูนย์กลางในแนวดิง่ ก. ไดโนเสาร์ ข. ไครนอยด์ ค. ไทรโลไบต์

จ. ขันเนือโลกสว่ นบนเปน็ ส่วนหน่งึ ของธรณภี าค ง. แอมโมไนต์ จ. แอลป์

ฉ. 301)จากขอ้ ความตอ่ ไปนี "รพินทรเ์ ดนิ สา้ รวจพบหินบะชอลต์ตัดแทรกเข้าไปในขนั หินดินดาน 293)ซากตกึ ตา้ บรรพด์ ชั นีจะต้องมคี วามเดน่ ซัดในข้อใดมากทส่ี ุด ที่มีซากดึกด้าบรรพ์ของหอยกาบคู่ ยุคครีเตเซียส และยังพบอีกว่ามีรอย ก. สี ข. ขนาด ค. รูปรา่ ง

ง. การเกิด จ. ชว่ งอายุ

294)ภาคใดของประเทศไทยทมี่ กี ารค้นพบซากไตโนเสารม์ ากทสี่ ดุ เลื่อนขนาดใหญ่ตดั ผ่านชันหนิ ดนิ ตานและหินบะซอลตด์ งั กลา่ ว"

ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนอื ข้อใดเรียงล้าดับอายุของหินหรือเหตุการณ์จากแก่ไปอ่อนได้อย่าง

ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวนั ออก ถกู ตอ้ ง

จ. ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ก. หินดินตาน รอยเล่ือน หินบะซอลต์

295)ข้อใดกลา่ วไดถ้ กู ตอ้ งเกี่ยวกับคล่นื ไหวสะเทือน ข. หนิ ดนิ ตาน หินบะซอลต์ หอยกาบคู่ ก. คลื่นพนื ผวิ มีอตั ราของการเคลอื่ นท่ีเรว็ กว่าคลน่ื ในตวั กลาง ค. รอยเลื่อน หินดนิ ดาน หอยกาบคู่ ข. คลน่ื พืนผิวมี 2 ชนดิ คอื คล่นื ปฐมภูมแิ ละคลืน่ ทุติยภมู ิ ง. หอยกาบคู่ หนิ บะซอลต์ รอยเลอื่ น ค. คลน่ื ปฐมภูมไิ มส่ ามารถเคลื่อนทผ่ี ่านตัวกลางทีเ่ ปน็ ของแขง็ ได้ จ. หนิ บะชอลต์ รอยเลอื่ น หนิ ดินดาน

ง. คล่นื ทุติยภมู ิสามารถเคลื่อนทผ่ี า่ นตัวกลางท่เี ป็นของเหลวได้ 302) ดาวท่มี ีอันดับความสว่างตา่ งกนั 1 จะมีความสว่างต่างกนั ประมาณ

จ. คล่ืนในตัวกลางทุกชนิดสามารถเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางที่เป็น ก่เี ท่า

ของแข็งได้ ก. 2.0 ข. 2.5 ค. 5.0 ง. 5.5 จ. 6.2

โดย ครูสุลกฟิ ลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 26

303)จากขอ้ มลู ตอ่ ไปนี ข. ระบบสรุ ิยะ กระจกุ ดาว ดาราจกั ร เอกภพ

ก. การระเบดิ ของตาวแคระขาว ค. ระบบสรุ ิยะ เอกภพ ดาราจักร กระจุกดาว

ข. การระเบดิ ของดาวแคระด้า ง. ดาราจักร กระจุกตาว เอกภพ กระจุกดาราจกั ร

ค. การระเบิดของดาวฤกษข์ นาดใหญ่ จ. กระจุกดาว ดาราจักร เอกภพ กระจุกดาราจักร

ง. สสารเติมหลงั เกดิ บกิ แบง ฉ.

ข้อใดเปน็ ตน้ ก้าเนิดของเนบิวลา 309)ทางข้างเผอื กเป็นดาราจกั ร (Galaxy) ท่มี ีรูปรา่ งลักษณะใด

ก. ก. และ ข. ข. ก. และ ค. ค. ข. และ ค. ก. วงรี ข. รูปร่างไม่แน่นอน

ง. ค. และ ง. จ. ก. และ ข. ค. รูปเลนส์ ง. กันหอยหรอื กงั หัน

จ. กงั หันแบบมแี กน

304)ขอไตตอ่ ไปนีถกู ตอ้ ง 310)เพราะเหตใุ ดดาวเคราะห์ถึงโคจรรอบดวงอาทติ ย์ ก. ดาวฤกษ์สีแดงมอี ายุนอ้ ยกว่าตาวฤกษส์ นี า้ เงิน ข. ดาวฤกษล์ แี ดงอยไู่ กลกว่าดาวฤกษ์สีน้าเงนิ ก. เพราะดวงอาทิตย์มีแรงดึงดดู ระหว่างมวลแก่ดาวเคราะห์ ค. ตาวฤกษ์สีแดงเคลอ่ื นที่เรว็ กวา่ ดาวฤกษ์สนี ้าเงิน ง. ดาวฤกษ์ลีแดงมอี ณุ หภูมติ ้า่ กว่าดาวฤกษ์สีนา้ เงิน ข. เพราะดาวเคราะห์ถูกดวงอาทิตยต์ ึงตดู เอาไว้ดว้ ยแรงทางไฟฟ้า จ. ดาวฤกษ์สแี ดงมีขนาดเล็กกว่าตาวฤกษส์ นี ้าเงิน ค. เพราะดาวเคราะห์ภายในระบบสุริยะอยู่ภายใต้สนามโนม้ ถว่ ง ฉ. ของดวงอาทิตย์ 305)นักวิทยาศาสตร์ท่านไตต่อไปนมี ีสว่ นในการพัฒนาการสง่ จรวด ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง

ก. ก. และ ข. ข. ข. และ ค. ค. ก. และ ค.

ก. โรเบิร์ต กอดตารด์ ข. ปแิ อร์ บดู ิเออร์ ง. ก., ข. และ ค. จ. ผดิ ทกุ ขอ้

ค. ปีเตอร์ ไซดอฟสกี ง. อารโ์ น เพนเซียส 311)แรงในขอ้ ใดตอ่ ไปนีเปน็ ปจั จยั ท้าให้กลุ่มแก๊สในอวกาศเกดิ การยุบตัว เพ่อื เป็นดาวฤกษ์ จ. คอนสแตนดนิ ไขออลคอฟสกี

306)ข้อใดตอ่ ไปนีกลา่ วได้ถูกต้องเก่ียวกับเอกภพ ก. แรงไทดลั ข. แรงนิวเคลยี ร์

ก. เอกภพมีขนาดใหญ่กวา่ ระบบสรุ ยิ ะแต่มีขนาดเล็กกวา่ กาแลก็ ซี ค. แรงส่ศู ูนย์กลาง ง. แรงโนม้ ถว่ ง

ข. การขยายตัวของเอกภพมีผลทา้ ให้กาแล็กซีเคลื่อนเข้าไกลก้ ัน จ. แรงแม่เหลก็ ไฟฟ้า

มากขนึ 312)การสนิ สดุ ของดาวฤกษ์ขึนอยกู่ บั ส่ิงใด ค. ปฏอิ นุภาคของโฟตอนคอื แอนตโิ ฟตอน ง. เอกภพเกิดจากการระเบิดครังใหญ่ที่เรียกว่า บิกแบง ท้าให้ ก. สี ข. มวล

อนุภาคและพลังงานแผ่กระจายออกไป ค. อณุ หภูมิ ง. ระยะห่างของดาว จ. พลังงานความร้อนท่ีลดลงหลังจากการเกิดบิกแบงท้าให้ จ. องคป์ ระกอบทางเคมี เกดิ อนุภาคมูลฐานต่างๆ ได้แก่ อเิ ล็กตรอน โปรตอน และ นิวตรอน 313)ข้อใดเรยี งลา้ ดับการสนิ สดุ ของตาวฤกษไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง

ฉ. ก. ดาวฤกษ์ทมี่ ีขนาดใหญ่ > คาวยกั ษแ์ ดง > หลมุ ด้า

307)เอ็ดวนิ ฮบั เบลิ ได้ศึกษาเกีย่ วกบั เรอื่ งในขอ้ ใดทที่ ้าให้พบวา่ เอกภพมี ข. ดาวฤกษ์ที่มขี นาดใหญ่ ~- ชเู ปอร์โนวา .> คาวยักษ์แตง การขยายตัว ก. การสังเกตการเคลอื่ นทีข่ องดาวฤกษโ์ ดยใช้การวัดสเปกตรัม ค. ดาวฤกษ์ทม่ี ีขนาดเลค็ -> ชเู ปอร์โนวา .. ดาวนิวตรอน ข. การสร้างสมการเพอื่ แกไ้ ขข้อผดิ พลาดของทฤษฎีสมั พัทธภ์ าพ ค. ศึกษาโครงสร้างของกาแล็กซีวา่ ประกอบด้วยดาวฤกษ์จา้ นวน ง. ดาวฤกษท์ ม่ี ีขนาดเลก็ ---> คาวยกั ษแ์ ดง -> ดาวแคระตา้ มาก ง. การค้นพบว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ จ. ดาวฤกษท์ ่มี ีขนาดเลก็ ~> คาวยกั ษแ์ ดง > ดาวแคระขาว จ. การวัตการเลื่อนต้าแหน่งของสเปกตรัมจากกาแล็กซีเทียบกับ ระยะหา่ งจากโลก 314)การโคจรของดาวเทยี มเกีย่ วขอ้ งกับแรงชนดิ ใด

308)ขอ้ ใดเปน็ การเรียงลา้ ดบั ระบบจากเล็กไปใหญ่ ก. แรงพยงุ ข. แรงเสียดทาน ก. ระบบสุริยะ ตาราจกั ร กระจกุ ดาว เอกภพ ค. แรงโน้มถ่วงของโลก ง. แรงไทดลั

จ. แรงกิรยิ าและแรงปฏิกิรยิ า

315)แรงดงึ ดูดระหวา่ งวตั ถุ 2 ชนิด จะมีคา่ มากหรอื น้อยขึนอยู่กบั สิง่ ใด ก. มวลของวัตถุและชนิดของวัตถุ ข. มวลของวตั ถแุ ละระยะหา่ งระหวา่ งวัตถุ

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 27

ค. ชนิดของวัตถุและระยะหา่ งระหวา่ งวัตถุ แนวขอ้ สอบเขา้ มหาวิทยาลยั ชุดท่ี 5 ง. มวลของวตั ถุ ชนิดของวัตถุ และระยะหา่ งระหวา่ งวัตถุ

จ. มวลของวตั ถุเพียงองค์ประกอบเดียวเทา่ นนั 321)ใหพ้ ิจารณาข้อความตอ่ ไปนี ก. เนือโลกมีมวลมากทส่ี ดุ ของโครงสร้างโลกทงั หมด ฉ.

316)ขอ้ ใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกบั การโคจรของดาวเทยี ม

ก. การส่งดาวเทยี มขึนไปสู่วงโคจรจะตอ้ งไขจ้ รวดเป็นตัวน้าส่ง ข. เนือโลกตอนบนประกอบดว้ ยหินอัลตราเมฟกิ

ข. จรวดท่ีใช้น้าส่งตาวเทียมจะมี 3 ท่อน เม่ือท่อนใดใช้พลังงาน ค. ฐานธรณีภาคเป็นส่วนหนง่ึ ของโลก

หมดก็จะถูกสลัดทิงไป ขอ้ ใดถูกตอ้ ง

ค. ดาวเทียมท่ีโคจรอยู่ใกล้โลกจะโคจรด้วยความเร็วมากกว่า ก. ก. ข. ข. ค. ก. และ ข.

ดาวเทียมที่โคจรอยหู่ า่ งจากโลก ง. ข.และ ค. จ. ก.,ข.และ ค.

ง. การโคจรของดาวเทียมต้องมีแรงสู่ศูนย์กลางน้อยกว่าแรงหนี 322) หินบะซอลต์บริเวณสันเขาใต้มหาสมุทรจะมีอายุน้อยท่ีสุดและมี ศูนย์กลาง ตาวเทียมจงึ จะโคจรได้ อายุแก่มากขึนเร่ือย ๆ เม่ืออยู่ห่างออกไปจากแนวสันเขาใต้ จ. เชือเพลิงท่ีใช้ในการขนส่งคือ ไฮโดรเจนเหลวและออกซิเจน เหลว มหาสมุทรในลักษณะเกือบสมมาตร จากสถานการณ์ข้างต้น

ฉ. สอดคล้องกบั การแยกตัวของแผ่นดินในข้อใด

317)ขอ้ ไดไม่ใช่ประโยชนท่ไี ด้รบั จากเทคโนโลยสี า้ รวจระยะไกล ก. แผ่นธรณี ข. แผน่ ธรณีทวปี

ก. ใชใ้ นการพยากรณอ์ ากาศ ค. เปลอื กโลกทวปี ง. แผ่นธรณีมหาสมทุ ร

ข. ใชใ้ นการเตอื นภยั ธรรมชาติ จ. เปลอื กโลกมหาสมทุ ร

ค. ใช้ในการส้ารวจทศิ ทางในการเดินทาง 323)พจิ ารณากระบวนการทางธรณีวทิ ยาต่อไปนี ง. ใช้ในการส้ารวจการใชป้ ระโยชน์ของทด่ี นิ ก. เปลือกโลกใตม้ หาสมุทรชนกบั เปลือกโลกใต้มหาสมทุ ร จ. ใชใ้ นการศกึ ษาภูมปิ ระเทศ ข. แผน่ ธรณที วีปชนกับแผ่นทวปี

318)ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของตาวเทยี มทีใ่ ชก้ นั อยใู่ นปัจจุบนั ค. แผน่ อินเดยี -ออสเตรเลยี ชนกับแผน่ ยเู รเชยี

ก. การรวมพลังงานแสงอาทติ ย์แลว้ ส่งมายังโลก เทอื กเขาหมิ าลยั เกิดจากกระบวนการธรณีวิทยาใด

ข. การก้าหนดพิกัดของตา้ แหน่งต่างๆ บนพนื โลก ก. ก. ข. ข. ค. ค.

ค. การคน้ หาแหล่งทรพั ยากรทม่ี คี ่า เช่น ทองค่้า น้ามัน ง. ก. และ ค. จ. ข. และ ค.

ง. การชว่ ยเตอื นภัยเกี่ยวกับภยั ธรมชาติ เชน่ นา้ ทว่ ม พายุ 324) พิจารณาข้อความต่อไปนี ก. แผ่นแปซฟิ กิ เปน็ แผน่ ธรณีทมี่ ขี นาดใหญท่ ี่สดุ จ. การปฏิบัตกิ ารทางทหาร ข. ขอบของแผน่ ธรณีเป็นรอยต่อทม่ี ีลักษณะเคลือ่ นมดุ ตวั เข้า

ฉ.

319)ข้อใดต่อไปนีไม่ใชผ่ ลจากเทคโนโลยอี วกาศ

ก. แผนทีก่ ูเกิล (G๐ogle Maps) หากนั

ข. เคร่ืองไซสโมกราฟ (Seismo-graph) ค. มแี นวพูเขาไฟท่ีมพี ลงั

ค. การใชจ้ ีพีเอสในการดแู ผนท่ี ข้อความใดเป็นเหตุท่ีท้าให้บริเวณรอบๆ มหาสมุทรแปซิฟกิ

ง. ภาพถา่ ยเมฆทใ่ี ช้ในขา่ วพยากรณอ์ ากาศ เกิดแผ่นดินไหวมากกวา่ ร้อยละ 80 ของแผน่ ดนิ ไหวทว่ั โลก

จ. การถ่ายทอดสดฟตุ บอลโลกจากประเทศแอฟริกาใต้ ก. ก ข. ข.

ฉ. ค. ค. ง. ก. และ ข. จ. ข. และ ค. 320)การส่งยานอวกาศดว้ ยยานขนส่งอวกาศมีคณุ สมบตั ิเดน่ อย่างไร

ก. น้าหนักเบา

ข. เคลอื่ นทไี่ ดเ้ รว็ 325)ภูเขาไฟรปู กรวย (Cider cone volcano) เกิดจากลาวาชนิดใด

ค. ประหยัดพลงั งาน ก. แกรนติ

ง. สามารถน้ากลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ ข. ออบซเิ ดยี น

จ. ใชใ้ นการเดินทางส้ารวจในระยะไกล ค. แกบโบร์

ง. ไรโอไลต์และแกรนติ

จ. แอนดีไซตแ์ ละบะซอลต์

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 28

326)พิจารณารปู รา่ งภูเขาไฟต่อไปนี ง. หินปนู จ. หนิ ออบซเิ ดียน

ก. ภูเขาไฟยอดราบ (Plateau basalt หรอื Fissure volcano) 331) ข้อใดเป็นแนวรอยต่อแบบแยกออกจากกันของแผ่นธรณีภาคใต้ มหาสมทุ ร ข. ภเู ขาไฟรปู โล่ (Shield volcano) ก. เทือกเขากลางมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ข. ทะเลแดง ค. ภเู ขาไฟรปู กรวยสลับชนั (Composite volcano) ค. รอยเล่ือนอัลไพน์ ง. รอ่ งลกึ ก้นมหาสมุทรมาริอานาส์ ภมู ิสัณฐานของภเู ขาไฟทเ่ี กดิ บรเิ วณแผ่นธรณีมหาสมุทรแยกออกจาก จ. หมูเ่ กาะฮาวาย

กนั มรี ูปรา่ งตรงกบั ข้อใด

ก. ก ข. ข. ค. ค.

ง. ก. และ ข. จ. ข. และ ค.

327)ธรณกี าลใดท่ีเกนิ การสญู พนั ธขุ์ องส่ิงมชี วี ิตมากที่สุด 332) รอยเลื่อนแซนแอนเดรียสในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นรอยเล่ือน ก. ชว่ งยคุ โวเนียนตอนปลาย ข. ช่วงยุคไทรแอสซกิ ตอนปลาย แบบใด ค. ช่วงยุคครเี ตเชียสถงึ ยุคโพลโี อจีน ง. ช่วงยคุ เพอรเ์ มยี นถงึ ยคุ ไทรแอสซกิ ก. รอยเลือ่ นปกติ ข. รอยเล่ือนย้อน จ. ช่วงยคุ ออรโ์ ดวเิ ชียนถึงยคุ ไซลูเรยี น ค. รอยเลอื่ นยอ้ นมมุ ต้า่ ง. รอยเลอ่ื นตามแนวมุมเท

จ. รอยเลอ่ื นตามแนวระดับ

328)เหมอื งแมเ่ มาะ จงั หวดั ลา้ ปาง และชายทะเล อ้าเภอเมอื ง จงั หวดั 333) น อ ก จ า ก ร ะ ดั บ ค ว า ม รุ น แ ร ง ข อ ง แ ผ่ น ดิ น ไ ห ว จ ะ ขึ น อ ยู่ กับ ระยะห่างจากจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวแล้ว ยังขันอยู่กับ กระบี่ พบซากดึกด้าบรรพ์หอยขมชนิดเดียวกันอายุประมาณ 40 สาเหตุในข้อใด ก. ความหนาแน่นของอาคารและสงิ่ ก่อสรา้ งในพนื ที่ ลา้ นปี พจิ ารณาขอ้ ความตอ่ ไปนี ข. จา้ นวนประชากรมนุษย์ท่อี าศัยอยใู่ นพืนที่ ค. ชนดิ ของตะกอนหรอื หนิ ฐานที่รองรบั พนื ท่ี ก. บริเวณทงั สองเคยอยูต่ ิดกัน ต่อมาแยกออกจากกนั เพราะการ ง. ระดบั ความสูงของพืนท่ี จ. ลักษณะภมู อิ ากาศของพืนที่ เคลื่อนทข่ี องทวีป ฉ. ข. บริเวณทังสองเคยเปน็ ทะเลเดียวกัน ตอ่ มาบรเิ วณแมเ่ มาะเกดิ 334)ทรัพยากรธรณีหรอื แหล่งทอ่ งเท่ียวประเทศไทยข้อใดทไี่ มม่ ีสว่ น การยกตวั สมั พันธก์ บั หนิ ภูเขาไฟ ก. หินบะซอลต์ จังหวัดตราด ค. บรเิ วณทังสองเปน็ แผน่ ดินเหมอื นกนั ต่อมาบรเิ วณแม่เมาะเกดิ ข. ดินขาว จงั หวดั ล้าปาง ค. พลอย จังหวัดจนั ทบรุ ี การยกตัว ง. ศลิ าแลง จงั หวดั กา้ แพงเพชร จ. เขาพนมร้งุ จงั หวดั บุรีรัมย์ ข้อใดที่แสดงลักษณะภูมิประเทศโบราณของทังสองไดถ้ กู ตอ้ ง

ก. ก. ข. ข. ค. ค.

