สานต่อวีรกรรมความเดือด ของภาคแรก กับ 4 Kings II ที่เพิ่มความสนุกมากกว่าเท่าตัว เพื่อตีแผ่สังคมของนักเรียนอาชีวะแบบหมดเปลือก โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวที่เล่าต่อจาก “4 Kings” (2021) ภาคแรกที่ได้นำเสนอราวความขัดแย้งรุนแรงระหว่าง "อิน" กับ "ชล" (สถาบันอินทรอาชีวศึกษาและเทคโนโลยีประชาชล) ซึ่งการกลับมาของ “4 Kings II” จะโฟกัสไปที่เรื่องราวการปะทะกันระหว่างสองคู่อริต่างสถาบันระหว่าง กนก และ บุรณพนธ์ ดุเดือดเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม! Show คอนเทนต์แนะนำ เรื่องย่อ 4 Kings 2การปะทะของ 2 อริต่างสถาบัน กนก และ บูรณพนธ์ เริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง “ตุ้มเม้ง กนก” (ท็อป-ทศพล) ถูกดักทำร้ายร่างกายจนปางตาย “บ่าง กนก” (แหลม-สมพล) เตรียมการหวังแก้แค้น “เอก บูรณพนธ์” (ทู-สิราษฎร์) และ “รก บูรณพนธ์” (จี๋-สุทธิรักษ์) แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างที่คิด บ่าง ตกอยู่ในสถานการณ์ที่นั่งลำบาก ทำให้ บุ้ง (ทราย เจริญปุระ) พี่สาวของบ่าง พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยน้องชายของเธอ ความแค้นสะสมได้เวลาเอาคืน เมื่อ บ่าง และ รก กลับมาเผชิญหน้ากัน พร้อมการปรากฎตัวของ ยาท เด็กบ้าน (บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด) ที่สร้างจุดชนวนครั้งใหญ่ ทำให้เหตุการณ์เลวร้าย ความจริงถูกเปิดเผยออกมาจนนำไปสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญ ภาพยนตร์ เรื่อง 4 Kings 2วันที่เข้าฉาย : 30 พฤศจิกายน 2023 หมวดหมู่ : Action, Drama เรทผู้ชม : 18 ความยาว : 140 นาที ผู้กำกับ : พุฒิพงษ์ นาคทอง นักแสดง 4 Kings 2แหลม สมพล รุ่งพาณิชย์ รับบท บ่าง กนก จี๋ สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร รับบท รก บุรณพนธ์ ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ รับบท เอก บุรณพันธ์ ท็อป ทศพล หมายสุข รับบท ตุ้มเม้ง กนก ดี เจอร์ราร์ด รับบท ยาท เด็กบ้าน เบนจามิน วาร์นี รับบท เค บุรณพันธ์ ณัฐวุฒิ เจนมานะ รับบท หนุ่ย กนก ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง รับบท นักเรียนช่าง ทราย เจริญปุระ รับบท พี่สาว บ่าง กนก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ รับบท มด ประชาชล ธามไท แพลงศิลป์ รับบท แม็กซ์ ประชาชล และนักแสดงมากฝีมือคับคั่ง อาทิ สุธีรัชย์ ชาญนุกูล, สหจักร บุญธนกิจ, วิทยา ปานศรีงาม, สหัสชัย ชุมรุม ฯลฯ “ขอให้พรให้ทุกท่านมีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ตลอดจนขวัญ และความสุขเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศ ประชาชน ซึ่งถ้าปฏิบัติได้ดี มีความตั้งใจ และมีความขันติ มีความอดทน ตลอดจนมีความกระตือรือร้น ที่จะศึกษาปัญหา และแก้ปัญหาก็จะได้ผลต่อประเทศ และเป็นบุญเป็นกุศลที่ท่านได้ทำให้กับตนเองด้วย เพราะว่าการปฏิบัติงานนั้น ไม่ว่าจะปฏิบัติงานใดย่อมมีปัญหา ย่อมมีอุปสรรค คือปัญหา และอุปสรรคนั้นเป็นบททดสอบ และบททดสอบนี้จะเป็นบทเรียนและสิ่งที่จะเพิ่มความสามารถให้แก่ท่าน มีอะไรก็ปรึกษากัน หาข้อมูลที่ถูกต้อง และปฏิบัติด้วยความรอบคอบ ทันการณ์ สมกับสถานการณ์ และเหตุผล” เป็นพระราชสวามีของพระนางโสมา พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Hùntián (混塡) หรือ Hùnhuì (混湏) เป็นตำนานพระทอง-นางนาค3 – ศตวรรษที่ 2 – 2ไม่ปรากฏพระนาม4พระเจ้าฮุน ปัน ฮวง (พระนามในบันทึกเอกสารจีน)ศตวรรษที่ 2 – พ.