การ ลด รายจ าย เพ ม ราย ได ขยาย โอกาส

เผยแพร่: 2 ต.ค. 2566 13:36 ปรับปรุง: 2 ต.ค. 2566 13:36 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“ภูมิธรรม” ผนึกกำลังผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ห้างโมเดิร์นเทรด ห้างท้องถิ่น ผู้ให้บริการ แพลตฟอร์ม รวม 288 ราย ปรับลดราคาสินค้าและบริการพร้อมกันทั้งประเทศรวม 151,676 รายการ ลดแรงสูงสุด 87% แถมใช้โค้ดส่วนลดซื้อสินค้าออนไลน์ได้กว่า 1 ล้านรายการ ดีเดย์ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี คาดช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน 2-3 พันล้านบาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกับผู้ประกอบการ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (Quick Win) ในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส โดยดึงผู้ประกอบการ 288 ราย ประกอบด้วย ผู้ผลิตสินค้าของกินของใช้จำเป็น รวม 88 ราย ผู้จำหน่าย ทั้งห้างโมเดิร์นเทรด ห้างท้องถิ่น และห้างขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและอุปกรณ์ช่าง รวม 83 ราย ผู้ให้บริการ เช่น โรงพยาบาล ศูนย์บริการรถยนต์ และบริษัทขนส่งสินค้า พัสดุ รวม 110 ราย แพลตฟอร์ม 7 ราย ปรับลดราคาสินค้าและบริการ รวมทั้งสิ้น 151,676 รายการ และแต่ละแพลตฟอร์มแจกโค้ดส่วนลดใช้สั่งอาหารและซื้อสินค้าออนไลน์ รวม 1,012,000 รายการ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2566 หรือประมาณ 3 เดือน

สำหรับกลุ่มสินค้าที่ลดราคา แบ่งเป็น 3 หมวด ได้แก่ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น อาหารสำเร็จรูป ข้าวสาร ซอสปรุงรส และเครื่องดื่ม รวม 3,058 รายการ ลดสูงสุด 87% หมวดของใช้จำเป็น เช่น ของใช้ประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน-อุปกรณ์ช่าง ยาและเวชภัณฑ์ รวม 8,290 รายการ ลดสูงสุด 80% และหมวดปัจจัยการเกษตร ทั้งปุ๋ย เคมีเกษตร และอาหารสัตว์ 198 รายการ ลดสูงสุด 40% สำหรับกลุ่มบริการ แบ่งเป็น 3 หมวด ได้แก่ หมวดบริการทางการแพทย์ 140,000 รายการ ลดสูงสุด 20% หมวดบริการซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ 123 รายการ ลดสูงสุด 50% และหมวดบริหารขนส่งสินค้า พัสดุ 7 รายการ ลดสูงสุด 69%

“ขอขอบคุณผู้ประกอบการทุกรายที่ออกมาประกาศปรับลดราคาสินค้าและบริการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ยังช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปลายปี ที่สำคัญช่วยสร้างสมดุลให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ทั้งประชาชนผู้บริโภค เกษตรกร และผู้ประกอบการไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่” นายภูมิธรรมกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องการเรียกร้องให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ลดราคาเพียงอย่างเดียว แต่จะเข้าไปช่วยหาทางลดต้นทุน และแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่มีอยู่ให้ด้วย หากมีอะไร ก็ให้เสนอมา พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เพราะเป็นนโยบายอยู่แล้ว

นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมโครงการลดราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ได้ แม้ว่าต้นทุนหลายตัวสูงขึ้น ทั้งวัตถุดิบ แป้งสาลี น้ำมันปาล์ม ค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า จนสินค้าไปถึงห้าง ก็เพราะผู้ประกอบการช่วยกันลดส่วนกำไรลงมา ทำให้สามารถปรับลดราคาลงมาได้