ง. ก. และ ข. จ. ก. และ ค.

329)พบซากหอยนางรมยักษ์ท่ีวัดเจดีย์หอย ต้าบลบ่อหิน อ้าเภอลาด

หลมุ แก้ว จังหวดั ปทมุ ธานี พิจารณาขอ้ ความต่อไปนี

ก. เปน็ หอยท่ีมีอายุประมาณ 5,500 ปจี ากขอ้ มลู คารบ์ อน -14 335)ซากดึกด้าบรรพ์หรือฟอสซิล (Fossil) ของฟิวซูลินิดท่ีใช่เป็น

ข. ภูมปิ ระเทศเปล่ยี นจากทะเลเป็นดนิ หลักฐานก้าหนดอายขุ องหินในกลมุ่ หินสระบุรี (Saraburi Group) มี

ค. เปน็ หอยอยใู่ ต้ดิน รายงานวา่ ถกู ค้นพบในหนิ ชนิดใด

ซากหอยนางรมยักษน์ ีจัดเป็นซากดึกด้าบรรพ์ด้วยเหตผุ ลทแ่ี สดงในข้อ ก. หนิ ดนิ ดาร ข. หินทราย ค. หินปนู

ใด ง. หนิ ออ่ น จ. หินแอนดีไซต์

ก. ก. ข. ข. ค. ค. 336)ดาวดวงใดที่อณุ หภมู พิ ืนผิวต้่าทีส่ ดุ

ง. ก. และ ข. จ. ข. และ ค ก. ดาวพฤหสั บดี (สีขาว) ข. ดวงอาทิตย์ (สเี หลือง)

  1. หลักฐานท่ีใช้ในการศึกษาอายุของหินบริเวณพืนมหาสมุทร ที่ ใ ช้ ค. ดาวดวงแก้ว (สีส้ม)

สนับสนุนทฤษฎีทวีปเลื่อนและการขยายตัวของพืนท้องมหาสมทุ ร ง. ดาวปารชิ าต (สีแดง)

ไดม้ าจากการศกึ ษาหนิ ในข้อใด จ. ดาวรวงขา้ ว (สีนา้ เงนิ แกมขาว)

ก. หินแกรนิต ข. หนิ ทราย ค. หินบะซอลต์

โดย ครูสุลกิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 29

337)จากข้อมูลของโชติมาตรปรากฏ (Apparent magnitude) เราจะ ก. ทฤษฏีแมเ่ หล็กไฟฟา้ ใชไ้ ม่ได้

เหน็ ดาวดวงใดตอ่ ไปนีสวา่ งนอ้ ยทีส่ ุด ข. กฎการโนม้ ถ่วงสากลใช้ไมไ่ ด้

ก. ดาวเสารเ์ มอื่ รบิ หรท่ี ่ีสุด มคี า่ ประมาณ 1.2 ค. กาแล็กซีมมี วลนอ้ ยกว่าท่ีเราเห็นได้ด้วยแสง

ข. ดาวปารซิ าต (Antares) มคี า่ ประมาณ 1.0 ง. กาแล็กซีมีมลมากกว่าที่เราวัดได้ด้วยแสงหลายเทา่

ค. ดาวดวงแกว้ (Arcturus) มีคา่ ประมาณ 0.0 จ. ปรากฏการณ์ดอพเพลอร์ใช้กบั แสงจากกาแล็กซไี มไ่ ด้

ง. ดาวพฤหัสบดีทีร่ ิบหร่ีทีส่ ุด มคี ่าประมาณ -1.4 344)นักฟิสกิ สด์ าราศาสตร์อธิบายว่า การท่อี ตั ราเร็วในการโคจรของ ดาวฤกษ์รอบศนู ยก์ ลางกาแล็กซมี คี ่าสูงมากกวา่ ท่ีคาดการณ์จาก จ. ดาวศุกรเ์ มอ่ื ริบหรที่ ี่สดุ มีคา่ ประมาณ -3.5 กฎการโน้มถ่วงสากลมากนันเป็นผลจากกาแล็กซีมีสิ่งซึ่งไม่

ฉ.

338)ข้อใดตอ่ ไปนไี มถ่ ูกต้อง

ก. กลอ้ งโทรทรรศนอ์ วกาศฮับเบิลจดั เป็นดาวเทยี มชนดิ หน่งึ สะทอ้ นแสงแต่โนม้ ถว่ งสิง่ นีเรียกวา่ อะไร

ข. ในวนั หน่ึงๆ เวลา 12.00 น. ดวงอาทติ ยไ์ ม่จา้ เป็นตอ้ งอยสู่ งู ก. อเี ทอร์ ข. สสารมืด ค. พัลซาร์

จากขอบฟา้ มากท่ีสุด ง. พลาสมา จ. พลงั งานมืด

ค. นกั เดนิ เรือรวู้ า่ ก้าลงั อยูท่ ลี่ ะตจิ ูดใดโดยการวดั มุมเงยของดาว 345)อนภุ าคใดท่ีไม่ไดป้ ระกอบขึนจากอนภุ าคอืน่

เหนือ ก. โปรตอน ข. ทริเตียม ค. นวิ ทรโิ น

ง. ระบบจีพีเอส (GPS) เปน็ ระบบทใ่ี ชบ่ อกทศิ ทาง ง. ดวิ ทีรอน จ. ไพออน

จ. เราสามารถใช่กล่มุ ดาวจระเขใ้ นการระบุตา้ แหน่งของดาว 346)ดาวเคราะหด์ วงใดต่อไปนถี ูกค้นพบด้วยวธิ ที ่ีแตกตา่ งจากดาว

เหนือได้ เคราะหด์ วงอื่น

ฉ. ก. ดาวเนปจูน ข. ดาวยูเรนัส ค. ดาวเสาร์

339)ข้อใดสนบั สนนุ ทฤษฎีบิกแบงของการก้าเนดิ เอกภพ

ก. การหดตวั ของเอกภพ ง. ดาวอังคาร จ. ดาวพธุ

ข. การหมุนรอบตวั เองของกาแลก็ ซีทางชา้ งเผือก 347)จากการศึกษากาแล็กซีแห่งหนึ่ง พบว่าการเคลื่อนท่ีด้วย

ค. การขยายตวั ของกาแลก็ ซที างชา้ งเผอื ก อตั ราเร็วประมาณ 1,000 กิโลเมตรตอ่ วินาที กาแล็กซนี หี ่างจาก

ง. อณุ หภูมิ 2.73 K ของคล่ืนไมโครเวฟพืนฐาน ระบบสรุ ิยะประมาณกี่เมกกะพารเ์ ซก

จ. ปรากฏการณด์ อพเพลอรข์ องแสงจากดวงอาทติ ย์ ก. 11 เมกกะพาร์เซก ข. 12 เมกกะพารเ์ ซก

ฉ. ค. 13 เมกกะพาร์เซก ค. 14 เมกกะพารเ์ ซก

340)กาแล็กซีเกดิ บิกแบงเป็นระยะเวลาประมาณเทา่ ใด

ก. 3 นาที ข. 300,000 ปี จ. 15 เมกกะพารเ์ ซก

ค. 1,000 ลา้ นปี ง. 5,000 ลา้ นปี 348)การคน้ พบธาตุหนักทมี่ ีอยู่ในอวกาศเกดิ ขนึ จากสาเหตขุ อ้ ใด ก. กลุ่มแกส๊ ภายนอกรอบเนบวิ ลาดาวเคราะห์กระจายออกเปน็ จ. 13,700 ล้านปี ธาตหุ นัก ข. ธาตไุ ฮโดรเจนและฮเี ลียมของดาวแคระขาวยุบตัวลงดว้ ยแรง 341)ท่ีแกนกลางของดวงอาทิตยม์ ีอุณหภูมปิ ระมาณกี่เคลวิน โน้มถ่วง

ก. 1,000 ข. 5,800 ค. 20,000

ง. 1 ลา้ น จ. 15 ลา้ น

342)ดวงอาทิตยม์ ีอายุประมาณเทา่ ไร และจะสินสดุ อายขุ ยั อกี นานเท่าใด ค. ซากทห่ี ลงเหลืออยูข่ องเนบิวลาจากการยุบตัวเป็นระบบสุรยิ ะ

ก. 100 ล้านป,ี 1,000 ลา้ นปี ของเรา

ข. 1,000 ลา้ นปี, 10,000 ลา้ นปี ง. เปลือกนอกของดาวยักษแ์ ดงถูกแรงสะท้อนซเู ปอรโ์ นวา

ค. 5,000 ลา้ นป,ี 5,000 ลา้ นปี จ. การรวมตัวของเนบวิ ลา

ง. 5,000 ล้านป,ี 50,000 ล้านปี 349)ดาวเทยี มธอี อส เป็นดาวเทยี มประเภทอะไร จ. 13,700 ล้านป,ี 5,000 ล้านปี ก. ดาวเทยี มสือ่ สาร ข. ดาวเทยี มทางการทหาร

  1. จากการวัดพบว่าดาวฤกษ์โคจรรอบศูนย์กลางของกาแล็กซีด้วย ค. ดาวเทียมสา้ รวจทรัพยากร

อัตราเร็วที่สูงมากส้าหรับมวลของกาแล็กซีท่ีตาเห็นได้ ผลนี ง. ดาวเทยี มอตุ ุนยิ มวิทยา

น้ามาซ่งึ สมมติฐานใด จ. ดาวเทยี มสังเกตการณโ์ ลกและอวกาศ

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 30

350)ในปี พ.ศ. 2558 องค์การ Nasa ไดส้ ง่ ยานอวกาศ New Herizon 2. แกรนดแ์ คนยอน ประเทศสหรฐั อเมริกา

ไปสา้ รวจสง่ิ ใดเป็นผลสา้ เรจ็ 3. แทง่ หินบะซอลต์ อา้ เภอวังชนิ จังหวดั แพร่

ก. น้าดาวเทียมส้ารวจทรัพยากรไปตดิ ตังเหนือดาวอองั คาร 4. ดอยอินทนนท์ จงั หวัดเชียงใหม่

ข. ไปสา้ รวจดวงจนั ทรอ์ ีกดา้ นหนง่ึ ทโี่ ลกไม่สามารถมองเห็นได้ ก. 1 และ 2 ข. 1, 3 และ 4

ค. น้าไปศกึ ษาดาวพลูโต ค. 2, 3 และ 4 ง. 1, 2 และ 3

ง. น้าหอ้ งปฏิบตั กิ ารไปตดิ ตังใหแ้ ก่สถานีอวกาศราราชาติ จ. 1, 2, 3 และ 4

จ. ไปส้ารวจสสารมดื ทีอ่ ยนู่ อกเอกภพ 367)ข้อใดตอ่ ไปนีไมส่ มั พันธก์ นั

ก. หนิ แอนดไี ซต์ เนือละเอียด แน่นทึบ สีเทาแก่สเี ขียว สีดา้ เข้ม

แนวข้อสอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ชดุ ท่ี 6 ข. หินบะชอลต์ เนอื แน่นละเอยี ด มรี ูพรนุ สเี ขม้ สดี ้า

361)ขอ้ ใด กล่าวถึง เคล่อื นไหว สะท้อนทรี่ ะดบั ความลึกประมาณ 2900 ค. หินทฟั ฟ์ เนอื หินแนน่ ประกอบดว้ ยเศษหนิ ละเอียดสอี อ่ น กโิ ลเมตร ง. หินไรโอไลต์ เนือแกว้ ไม่มผี ลึก สีอ่อน ขาว เทาชมพู ก. คลนื่ ปฐมภูมิและคล่ืนทุติยภูมิมคี วามเร็วลดลง จ. หนิ แกมโบร เนือหยาบ มีผลึก สเี ทาเข้มสเี ขยี วเข้มหรอื ดา้ ข. คลน่ื ปฐมภมู แิ ละคล่นื ทตุ ยิ ภูมมิ ีความเรว็ คงที่ ค. คลื่นปฐมภูมิมคี วามเรว็ ลดลงและคลื่นทุติยภมู มิ ีความเรว็ เพม่ิ 368)ข้อใดเรียงล้าดับความแข็งของแรต่ ามหลักของโมห์จากนอ้ ยไปมาก ง. คลน่ื ปฐมภูมิ มีความเร็วเพม่ิ ขึนและคลืน่ ทตุ ิยภูมิมคี วามเร็ว ได้ถูกต้อง ลดลง ก. ทัลก,์ ควอตซ์, อะพาไรต์ จ. คลื่นปฐมภูมิมคี วามเร็วคงทแ่ี ละคลนื่ ทุติยภมู มิ คี วามเรว็ ลดลง ข. ยปิ ซมั , ฟลอู อไรด์, แคลไซต์ ค. ออร์โทเคลส, คอรันดมั , เพชร 362)ข้อใดไมใ่ ชห่ ลกั ฐานทแี่ สดงว่าทวปี ตา่ งๆ เคยเชอื่ มต่อกนั ง. โทแพซ, ออรโ์ ทเคลส, อะพาไรต์ ก. การเชอ่ื มตอ่ บริเวณแนวลาดทวปี ไดพ้ อดี จ. ฟลูออไรต,์ ยิปซมั , โทแพซ ข. ความคลา้ ยกนั ของกลมุ่ หนิ และแนวภเู ขา ค. หนิ ตะกอนทเ่ี กดิ จากตะกอนธารน้าแขง็ 369)ก้าหนดให้ความสูงของคลท่นทุติยภูมิเท่ากับ 10 มิลลิเมตร และ ง. ซากดึกดา้ บรรพ์ของไทรโลไบตใ์ นดนิ แดนกอนว์ านา ความสงู ของคลนื่ ทีร่ ะดบั ศูนย์ (A๐) เทา่ กบั 0.001 มิลลิเมตร ขนาด จ. ซากดึกดา้ บรรพข์ องกลอสโซพดทรสี ในดินแดนกอนดว์ านา ของเคลอื่ นไหวสะเทือนในมาตรารกิ เตอรม์ คี ่าตรงกบั ขอ้ ใด ก. ขนาด 1 รกิ เตอร์ (แมกนจิ ดู ) ข. ขนาด 2 รกิ เตอร์ (แมกนจิ ูด) 363)ข้อใดเป็นสมบัติของเปลอื กโลกทวปี ค. ขนาด 3 ริกเตอร์ (แมกนิจดู ) ง. ขนาด 4 รกิ เตอร์ (แมกนิจูด) ก. ประกอบดว้ ยธาตุซลิ คิ อนและแมกนีเซยี มเป็นสว่ นใหญ่ จ. ขนาด 5 ริกเตอร์ (แมกนิจดู ) ข. เป็นดนิ แดนส่วนตา่ งๆ เช่น ประเทศไอซ์แลนด์ รัฐฮาวาย ค. อายหุ นิ มคี วามหลากหลาย ตังแต่ 4พันลา้ นปีจนถึงปจั จบุ นั 370) เคร่ืองตรวจวัดแผ่นดินไหวระยะห่างระหว่างคล่ืนปฐมภูมิกับคลื่น ง. มีความหนาไมค่ งที่ ความหนาเฉล่ียอยู่ในช่วง7-11 กิโลเมตร ทุติยภูมิได้ 25 วินาที จงหาระยะทางระหว่างสถานีตรวจวัด จ. หนิ มีความหนาแน่น 5.0-8.0 กรัมตอ่ ลุกบาศกเ์ ซนตเิ มตร แ ผ่ น ดิ น ไ ห ว กั บ จุ ด เ ห นื อ ศู น ย์ เ กิ ด แ ผ่ น ดิ น ไ ห ว ก. 25 กโิ ลเมตร ข. 50 กิโลเมตร ค. 100 กโิ ลเมตร 364)นอกจากระยะห่างจากจุดเหนือศูนยเ์ กดิ แผ่นดินไหวแลว้ สาเหตุใดมี ง. 200 กิโลเมตร จ. 250 กิโลเมตร ผลต่อความรุนแรงของแผน่ ดินไหว ก. ความหนาแนน่ ของส่ิงปลูกสรา้ งในพืนที่ 371)ขอ้ ใดใชอ้ ธิบายกระบวนการเกิดหินใหม่ทเี่ คลอื่ นทอ่ี อกไปตาม ข. สภาพภูมอิ ากาศของพืนท่ี แนวราบของเทอื กสนั เขาใต้สมทุ รไดถ้ กู ต้อง ค. กลุ่มหนิ ท่รี องรับพืนที่ ก. การเกิดภูเขาไฟใตม้ หาสมทุ รเปน็ จ้านวนมาก ง. จา้ นวนประชากรทอ่ี าศัยในพืนที่ ข. พบซากสตั วท์ ะเลดกึ ด้าบรรพบ์ นยอดเขา จ. การโคจรของดาวเคราะห์ ค. อายขุ องหินแผ่นเปลือกโลกสมทุ รมีอายมุ ากกวา่ แผ่นทวปี ง. อายขุ องหนิ จากเทือกสนั เขาใตส้ มทุ รจะเพมิ่ ขนึ ตามระยะห่าง

  1. จ. อายขุ องหนิ จากเทือกสันเขาใต้มหาสมทุ รจะลดลงตาม ระยะห่าง 366)สถานที่ต่อไปนเี กิดจากกระบวนการเปลยี่ นแปลงโลกภายในโลก 1. ภเู ขาไฟดอยผาคอกหนิ ฟจู ังหวัดลา้ ปาง

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 31

372)จากภาพแสดงบรเิ วณทะเลแดง บริเวณใดมอี ณุ หภูมขิ องเปลอื กโลก

สงู ทีส่ ุด ก.

ข.

ค.

ง.

ก. บริเวณ 1 ข. บรเิ วณ 2 ค. บรเิ วณ 3 จ. ง. บริเวณ 4 จ. บริเวณ 5 378)ดาวฤกษ์ดวงใดเป็นดาวฤกษใ์ นแถบกระยวนการหลัก

373)จากภาพแสดงปริมาณของซากดึกด้าบรรพ์ในธรณกี าล สง่ิ มชี วี ติ ใน ก. ข้อใดทีส่ ญู พันธ์ไุ ปแล้ว ข. ค. ง. จ.