ศ. 741พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Hùnpánkuàng (混盤況)5พระเจ้าปัน ปาน (พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 741 – 744 (3 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Pánpán (盤盤)6พระเจ้าศรีมารญะ พ.ศ. 744 – 768 (24 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน ชือม่าน (范師蔓)7พระเจ้าฟ่าน จินเซิง (พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 768 – 768 (น้อยกว่า 1 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน จินเซิง (范金生)8พระเจ้าศรีธรณีนทรวรมัน พ.ศ. 768 – 787 (19 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน จาน (范旃)9พระเจ้าฟ่าน เฉิง (พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 787 – 787 (น้อยกว่า 1 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน เฉิง (范長)10พระเจ้าอัสรชัย พ.ศ. 787 – 832 (45 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน สุน (范尋)11พระเจ้า ฟ่าน เทียนจู (พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 832 – 900 (68 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน เทียนจู12พระเจ้าเจิน ท่าน (พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 900 – 953 (53 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Zhāntán (旃檀)13พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 2 พ.ศ. 953 – 978 (25 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Qiáochénrú (僑陳如)14พระเจ้าศรีอินทรวรมัน พ.ศ. 977 – 978 (1 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Chílítuóbámó (持梨陀跋摩)15– พ.ศ. 978 – 981 (3 ปี) ไม่ปรากฏพระนาม16– พ.ศ. 981 – 1027 (46 ปี) ไม่ปรากฏพระนาม17พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3 พ.ศ. 1027 – 1057 (30 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Qiáochénrú Shéyébámó (僑陳如闍耶跋摩) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 218พระเจ้ารุทรวรมัน พ.ศ. 1057 – 1093 (36 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Liútuóbámó (留陁跋摩) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรฟูนานพระองค์สุดท้าย และพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรจามปา เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3 ที่ประสูติจากพระสนม เมื่อพระราชบิดาสวรรคตพระองค์ก็ทำการแย่งชิงราชสมบัติและสังหาร เจ้าชายกุณณะวรมัน รัชทายาทโดยชอบธรรมที่ประสูติจากพระนางกุลประภาวดี พระอัครมเหสี จึงมีการทำสงครามยืดเยื้อกับพระนางกุลประภาวดี เป็นสาเหตุให้อาณาจักรฟูนานอ่อนแอและล่มสลายลงในที่สุด เมื่อพระเจ้าภววรมันที่ 1 ร่วมกันกับเจ้าชายจิตรเสน (พระเจ้ามเหนทรวรมัน) พระอนุชา ทำสงครามเพื่อชิงราชสมบัติและบุกยึดราชธานีวยาธปุระได้สำเร็จสงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1093 – 1170) –พระเจ้าปวีรักษ์วรมัน พ.ศ. 1093 – 1143 (50 ปี)สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ –พระเจ้ามเหนทรชัยวรมัน พ.ศ. 1143 – 1158 (15 ปี)สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ –พระเจ้านเรนทรวรมัน พ.ศ. 1158 – 1170 (12 ปี)สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละอาณาจักรเจนละ(พ.ศ. 1093 – 1345)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1093 – 1256)– พระเจ้าศรุตวรมัน พ.