“ภูมิธรรม” เป็นสักขีพยานลงนาม MOU ผู้ประกอบการไทย-จีน ซื้อขายมันและกาแฟกว่า 5,430 ล้านบาท “ภูมิธรรม” เป็นสักขีพยานลงนาม MOU ระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน ซื้อขายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์กาแฟ มูลค่ากว่า 5,430 ล้านบาท คาดส่งผลดีช่วยผลักดันราคาในประเทศสูงขึ้น เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น พร้อมร่วมมือห้าง Parkson ผลักดันสินค้าไทย เดินหน้าจัดกิจกรรมขายผลไม้ไทย และหารือกับเจ้าของบริษัท Yunnan Dimiao Electronic Commerce ร่วมมือนำสินค้าไทยไปขายเพิ่มขึ้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน ที่โรงแรม Wanda Vista Kunming นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า การลงนามในครั้งนี้ เกิดขึ้นตามนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล ในการผลักดันการส่งออก โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครคุนหมิง จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าทางออนไลน์ล่วงหน้าให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์กาแฟ กับผู้นำเข้าสินค้าไทยในจีน (Thai–Yunnan Quick Win Business Matching and Networking) ซึ่งสามารถตกลงซื้อขายกันได้ และนำมาซึ่งการลงนามในครั้งนี้ ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้นำเข้าจีน ทั้ง 3 คู่ ได้แก่ คู่ที่ 1 ระหว่าง startup Innocas กับ บริษัท Guangdong Zhongqing Biochemical Science & Technology จำกัด คู่ที่ 2 ระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงคั่วกาแฟ กับ บริษัท Yunnan Zongtong International Trade Co., Ltd. และคู่สุดท้าย ระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงคั่วกาแฟ กับ บริษัท Yunnan New Taste Agricultural Development Co., Ltd. โดยเป็นการตกลงสั่งซื้อสินค้าแป้งมันสำปะหลังและสตาร์ชที่ผลิตได้จากหัวมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์กาแฟ คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,430.75 ล้านบาท “การหาตลาดล่วงหน้าให้กับมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์กาแฟในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อราคามันสำปะหลังและกาแฟในประเทศ ที่จะปรับตัวสูงขึ้น จากการที่ผลผลิตมีตลาดรองรับ และช่วยให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาดีขึ้น มีรายได้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และจากนี้ จะเดินหน้าหาตลาดล่วงหน้าให้กับสินค้าเกษตรอื่นๆ ต่อไป” นายภูมิธรรมกล่าว นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในการเดินทางไปคุนหมิงในครั้งนี้ ได้รับรายงานจากนายณัฐ วิมลจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครคุนหมิง ถึงการไปสำรวจตลาดสินค้าไทยในห้างสรรพสินค้า Parkson ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแรกของต่างชาติที่เข้ามาเปิดสาขาในจีน ก่อตั้งปี 2537 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ปี 2548 ปัจจุบัน มี 42 สาขา ใน 28 เมือง จำหน่ายสินค้ากว่า 5,000 แบรนด์ และมีสมาชิกกว่า 17.9 ล้านคน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับห้างในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสินค้าไทย เพื่อเปิดตลาดให้กับผู้ประกอบการของไทยต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดโครงการยกระดับการส่งออกผลไม้เข้าสู่ตลาดจีนมาแล้วช่วงวันที่ 21-25 ก.ค.2565 และจัดต่อเนื่องในปี 2566 วันที่ 1-5 ก.ค.2566 ภายใต้ชื่อ Thai Fruits Golden Months in Kunming 2023 โดยมีการทำ Live Streaming โดย KOL และ Net Idol ที่มีผู้ติดตาม 7,581,000 คน ผ่านแพลตฟอร์ม Yizhibo จำนวน 1 วัน มีผู้เข้าชมรวม 3.54 ล้านวิว อีกทั้งมีการสาธิตปรุงอาหารไทย เช่น ต้มยำกุ้ง ยำมาม่า และข้าวเหนียวทุเรียน จากพ่อครัวของร้านอาหารไทย Cloud 18 ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select ผลการจัดกิจกรรมมียอดจำหน่ายผลไม้ช่วงจัดกิจกรรม 234,045 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.53 สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ทุเรียน ส้มโอ และมะพร้าว นอกจากนี้ ได้พบปะกับคุณจันทร์จิรา อนันต์ชัยพัฒนา (คุณชิง) เจ้าของร้านอาหารไทยคุ้มจันทร์เจ้า ประธานสมาคมนักธุรกิจไทยในจีนตะวันตกเฉียงใต้ และประธานบริษัท Yunnan Dimiao Electronic Commerce Co., Ltd. โดยจะร่วมมือผลักดันวัตถุดิบอาหารไทย และสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดจีน ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้มีการนำสินค้าไทยเข้ามาจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์แล้ว เช่น เบียร์สิงห์ มาม่า และ S&P เป็นต้น โดยการเปิด Flagship Store ในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียงของจีน และยังมีความร่วมมือกับบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์จำกัด (มหาชน) ในการเป็นตัวแทน จำหน่ายสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อมาม่า และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายด้านออนไลน์ของสินค้าไทยอื่น ๆ เช่น รังนกยี่ห้อ B BIRD ผลไม้อบแห้งยี่ห้อ ROZOCHA เป็นต้น สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169 **************************************** กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 18 ธันวาคม 2566