379)โปรตอนมวล 2 กิโลกรัม เปลี่ยนเป็นฮีเลี่ยม 1.986 กิโลกรัม อยาก ทราบวา่ เกดิ พลงั งานกี่จลู

ก. A กบั B ข. A กับ D ค. B กับ C ก. 1.47 x 10 4 จูล ข . 4 . 2 x 106 จู ล ง. C กบั D จ. A, B และ C ค. 6.3 x 1014 จูล ง . 1 . 2 6 x 1015 จู ล จ. 2.34 x 1012 จลู

380)ขอ้ ใดต่อไปนีไมเ่ ขา้ พวก

374)กลมุ่ รอยเล่อื นใดทม่ี แี นววางตัวแตกตา่ งจากพวก ก. 3.1 x 1013 กิโลเมตร ก. กลมุ่ รอยเลื่อนแม่สะเรียง ข. 3.26 ปีแสง ข. กลุ่มรอยเล่ือนแมท่ า ค. 1 พารเ์ ซก ค. กลุ่มรอยเล่ือนแมป่ งิ ง. 100 หน่วยดาราศาสตร์ ง. กลมุ่ รอยเล่ือนเพชรบูรณ์ จ. 206,265 AU จ. มคี า้ ตอบมากกวา่ 1 คา้ ตอบ 381)ดาว A อยู่ห่างจากโลก 400 ปีแสง มีอันดับความสว่าง 1 ขณะท่ี

  1. ดาว B อยู่ห่างจากโลก 40 ปีแสง มีอันดับความสว่าง -1 ข้อใด

376)ซากดกึ ดา้ บรรพ์ในขอ้ ใดมีอายุน้อยท่ีสดุ ถกู ต้อง ก. ซากช้างมาสโตดอน จังหวดั ลา้ ปาง ข. ซากไทรโลไบต์ จังหวดั สตูล ความสอ่ งสว่าง กาลงั สอ่ งสว่าง ค. ซากจระเข้โบราณ จังหวัดกระบี่ ก. A สว่างกว่า B A มากกวา่ B ง. รอยเทา้ ไดโนเสาร์ จังหวดั เลย ข. A สวา่ งกวา่ B B มากกว่า A จ. ซากแอมโมไนต์ จังหวัดลพบุรี ค. B สว่างกวา่ A A มากกว่า B ง. B สวา่ งกวา่ A B มากกวา่ A 377)จากข้อมูลซากส่งิ มีชวี ติ ตอ่ ไปนี ขอ้ ใดกลา่ วถงึ สภาพภมู ปิ ระเทศของ จ. B สว่างกวา่ A บริเวณนไี ด้ถูกต้อง เทา่ กนั

382)กาแล็กซี A หา่ งจากโลกประมาณ 1 เมกกะพารเ์ ซก มคี วามเร็ว ในการเคลื่อนท่ีถอยห่างเท่ากับ 350 กิโลเมตรต่อวินาที และ กาแล็กซี B ห่างจากโลก 2.5 เมกกะพาร์เซก มีความเรว็ ในการ เคลื่อนท่ีถอยห่างเท่ากับ 1,475 กิโลเมตรต่อวินาที จากข้อมูล ขา้ งตน้ ตามกฎของฮับเบลิ ค่าคงตวั มีค่าเท่ากบั เทา่ ใด

โดย ครูสลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 32

ก. 324 Kms−1Mpc−1 ข. 450 Kms−1Mpc−1 389)ดาวฤกษ์จะสว่างขึนกเี่ ทา่ เมอ่ื ส่องกล้องโทรทรรศน์ขนาด ค. 750 Kms−1Mpc−1 จ. 1,125 Kms−1Mpc−1 จ. 1,300 Kms−1Mpc−1 เสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 2 เมตรเทยี บกับตาเปล่า

ก. 400 เท่า. ข. 1,600 เทา่ ค. 40,000 เท่า

383)ข้อใดกล่าวได้ถูกตอ้ ง ง. 160,000 เท่า จ. 12 เท่า ก. เราสามารถมองเห็น ดาวพธุ และดาวศกุ รเ์ ต็มดวงไดท้ ังวนั ข. เราสามารถมองเหน็ ดาวเคราะห์วงใน ไดช้ ่วงหวั คา้่ หรอื ร่งุ เช้า 390)สงั เกตการณแ์ สงสีแดง (  = 800 nm ) ด้วยกล้องโทรทศั น์ขนาด ค. ดาวพุธดาวศุกร์และดาวอังคารเป็นดาวเคราะหว์ งในทังหมด 1.5 เมตร กลอ้ งมีก้าลังแยกเท่าใด ง. ราสามารถมองเหน็ ดาวเคราะห์วงนอกไดช้ ่วงหัวคา้่ หรอื รงุ่ เช้า ก. 5.3 x 10−2 เรเดียน ข. 1.2 x 10−3 เรเดียน ค. 5.3 x 10−7 เรเดยี น ง. 5.3 x 10−9 เรเดียน เท่านัน จ. 8 x 10−4 เรเดยี น

จ. เราสามารถมองเหน็ ดาวเคราะห์วงในได้ตลอดทงั คืน 391)ถ้าต้องใหด้ าวเทียมโคจรทีจ่ ะระดบั ความสงู 1,620 กโิ ลเมตร จากผิว

384)ดาว A อยู่ห่างจากโลก 1,000 พาร์เซก มีโชติมาตรปรากฎ 10.8 จะ โลก ต้องใช้ความเร็วเท่าใด จึงจะโคจรได้ก้าหนดให้รัศมีของโลก

มคี า่ โชติมาตรสมั บูรณเ์ ทา่ ใด เท่ากบั 6,380 กิโลเมตร และมวลของโลกเท่ากับ 5.98 x 1024 kg

ก. -0.8 ข. 0 ค. 0.8 ก. 7.06 km/s ข. 7.35 km/s

ง. 1 จ. 2 ค. 7.8 km/s ง. 11.2 km/s

385)เปรียบเทียบภาพถ่ายดาว A เดือนกุมภาพันธ์กับเดือนพฤษภาคม จ. 9.12 km/s

พบวา่ เกดิ มุมแพรัลแลกซ์ 0.2 พลิ ปิ ดา ระยะห่างของดาว A กับโลก 392)ยานอวกาศที่ความสูง 1,620 กิโลเมตรจากผิวโลก ต้องใช้ความเรว็

เป็นเทา่ ใด น้อยที่สุดเท่าใดจงึ หลดุ ออกจากวงโคจรได้

ก. 1 ปีแสง ข. 5 ปแี สง ค. 16.3 ปีแสง ก. 7.80 km/s ข. 8.99 km/s

ง. 32.6 ปแี สง จ. 42 ปแี สง ค. 9.99 km/s ง. 11.20 km/s

386)ดาวดวงหนึ่งมีอุณหภูมิที่ผิว 5800 เคลวิน ถ้าสมมติว่าดาวดวงนีมี จ. 12.42b km/s

การแผ่พลังงานเชน่ เดียวกบั วัตถุด้า ดาวดวงนี จดั อยูใ่ นสเปกตรัมใด แนวข้อสอบเขา้ มหาวิทยาลยั ชดุ ท่ี 7

(ให้ max T = 0.290 cmK) ค. G 391)สง่ิ มีชีวิตใดตอ่ ไปนีเกดิ ขนึ บนทวีปพนั เจียและอยรู่ ่วมยคุ เม่ือทวปี ก. O ข. A

ง. M ง. N พนั เจียแยกออกจากกนั เป็นทวปี ตา่ งๆ ดังทีป่ รากฏในยุคปจั จุบนั

387)ข้อใดกล่าวไมถ่ ูกตอ้ ง ก. นก ข. เอป ค. ไทรโลไบต์ ก. กระจกุ ดาวเปดิ มอี ายุน้อย ง. ไดโนเสาร์ ข. กระจุกดาวเปดิ มจี ้านวนนอ้ ยกวา่ กระจุกดาวปดิ จ. โฮโมอเี รกตสั ค. กระจุกดาวลกู ไก่เปน็ กระจุกดาวเปดิ ง. กระจกุ ดาวทรงกลมมีบริเวณจานของกาแลก็ ซี 392)ขอ้ ใดประกอบด้วยช่ือยคุ ท่อี ยใู่ นมหายุคมีโซโซอิก ( masozoic ) จ. กระจกุ ดาวทรงกลมมีอายุมาก เท่านัน ก. Triassic และ Permian ข. Jurassic และ Proterozoic 388)ประกอบกล้องโทรทรรศน์จากเลนส์นูน 4 อัน มีความยาวโฟกัส ค. Cretaceous และ Jurassic ง. Cambrian และ Triassic ตา่ งกนั ดงั นี เลนส์ A = 3 cm, เลนส์ B = 6 cm, เลนส์ C = 12 cm จ. Protreozoic และ Permian และเลนส์ D = 30 cm กล้องโทรทรรศนจ์ ะมกี ้าลงั ขยายสงู ที่สุดได้ก่ี เทา่ 393)จงพจิ ารณาขอ้ ความตอ่ ไปนี ข้อใดถกู ต้อง ก. ดาวฤกษท์ งั หลายเกดิ จากการยุบรวมตัวของเนบิวลา ข. ดาวฤกษส์ ามารถสรา้ งพลังงานไดด้ ้วยตัวเองและมีวิวฒั นาการ ค. ดาวฤกษ์ทม่ี ีสแี ดงควรจะมีอายุมากกว่าดาวฤกษส์ ีนา้ เงิน

ก. 2.5 เท่า ข. 4 เท่า ง. วาระสดุ ทา้ ยของดาวฤกษ์ที่มมี วลน้อยกว่าดวงอาทิตย์จะ

ค. 5 เทา่ ง. 10 เท่า กลายเปน็ ดาวนวิ ตรอน จ. 12 เทา่ ก. ก เท่านัน ข. ค เทา่ นนั ค. ก และ ข

ง. ข และ ง จ. ก,ข และ ค

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 33

394)แรงดนั ภายใตภ้ เู ขาไฟทท่ี า้ ใหเ้ กิดการวางระเบิด เกดิ จากสาเหตใุ ด จ. เนบวิ ลาทีอ่ ยู่ในกระจกุ ดาวลูกไก่เป็นเนบิวลาสวา่ งประเภท

ก. การเคลอ่ื นที่ของแรใ่ นแมกมา เรอื งแสง

ข. การตกผนึกอย่างต่อเน่ืองของแรใ่ นแมกมา 401)ข้อใดต่อไปนไี มไ่ ดเ้ ปน็ ผลพลอยได้จากเทคโนโลยีอวกาศ ค. ปริมาณของไอน้าทเ่ี พิ่มมากขึน ก. เครือ่ งดูดฝุ่นแบบไร้สายไฟ ง. ปรมิ าณของแร่ท่เี พ่มิ มากขึน ข. รองเทา้ ท่พี ืนด้านในรองรับแรงกระแทก จ. ปริมาณของเศษหนิ และฝ่นุ ละอองทเ่ี พม่ิ ขึน ค. เหล็กดัดฟันที่ใชโ้ ลหะคนื รูปเองได้

395)ขอ้ ใดกลา่ วถงึ สรุ ยิ ปุ ราคาไม่ถูกต้อง ง. เลนส์ทเี่ คลอื บดว้ ยสารปอ้ งกนั การขดี ข่วน

ก. เมื่อเงาของดวงจันทรม์ ขี นาดเชงิ มุมมากกว่าดวงอาทิตย์ จะ จ. การตดั เยบ็ ลกู ฟุตบอลให้เป็นลายห้าเหล่ยี มสลบั กับหกเหล่ยี ม

เหน็ เปน็ สุริยปุ ราคาวงแหวน 402)สว่ นประกอบใดของโลกทมี่ ีสถานะเป็นของเหลวทังหมด

ข. สรุ ยิ ุปราคาเตม็ ดวงจะต้องเกิดขึนในชว่ งแรม 15 คา้่ เทา่ นัน ก. แกน่ โลกชันนอก ข. แก่นโลกชนั ใน

ค. ในปี พ.ศ. 2552 มสี รุ ิยุปราคาเตม็ ดวงเกิดขนึ ค. ธรณีภาค ง. เนอื โลก

ง. ถา้ ระนาบการโคจรของดวงจนั ทรร์ อบโลกอยูใ่ นระนาบ จ. เปลือกโลก

เดยี วกับระนาบการโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ย์จะสงั เกตเห็น 403)ภเู ขาไฟทีมียอดรูปรา่ งมนและป้อมอาจเกิดจากสาเหตุใด ก. ลาวามลี ักษณะข้นและหนืด สรุ ิยุปราคาทกุ เดือน ข. การสลับชนั ของลาวาและเศษหนิ ค. การทบั ถมของเศษตะกอนทพ่ี ่นจากภูเขาไฟ จ. ตา้ แหนง่ และระยะหา่ งของดวงจนั ทร์กบั โลกจะทา้ ใหล้ กั ษณะ ง. ลาวามลี กั ษณะเหลวและมอี ุณหภมู สิ ูงมาก จ. การทับถมกนั ของลาวา เพราะการไหลไมต่ อ่ เนื่อง ของการเกิดสุริยปุ ราคาแตกตา่ งกนั

ฉ.

396)พายหุ มุนเขตรอ้ นท่มี คี วามเร็วลมใกลร้ อบศนู ยก์ ลางระหวา่ ง 60 ถงึ

118 กโิ ลเมตรต่อช่วั โมงคือขอ้ ใด

ก. พายุใตฝ้ ุน่ ข. พายไุ ซโคลน ค. พายุเฮอริเคน 404)จากแบบจ้าลองทกี่ ้าหนด รอยเลอื่ นดังภาพจัดเปน็ รอยเลอื่ นใด

ง. พายุโซนรอ้ น จ. พายุดีเปรสชนั

397)การท่ีเรามองเหน็ ดาวฤกษก์ ะพรบิ แสงอย่ตู ลอดเวลาเกิดจากสาเหตุ

ใด

ก. อุณหภมู ขิ องดาวฤกษ์ ข. ปฎิกริ ิยานวิ เคลียร์

ค. การเปลีย่ นแปลงของพายสุ รุ ิยะ

ง. การเคลอื่ นทผ่ี ่านชันบรรยากาศของโลก

จ. ขนาดของดาวกฤษ์ท่มี ีการเปลยี่ นแปลลงตลอดเวลา

398)ดาวดวงใดมอี ุณหภมู ผิ ิวสูงทีส่ ดุ ข. ดวงอาทิตย์ สเี หลือง ก. รอยเล่อื นปกติ ข. รอยเลอ่ื นย้อน ก. ดาวซีรีส สขี าว ง. ดาวปารชิ าต สสี ้มแดง ค. ดาวดวงแก้ว สสี ม้ ค. รอยเลื่อนตมแนวระดับ จ. รอยเลอ่ื นยอ้ นมมุ ต่า้ จ. ดาวรวงขา้ ว สีนา้ เงนิ ง. รอยเลื่อนในแนวตงั ฉากกบั พืนโลก

399)ตามทฤษฎวี ิวฒั นาการของดาวฤกษป์ ัจจัยทส่ี า้ คญั ทสี่ ดุ ทก่ี ้าหนด 405)การวัดขนาดของแผน่ ดนิ ไหวตาม Mercalli scale ใชห้ ลกั เกณฑ์

เสน้ ทางการววิ ัฒนาการคือข้อใด อะไร

ก. สีของดาว ข. มวลของดาว ก. ความรสู้ กึ ของผคู้ น ข. พลงั งานทป่ี ลดปลอ่ ยออกมา

ค. อุณหภูมิของดาว ง. ความสวา่ งของดาว ค. เปรยี บเทยี บกบั ความสงู ของคลนื่

จ. องค์ประกอบของสสารในดาว ง. เปรยี บเทยี บพลงั งานกบั ระเบิดปรมาณู

400)ข้อใดกลา่ วถงึ เนบิวลาได้ถกู ตอ้ ง จ. ผลกระทบหรอื ความเสียหายที่เกดิ ขึนตอ่ มนุษย์ ก. ดาวฤกษ์ท่ีอยใู่ นบรเิ วณเนบิวลามักจะเป็นดาวอายุมาก ข. เมื่อมองเนบิวลาผา่ นกลอ้ งสองตาจะเหน็ เป็นฝ้าฟ้งุ ขาวจางๆ 406)ดาว proxima centauri มีแพรัลแลกซเ์ ทา่ กบั 0.770 พลิ ปิ ดา ดังนัน ค. ภายในเนบิวลามดี าวฤกษเ์ กิดใหมท่ ่มี ีสคี ่อนไปทางสสี ม้ แดง ง. ต้นก้าเนิดของเนบิวลาคือสสารดังเดิมหลงั การเกดิ บิกแบง ระยะห่างของดาวฤกษ์จากโลกจะมีระยะทางกป่ี แี สง เทา่ นัน ก. 4.24 ปแี สง ข. 5.98 ปแี สง

ค. 7.78 ปีแสง ง. 8.55 ปแี สง

จ. 10.20 ปแี สง

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 34

407)ข้อใดไม่ใชส่ มบตั ิของคล่นื ปฐมภมู ิ 413) ถัดจากแกนกลางดวงอาทิตย์ออกมาจากข้างในเป็นชันที่เรียกวา

ก. แผก่ ระจายเปน็ วงศร์ อบศูนย์เกดิ แผน่ ดนิ ไหว อะไรตามลับ

ข. คลื่นปฐมภูมิเป็นคลื่นตามขวาง ก. เขตการแผร่ ังสี เขตการพาความรอ้ น

ค. เคลื่อนท่เี หมอื นคลนื่ เสียง ข. เขตการพาความรอ้ น เขตการแผ่รังสี

ง. สามารถเคลอ่ื นทผ่ี า่ นตัวกลางได้ทุกสถานะ ค. เขตการแผ่รังสี ชันโฟโตสเฟียร์

จ. คลน่ื ปฐมภมู มิ คี วามเร็วมากกวา่ คลนื่ ทตุ ยิ ภมู ิ ง. ชนั โครโมสเฟยี ร์ ชันโฟโตสเฟียร์

408)ถ้าพจิ ารณาจากความเร็วคล่ืนPและS สามารถแบง่ โครงสร้างภายใน จ. ชันโฟโตสเฟียร์ ชันโครโมสเฟียร์ ของโลกออกเป็น 5สว่ นขอ้ ใดถูกตอ้ ง ฉ.

414)ขอ้ ใดมีความสมั พันธ์กับการเกิดแสงเหนอื แสงใต้

ก. แกน่ โลกชนั ในคลืน่ s ไม่สามารถเคลื่อนท่ีผ่านได้ ก. ลมสรุ ยิ ะ ข. แสงจากดวงอาทิตย์

ข. แกน่ โลกชันนอกคล่ืน p และ s จะมีอตั ราเร็วคงท่ี ค. สนามแมเ่ หลก็ โลก ง. รงั สีอลั ตราไวโอเลตจากดวงอาทติ ย์

ค. คลื่น P และ S เคลื่อนท่ีผ่านในชนั ธรณีภาคด้วยความเร็วท่ีคง ก. ก และ ข ข. ก และ ค ค. ก และ ง

ตัว ง. ข และ ค จ. ข และ ง

ง. ในชันฐานธรณภี าคแบ่งได้2ประเภทคือ เขตทีค่ ลนื่ p และ s มี 415) คลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่ผ่านภายในโลกจะมีลักษณะอย่างไร ความเร็วลดลงและเขตท่ีมกี ารเปลยี่ นแปลง ถา้ หากองคป์ ระกอบภายในโลกเป็นเนือเดยี วกนั หมด ก. จะเกิดการสะทอ้ นของคล่ืนภายในโลก จ. ชันมีโซสเฟียรเ์ ป็นชันท่มี สี ถานะเป็นของเหลว จงึ เป็นบรเิ วณที่ ข. จะเกิดการหักเหของคลืน่ ภายในโลก คลน่ื ไหวสะเทือนมีความเร็วเพ่มิ ขนึ สม่า้ เสมอ

409)ฟวิ ซูลนิ ดิ ทรงรี หรือคตขา้ วสาร พบมากในหินกลุม่ ใด ค. คลนื่ จะเคล่อื นที่เปน็ เสน้ ตรง

ก. กลุม่ หินตะรุเตา ข. กล่มุ หินสระบรุ ี ง. คลื่นทจ่ี ะถูกดดู กลืน

ค. กลมุ่ หินงาว ง. กลุม่ หินโคราช จ. คลื่นจะสะท้อนกลับทังหมดท่ีจดุ ศนู ยก์ ลางของโลก

จ. กลมุ่ หินกระบ่ี 416)แนวไมต่ อ่ เนือ่ งโมโฮโรวิซกิ หรอื โมโฮคอื บริเวณใด

410)กาแลก็ ซีมรี ูปแบบแตกตา่ งกันในลักษณะแบบกงั หัน แบบกงั หัน ก. บริเวณรอยต่อระหวา่ งชนั เนอื โลกกับแกน่ โลก

มคี าน และแบบทรงรี สิ่งใดท่ที า้ ใหร้ ปู ร่างของกาแล็กซีแตกต่าง ข. บริเวณรอยตอ่ ระหวา่ งชันเนือโลกกบั เปลือกโลก

กนั ค. บริเวณรอยตอ่ ระหว่างชันเปลือกโลกกบั ชันเนือโลก

ก. ขนาดของกาแลก็ ซี ข. อายขุ องกาแลก็ ซี ง. บริเวณรอยตอ่ ระหวา่ งชนั เนอื โลกสว่ นบนกบั เนอื โลกส่วนล่าง