ศ. 1093 – 1098 (5 ปี) ทรงปลดแอกอาณาจักรเจนละจากการปกครองของอาณาจักรฟูนานในศตวรรษที่ 5 พระองค์สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์กัมโพช-สุริยวงศ์ ซึ่งเป็นราชวงศ์ของพราหมณ์กัมพูสวยัมภูวะกับพระนางอัปสรเมราพระองค์ทรงเป็นพระราบิดาในพระเจ้าเศรษฐวรมัน–พระเจ้าเศรษฐวรมัน พ.ศ. 1098 – 1103 (5 ปี) เป็นพระโอรสของพระเจ้าศรุตวรมัน เป็นผู้สถาปนาเมืองเศรษฐปุระเป็นเมืองหลวง ที่เชิงเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทหินวัดพู พระองค์ทรงเป็นพระราชบิดาในพระนางกัมพุชราชลักษมี–พระเจ้าวีรวรมัน พ.ศ. 1103 – 1118 (15 ปี)–พระนางกัมพุชราชลักษมี พ.ศ. 1118 – 1123 (5 ปี) เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าเศรษฐวรมัน ต่อมามอบราชสมบัติให้แก่พระเจ้าภววรมันที่ 1 ซึ่งเป็นพระราชสวามีของพระนาง19พระเจ้าภววรมันที่ 1 พ.ศ. 1123 – 1143 (20 ปี) เป็นเชษฐาของพระเจ้ามเหนทรวรมัน พระองค์เป็นเชื้อพระวงศ์ในอาณาจักรฟูนานที่ปกครองเมืองภวปุระ พระองค์ได้ร่วมมือกันกับเจ้าชายจิตรเสน ยกกองทัพเข้าชิงราชสมบัติจากพระเจ้ารุทรวรมัน เพราะเห็นว่าพระเจ้ารุทรวรมันขาดความชอบธรรมในการขึ้นครองราชสมบัติโดยหลังจากที่พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3สวรรคต พระเจ้ารุทรวรมันก็ทำการสังหารรัชทายาทที่ชอบธรรมที่ประสูติจากพระอัครมเหสี แล้วขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งฟูนาน ซึ่งพระเจ้าภววรมันที่ 1 ก็ได้รับชัยชนะเหนือพระเจ้ารุทรวรมันและยึดราชธานีวยาธปุระได้สำเร็จ20พระเจ้ามเหนทรวรมัน พ.ศ. 1143 – 1159 (16 ปี) เป็นอนุชาของพระเจ้าภววรมันที่ 121พระเจ้าอิศานวรมันที่ 1 พ.ศ. 1159 – 1178 (19 ปี) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามเหนทรวรมัน22พระเจ้าภววรมันที่ 2 พ.ศ. 1182 – 1200 (18 ปี)23พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 พ.ศ. 1200 – 1224 (24 ปี) สวรรคตโดยไม่มีรัชทายาทที่เป็นชายหลงเหลืออยู่เลย พระมเหสีของพระองค์ คือ พระนางชยเทวี จึงสืบราชสมบัติต่อ และทำให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนออกเป็นภาคส่วนต่าง ๆ 24พระนางชยเทวี พ.ศ. 1224 – 1256 (32 ปี) เป็นพระมเหสีของพระเจ้าชัยวรมันที่ 1อาณาจักรเจนละ ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรเจนละบกและอาณาจักรเจนละน้ำ[ต้องการอ้างอิง] อาณาจักรเจนละน้ำ (พ.ศ. 1256 – 1345)25พระเจ้าพลาทิตย์ พ.ศ. 1256 – 1256 (น้อยกว่า 1 ปี)26พระเจ้านรีประทินวรมัน พ.ศ. 1256 – 1259 (3 ปี)27พระเจ้าบุษกรักษา พ.ศ. 1259 – 1273 (14 ปี)28พระเจ้าสัมภูวรมัน พ.ศ. 1273 – 1303 (30 ปี) ทรงรวมเจนละเข้าเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง[ต้องการอ้างอิง] 29พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 1 พ.ศ. 1303 – 1323 (20 ปี)30พระเจ้ามหิปติวรมัน พ.ศ. 1303 – 1345 (42 ปี) สวรรคตจากการโดนพระเจ้าสัญชัยตัดพระเศียร เมื่อ พ.ศ. 1345อาณาจักรศรีวิชัย เข้ายึดครองอาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1345)อาณาจักรพระนคร(พ.ศ. 1345 – 1974)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรพระนคร (พ.ศ. 1345 – 1974)สถาปนา มเหนทรบรรพต เป็นเมืองหลวง สถาปนา หริหราลัย เป็นเมืองหลวง 31 พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พ.