ค. มวลรวมของกาแลก็ ซี จ. บริเวณรอยต่อระหวา่ งชันเปลือกโลกทวีปกับเปลอื กโลก

ง. ความเรว็ ในการหมุนรอบตัวเองของกาแลก็ ซี มหาสมุทร

จ. ความเรว็ ในการหมนุ รอบดวงอาทิตยข์ องกาแล็กซี 417)หลักฐานการเกิดหนิ ในขอ้ ใดต่อไปนี แสดงถึงการปะทขุ องภเู ขาไฟ

411)ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ งท่สี ุดเก่ียวกับดาวเซตานายพรานมีสีน้าเงิน และ ก. หนิ แอนดไี ซต์ หินบะซอลต์

ดาวปารชิ าตมีสแี ดง ข. หินไดไอโรต์ หินไรโอไลต์

ก. ดาวเซตานายพรานมีอายุน้อยกวา่ ดาวปาริชาต ค. หนิ แอนดีไซต์ หนิ แกรนิต

ข. ดาวเซตานายพรานมีอณุ หภูมิผวิ นอ้ ยกวา่ ดาวปาริชาต ง. หินไดไอโรต์ หินบะซอลต์

ค. ถา้ ดวงอาทติ ย์มีสเี หลือง ดวงอาทิตย์จะมีอายมุ ากกวา่ ดาวเซ จ. หินบะซอลต์ หนิ แกรนติ

ตานายพราน 418)ขอ้ ความใดต่อไปนกี ล่าวถกู ต้อง ง. ถ้าดวงอาทิตยม์ ีสเี หลอื ง ดาวปารชิ าตจะมีอุณหภูมผิ วิ ก. แนวไม่ต่อเนอื่ งโมโฮโรวซิ กิ เปน็ บริเวณรอยตอ่ ระหว่างชัน เปลือกโลกกบั แกน่ โลก มากกวา่ ดวงอาทิตย์ ข. ระหว่างแกน่ โลกกับเนือโลก จะมีแนวท่เี รียกวา่ แนวไม่ จ. ถกู ทงั 1 และ 3

412)เม่อื เกดิ พายสุ ุรยิ ะข้อใดไมใ่ ช้ผลกระทบตอ่ โลก ต่อเนื่องกูเทนเบริ ์ก

ก. การเกดิ ฝนดาวตกจ้านวนมาก ค. เปลือกโลกทวปี มอี งคป์ ระกอบส่วนใหญ่เป็นซิลิกอน จึงเรยี ก

ข. การตดิ ขัดทางการสื่อสารโดยวิทยุคลื่นสนั สว่ นนนั วา่ ไซมา

ค. การเปล่ียนบิตขอ้ มูลในรปู ตัวเลขฐานสอง ง. เปลือกโลกมหาสมทุ ร มอี งค์ประกอบสว่ นใหญ่เป็นอะลูมเิ นียม

ง. แผงรบั แสงอาทติ ย์ในดาวเทยี มถูกทา้ ลาย จงึ เรียกส่วนนันวา่ ไซอัล

จ. นักบนิ อวกาศถูกเลยี่ นแปลงดเี อน็ เอ

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 35

จ. ระหว่างชนั เปลอื กโลกตอนบนกับเปลอื กโลก เรยี กว่าชันทราน ค. ใช่เพราะเป็นผลกระทบจากการเกิดแผน่ ดนิ ไหวในอดีตที่ส่งผล

ซิซัน ตอ่ ปัจจบุ นั

419)สารจ้าพวกเหลก็ และนเิ กรลิ มกั พบในปรมิ าณมากในบริเวณในโลก ง. ไม่ใช่เพราะแผน่ ดินไหวในปจั จบุ นั มีความรุนแรงและอตั ราการ

เหตใุ ดจงึ เปน็ เช่นนัน เกิดต้่ากว่าในอดีต

ก. มีสถานะเป็นของแข็ง จ. ไมใ่ ชเ่ พราะเราไมม่ หี ลกั ฐานแน่ชัดว่าปรากฏการณ์แผ่นดินไหว

ข. มีสถานะเป็นของเหลว ใ น อ ดี ตมี อั ตร า ก า ร เ กิ ด ต้่ า ก ว่ า ใ น ปั จ จุ บั น แ ต่ ค า ดว่ า น่ า จ ะ

ค. ความถว่ งจ้าเพาะต้า่ ใกลเ้ คยี งกับในปัจจุบนั

ง. ความถ่วงจา้ เพาะสูง 425)แร่ธาตุในข้อใดที่สามารถพบได้ในหินปูนของกลุ่มหินสระบุรี ซ่ึง จ. เป็นธาตทุ ม่ี เี ลขอะตอมนอ้ ย สะสมตัวอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบทะเลบรเิ วณไหล่ทวีปในยุคเพอร์

420)ถ้าดวงอาทิตย์มีอณุ หภูมลิ ดลงจากเดิม 2500 เคลวนิ ดวงอาทิตยจ์ ัด เมยี น

อยูใ่ นกลมุ่ ใด ก. แคลไซต์ ข. โดโลไมต์

ก. M ข. G ค. F ค. ไรโอไลต์ ง. แอมโมไรต์

ง. A จ. O จ. ฮีมาไทต์

แนวข้อสอบเข้ามหาวิทยาลยั ชดุ ท่ี 8 426)ตามแผนทีบ่ รเิ วณเสีย่ งแผ่นดินไหวของประเทศไทย จังหวัดในขอ้ ใด

อยู่ในกลุ่มพืนท่ีที่ไม่มีความเส่ียงภัยจากแผ่นดินไหว และไม่

421)ข้อใดไมไ่ ด้รวมอยู่ในทวีป กอนดว์ านา ตามทฤษฎกี ารแปรสณั ฐาน จา้ เปน็ ตอ้ งออกแบบอาคารรับแรงแผน่ ดินไหว

ของแผน่ ธรณี ก. ขอนแกน่ ข. กาญจนบุรี

ก. ทวีปแอนตาร์กติกา ข. ทวปี แอฟรกิ า ค. เชยี งใหม่ ง. ตาก

ค. ทวปี อนิ เดีย ง. ทวีปอเมริกาเหนือ จ. นครศรธี รรมราช

จ. ทวปี ออสเตรเลยี 427) ภูเขาไฟที่มีรูปทรงดังข้อใดเกิดจากการท่ีลาวามีการแข็งตัวช้ าและ

  1. การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาคแบบใดสัมพันธ์กับหุบเขาทรุดใน อัตราการไหลเรว็ มาก บริเวณรอยแยกแอฟรกิ าตะวันออกมากท่ีสุด ก. การเคลอ่ื นทีเ่ ขา้ หากนั ของแผน่ ธรณภี าคพืนทวปี ก. ภูเขาไฟรปู โล่ ข. บะซอลต์โคน ข. การเคลอื่ นทเ่ี ขา้ หากนั ของแผ่นธรณภี าคใตส้ มทุ ร ค. การเคลือ่ นทเี่ ข้าหากันของแผ่นธรณภี าคใตส้ มทุ รกับแผ่นธรณี ค. ภเู ขาไฟแบบกรวยกรวด ง. ภเู ขาไฟกรวยแบบสลับชัน

ทวปี จ. ภูเขาไฟแบบกรวยสงู ง. การเคลอ่ื นท่ีแยกออกจากกันชองแผ่นธรณีภาคใต้สมทุ ร จ. การเคลือ่ นท่แี ยกออกจากกนั ชองแผ่นธรณภี าคพนื ทวีป 428)พิจารณาข้อความต่อไปนี ข้อใดอธิบายการขึนลงของน้าใน

มหาสมทุ รไดถ้ กู ต้อง

1. การขึนลงของนา้ ในมหาสมทุ รเกิดจากแรงดงึ ดูดของดวงจนั ทร์

2. น้าขึนสูงสุดในวันขนึ 7-8ค่้า และน้าขึนนอ้ ยทส่ี ุดในวันขึน 15

423)ตังแต่ยุตแคมเบรียนจนถึงปัจจบุ ัน วิวัฒนาการของส่ิงมชี ีวิตโบราณ ค้า่ ในวันต่อๆมานา้ จะขึนชา้ 52นาที ในช่วงเวลาใดทม่ี กี ารสูญพันธ์ของส่ิงมีชีวติ มากทส่ี ุด ก. ในช่วงยคุ ดิโวเนียน 3. การขนึ ลงของน้าในมหาสมทุ รเกิดจากการสนั ของทอ้ ง ข. ในชว่ งยคุ เพอร์เมียน ค. ในชว่ งยุคครเี ทเซียส มหาสมุทร โดยเฉพาะเวลาทเี่ กดิ แผ่นดนิ ไหวใกล้น้ามหาสมุทร ง. รอยต่อระหว่างยคุ เพอร์เมียนกบั ไทรแอสซิก จ. รอยตอ่ ระหว่างยคุ ออร์โดวิเซยี นกับไซลูเรยี น ก. 1 เทา่ นัน ข. 2 เทา่ นัน ค. 3 เทา่ นนั

ง. 1 และ 2 จ. 1 และ 3

424)ปรากฏการณแ์ ผน่ ดินไหวในปัจจุบนั มีความรนุ แรงและอตั ราการเกิด 429)ในขณะท่ีคล่ืนที่ p เคลื่อนท่ีผ่านชันดิน อนุภาคของชันดินจะมีการ แผ่นดินไหวสงู กว่าในอดีตหรือไม่เพราะเหตใุ ด เคล่อื นทีอ่ ย่างไร ก. ใช่เพราะเป็นผลกระทบของพายสุ รุ ิยะที่ถูกปลดปล่อยจากดวง ก. วิง่ ขึน-ลงในแนวดิ่งตงั ฉากกับทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ขี องคล่นื อาทิตย์ ข. วิง่ ซ้าย-ขวาในแนวราบตงั ฉากกบั ทศิ ทางการเคลือ่ นท่ีของคล่นื ข. ใช่เพราะปจั จบุ ันมีรายงานการเกดิ แผน่ ดนิ ไหวในส่วนต่างๆ ค. ว่ิงกลบั ไปกลับมาในแนวราบขนานกับทิศทางการเคลื่อนท่ีของ ของโลกบ่อยครัง คลนื่ ง. ว่ิงกลับไปกลับมาในแนวราบตังฉากกับทิศทางการเคล่ือนท่ี ของคล่นื จ. หมุนวนเปน็ วงรขี นานกับทศิ ทางการเคลอ่ื นทีข่ องคลืน่

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 36

430)ดาวฤกษม์ ีสอี ยา่ งไร จะมีอุณหภูมสิ .ู ทส่ี ดุ 437)เมอื่ มองดูท้องฟ้าเวลากลางคืน หากพบจดุ แสงขนาดเล็กเคลอื่ นท่ี

ก. สีสม้ ข. สขี าว ช้าๆอยบู่ นท้องฟา้ ดว้ ยความเรว็ คงท่ี จุดแสงนันอาจจะเปน็ วตั ถไุ ด้

ค. สีน้าเงนิ -ขาว ง. สีเหลือง-ขาว หลายชนดิ ยกเวน้ ขอ้ ใด

จ. สขี าว-น้าเงิน ก. เคร่อื งบิน

431)โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์1รอบใช้เวลา1ปี ผ่านกลุ่มดาวจักรราศี ข. กล้องโทรทรรศนอ์ วกาศฮบั เบิล ต่างๆ12กลุ่มในตอนหัวค่้าคืนท่ีมีท้องฟ้าโปร่ง ผู้สังเกตบนโลก ค. สถานีอวกาศนานาชาติ มองเหน็ กลมุ่ ดาวมังกรปรากฏขึนเปน็ กล่มุ แรก ในชว่ งเวลานนั ดวง ง. เครื่องบินและสถานอี วกาศ อาทิตยผ์ ่านเข้าใกล้กลุ่มดาวจกั รราศใี ดและตรงกับเดอื นอะไร จ. เป็นไปได้ทกุ ขอ้

ก. กลุม่ ดาวแกะ/เดือนเมษายน 438)ข้อใดกลา่ วถึงความแตกตา่ งของกระสวยอวกาศกบั จรวดขนสง่

ข. กลุม่ ดาวคนค่/ู เดอื นมิถุนายน ก. มีขนาดใหญก่ วา่ ข. ใช้เชือเพลงิ มากกว่า

ค. กลุ่มดาวสิงโต/เดือนสิงหาคม ค. เคล่อื นทไ่ี ด้เรว็ กว่า ง. นา้ กลบั มาใชไ้ ด้

ง. กลุม่ ดาวปลา/เดอื นมนี าคม จ. การรับส่งสัญญาณ

จ. กลมุ่ ดาวแมงปอ่ ง/เดอื นพฤศจกิ ายน 439)ถ้าดาวฤกษ์ดวงหน่ึงแรกเกิดมีอุณหภูมิผิว 9900 เคลวิน เม่ือเวลา

432)การเรยี งชนดิ สเปรตรัมของดาวตามข้อใดทเี่ รียงระดับอุณหภูมขิ อง ผ่านไปอุณหภมู ิจะเปล่ียนไปเป็น 5600 4000 และ 3000 เคลวิน สี

ดาวจากสงู ไปต้า่ ตามลา้ ดบั ของดาวจะเปลย่ี นแปลงจากแรกเกดิ อย่างไรตามล้าดับ

ก. B A F G ข. A B F G ก. ขาว แดง เหลือง สม้ ข. ขาว แดง ส้ม เหลอื ง

ค. A B G F ง. B A G F ค. ขาว ส้ม แดง เหลือง ง. ขาว เหลอื ง สม้ แดง

จ. B F A G จ. ขาว ส้ม เหลือง แดง

  1. กลุ่มหินตะกอนที่มีหลักฐานซากดึกด้าบรรพ์ไทรโลไบต์ที่บ่งชี อายุ 440)สถานีอวกาศนานาชาติเรมิ่ โครงการตังแต่ปี พ.ศ. 2538 ถึงปัจจบุ ัน สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าโดยพบว่ามีความสว่างมากกว่าในปี เก่าแก่ท่ีสดุ ในประเทศไทยคือข้อใด พ.ศ. 2538 มากความสวา่ งทเ่ี พมิ่ ขนึ นีเกดิ จากอะไร ก. สถานอี วกาสยายาชาตมิ ขี นาดใหญข่ นึ ก. กลุ่มหินตะรเุ ตา ข. กลมุ่ หินโคราช ข. สถานอี วกาศนานาชาตมิ ีวงโคจรต้า่ ลง ค. สถานอี วกาศนานาชาติมีการใชไ้ ฟฟา้ มากขนึ ค. กลุ่มหนิ สระบรุ ี ง. กลมุ่ หนิ ราชบุรี ง. สถานอี วกาศมกี ารผลติ ไฟฟา้ มากขนึ จ. สถานอี วกาศนานาชาติมกี ารเผาไหมข้ องเชือเพลิงมากขึน จ. กลุม่ หนิ ล้าปาง
  1. จุดบนพืนผิวโลกที่ตรงกับจุดก้าเนิดแผ่นดินไหวใต้ผิดโลกเรียกว่า

อะไร

ก. focus ข. epithermal

ค. epicenter ง. hypocenter 441)วัตถุท่ีไมส่ ามารถเกดิ อุปราคาเป็นเงาบังดวงอาทติ ย์ได้เมือ่ มองจาก โลกคอื ขอ้ อใด จ. Hypothermal ก. ดวงจันทรแ์ ละดาวพุธ ข. ดาวพุธ ค. ดวงจนั ทร์และดาวศุกร์ ง. ดาวอังคาร 435)ดาว A มีอันดับความสว่างเท่ากับ -20 ส่วนดาว B มีอันดับความ จ. ดาวศุกร์

สว่างเทา่ กับ -15 แสดงวา่ มคี วามสว่างแตกตา่ งกันกี่เท่า

ก. 40 เทา่ ข. 70 เท่า

ค. 100 เทา่ 442) ถ้านักบินอวกาศลงไปอยู่บ นดวงจั นทร์แล ะสั งเกตพบกา ร เ กิด

ง. 150 เท่า จ. 250 เทา่ สุ ริ ยุ ป ร า ค า เ ต็ ม ด ว ง บ น ด ว ง จั น ท ร์ ใ น ข ณ ะ นั น บ น โ ล ก จ ะ

436)ดาวฤกษ์ดวงหนึ่งมีสีน้าเงินขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 8 เกดิ ปรากฎการณใ์ ด

เท่า เม่ือใช้พลังงานหมดดาวฤกษ์ดวงนีจะมีโอกาสเกิดการระเบิด ก. สรุ ิยุปราคา ข. จันทรุปราคา

แลว้ แตกสลายตวั ไดเ้ ป็นอะไร ค. แรม15ค่า้ ง. พระอาทติ ยท์ รงกลด

ก. ดาวยกั ษ์แดง จ. ไมม่ ขี ้อถกู

ข. ดาวแคระขาว 443)ชนั ของโครงสร้างโลกในขอ้ ใดทมี่ กี ระแสการพาความร้อน

ค. ดาวนวิ ตรอน ก. เนอื โลก ข. ธรณภี าค

ง. ดาวยักษใ์ หญ่แดง ค. ฐานธรณภี าค ง. แกน่ โลกชันนอก

จ. เปน็ แกส๊ ไปทงั หมด จ. แกน่ โลกชันใน

โดย ครูสุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 37

444)การเคล่ือนตัวเข้าหากันของแผ่นธรณีออสเตรเลียกับแผ่นธรณี 449)คลื่นแผ่นดินไหวประเภทใดเดินทางผ่านตัวกลางที่เป็นของเหลว

ยเู รเซยี ท้าให้เกดิ ภมู ปิ ระเทศในข้อใด ไม่ได้

ก. หมู่เกาะฟลิ ปิ ปนิ ส์ ก. Body wave ประเภท P wave

ข. บรเิ วณทะเลแดง ข. Body wave ประเภท s wave

ค. แนวภูเขาไปญีป่ นุ่ ค. Body wave ประเภท P wave และ s wave

ง. เทอื กเขาหิมาลยั ในทวปี เอเชยี ง. Surface wave ประเภท Rayleigh wave

จ. เทือกเขาแอลลใ์ นทวีปยุโรป จ. Surface wave ประเภท love wave

  1. ในคืนหนึ่งนายเอวัดต้าแหน่งของดาวพฤหัสบดีจากบ้านของ 450)เวลา 01.00 น ของวันที่21 มีนาคม ท่ีกรุงเทพ ซ่ึงตังอยู่ท่ีเส้น ตนได้มุมอาชมิ ุท 90 องศา และมุมเงย 80 องศา ถ้าบ้านของ ลองจิจูล 100.5 องศาตะวันออก ณ เวลาเดียวกันท่ีเมืองกรนี ิช นายบีอยู่ห่างจากบ้านนายเอเปน็ ระยะทาง1กิโลเมตรในแนว จะตรงกบั เวลาและวนั ทเ่ี ท่าใด ตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเทียบกับบา้ นของนายเอ ท้าการวดั ก. 08.00 น. ของวันท่ี20 มนี าคม ต้าแหน่งของดาวพฤหัสบดีในเวลาเดียวกัน ถ้านายเอวัดได้ ข. 08.00 น. ของวันท2ี่ 1 มนี าคม ถกู ต้อง นายบคี วรวดั ต้าแหนง่ ไดเ้ ท่าใด ค. 18.00 น. ของวนั ท2่ี 0 มนี าคม ก. มุมอาซิมุท 45 องศา มมุ เงย 80 องศา ง. 18.00 น. ของวนั ท่ี21 มนี าคม ข. มมุ อาซิมทุ 45 องศา มุมเงย 90 องศา จ. 19.00 น. ของวันที่21 มีนาคม ค. มมุ อาซมิ ุท 90 องศา มมุ เงย 35 องศา ง. มมุ อาซิมทุ 90 องศา มมุ เงย 80 องศา 451)ชันใดมีสถานนะเปน็ ของเหลวทงั หมด จ. มมุ อาซมิ ุท 135 องศา มุมเงย 35 องศา ก. เปลือกโลก (Crust) ข. เนือโลก (Mantle)

ค. แก่นโลกชนั นอก (Outer core)

  1. ส า เ ห ตุ ที่ ท้ า ใ ห้ ค น บ น โ ล ก ม อ ง เ ห็ น ด ว ง จั น ท ร์ เ พี ย ง ด้ า น เ ดี ย ว ง. แกน่ โลกชนั ใน (Inner core) ตลอดเวลาเกดิ จากข้อใด ก. โลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลาน้อยกว่าดวงจันทร์โคจรรอบโลก จ. ไม่มีชันใดท่มี ีสถานะเป็นของเหลวทังหมด หนึง่ รอบ ข. โลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลามากกว่าดวงจันทร์โคจรรอบโลก 452)ขอ้ ใดตอ่ ไปนกี ลา่ วไม่ถูกต้อง หน่ึงรอบ ก. โลกเปน็ ดาวเคราะห์ 1 ใน 4 ดวงท่ีมอี งค์ประกอบเป็นหนิ ค. ดวงจันทร์เคล่ือนที่ปรากฏประจ้าวันทางทิศตะวันออกใน ข. ชันหินหลอมละลาย (Magma) มีความลึกตังแต่ 10-70 ทศิ ทางเดยี วกบั โลกหมุนรอบตัวเอง กโิ ลเมตร ง. ดวงจันทร์โคจรรอบโลกจากทิศตะวันตกออกในทิศเดียวกับ ค. แก่นโลกแบ่งออกเป็น 2 ชัน คือ แก่นโลกชันนอก (Outer โลกหมนุ รอบตัวเอง core) แก่นโลกชันใน (Inner core) จ. ระยะเวลาท่ีดวงจันทร์โคจรรอบโลกหนึ่งรอบเป็น ง. ฝนุ่ โดยรอบรวมตัวกนั เกิดเปน็ ดาวเคราะห์ตา่ งๆ ช่วงเวลาเดยี วกบั ดวงจนั ทรห์ มนุ รอบตวั เองครบหนึ่งรอบ จ. โครงสรา้ งของโลกประกอบด้วย เปลือกโลก (Crust) เนือโลก (Mantle) และแกน่ โลก (Core) 447)จากเหตกุ ารณแ์ ผ่นดนิ ไหวรุนแรงขนาด 6.4 ริกเตอร์ ในพืนท่ีภาคใต้ ของเกาะไต้หวันเมอ่ื วันท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2559 เกดิ จากการเล่ือน 453)ข้อใดกล่าวถกึ ต้องเกี่ยวกับการเกิดแผน่ ดนิ ไหว ตัวของของรอยเลอื่ นแบบใด ก. การเกิดแผน่ ดนิ ไหวเกิดจากฐานธรณภี าคมีการหลอมเหลว ก. รอยเล่ือนยอ้ น ข. การเกิดแผน่ ดินไหวเกิดจากการที่แก่นโลกชันในมีการหลอม ข. รอยเลอื่ นตามแนวระดบั เหว ค. รอยเลอ่ื นปกติ ค. การเกดิ แผ่นดินไหวเกิดจากแกน่ โลกชันในมกี ารเคลอ่ื นท่ี ง. รอยเล่อื นย้อน รอยเลอ่ื นตามแนวระดับ กระทบเฉอื นกนั จ. รอยเลือ่ นปกติ รอยเลอ่ื นตามแนวระดับ ง. การเกิดแผน่ ดินไหวเกิดจากฐานธรณีภาคมีการเคล่อื นท่ี แยกออกจากกนั กระทบกนั มดุ ลงด้านใต้เฉือนกนั 448)ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ในกลุ่มสเปกตรัม G ซึ่งมีอุณหภูมิที่ผิว จ. การเกดิ แผ่นดินไหวเกิดจากแผน่ ธรณีภาคมกี ารเคลื่อนที่ กระทบกนั จงึ เกิดการสนั่ เทือน

ประมาณเทา่ ใด 454)ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ฐานธรณีภาค (Asthenosphere) ได้ถูกตอ้ ง ก. ฐานธรณีภาค เรยี กอีกอยา่ งหน่ึงคือ เนอื โลก ก. 2400 K ข. 12000 K ค. 6000 K ข. มีความลึก 100-350 กิโลกเมตร

ง. 3000 K จ. 2000 K

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 38

ค. เป็นชนั ท่มี หี ินหลอมเหลวไหลไปมาทา้ ให้เกิดการเคลอ่ื นทขี่ อง 460)หินชนดิ ใดทม่ี ีความพรนุ สงู และสามารถลอยน้าได้

ธรณีภาค ก. หนิ บะชอลต์ ข. หนิ พมั มิช

ง. ถูกทงั ข้อ ก และ ค ค. หนิ แกร ง. หนิ ตะกอน

จ. ถูกทังข้อ ก,ข และ ค จ. หินไรโอไลต์

455)จุดท่ีเกิดแผ่นดินไหวเรียกว่าอะไร และพืนผิวเหนือจุดที่ดินไหว แนวข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพ่มิ เตมิ เรียกวา่ อะไร ก. จุด Richter , จดุ Epicenter 461) สาเหตุหลักท่ีท้าให้เปลือกโลกมีก ารเปลี่ยนแปลงและเกิดเป็นภูมิ ข. จดุ Richter, จดุ Body wave ประเทศลกั ษณะต่างๆ หลากหลายอยา่ งท่เี ราเหน็ คืออะไร ค. จุด Focus, จุด Epicenter ก. ระยะเวลา ง. จดุ Focus, จดุ Body wave ข. วฎั จกั รหนิ จ. จดุ Focus, จดุ Richter ค. การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณภี าค ง. วิวฒั นาการของสง่ิ มชี ีวติ 456)แผ่นดนิ ไหวที่รุนแรงทส่ี ดุ ในโลกมีความแรงเท่าไรและเกิดในประเทศ ใด 462) กร ะบ ว นกา ร เป ลี่ ยน ลั กษณะข องโค ร งส ร้ างโล กเกิดไ ด้ จ ากแรง ก. 8.5 รกิ เตอร์ ในประเทศอนิ เดยี ข. 9.5 รกิ เตอร์ ในประเทศอนิ เดีย อะไรบา้ ง ค. 8.5 ริกเตอร์ ในประเทศชิลี ง. 9.5 ริกเตอร์ ในประเทศชิลี ก. แรงเคน้ บีบอดั ข. แรงเคน้ ดึง จ. 10 ริกเตอร์ ในประเทศชิลี ค. แรงเคน้ เฉอื น ง. ถกู ทกุ ข้อ

457)ระดบั ความรุนแรงเทา่ ใดทเ่ี ริม่ ทา้ ให้ประชาชนรู้สึกไดช้ ัดเจนและเกิด 463)ข้อใดมีใจความไม่ตรงกับหลักการวางตัวซ้อนทับ( law of superposition) ความตระหนกในหมู่ประชาชน ก. ชนั หนิ ดา้ นบนมีอายนุ อ้ ยทส่ ดุ ข. หลกั ข้อนมี ีข้อยกเวน้ บางกรณี ก. 2 รกิ เตอร์ ข. 3 ริกเตอร์ ค. ชนั หินดา้ นล่างมีอายุมากที่สดุ ง. สามารถใช้ได้กบั ชันหินท่ถี กู กระทา้ แลว้ ค. 4 ริกเตอร์ ง. 6 ริกเตอร์

จ. 8 รกิ เตอร์

458)การเกิดสนึ ามิในวนั ท่ี 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 เกิดขึนในมหาสมทุ ร 464) จากรปู อะไร ก. มหาสมทุ รอนิ เดยี จงเรียงล้าดบั อายุหินจากนอ้ ยไปมาก ข. มหาสมทุ รแปซฟิ กิ ก. จ ก ข ค ง ค. มหาสมุทรแอตแลนติก ข. จ ง ค ข ก ง. มหาสมทุ รอาร์กติกา ค. ก ข ค ง จ จ. มหาสมุทรอ่าวไทย ง. ง ค ข ก จ

  1. เหตุการณ์ในข้อใดแสดงให้เห็นว่าบริเวณดังกล่าวไม่เคยมีภูเขาไฟ 465) โครงสร้างท่ีเรียกว่า ”แหล่งปะการังอานม้า ”เกิดจากการเปลี่ยน กอ่ น ลกั ษณะรปู แบบใด ก. เดก็ หญงิ ส้มพบหนิ แกรนติ ที่สวนหลังบ้านคณุ ยายขณะขุด ก. การเล่อื นของชันหิน ข. การแตกแยกของแผน่ เปลือกโลก ดินเลน่ กบั เพื่อน ค. การไถลของชนั หนิ ง. การโค้งของชันหิน ข. เดก็ หญิงแตงโมพบหนิ บะซอลตแ์ ถวบา้ นป้าและนยิ มน้ามา ทา้ อัญมณี 466)ในชนั หนิ ที่มีการคดโคง้ รูปประทนุ หินท่มี อี ายมุ ากท่สี ุดจะอยบู่ รเิ วณ ค. เด็กชายมงั คุดพบหนิ ไรโอไลตม์ ีสีชมพูและเหลอื งในแปลง สวนที่บ้านจา้ นวนมาก ใด ง. เด็กชายลา้ ไยพบหินพมั มซิ ลอยนา้ มาทีค่ ลองในหมู่บา้ น จ. เดก็ ชายหน่อยพบหนิ ตะกอนอินทรีย์จ้านวนมากในหมู่บา้ น ก. หนิ ท่ีอยนู่ อกสดุ ข. หนิ ที่อยบู่ ริเวณแกนคดโคง้ ซึง่ คุณแม่จะชอบเรียกวา่ ถา่ นหิน ค. หินทอี่ ย่ลู ่างสดุ ง. หนิ ที่วางตัวในแนวระนาบ

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 39

467)หินทแ่ี ทรกเข้าไปอยใู่ นชันหนิ ตะกอน สว่ นมากเปน็ หินชนิดใด 476)รอยชันตอ่ เน่ือง เกิดจากอะไร

ก. หินอัคนี ข. หินชนวน ก. เกดิ จากแรกเคน้ ภายนอกที่มากกระทา้

ค. หินทราย ง. หินดินดาน ข. เกดิ จากการขาดหายของการตกตะกอน

468)การเปล่ยี นลกั ษณะของชันหินแบบใดที่เกิดขณะที่หินยงั มลี ักษณะ ค. เกดิ การเคลอ่ื นทีข่ องแผ่นเปลือกโลก ออ่ นนม่ิ อยู่ ง. เกดิ จากมดุ ตวั ของแผน่ ธรณี

ก. รอยเลือ่ น ข. รอยเฉือน 477)การโค้งงอของชนั หนิ จะทา้ ให้เกดิ ลักษณะภมู ิประเทศแบบใด

ค. รอยคดโคง้ ง. ถกู ทงั ขอ้ ข. และ ค. ก. หบุ เขา ข. ภูเขา

469)“รอยเลือ่ นมพี ลงั ”ต้องมีการเคลือ่ นทีอ่ ยา่ งนอ้ ย1ครงั ภายในเวลากีป่ ี ค. สันเขา ง. ถูกทงั ข และ ค

ก. 100ปี ข. 1000ปี 478)รอยชันไมต่ อ่ เน่ืองแบบใดทมี่ ีแนวการกัดร่อนแยกชันตะกอนอายุ

ค. 10,000 ปี ง. 100,000 ปี นอ้ ยออกจากหินอัคนีอายมุ ากกวา่

470)ความเค้นดงึ ส่งผลอยา่ งไรต่อโครงสรา้ งหิน ก. disconformity fault ข. nonconformity fault ก. ท้าใหโ้ ครงสรา้ งหนิ เกิดรอยแตก ค. angular uniformity fault ง. ไม่มีข้อถกู

ข. เกิดรอยโคง้ ในชนั หิน 479)รอยเลื่อนเกิดไดช้ ันเจนที่สุดบนหินประเภทใด

ค. เกิดรอยเฉือนในโครงสรา้ งหินใต้เปลอื กโลก ก. หินตะกอน ข. หนิ แปร

ง. ถูกทุกขอ้ ค. หินอัคนี ง. หินภูเขาไฟ

471)ภเู ขาท่ีตังอยู่บนโลกแลว้ จะสามารถเกดิ การคดโค้งไดห้ รอื ไม่ เพราะ 480)รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทยสว่ นใหญ่ในภาคใด เหตุใด ก. ได้ เพราะเม่ือถกู แรงเค้นบบี อัดกระท้ากจ็ ะเกิดการคดโคง้ ก. เหนอื ข. ตะวนั ออก ข. ได้ เพราะหนิ มีคณุ สมบัติยดึ หยนุ่ ค. ไม่ได้ เพราะการคดโคง้ ของหินจะเกิดกบั หินทมี่ ีสภาพอ่อนนิ่ม ค. ใต้ ง. ตะวันตก ใต้ผวิ โลกเท่านนั ง. ไมม่ ีขอ้ ถกู 481)จากลกั ษณะโครงสรา้ งทางธรณีของชันหินตามรูป

472)ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง อายุของหนิ เรยี งล้าดบั จากมากไปนอ้ ยเป็นไปตามข้อใด (วทิ ยพ์ ืน’48) ก. การคดโค้งของชนั หินเกดิ จากแรงภายนอกมากกระท้าชันหิน ใหเ้ ปล่ยี นรปู ไปแลว้ ไม่สามารถกลบั คืนสู่สภาพเดิมได้ ก. D E C B A ข. ชนั หนิ คดโคง้ รปู ประทุน หินทม่ี อี ายมุ ากจะบริเวณส่วนท่ีเป็น แกนคดโค้ง ข. E D C B A ค. ชนั หนิ คดโค้งรูปประทนุ หงาย ส่วนทีอ่ ยูบ่ รเิ วณแกนคดโคง้ เป็นบรเิ วณที่หนิ มอี ายนุ อ้ ย ค. A B C D E ง. ถูกทุกขอ้ ง. A B C E D

473)การเคลื่อนท่ผี ่านกันของหินตามระนาบรอยแตก เรยี กว่าอะไร จ.

482)ปรากฏการณ์ธรรมชาติใดต่อไปนี มักเกิดขึนพร้อมกบั การเกดิ พายุ

ก. รอยเล่อื น ข. รอยคดโค้ง ฝนฟ้าคะนอง

ค. รอยชนั ไม่ต่อเนื่อง ง. รอยเทเออียง ก. ฟ้าแลบ ฟา้ ร้อง และฟา้ ผา่ ข. มีลมกรรโชกแรง

474)ระนาบรอยเลื่อนทีห่ นิ เพดาน (hanging wall) มกี ารเคล่ือนทีล่ ง แต่ ค. มลี ูกเหบ็ ตก ง. ถกู ทกุ ขอ้

หนิ พนื (foot wall) มีการเคลื่อนท่ขี นึ จัดเป็นรอยเลอ่ื นประเภทใด 483)ขอ้ ใดกลา่ วถงึ “พายฤุ ดรู ้อน” ได้ถูกตอ้ งท่ีสุด ก. เปน็ พายุฝนฟ้าคะนองทีเ่ กิดขนึ ในภูมิอากาศเขตรอ้ นและมี ก. รอบเล่อื นยอ้ น ข. รอยเลอ่ื นย้อนมุมต่้า ความรนุ แรงมากกว่าปกติ ข. ในประเทศไทยพายุประเภทนีสามารถกอ่ ตวั ไดเ้ กอื บ ค. รอยเลอ่ื นปกติ ง. รอยเล่อื นตามแนวระดับ ตลอดเวลาและในทุกพืนทโี่ ดยเฉพาะชว่ งฤดรู ้อน ค. จัดเปน็ พายหุ มุนเขตรอ้ นก้าลงั ปานกลางกอ่ ตวั ในมหาสมุทร 475)ระนาบรอยเล่ือนทห่ี นิ เพดาน (hanging wall) มกี ารเคลอื่ นที่ขนึ แต่ แปซฟิ ิกและทะเลจีนใต้ ง. ถกู ทงั ข้อ ก และ ข หินพนื (foot wall) มีการเคล่อื นทล่ี ง จัดเป็นรอยเล่ือนประเภทใด

ก. รอบเลือ่ นย้อน ข. รอยเล่ือนย้อนมมุ ต่้า

ค. รอยเลื่อนปกติ ง. รอยเลอ่ื นตามแนวระดับ

โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 40

484)ปรากฏการณ์ฟา้ แลบและฟา้ ผา่ เกิดขึนจากสาเหตุใด ก. พายุดเี ปรสชั่น ข. ไซโคลน

ก. เกิดจากการถา่ ยประจบุ วกซึง่ กนั และกันระหว่างก้อนเมฆและ ค. ไตฝ้ ุ่น ง. วลิ ลี่ – วิลลี่

พืนดนิ 491) ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวในบ ริเวณ ข. เกดิ จากการถ่ายเทประจุอิเล็กตรอนระหวา่ งก้อนเมฆกับก้อน ใดบ้าง ก. มหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมทุ รอนิ เดีย เมฆ หรือกอ้ นเมฆกับพืนดนิ ข. มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลจีนใต้ ค. เกิดจากการว่งิ ชนกนั ของอนภุ าคในอากาศ ทา้ ใหม้ กี ารคาย ค. มหาสมทุ รแปซฟิ กิ ใตแ้ ละอา่ วเบงกอล ง. มหาสมทุ รแปซิฟิกและอา่ วไทย พลงั งานในรปู แสง ง. ถูกทุกข้อ

485)เพราะเหตุใดเราจึงเหน็ ฟา้ แลบก่อนฟ้าร้อง ทังที่ปรากฏการณท์ งั สอง 492)พายหุ มนุ เขตร้อนใดบา้ งที่ก่อตวั ขึนในมหาสมทุ รแปซิฟกิ เกดิ ขนึ พรอ้ มกนั ก. เพราะขณะท่ีประจุอิเล็กตรอนเคลื่อนท่ีแหวกอากาศประจุ ก. ไซโคลน ข. วิลลี่ – วลิ ล่ี อิเล็กตรอนจะชนอนุภาคที่อยู่ในอากาศท้าให้อนุภาคนันคาย พลงั งานในรปู ของแสงทันที จงึ ท้าใหเ้ ห็นแสงก่อนได้ยินเสยี ง ค. ไต้ฝุ่น ง. ถูกทงั ข้อ ข และ ค ข. เพราะตาของเรามกั รับความร้สู กึ ได้ไวกวา่ หู ค. เพราะแสงเดนิ ทางได้ไวกว่าเสยี ง 493)มหาสมทุ รใดต่อไปนี ที่มีโอกาสเกดิ การก่อตวั ของพายุหมุนเขตร้อน ง. ถกู ทงั ขอ้ ก และ ข น้อยท่สี ดุ

ก. มหาสมทุ รใต้ ข. มหาสมุทรอนิ เดยี

ค. มหาสมุทรแอตแลนติก ง. มหาสมุทรแปซฟิ กิ

486)ข้อตอ่ ไปนีคอื ปจั จยั ของการเกดิ พายฝุ นฟ้าคะนอง ยกเวน้ ข้อใด 494)พายดุ ีเปรสชนั่ มอี ัตราเรว็ ลมรอบจุดศนู ย์กลางไมเ่ กินเทา่ ใด ก. อากาศรอ้ นและมคี วามชืนมาก ข. อากาศไม่มีเสถยี รภาพ ก. 100 กม./ชม. ข. 118 กม./ชม. ค. ปรมิ าณนา้ ในแหล่งนา้ บรเิ วณนันๆ ง. ระดับความสงู ต่้าของพนื ดิน ค. 50 กม./ชม. ง. 63 กม./ชม.