ศ. 1345 – 1378 (33 ปี) ประกาศอิสรภาพกัมพูชาจากการยึดครองของอาณาจักรศรีวิชัย สถาปนาอาณาจักรพระนคร และรับการอภิเษกเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ณ พนมกุเลนและริเริ่มลัทธิเทวราชขึ้นเป็นครั้งแรกในกัมพูชา32พระเจ้าชัยวรมันที่ 3 พ.ศ. 1378 – 1420 (42 ปี) เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าชัยวรมันที่ 233พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 พ.ศ. 1420 – 1432 (12 ปี) ภาคิไนยในพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พระองค์ได้สร้างปราสาทพระโค โดยอุทิศแด่พระราชบิดาและพระอัยกา และสร้างปราสาทบากองสถาปนา ยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวง 34พระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พ.ศ. 1432 – 1453 (21 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 พระองค์ได้สร้างปราสาทโลเลย ย้ายราชธานีไปตั้งที่กรุงยโศธรปุระล้อมรอบด้วยพนมบาเค็ง อีกทั้งยังทรงโปรดให้ขุดบารายตะวันออก35พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 พ.ศ. 1453 – 1466 (13 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระองค์ได้สร้างปราสาทปักษีจำกรุง36พระเจ้าอิศานวรมันที่ 2 พ.ศ. 1466 – 1471 (5 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระเชษฐาในพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 พระองค์มีบทบาทในการชิงพระราชบัลลังก์พระมาตุลาของพระองค์เอง (พระเจ้าชัยวรมันที่ 4) พระองค์โปรดให้สร้างปราสาทกระวานสถาปนา เกาะแกร์ เป็นเมืองหลวง 37พระเจ้าชัยวรมันที่ 4 พ.ศ. 1471 – 1484 (13 ปี) พระราชนัดดาในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 (ประสูติแต่พระนางมเหนทรเทวี พระธิดาในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1) พระองค์ได้อภิเษกสมรสกับพระนางชยเทวี พระขนิษฐาในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระองค์ทรงราชาภิเษกโดยอ้างสิทธิ์ทางสายพระราชมารดา และเป็นผู้สถาปนาเกาะแกร์เป็นราชธานี38พระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 พ.ศ. 1484 – 1487 (3 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้าชัยวรมันที่ 4สถาปนา ยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวง 39พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 พ.ศ. 1487 – 1511 (24 ปี) เป็นพระปิตุลาและพระภาดาของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 พระองค์ได้ชิงพระราชบัลลังก์จากพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2และทรงย้ายราชธานีกลับมาที่เมืองพระนคร ทรงโปรดให้สร้างปราสาทแปรรูปและปราสาทแม่บุญตะวันออก, ทรงเริ่มทำสงครามกับอาณาจักรจามปาในปี ค.ศ. 946สถาปนา พระนคร เป็นเมืองหลวง 40พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 พ.ศ. 1511 – 1544 (33 ปี) พระราชโอรสของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ทรงสถาปนาราชธานีแห่งใหม่คือเมืองชัยเยนทรนครและปราสาทตาแก้ว ให้เป็นศูนย์กลางแทนเมืองศรียโศธรปุระ41พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 1 พ.ศ. 1544 – 1549 (5 ปี) เป็นยุคแห่งความวุ่นวาย เนื่องจากมีพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ครองราชย์พร้อมกันทำให้เกิดความขัดแย้ง42พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 พ.