487)เพราะเหตใุ ดทอรน์ าโด (tornado) จงึ พบไดบ้ อ่ ยในอเมริกา 495)พายุชนดิ ใดมีอัตราเร็วลมแรงท่สี ดุ ข. พายดุ เี ปรสชัน่ ก. สภาพอากาศของอเมรกิ าเออื ตอ่ การเกดิ ทอรน์ าโด ก. พายุไตฝ้ ุ่น ง. ถูกทุกข้อ ข. เพราะจริงๆ แล้วช่อื ทอรน์ าโดเปน็ ช่ือของพายทุ ้องถนิ่ ท่ีเกิดได้ ค. พายุโซนรอ้ น ในอเมรกิ าเท่านัน ค. ทอร์นาโดมกั เกดิ ในบริเวณที่เปน็ ทงุ่ ราบ ซึ่งมกั พบไดใ้ นทีร่ าบ 496)ขอ้ ใดเปน็ อิทธพิ ลของลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ตอนกลางของอเมรกิ า ง. ถูกทุกข้อ ก. ฝนตกชุก ข. อากาศหนาวเย็น

ค. แหง้ แล้ง ง. อากาศรอ้ นอบอา้ ว

  1. จงเรียงล้าดับความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางของพายุหมุนเขตร้อนจาก 497)ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเข้าส่ปู ระเทศไทยในชว่ งใด ก. เดอื นกุมภาพนั ธถ์ งึ เดอื นพฤศจกิ ายน นอ้ ยไปมาก ข. เดือนมิถุนายนถงึ เดือนกันยายน ค. เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกมุ ภาพนั ธ์ ง. เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม

1.) severe tropical storm 2.) tropical depression 498)ลมมรสมุ ตะวันตกเฉียงใต้ เราเรยี กอีกช่ือหนึ่งวา่ อะไร

3.) typhoon 4.) tropical storm ก. ลมมรสมุ อินเดีย ข. ลมมรสมุ ฤดหู นาว

ก. 4 – 2 – 1 – 3 ข. 1 – 2 – 4 – 3 ค. ลมมรสมุ ฤดูรอ้ น ง. ลมมรสุมฤดฝู น

ค. 3 – 1 – 4 – 2 ง. 2 – 4 – 1 – 3 499)ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ เราเรยี กอกี ชอ่ื หนึ่งวา่ อะไร

489)องค์กรอุตุนิยมวิทยา ได้ใช้เกณฑ์อะไร ในการจัดประเภทพายุหมุน ก. ลมมรสมุ อินเดีย ข. ลมมรสมุ ฤดูหนาว

เขตรอ้ นบริเวณมหาสมทุ รแปซิฟกิ ตอนเหนอื ทางดา้ นตะวันตก ค. ลมมรสมุ ฤดรู ้อน ง. ลมมรสมุ ฤดูฝน

ก. ความเรว็ ลมใกลศ้ นู ย์กลาง 500)ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉียงใต้ พัดจากมหาสมทุ รใดเขา้ มายงั ประเทศ

ข. ขนาดเส้นผา่ นศูนย์กลางของพายุ ไทย

ค. ความเสยี หายที่เกิดขึนจากพายุ ก. มหาสมุทรอนิ เดีย ข. มหาสมทุ รแอตแลนติก

ง. ตามบริเวณทก่ี ่อตัว ค. มหาสมุทรแปซฟิ กิ ง. มหาสมทุ รแอนตารก์ ติก

  1. ข้อใดต่อไปนีเป็นช่ือ พายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวบริเวณมหาส มุ ท ร

อนิ เดยี

โดย ครูสลุ กิฟลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 41

501)ลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนอื พัดจากประเทศใดมายงั ประเทศ ระยะเวลา 10-15 ปีท่ีผ่านมา ดาดว่าสาเหตุมาจากปริมาณ

ไทย น้าฝนสูงกว่าปกติ”

ก. มาเลเซีย ข. ฟลิ ิปปนิ ส์ ก. มรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ข. มรสุมฤดูร้อน

ค. จีน ง. ลาว ค. ปรากฏการณ์เอลนโี ญ ง. ปรากฏการณ์ลานีญา

502)สาเหตขุ องการเกิดเอลนีโญ และลานญี า คืออะไร 507)“ปะการังฟอกขาว” เป็นผลกระทบมาจากปรากฏการณ์ใด ก. ความผดิ ปกติของลมค้า ก. ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก ข. อุณหภูมิเฉลีย่ ของโลก ข. ปรากฏการณ์ลานญี า ค. การเพม่ิ ปรมิ าณของแก๊สเรอื นกระจก ค. ปรากฏการณ์เอลนโี ญ ง. ถูกทกุ ข้อ ง. ปรากฏการณ์คลืน่ ความร้อน

503)หากนา้ ทะเลอนุ่ ถูกพัดพาไปทางดา้ นตะวนั ตกของมหาสมทุ รแปซิฟกิ 508)ข้อใดต่อไปนไี มใ่ ช่แก๊สเรือนกระจก มากกวา่ ปกติ จะส่งผลอยา่ งไร ก. ฝัง่ ตะวันตกของทวปี อเมรกิ าเกิดเมฆฝนรนุ แรงกว่าปกติ ก. CO2 ข. N2 ค. CH4 ง. NO2 ข. แถบตะวันตกของทวปี เอเชยี ประสบภาวะแหง้ แลง้ กว่าปกติ ค. ด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิและความชืน 509)ข้อใดตอ่ ไปนไี มใ่ ช่ปจั จัยทท่ี า้ ใหแ้ ก๊สเรอื นกระจกเพ่ิมขนึ ก. การเผาไหมเ้ ชอื เพลิงตา่ งๆ สงู ขึน ข. การตัดไมท้ า้ ลายปา่ ง. บริเวณตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีความชืนสูงขึน และ ค. การเลียงสตั ว์ท่ีเพ่มิ มากขึน ง. การปลูกสรา้ งสิง่ กอ่ สรา้ งอยา่ งหนาแนน่ เกิดเมฆฝนรุนแรงกวา่ ปกติ 510)ขอ้ ใดเปน็ ข้อดีของปรากฏการณเ์ รือนกระจก 504)ปรากฏการณ์ลานีญา ก่อให้เกดิ ผลกระทบใดตอ่ ไปนี ก. ท้าใหบ้ รรยากาศโลกอบอุ่น ก. มีฝนฟ้าคะนองรุนแรงกว่าปกติในบริเวณเหนือหมู่เกาะ ข. ท้าใหบ้ ริเวณผวิ โลกหนาวเยน็ จัด ค. ทา้ ให้นา้ แข็งขวั โลกละลาย อนิ โดนเี ซยี ง. ไม่มีข้อถูก ข. แถบประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ปาปัวนิวกินี มี 511)กรณีใดทีเ่ ปน็ สาเหตสุ ้าคัญทา้ ให้โลกรอ้ น อณุ หภมู ิและความชืนต่า้ ค. ชายฝ่ังตะวันตกของทวปี อเมริกาใต้เกิดฝนตกรุนแรงกวา่ ก. ประชากรมนุษยเ์ พ่ิมขึน ข. การขดุ ลอกคูคลอง

ปกติ ค. การทงิ ขยะลงแหล่งนา้ ง. การปลกู ต้นไม้เพ่มิ ขึน ง. ชายฝ่ังตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกประสบภาวะแห้ง 512)ขอ้ ใดไมใ่ ชผ่ ลกระทบจากภาวะโลกร้อนโดยตรง แล้งมากกว่าปกติ ก. น้าแข็งขวั โลกละลาย ข. ระดบั น้าทะเลเพิม่ สงู ขึน 505)ข้อใดกลา่ วถงึ แกส๊ เรือนกระจกผิดจากความจรงิ ก. หากไมม่ ีแก๊สเรอื นกระจก โลกจะปราศจากมลภาวะ ค. เกดิ พายลุ ูกใหญข่ นึ ง. ปะการังฟอกขาว ข. แก๊สเรือนกระจกช่วยรักษาระดับอุณหภูมิของโลกให้ 513)ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเก่ยี วกบั คลืน่ ความรอ้ น พอเหมาะ ก. เกิดเฉพาะในพนื ท่ที ่มี คี วามแหง้ แล้ง และมอี ุณหภูมสิ ูงมากขนึ ค. หากไม่มีแก๊สเรือนกระจกอณุ หภูมขิ องโลกจะสูงขึนมากใน ข. เปน็ ปรากฏการณท์ พี่ บมากในประเทศแถบเสน้ ศูนย์สูตร ค. สง่ ผลกระทบต่อส่ิงมชี ีวติ แต่ไมส่ ่งผลตอ่ สิ่งแวดล้อม เวลากลางวัน ง. อุณหภูมิสูงสุดประจ้าวันเกินอุณหภูมิเฉล่ียประมาณ 5๐C ง. แก๊สเรอื นกระจกมคี ุณสมบัติในการดดู กลืนรังสีคล่ืนยาวที่ ติดตอ่ กันเป็นเวลา 5 วนั โลกปลอ่ ยออกมา 514)นักเรียนคิดว่าปรากฏการณ์ใดต่อไปนี ส่งผลกระทบต่อสภาวะ 506)จากบทความต่อไปนี นักเรียนคิดว่าเหตุการณ์ท่ีเกิดขึนไดร้ บั ผลกระทบมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติใด “นายสุพล แวดล้อมของโลกมากทีส่ ดุ ตั่นสุวรรณ ผู้อ้านวยการสถาบันวิจัยการเพาะเลียงสัตว์น้า ชายฝ่ัง (พืนที่พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช ) เปิดเผยวา่ ปี ก. แผน่ ดนิ ไหว ข. เอลนโี ญ – ลานญี า 2549 สภาวะน้าเค็มในทะเลสาบเกือบทั่วทะเลตอนนอก และ ตอนกลาง มคี วามเค็มเพียง 0.5 พเี อสยู ถือว่าเป็นสงิ่ ผิดปกติ ค. ภาวะโลกรอ้ น ง. คล่ืนความรอ้ น ที่มีความเค็มต่้าลงและยาวนาน ซึ่งไม่เคย ปรากฏในช่วง

  1. ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ท า ง ธ ร ร ม ช า ติ ข้ อ ใ ด ท่ี ช่ ว ย ล ด ค ว า ม รุ น แ ร ง ข อง

สถานการณ์คลืน่ ความร้อนได้

ก. เกิดแนวปะทะอากาศเย็น ข. ภูเขาไฟระเบดิ

ค. ลานีญา ง. ไมมีข้อถูก

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 42

516)ขอ้ ใดเป็นผลกระทบจากสถานการณค์ ล่นื ความรอ้ น 524)ข้อใดกล่าวถึงการอ่านค่าความดันอากาศ station model ไม่

ก. ไฟไหม้ปา่ ถูกต้อง

ข. ผลผลติ ทางการเกษตรขาดแคลน ก. PPP เปน็ สัญลกั ษณ์ ค่าความดันอากาศเขียนเปน็ ตวั เลข 3 ตวั

ค. ปญั หาสุขภาพของคนในพนื ท่ี ข. ตัวเลข 3 ตัว เปน็ หลักหน่วย สิบ และรอ้ ย

ง. ถูกทุกข้อ ค. ความดนั อากาศมหี น่วยเป็น มลิ ลิบาร์

517)ในการตรวจอากาศชันบนด้วยไพบอล จะมีการปล่อยบอลลูนสี ง. ถา้ ตวั เลขตวั หน้าสุด มคี ่านอ้ ยใหบ้ วก 1,000

เหลอื งเม่อื ใด 525) ข้ อ ค ว า ม ใ ด ต่ อ ไ ป นี ถู ก ต้ อ ง เ ก่ี ย ว กั บ polar – orbiting

ก. เม่ืออากาศแจม่ ใส ท้องฟา้ โปรง่ meteorological satellite

ข. เวลาที่มีเมฆกระจายเต็มทอ้ งฟา้ ก. เป็นดาวเทยี มทีเ่ คลื่อนทผ่ี า่ นขวั โลก

ค. ทอ้ งฟ้าเป็นสีเหลอื ง หรือทช่ี าวบา้ นเรยี กวา่ “อกุ าฟา้ เหลอื ง” ข. เป็นดาวเทียมท่ีโคจรอยบู่ ริเวณเสน้ ศูนย์

ง. ท้องฟ้ามเี มฆมาก ค. เปน็ ดาวเทยี มทโ่ี คจรอยู่ในวงโคจรค้างฟ้า

518)กล้องทีโอโดไลท์ (theodolite ) ที่ใช้ในการตรวจอากาศชันบนท้า ง. เป็นดาวเทียมที่เคล่ือนผ่านละติจูดหน่ึงๆ ในเวลาท้องถ่ิน

หนา้ ทีอ่ ะไร เดยี วกนั

ก. เปน็ เครื่องส่งคลนื่ วทิ ยุ มายงั สถานรี บั ภาคพืนดิน จากสัญลักษณ์ station model จงตอบคา้ ถามในขอ้ 526 – 527

ข. ใชใ้ นการวัดมุมเพื่อหาตา้ แหน่งของบอลลูนตรวจอากาศ

ค. ใช้ตรวจวัดองคป์ ระกอบของอากาศระยะไกล

ง. เป็นเครือ่ งมอื ตรวจวดั ความเร็วและทศิ ทางลม

519)เคร่อื งมอื ใดเปน็ เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ตรวจความชืนในอากาศ ( humidity ) 526)ความดนั อากาศ มีคา่ เทา่ ใด ก. ไฮโกรมเิ ตอร์ ( hygrometer ) ก. 325 มลิ ลบิ าร์ ข. บารอมิเตอร์ (barometer) ค. 1032.5 มลิ ลบิ าร์ ค. แอนนิโมนเิ ตอร์ ( anemometer ) ง. เทอร์โมมเิ ตอร์ (thermometer)

520)ข้อใดเปน็ อปุ กรณ์ใชว้ ดั ทงั ทศิ ทางลมและความเร็วลม ข. 932.5 มิลลบิ าร์ ง. 1325 มิลลิบาร์ ก. บารอมิเตอร์ ข. แอนนิมอมิเตอร์

ค. แอโรเวน ง. ศรลม 527)ความดันอากาศเพ่มิ ขึนหรอื ลดลงเท่าใดจากกาตรวจวดั ครังกอ่ น

521)เคร่ืองมือท่ใี ชว้ ัดความดันบรรยากาศเรยี กว่าอะไร ก. ลดลง 20 มลิ ลบิ าร์ ข. เพิ่มขึน 20 มิลลบิ าร์

ก. บารอมิเตอร์ ข. เทอร์มอมิเตอร์ ค. ลดลง 2 มิลลบิ าร์ ง. เพิ่มขึน 2 มลิ ลิบาร์

ค. ปรอท ง. ไฮกรอมิเตอร์ 528)ไอน้าในอากาศบริเวณที่ท้าการตรวจวดั นี จะเร่ิมจบั ตัวเปน็ กอ้ นเมฆ

522)ข้อจ้ากัดของการพยากรณ์อากาศแบบใช้คอมพิวเตอร์ค้านวณ คือ ท่ีอณุ หภมู ิเทา่ ใด อะไร ก. ลมในระบบจะตอ้ งไม่มีการเปลยี่ นแปลงทิศทางและความเรว็ ก. 30°C ข. 25°C ข. รายละเอียดของปัจจัยในการเปล่ียนลักษณะของอากาศไม่ ค. 98°C ง. ข้อมูลไม่เพียงพอ ครบถว้ นเหมอื นธรรมชาติจริง ค. อากาศต้องไม่มีความผิดปกติไปจากสภาวะปกติของช่วง 529) สัดส่วนจ้านวนเมฆจากการตรวจวัดครังก่อนกับครังนีมีแนวโน้ม

ฤดูกาลนันๆ อยา่ งไร ง. ถูกทุกข้อ ก. เพ่มิ ขึนจากครังกอ่ น ข. ลดลงจากครังกอ่ น

ค. ไม่เปลยี่ นแปลง ง. เพม่ิ ขึนแลว้ ลดลง

530)ทิศทางลมที่พดั เข้าสู่สถานีตรวจอากาศ

  1. เป็นสญั ลกั ษณ์แทนอะไรในแผนท่อี ากาศ ก. ทิศตะวันออก ข. ทศิ ตะวนั ตก ก. พายไุ ซโคลน ข. พายุโซนรอ้ น ค. ทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ง. ทิศตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ค. พายุไต้ฝนุ่ ง. พายุดเี ปรสช่นั 531)ความผิดพลาดในการพยากรณอ์ ากาศ เกดิ ขึนได้จากสาเหตุใดบา้ ง 1.) จา้ นวนสถานีตรวจอากาศมีนอ้ ย และอย่หู ่างกนั มาก 2.) ความร้เู กยี่ วกับปรากฏการณทางอตุ นุ ยิ มวิทยายงั ไมส่ มบรู ณ์

โดย ครูสุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 43

3.) อากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยตู่ ลอดเวลา ค. อากาศเหนอื พืนผวิ มอี ุณหภมู ิต้่ากวา่ พนื ผิวมาก

ก. เฉพาะข้อ 1 ข. 1 และ 3 ง. เกิดการเลียวเบนของแสงทีผ่ ่านบริเวณทรี่ ้อนจัด

ค. 2 และ 3 ง. ถูกทกุ ขอ้ 540)ปรากฏการณใ์ ดสามารถสังเกตเห็นได้ในเวลากลางคนื

532)การที่เรามองเห็นท้องฟ้ามีหลากหลายสีในแต่ละช่วงวัน เกิดจาก ก. solar eclipse ข. Corona

อะไร ค. มริ าจ ง. รงุ้

ก. เกิดการหักเหของแสงอาทิตย์ขณะเดินผ่านเข้ามาในชัน 541)ปรากฏการณใ์ ดเกิดจากการกระเจงิ ของแสง บรรยากาศของโลก ก. การเปลีย่ นสีของทอ้ งฟา้ ข. รงุ้ ข. เกิดจากลักษณะและขนาดของอนภุ าท่ีแสงอาทิตยส์ อ่ งผา่ น ค. เกิดจากการกระเจิงของแสง และระยะทางท่ีแสงต้อง ค. มิราจ ง. อาทติ ย์ทรงกลด เดนิ ทางในแต่ละช่วงเวลา ง. เกิดจากการสะท้อนของแสงขณะตกกระทบกับอนุภาคใน 542)ปรากฏการณ์ใดไม่ได้เกิดจากสมบตั ขิ องแสง อากาศ ก. corona ข. Aurora

ค. Fata morgana ง. Moondog

533)ข้อใดถูกตอ้ งเกี่ยวกับการเกดิ จันทร์ทรงกลด 543)ขอ้ ใดต่อไปนีกล่าวถกู ตอ้ งทีส่ ดุ ก. เป็นปรากฏการณท์ ่ีพบไดไ้ ม่ยาก ก. อาทิตยท์ รงกลดคอื ปรากฏการณ์ทเี่ รามองเหน็ สีรงุ้ เกิด ข. มกั เกดิ ในช่วงหวั ค่า้ ทีด่ วงจันทร์ลอยตา่้ ค. สามารถเกิดไดแ้ มเ้ ป็นคนื ขา้ งแรม เป็นวงกลมรอบดวงอาทิตย์ ง. สาเหตกุ ารเกิดตา่ งจากอาทิตยท์ รงกลดอย่าสนิ เชิง ข. รุง้ ที่แต่ละนมองเห็นพร้อมๆกันไม่ได้เป็นรุ้งเดียวกัน ค. รุ้งไมส่ ามารถเกดิ เปน็ วงกลมได้ 534)การเกดิ อาทติ ย์ทรงกลดต่างจากการเกิดร้งุ อยา่ งไร ง. ผลกึ นา้ แขง็ รปู ทรงเกลด็ 5 เหล่ียม และเกล็ด 6 เหลย่ี ม ก. อาทิตย์ทรงกลดเกิดเต็มวงไดแ้ ต่ร้งุ เกิดเตม็ วงไมไ่ ด้ ข. รุ้งเกิดจากการหักเหแสง อาทิตย์ทรงกลดเกิดจากการการ ทา้ ใหเ้ กิดจันทรท์ รงกลด

กระจายแสง 544)ขอ้ ใดเกี่ยวขอ้ งกบั การเกดิ ออโรร่า ข. การหักเหของแสง ค. เกิดกับอนุภาคนา้ ตา่ งสถานะกนั เท่านัน ก. การกระเจงิ ของแสง ง. ไม่มคี า้ ตอบ ง. เกดิ จากการหักเหและการสะท้อนของแสงเหมอื นกนั ค. การสะทอ้ นของแสง

545)สมบตั ขิ องแสงเก่ยี วขอ้ งกบั การเกิดรงุ้ เปน็ ไปตามขอ้ ใด

535)อาทติ ยท์ รงกลดเกิดขนึ ในบรรยากาศชันใด 1.) หกั เห 2.) เลียวเบน 3.) กระจาย

ก. โทรโพสเฟยี ร์ ข. เทอร์โมสเฟียร์ 4.) กระเจงิ 5.) สะท้อน 6.) แทรกสอด

ค. โฟโตสเฟยี ร์ ง. สตราโทสเฟียร์ ก. ขอ้ 1 และ 5 ข. ขอ้ 2 และ 4

536)อาทิตย์ทรงกลด และจันทร์ทรงกลด มักเกิดในช่วงที่มีลักษณะ ค. ข้อ 4 และ 6 ง. ข้อ 1 เทา่ นัน อากาศแบบใด ก. รอ้ นจดั ความชืนในอากาศสงู 86) อาทติ ย์ทรงกลดแบบไม่เตม็ วงเรียกวา่ อะไร ข. เยน็ จัด ความชนื ในอากาศตา้่ ค. ไม่รอ้ นจดั ความชนื ในอากาศสูง ก. sunrise ข. Sun cat ง. ไม่ร้อนจดั ความชืนในอากาศต้่า ค. Sun dog ง. Sun halo

546)ระนาบสมมติใด ตังฉากกับจดุ เหนือศีรษะของผู้สังเกต

ก. ระนาบศนู ยส์ ูตรฟา้ ข. ระนาบสุริยวถิ ี

537)มริ าจเกิดขนึ จากการแสดงสมบัตขิ อ้ ใดของแสง ค. ระนาบขอบฟ้า ง. ระนาบวสันตวิษวุ ัติ

ก. การเลยี วเบน ข. การหักเห 547)ในการวัดมุมทิศในระบบพิกัดขอบฟ้า จุดเร่ิมต้น 0 องศาอยู่ท่ี

ค. การสะทอ้ น ง. การแทรกสอด ต้าแหน่งใด

538)ภาพท่ีเกดิ จากปรากฏการณม์ ิราจมลี ักษณะอยา่ งไร ก. ทิศเหนือ ข. เสน้ เมรเิ ดยี น

ก. หวั ตงั ข. หวั กลบั ค. จุดวสนั ตวิษวุ ตั ิ ง. กระจุกดาวลกู ไก่

ค. กลับซา้ ยขวา ง. ข้อ ก และ ข ถูก 548)ดาวบนเสน้ ศูนย์สูตรฟ้ามีมมุ ช่วั โมงเท่ากับ 3h จะอย่ตู ้าแหนง่ ใดของ เสน้ เมรเิ ดียน 539)มริ าจแบบภาพอยู่ดา้ นล่างเกดิ จากสาเหตุใด ก. อยหู่ ่างจากเสน้ เมรเิ ดยี นไปทางตะวันตก 45 องศา ก. อากาศเหนือพืนผิวมอี ณุ หภูมสิ งู กวา่ พนื ผวิ มาก ข. อยูห่ ่างจากเสน้ เมรเิ ดียนไปทางตะวันออก 45 องศา ข. อากาศบรเิ วณทีเ่ กิดมีอุณหภูมสิ ูงจนลอยขนึ

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 44

ค. อย่หู ่างจากเสน้ เมรเิ ดยี นไปทางตะวันตก 135 องศา 558)ดวงอาทิตย์ ในวันท่ีกลางวันยาวท่ีสุดในซีกโลกเหนือ มีพิกัดสุริยวิธี

ง. อยู่ห่างจากเสน้ เมริเดียนไปทางตะวนั ออก 135 องศา เท่าใด

549)ขอ้ ใดตอ่ ไปนี หมายถึง มุมชั่วโมง ( HA ) ก. (00 , 00 ) ข. ( 900 , 00 ) ก. มมุ ในทศิ ทางตามแนวเส้นขอบฟา้ วดั จากทิศเหนอื ค. (1800 , 00 ) ง. (2700 , 00 )

ข. มมุ ท่วี ัดจากเส้นขอบฟา้ ไปหาจุดเหนือศรี ษะ 559)ขณะทจ่ี ุดวสนั ตวิษวุ ัตกับเมริเดียนส่วนบนของผ้สู ังเกตอยู่ตรงข้าม

ค. มุมของตา้ แหนง่ วตั ถทุ อ้ งฟา้ วัดจากเสน้ เมริเดยี นสว่ นบน กันพอดี ดาวฤกษ์ A ซึง่ มีคา่ RA = 6 h จะมีมมุ ชว่ั โมงเทา่ ใด

ไปทางทศิ ตะวันตก ก. 6 h ข. 9 h

ง. มุมของต้าแหนง่ วตั ถุท้องฟ้าหา่ งจากเสน้ ศูนย์สูตรฟา้ ค. 12 h ง. 18 h

550)ดวงอาทติ ย์ในวนั ที่ 21 มีนาคม มพี ิกัดศนู ยส์ ูตรเปน็ อย่างไร 560)เวลาเทีย่ งตรงที่ประเทศญีป่ ่นุ ตรงกับเวลาใดของประเทศไทย (ประเทศญป่ี ุน่ มคี ่าแถบเวลาเท่ากับ GMT +9) ก. ( 0h , +23.5๐ ) ข. (6h , -23.5๐) ก. 08.00 นาฬกิ า ข. 10.00 นาฬกิ า ค. (6h, 0๐) ง. (0h , 0๐) ค. 12.00 นาฬกิ า ง. 14.00 นาฬกิ า 551)ดวงอาทิตย์ ณ ต้าแหน่งเหมายัน จะมคี า่ แอสเซนชัน และเดคลเิ นชนั เป็นเท่าใด 561)จงหาเวลามาตรฐานทอ้ งถิ่นของกรุงนวิ เดลี ประเทศอินเดีย ขณะที่ ก. RA = 18 h , Dec = +23.5๐ ประเทศไทยเป็นเวลา 00.35 น. วนั ท่ี 1 มีนาคม พ.ศ. 2551 (กรุง ข. RA = 18 h , Dec = -23.5๐ นวิ เดลี มคี า่ แถบเวลาเทา่ กบั GMT + 5.30) ค. RA = 12 h , Dec = +23.5๐ ก. 23.05 น. ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ง. RA = 12 h , Dec = -23.5๐ ข. 02.05 น. ของวนั ที่ 29 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2551 ค. 23.05 น. ของวันท่ี 1 มีนาคม พ.ศ. 2551 552)ในระบบพิกัดสุริยะวิถี ดวงอาทิตย์มีค่าละติจูดท้องฟ้าเป็นเท่าใด ง. 02.05 น. ของวันที่ 1 มนี าคม พ.ศ. 2551 ในชว่ งเวลาตลอด 1 ปี ก. เปน็ ศนู ยต์ ลอดทงั ปี 562)ประเทศ A อยู่ที่ลองจิจูด 900 E ประเทศ B อยู่ที่ลองจิจูด 1200 E ข. 0 องศา 1 ครงั และ 23.50 1 ครัง ค. 0 องศา 2 ครัง และ 23.50 2 ครัง ทงั 2 ประเทศมีเวลาท้องถนิ่ มาตรฐานต่างกันเทา่ ไร ง. เปน็ 23.5 องศาตลอดทงั ปี

553)ดาวบนเสน้ ศนู ย์สูตรฟ้าปรากฏใหเ้ หน็ ทางทศิ ตะวันตกพอดี จะมมี มุ ก. 2 ช่วั โมง ข. 6 ชว่ั โมง

ชั่วโมงเทา่ ใด ค. 8 ชั่วโมง ง. 18 ชวั่ โมง

ก. 0 ชง่ั โมง ข. 6 ชัง่ โมง 563)ดาวฤกษ์ดวงหน่ีงอยู่สูงจากขอบฟ้า 45 องศาทางทิศตะวันตกพอดี

ค. 12 ชั่วโมง ง. 18 ชวั่ โมง จะมตี ้าแหน่งในระบบพิกัดเส้นขอบฟา้ เทา่ ใด

  1. ดา ว ฤ ก ษ์ ดว งห น่ึ งอยู่ บ นเส้นศู นย์ สูตร ฟ้ าสู งจาก ข อบฟ้ าทางทิศ ก. (2700 , 450 N ) ข. (6h , 450 )

ตะวันตก 30 องศา ดาวฤกษด์ วงนจี ะมมี ุมชั่วโมงเทา่ ใด ค. ( 900W , 450N ) ง. ( 2700 , 450 )

ก. 2 ชัว่ โมง ข. 4 ชว่ั โมง 564)เสน้ มติใดบนโลกทแ่ี บง่ โลกออกเป็นซกี ตะวันออกและและซกี

ค. 20 ชัว่ โมง ง. 22 ชว่ั โมง ตะวันตก

555)“ดาวเหนอื ” หรือ “ดาวโพลาริส” อยใู่ นกลุ่มดาวใด ก. เส้นเมรเิ ดียนหลกั ข. เส้นลองจิจดู

ก. กลมุ่ ดาวหมเี ล็ก ข. กล่มุ ดาวนายพราน ค. เสน้ ศนู ย์สูตร ง. เสน้ ละตจิ ดู

ค. กลุ่มดาวลูกไก่ ง. กลมุ่ ดาวแมงป่อง 565)ในช่วงฤดหู นาว ดวงอาทิตย์จะขนึ และตกในทศิ ทางใด ก. ขึนทางทศิ ตะวันออก และตกทางทศิ ตะวนั ตก 556)ดาวฤกษด์ วงหนงึ่ มีคา่ RA = 12 h และคา่ Dec = 00 ปรากฏทีข่ อบ ข. ขึนทางทศิ ตะวันออกเฉยี งไปทางใต้ และตกทางทิศตะวันตก เฉียงไปทางใต้ ฟา้ ตะวนั ตกพอดีเวลาดาราคติเปน็ เทา่ ใด ค. ขนึ ทางทศิ ตะวันออกเฉียงไปทางเหนอื และตกทางทศิ ตะวันตก เฉียงไปทางใต้ ก. 6 h ข. 9 h ง. ขนึ ทางทศิ ตะวันออกเฉียงไปทางเหนอื และตกทางทิศตะวันตก เฉียงไปทางเหนือ ค. 12 h ง. 18 h

557)วนั ใดเป็นวันท่ีมีกลางวันยาวท่สี ดุ ในซีกโลกเหนือ

ก. 21 มนี าคม ข. 21 มิถุนายน

ค. 23 กนั ยายน ง. 22 ธันวาคม

โดย ครูสุลกิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 45

566)พจิ ารณาขอ้ มูลต่อไปนี ก. 4 นาที ข. 6 นาที

1. ดาวหางเมอ่ื อย่รู อบนอกระบบสุรยิ ะจะมลี กั ษณะเปน็ ก้อนไม่มหี าง ค. 8 นาที ง. 10 นาที

2. ดาวหางเม่อื โคจรเข้าใกล้ดวงอาทติ ยจ์ ะเกิดเปน็ หางยาวในแนว 574) 1 ปแี สงคอื ระยะทางท่ีแสงเคล่ือนท่ีได้ใน 1 ปี มคี ่าเท่ากบั ขอ้ ใด ตรงกันขา้ มกบั ดวงอาทติ ย์ ก. 5.9 × 1012 กโิ ลเมตร ข. 7.5 × 1012 กโิ ลเมตร ค. 8.3 × 1012 กโิ ลเมตร ง. 9.5 × 1012 กิโลเมตร 3. เมอ่ื สะเก็ดดาวหางเข้าสบู่ รรยากาศโลกจะเกิดการเผาไหม้จนหมด กลายเปน็ ลกู ไฟ เรยี กวา่ อกุ กาบาต จากขอ้ มลู ในตารางใชต้ อบคา้ ถามขอ้ 575 – 576

ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง

ก. ขอ้ 1 และ 2 ข. ข้อ 1 และ 3 ชนิดของดาวฤกษ์ สีของดาวฤกษ์

ค. ข้อ 2 และ 3 ง. ขอ้ 1, 2 และ 3 A ขาว

567)ทฤษฎใี ดที่ใช้อธบิ ายการเกดิ เอกภพ B นา้ เงนิ

ก. บิกแบง ข. Steady – state C เหลือง

ค. ทฤษฎีหดตัว ง. ทฤษฎขี ยายตัว D ส้ม

568)เนือสารที่เกิดขนึ ขณะเกดิ บกิ แบงคอื 575)ดาวฤกษใ์ ดทีม่ อี ณุ หภมู ิมากที่สดุ ข. B ก. มวลของสารไฮโดรเจนและฮเี ลยี ม ก. A ง. D ข. ควารก์ อเิ ล็กตรอน นวิ ทรโิ น และโฟตอน ค. C ค. โฟตอน ง. ไมม่ ีขอ้ ถกู 576)ดวงอาทิตยข์ องเราจะมีสีเหมอื นดาวฤกษช์ นดิ ใด ก. A ข. B 569)กฎของฮับเบิลกลา่ วว่า ค. C ง. D ก. กาแล็กซียง่ิ ห่างจากโลกเราเท่าใด ความเร็วของการเคลือ่ น 577)ขอ้ ความใดอธิบายความหมายของกาแลก็ ซีไดถ้ กู ต้องที่สุด ห่างออกไปก็ยง่ิ ช้าลงมากเทา่ นัน ก. กลมุ่ เมฆหมอกกอ้ นกลมมีลักษณะคล้ายจาน ข. กาแล็กซีย่ิงหา่ งจากโลกเราเท่าใด ความเร็วของการเคลื่อน ข. เปน็ กระจกุ ดาวคลา้ ยดาวลูกไก่ ค. เป็นแถบเรืองแสงสวา่ งขาวพาดไปบนท้องฟา้ หา่ งออกไปก็ยิง่ มากขนึ เท่านนั ง. ระบบของกลุ่มดาวต่างๆ รวมทังโลก ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ ค. กาแล็กซีเคล่ือนห่างออกจากโลกด้วยอัตราความเร็ว และอกุ กาบาต สม้่าเสมอ ง. ไม่มขี ้อใดถกู ต้อง

570)ลกั ษณะและสมบตั ขิ องหลมุ ดา้ คือขอ้ ใด 578)ดาวฤกษ์ท่ีสกุ สว่างมากท่ีสดุ ข. ดาวหางหงส์ ก. มมี วลต่า้ อยรู่ อบนอกของกาแลก็ ซี ก. ดาวเซตานายพราย ง. ดาวปารชิ าติ ข. มีมวลต้า่ อยู่ ณ ศูนย์กลางของกาแล็กซี ค. ดวงอาทติ ย์ ค. มีมวลมหาศาลอยู่ ณ ศูนยก์ ลางของกาแลก็ ซี ง. ไม่มีขอ้ ถกู 579)เพราะเหตุใดในการส่งจรวดไปในอวกาศ เม่ือจรวดแต่ละท่อนเผา

ไหม้เชือเพลิงหมดแล้วจงึ ตอ้ งถูกสลัดทงิ ไป

  1. ดาราจักรทางช้างเผือกเป็นระบบดาวฤกษ์ท่ีประกอบด้วยดาวฤกษ์ ก. ลดแรงเสียดทาน ข. ลดมวลให้นอ้ ยลง

จ้านวนประมาณเทา่ ใด ค. ลดขนาดใหส้ นั ลง ง. ลดแรงโน้มถ่วงของโลก

ก. 100,000 ลา้ นดวง ข. 10,000 ล้านดวง 580)ความเร็วท่ีทา้ ใหว้ ัตถเุ คลอ่ื นที่เป็นแนววถิ โี ค้งรอบโลกโดยไม่ตกลงสู่

ค. 1,000 ลา้ นลวง ง. 100 ลา้ นดวง พนื โลกเรยี กวา่

572)ข้อใดไมใ่ ช่คุณสมบตั ิดาราจกั รทางชา้ งเผอื ก ก. ความเรว็ เรม่ิ ตน้ ข. ความเรว็ หลุดพน้ ก. เปน็ ดาราจักรไม่มรี ูปรา่ ง ข. เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางประมาณ 100,000 ปแี สง ค. ความเร็วสุดทา้ ย ง. ความเรว็ โคจรรอบโลก ค. ประกอบด้วยดาวฤกษท์ กุ ดวงทีม่ องเห็นดว้ ยตาเปลา่ ง. มองเห็นเป็นทางสขี าวสลัวพาดผา่ นท้องฟา้ ในคืนเดอื นมดื 581)สภาวะไร้น้าหนกั มผี ลตอ่ มนุษย์ในเรือ่ งใด ก. หวั ใจทา้ งานชา้ ลง 573)การระเบดิ บนดวงอาทติ ยจ์ ะท้าให้คนบนโลกเหน็ การระเบิดหลงั จาก ข. กลา้ มเนอื ทกุ ส่วนจะมขี นาดเล็กลง เกิดการระเบิดไปแล้วประมาณกี่นาที ค. กระดูกจะมีความหนาแน่นนอ้ ยลง ง. เกิดขึนไดท้ ุกขอ้

โดย ครูสลุ กิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 46

582)กาแลก็ ซีเพือ่ นบา้ นทม่ี องเหน็ ได้ด้วยตาเปล่า 590)ข้อใดจัดเปน็ ดาวเคราะหจ์ า้ พวกโลก

ก. กาแล็กซแี อนโดรเมดา ก. ดาวเสาร์ ข. ดาวพลโู ต

ข. แมกเจลแลนใหญ่ ค. ดาวยูเรนัส ง. ดาวพฤหัสบดี

ค. แมกเจลแลนเล็ก 591)เพราะเหตุใดดาวอังคารจึงมีสแี ดงเมือ่ มองจากโลก ง. ถูกทุกขอ้ ก. ดาวองั คารมคี วามดันต้า่

583)นกั บินอวกาศมีวิธีการป้องกันการเกดิ สภาพไรน้ า้ หนักบนยาน ข. ดาวอังคารปรมิ าณออกซิเจนรอ้ ยละ 0.1 ถงึ 0.4

อวกาศท้าไดห้ รือไม่ อยา่ งไร ค. ผิวดาวองั คารมอี งค์ประกอบของเหลก็ ออกไซดแ์ ละซิลิกา

ก. ได้ โดยการมดั ตัวเองให้ตดิ กับ ง. ดาวองั คารมอี ุณหภูมิทพี่ นื ผิวอยูร่ ะหวา่ ง -33 ถึง -85 องศา

ข. ได้ โดยการออกกา้ ลังกายในยานอวกาศ เซลเซยี ส

ค. ไมไ่ ด้ เพราะยานอวกาศมีการเคลอื่ นท่อี ยู่ตลอดเวลา 592)แสงเหนอื แสงใต้ เกิดจากอะไร ง. ไมไ่ ด้ เพราะขณะที่อยู่ในยานอวกาศมกี ารตกอย่างอิสระ ก. อนภุ าคของลมสรุ ิยะชนกบั สนามแม่เหลก็

584)ข้อใด ไมใ่ ช่ หนา้ ทข่ี องดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวิทยา ข. อนุภาคของสุริยะชนกับอะตอมของก๊าซในบรรยากาศของ

ก. ตรวจวัดระดับของเมฆ โลก

ข. ตรวจการแผร่ ังสขี องดวงอาทิตย์ ค. รั ง สี อั ล ต ร า ไ ว โ อ เ ล ต ท่ี แผ่ จา กด ว ง อ าทิ ตย์ ชนกับ

ค. ตรวจหาสารพิษในบรรยากาศ สนามแม่เหล็กโลก

ง. ติดตามการกอ่ ตัวและการเคล่อื นท่ีของพายุ ง. รังสีอัลตร้าไวโอเล็ตชนกับอะตอมของก๊าซในบรรยากาศ

585)ดาราศาสตรค์ ือวิชาทศ่ี กึ ษาเกย่ี วกบั อะไร ของโลก

ก. ดวงดาว 593) ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุทา้ ใหต้ า้ แหนง่ การขนึ และตกของดวงอาทติ ย์มี

ข. ดวงดาวตา่ งๆและโลก การเปลี่ยนแปลงไปทกุ วนั และกลบั มาซา้ เดมิ เม่อื ครบ 1 ปี

ค. ระบบสุริยะ ก. โลกหมนุ รอบตวั เอง

ง. ดวงดาวเนบวิ ลาและกาแล็กซี ข. โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์

586)ข้อใดส่งผลต่อการเกดิ ปรากฏการณ์กลางวันและกลางคนื ค. ดวงอาทติ ย์หมุนรอบตัวเอง ก. ดวงจันทรโ์ คจรรอบโลก ง. แกนหมนุ ของโลกเอยี งท้ามุม 23.5 องศา กบั แนวทีต่ ังฉาก ข. การหมนุ รอบตวั เองของโลก กับระนาบวงโคตรของโลก

ค. โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ 594)ขอ้ ใดเป็นสาเหตทุ ้าให้หางของดาวหางพุ่งออกจากดวงอาทติ ย์

ง. การหมุนรอบตัวเองของดวงจนั ทร์ ก. ลมสรุ ยิ ะ

587)ข้อใดกล่าวถึงดวงจนั ทร์ ข. กอ้ นน้าแขง็ ทหี่ ัวดาวหาง ก. ดวงจนั ทร์ไมม่ ีบรรยากาศหอ่ ห้มุ ไม่มแี สงสวา่ งในตัวเอง ค. องคป์ ระกอบทางเคมีของดาวหาง ข. ดวงจันทรไ์ มม่ ีบรรยากาศห่อหมุ้ มแี สงสวา่ งในตวั เอง ง. พลงั งานความรอ้ นจากดวงอาทติ ย์

ค. ดวงจันทรม์ บี รรยากาศหอ่ หุ้มไม่มแี สงสวา่ งในตัวเอง 595)ข้อใดเป็นสาเหตุหลักทที่ ้าใหค้ นบนโลกมองเห็นดวงจันทร์เพยี งด้าน

ง. ดวงจันทรม์ ีบรรยากาศหอ่ หุ้มมีแสงสวา่ งในตัวเอง เดียวตลอดเวลา

588)ปรากฏการณ์น้าขนึ นา้ ลงเกิดจากอิทธพิ ลในข้อตกลงใดๆ ก. ดวงจนั ทร์มีการเคลื่อนทปี่ รากฏประจา้ วนั จากทศิ ก. แรงดึงไส้ระหว่างโลกดวงจนั ทรจ์ ันทรอ์ าทติ ย์ ตะวันออกไปทศิ ตะวันตก ข. แรงดงึ เลือดระหวา่ งดวงจันทรจ์ นั ทรด์ วงอาทติ ย์ ค. แรงดึงปริมาณระหวา่ งโลกดวงอาทติ ย์ ข. โลกและการหมนุ รอบตัวเองใชเ้ วลานอ้ ยกวา่ ดวงจันทร์ ง. แรงดงึ ปรมิ าณระหวา่ งดวงจนั ทร์โลก โคจรรอบโลกหน่ึงรอบ

589)การหมนุ รอบตวั เองของโลกไม่ทา้ ให้เกิดปรากฏการณ์ในข้อใด ค. ดวงจันทร์โคจรรอบโลกจากทิศตะวนั ตกไปทศิ ตะวนั ออก ก. ทิศ ในทศิ เดยี วกับโลกหมนุ รอบตวั เอง ข. ประเทศญป่ี ่นุ สวา่ งเร็วกวา่ ประเทศไทย ค. น้าขนึ – นา้ ลง ง. ระยะเวลาที่ดวงจนั ทร์โคจรรอบโลกครบ 1 รอบเป็น ง. การขึน - ตกของดวงดาว ช่วงเวลาเดยี วกับทีด่ วงจันทรห์ มนุ รอบตวั เอง 1 รอบ

596)ขอ้ ใดเป็นสาเหตหุ ลกั ทที่ า้ ใหเ้ กิดฤดูกาลบนดาวองั คารไดค้ ล้ายกับที่ เกดิ บนโลก

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 47

ก. แกนหมุนของดาวองั คารเอียงคลา้ ยแกนหมุนของโลก ง. แนวทางชา้ งเผือก กลมุ่ ดาว เอกภพ ดาราจักร

ข. ดางอังคารไดร้ ับพลงั งานจากดวงอาทิตย์คลา้ ยกบั โลก 603)เหตใุ ดสภาพพนื ผิวดาวองั คารจึงแห้งแล้ง และมีบรรยากาศเบาบาง ค. ดางองั คารมีบรรยากาศที่ประกอบดว้ ยกา๊ ซชนดิ ต่าง ๆ มาก ก. เน่อื งจากมอี ณุ หภูมิต้่ามาก คล้ายกับบรรยากาศของโลก ข. เนือ่ งจากมแี รงดึงดูดน้อย ง. ดาวองั คารมีการหมนุ รอบตวั เองดว้ ยเวลาใกลเ้ คียงกบั ที่ ค. เนื่องจากไมม่ สี นามแม่เหล็ก

โลกหมนุ รอบตัวเอง

  1. ข้อใดผดิ ง. เน่ืองจากอยู่หา่ งจากดวงอาทติ ยม์ าก

ก. จนั ทรปุ ราคามักเกดิ ขนึ ในวนั แรมคา่้ 15 คา้่ 604)ขอ้ ใดผิด ข. จนั ทรุปราคาสามารถเกดิ ได้ทงั แบบเต็มดวงและบางสว่ น ก. ก้อนอุกาบาตร คือ สะเก็ดดาวหางทเี่ หลือจากการเผา ค. จนั ทรุปราคาเกดิ จากดวงจันทรโ์ คจรเข้าไปในเงามดื ของ ไหมแ้ ล้วตกลงสพู้ นื โลก ข. ดาวตก คือ ซากของดาวหางท่หี ลดุ เข้ามาในบรรยากาศ โลก และเสยี ดสกี ับบรรยากาศเกิดการลกุ ไหม้ ง. จนั ทรปุ ราคาเกิดขึนเมือ่ โลกโคจรมาอยูร่ ะหวา่ งดวงอาทติ ย์ ค. ดาวหางเปน็ วัตถทุ ้องฟ้าท่ไี ม่มแี สงในตวั เอง แตม่ อง

และดวงจนั ทร์

598)ขอ้ ใดผิด เหน้ ได้เพราะก๊าซภายในเกิดสะท้อนแสงจากดวง

ก. ดาราจกั รมีจ้านวนมากในเอกภพ อาทติ ย์

ข. ดาราจักรมีรูปรา่ งแตกตา่ งกันมากมายหลายแบบ ง. องคป์ ระกอบของดาวหาง คอื นา้ กา๊ ซทร่ี อ้ นจัดฟุ้ง

ค. ดาราจกั รเปน็ สว่ นหน่งึ ในกลุ่มดาวต่าง ๆ ทกี่ ระจายทว่ั เอก กระจายรอบบรเิ วณท่เี รยี กวา่ หัวและพุง่ ในทศิ ตรง

ภพ ขา้ มกบั ดวงอาทิตย์

ง. ดาราจกั รทางทางช้าเผอื กมีรูปรา่ งคลา้ ยกนั หนั หรอื ฉาบ 605)ขณะทโ่ี ลกหมุนดังรปู คนทีอ่ ยู่ ณ ตา้ แหนง่ (2) จะเป็นเวลาใด และ หรอื ไขด่ าว แขน ของเขาจะชไี ปในทศิ ทางใด

  1. ข้อใดผิด

ก. เส้นลองจจิ ูดมมี ีตังแต่ 0 องศา ถึง 360 องศา

ข. เสน้ จจิ ดู ที่ 0 องศา เรียกว่า เสน้ ไพรมเ์ มเรเดียน

ค. เส้นลองจจิ ูดเปน็ เสน้ สมมตทิ ี่ลากตงั ฉากกับเส้นศนู ยส์ ตู ร

ง. เส้นลองจจิ ูดมาตรฐานเปน็ เสน้ ทีใ่ ชแ้ บ่งเขตเวลามาตรฐาน

600)ข้อใดไมใ่ ช่สมบัติของดาวเคราะหว์ งใน ก. เท่ียงวนั ตะวนั ตก ข. เท่ียงคนื ตะวนั ตก ก. มโี อกาสเห็นได้ตลอดคนื ค. เท่ียงวัน ตะวนั ออก ง. เท่ียงคืน ตะวันออก ข. อยใู่ กลด้ วงอาทติ ย์มากกวา่ โลกเสมอ ค. เมือ่ มองผา่ นกลอิ งโทรทรรสน์จะเห็นสวา่ งเป็นเสยี ว 606)จากรปู แสดงการโคจรของดวงจนั ทรร์ อบโลก คนบนโลกจะเหน็ ดวง ง. สามารถโคจรมาอยใู่ นแนวเดียวกับโลกและดวงอาทติ ย์ได้ จันทร์ ณ ตา้ แหนง่ 6 ตามรูปใด

601)ถ้าดาวหางว่งิ ชนโลก จะเกิดเหตการณ์ในขอ้ ใด ก. เกิดก้อนอุกกาบาตกระจายทวั่ ไป ข. นา้ แข็งสกปรกจากดาวหางกระจายทวั่ ไป ค. ส่ิงแวดลอ้ มของโลกเกดิ การเปลยี่ นแปลง ง. เกดิ แสงวบู วาบอันเนือ่ งจากการสะท้อนจากแสงอาทติ ย์ ทว่ั ไป

602)ขอ้ ใดมีการเรยี งล้าดบั จากระบบใหญไ่ ปสูร่ ะบบเลก็ ตามลา้ ดับอยา่ ง ก. ข. ถูกตอ้ ง ค. ง. ก. กลุ่มดาว เอกภพ ดาราจักร แนวทางชา้ งเผอื ก ข. เอกภพ ดาราจกั ร แนวทางชา้ งเผือก กลมุ่ ดาว ค. ดาราจกั ร แนวทางชา้ งเผือก กลมุ่ ดาว เอกภพ

โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 48

607)ถ้าดวงจันทรห์ มุนรอบตัวเองใชเ้ วลาเท่ากบั การโคจรรอบโลก คอื …………….622) เมื่อดาวฤกษ์มกี ารยุบตวั อยา่ งรวดเร็ว อุณหภมู ภิ ายในของ

30 วนั ดังนนั หนงึ่ วันบนดวงจันทร์จะเทา่ กับกว่ี นั บนโลก ดาวฤกษจ์ ะลดลง

ก. 15 วัน …………….623) ดาวฤกษ์แต่ละดวงในกลุ่มดาวเดียวกันอยู่ห่างจากโลก

ข. 30 วนั ดว้ ยระยะทางเท่ากนั

ค. 45 วัน …………….624) เมอื่ ระยะห่างระหว่างวตั ถเุ พ่มิ มากขึน แรงโนม้ ถ่วงจะมคี ่า

ง. 60 วนั เพิม่ มากขนึ

608)วนั ท่ีเกดิ จนั ทรุปราคาบางสว่ น ตรงกับข้อใดมากที่สุด …………….625) แสงเหนอื ใต้จะพบเหน็ ไดบ้ อ่ ยบริเวณขวั โลก ก. แรม 2 ค้่า …………….626) คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าแต่ละชนิดเคล่ือนท่ีในอวกาศด้วย ข. แรม 8 คา่้ ความเร็วไม่เทา่ กนั ค. แรม 10 ค้่า …………….627) คลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลนื่ สนั จะมีความถี่ตา้่ ง. แรม 15 คา้่ …………….628) แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระท้าต่อวัตถุขึนอยู่กับมวลและ ระยะหา่ งของวัตถนุ ันถงึ จดุ ศนู ย์กลางของโลก 609)ข้อใดต่อไปนมี ขี นาดใหญ่ทีส่ ดุ …………….629) ดาวเทียมที่โคจรในระดับสงู มีความเร็วมากกวา่ ดาวเทียม ก. เอกภพ ที่โคจรในระดับตา้่ ข. เนบิวลา …………….630) ภาพท่ีมองเห็นจากกลอ้ งโทรทรรศน์ชนิดสะท้อนแสงและ ค. ระบบสุริยะ ชนดิ หกั เหแสงเปน็ ภาพชนดิ เดยี วกัน ง. ดาราจักรทางช้างเผือก ................631) ชันโครงสร้างโลกประกอบด้วยเปลือกโลก เนือโลกและ

610)จากรูป ต้าแหน่งใดของดาวเคราะห์ที่คนบนโลกสังเกตเห็นดาว แก่นโลก เคราะห์สว่างเตม็ ดวง ก. ก .................632) เปลอื กโลกเปน็ สว่ นทห่ี นาทส่ี ดุ ของโครงสรา้ งโลก ข. ข ค. ค .................633) เนือโลกมีสถานะเป็นของเหลว ง. ง .................634) แกน่ โลกเป็นชันของโลกท่มี ีความหนาแน่นนอ้ ยท่ีสดุ

.................635) ธาตโุ ลหะส่วนใหญม่ คี วามหนาแนน่ มากกวา่ ธาตอุ โลหะ

.................636) คล่ืนกลจะเกิดการสะท้อนและหักเหเมื่อเคล่ือนที่ผ่าน

ข้อ 611-670 จงเติมเครอ่ื งหมาย ( ⁄ ) ลงในชอ่ งคาตอบของขอ้ ความท่ี ตัวกลางต่างชนดิ กัน ถกู หรือเครอ่ื งหมาย (X) ลงในช่องคาตอบของข้อความทผ่ี ิด .................637) คลน่ื กลจะเปลี่ยนแปลงความเรว็ เมือ่ เคล่อื นที่ผา่ นรอยตอ่ ของตัวกลางต่างชนิดกนั …………….611) นิวเคลียสของอะตอมประกอบด้วยอนุภาคโปรตอน .................638) อกุ กาบาตเปน็ วตั ถุท่มี าจากนอกระบบสรุ ิยะ นิวตรอน และอิเลก็ ตรอน .................639) สนามแม่เหล็กเกดิ จากการเคลือ่ นทขี่ องประจุ …………….612) พลังงานและสสารสามารถเปลย่ี นรปู กลบั ไป-มาได้ .................640) ซากดึกด้าาบรรพ์ คือ ซากและร่องรอยของส่งิ มีชีวติ ใน …………….613) เอกภพประกอบด้วยกาแลก็ ซจี ้านวนมาก อดีตท่ปี รากฏอยูใ่ นหิน …………….614) เคลวนิ เป็นหนว่ ยวัดอณุ หภมู ิมีค่าเท่ากบั องศาเซลเซยี ส .................641) ในกระบวนการพาความร้อนเมอ่ื สสารได้รับความรอ้ นจะ …………….615) สเปกตรัมคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าประกอบด้วยคลื่น เกิดการขยายตัวท้าใหค้ วามหนาแน่นต้่าลง และมวลสสารท่ีมอี ุณหภมู ิต้า่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าทุกชนิดยกเว้นแสง

…………….616) ไฮโดรเจนเปน็ ธาตทุ ี่มมี ากทส่ี ุดในเอกภพ กวา่ ความหนาแนน่ สงู กว่าจะเข้ามาแทนท่ี

…………….617) ไมโครเวฟเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าท่ีมีความยาวคลน่ื น้อย .................642) ภเู ขาไฟระเบดิ แผน่ ดนิ ไหว และสนึ ามิเปน็ ธรณีพิบัติภัย

กวา่ แสง ท่ีเกิดขึนจากกระบวนการบนผวิ โลก …………….618) สเปกตรัมของแสงสีแดงมพี ลังงานสงู กวา่ แสงสีน้าเงิน .................643) คล่ืนไหวสะเทือนเป็นคล่ืนที่ต้องอาศัยตัวกลางในการ …………….619) ดาวฤกษ์ท่ีมีมวลมากจะมีค่าความส่องสว่างมากกว่าดาว เคลื่อนที ฤกษ์ที่มีมวลนอ้ ยท่รี ะยะทางเท่ากนั .................644) หากเกิดแผ่นดินไหวขณะอยู่ในอาคารควรหมอบลงใต้ …………….620) สีของดาวฤกษ์จะเปล่ียนแปลงไปตามอุณหภูมผิ วิ ของดาว โตะ๊ เพื่อป้องกันของตกใส ฤกษ์ .................645) หากเกิดสึนามิขณะอยู่ในเรือกลางทะเลให้รบี เข้าใกล้ฝ่งั …………….621) ดาวหางไมจ่ ัดเป็นสมาชิกของระบบสรุ ิยะ ให้มากทส่ี ดุ

โดย ครูสุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 49

.................646) โลกมีสัณฐานคล้ายทรงกลมและแกนของโลกเอียง .................654) ลมพัดจากบรเิ วณทีม่ คี วามกดอากาศต้า่ กว่าไปยงั บริเวณ

ประมาณ 23.5 องศา กับเสน้ ตังฉากของระนาบการโคจรของโลกรอบดวง ท่ีมีความกดอากาศสูงกว่า

อาทิตย์ .................655) อัตราเร็วลมแปรผันตามความแตกต่างของความกด

.................647) การแผ่รังสีเป็นการถ่ายโอนพลังงานท่ีเกิดขึนในอวกาศ อากาศของสองบริเวณและระยะหา่ งระหวา่ งสองบรเิ วณนนั

เทา่ นนั .................656) ภมู อิ ากาศ คอื ค่าเฉล่ยี ลมฟ้าอากาศในพนื ทีใ่ ดพนื ท่ีหนึ่ง

.................648) รังสดี วงอาทติ ยเ์ ป็นคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ ในช่วงเวลานาน ประมาณ 30 ปขี ึนไป

.................649) คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ามีหลายช่วงความถี่ ได้แก่ คลื่นวิทยุ .................657) แก๊สเรือนกระจกและละอองลอยเป็นองคป์ ระกอบหน่งึ

ไมโครเวฟ อนิ ฟราเรด แสงท่ีมองเห็น อัลตราไวโอเลต รงั สีเอ็กซ์ และรงั สี ในบรรยากาศท่ีมีปริมาณคงท่ี

แกมมา .................658) ถ้าโลกไม่มีแก๊สเรือนกระจกจะท้าให้อุณหภูมิของโลก

.................650) พืนผิวสองบริเวณท่ีมีลักษณะต่างกัน เมื่อได้รับรังสีดวง เวลากลางวันและกลางคืนแตกต่างกันมาก

อาทติ ย์ในปริมาณทเี่ ทา่ กนั จะมอี ณุ หภมู ิเทา่ กัน .................659) เมฆคิวมโู ลนมิ บสั และเมฆนมิ โบสเตรตสั ทา้ าให้เกดิ หยาด

.................651) อากาศที่มอี ณุ หภูมิต้่าจะมคี วามหนาแน่นมากกวา่ อากาศ น้าฟ้า

ทมี่ อี ณุ หภมู ิสูง .................660) อณุ หภมู ิอากาศ ความกดอากาศ อตั ราเรว็ และทศิ ทางลม

.................652) บริเวณท่มี อี ุณหภมู อิ ากาศต้่าจะมคี วามกดอากาศต้า่ กว่า ความชืนสัมพัทธ์ ชนิดและปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้าฟ้า เป็น

บรเิ วณรอบขา้ งทอ่ี ากาศมีอณุ หภมู สิ งู กวา่ องคป์ ระกอบลมฟา้ อากาศที่นา้ มาใชใ้ นการพยากรณอ์ ากาศ

.................653) บรเิ วณทอี่ ากาศมอี ุณหภูมสิ งู จะสามารถเกบ็ ไอน้าได้มาก

ท้าให้มีโอกาสเกิดเมฆมากกว่าบริเวณท่ีอากาศมอี ุณภูมติ ่้ากวา่ *****************************************************************

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา

ร า ย วิ ช า ( ว 3 3 1 0 3 ) วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ โ ล ก แ ล ะ อ ว ก า ศ ม . 6 ( เ ต รี ย ม ส อ บ เ ข้ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ห น้ า | 50

โจทยฝ์ กึ ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ รายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์โลก

และอวกาศ (ว33103)

(เตรยี มสอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั )

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง โลกในเอกภพ บทท่ี 1 เอกภพ บทท่ี 2 ดาวฤกษ์ บทท่ี 3 ระบบสุรยิ ะ บทท่ี 4 เทคโนโลยอี วกาศ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก บทที่ 5 โครงสร้างโลก บทที่ 6 การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี บทที่ 7 ธรณพี บิ ัติภยั หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง ลมฟา้ อากาศและภมู อิ ากาศ บทท่ี 8 การเกิดลมฟา้ อากาศและภมู อิ าการอากาศ บทที่ 9 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภมู ิอากาศโลก บทท่ี 10 ข้อมลู สารสนเทศทางอตุ นุ ิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์

โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ ตาแหนง่ ครู วทิ ยะฐานะ ชานาญการ

ชอื่ นามสกุล................................................................................................... ............................................................................................................