ศ. 1549 – 1593 (42 ปี) ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์โจฬะและสู้รบกับอาณาจักรตามพรลิงก์ โปรดให้สร้างปราสาทพระขรรค์กำปงสวาย พระองค์ได้หันมานับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน43พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 พ.ศ. 1593 – 1609 (16 ปี) ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ พระองค์สืบราชสันตติวงศ์แต่พระมเหสีในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 โปรดให้สร้างปราสาทบาปวน โปรดให้ขุดบารายตะวันตกและโปรดให้สร้างปราสาทแม่บุญตะวันตกและปราสาทสด็อกก็อกธม44พระเจ้าหรรษวรมันที่ 3 พ.ศ. 1609 – 1623 (14 ปี) แย่งราชบัลลังก์จากพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 ตั้งศูนย์กลางพระนครที่ปราศาทบาปวน การรุกรานของอาณาจักรจามปาในปี พ.ศ. 1617 และ 162545พระเจ้าชัยวรรมันที่ 6 พ.ศ. 1623 – 1650 (27 ปี) พระองค์ชิงราชบัลลังก์จากวิมายปุระ เป็นปฐมกษัตริย์ต้นสายราชสกุลมหิธรปุระ โปรดให้สร้างปราสาทพิมาย46พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 1 พ.ศ. 1650 – 1656 (6 ปี) ชิงราชบัลลังก์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 647พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 พ.ศ. 1656–1688 (32 ปี) ลอบปลงพระชนม์พระปัยกาและแย่งชิงเพื่อขึ้นครองราชสมบัติต่อ และยังโปรดให้สร้าง ปราสาทนครวัด, บันทายสำเหร่, ธรรมนนท์, เจ้าสายเทวดา และ บึงมาลา อีกทั้งยังทำศึกสงครามรุกรานกับอาณาจักรไดเวียต และ จามปา48พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2 พ.ศ. 1693 – 1703 (10 ปี) เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 249พระเจ้ายโศวรมันที่ 2 พ.ศ. 1703 – 1710 (7 ปี) ถูกยึดอำนาจโดยพระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมัน50พระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมัน พ.ศ. 1710 – 1720 (10 ปี) อาณาจักรจามปาได้เข้ามารุกรานเมื่อปี พ.ศ. 1720 จนกระทั่งเสียพระนครให้แก่จามปาในรัชสมัยพระเจ้าชัยอินทรวรมันที่ 4 กษัตริย์แห่งอาณาจักรจามปา ในอีกหนึ่งปีต่อมา คือเมื่อปี พ.ศ. 1721ถูกรุกรานโดยอาณาจักรจามปา (ว่างเว้นกษัตริย์ พ.ศ. 1721 – 1724) สถาปนา นครธม เป็นเมืองหลวง 51พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พ.ศ. 1724 – 1761 (37 ปี) เป็นผู้นำกองทัพชาวพระนครในการกอบกู้เอกราชของอาณาจักรพระนครให้พ้นจากการปกครองของอาณาจักรจามปา จนได้รับชัยชนะและเป็นเอกราชอีกครั้งในปี พ.ศ. 1734 หลังจากประสบความสำเร็จจากการทำศึกครั้งนั้นแล้ว จึงได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สำคัญเช่น การสร้างอโรคยศาลา พระราชวัง สระน้ำหลวง รวมไปถึงปราสาทองค์สำคัญ เช่น ปราสาทตาพรหม, ปราสาทพระขรรค์, ปราสาทบายน ใน นครธม และ ปราสาทนาคพันธ์ เป็นต้น52พระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 พ.ศ. 1762 – 1786 (24 ปี) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในรัชสมัยของพระองค์นั้นได้สูญเสียดินแดนทางฝั่งตะวันตกโดยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ได้ทำการฟื้นฟูอาณาจักรสุโขทัยขึ้น และดินแดนทางฝั่งตะวันออกนั้น อาณาจักรจามปา ก็ยังได้ประกาศเอกราชขึ้นมาอีกในรัชสมัยเดียวกัน53พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 พ.ศ. 1786 – 1838 (52 ปี) ถูกชาวมองโกลนำโดยกุบไลข่าน รุกรานในปี พ.ศ. 1826 และทำสงครามกับอาณาจักรสุโขทัย54พระเจ้าอินทรวรมันที่ 3 พ.ศ. 1838 – 1851 (13 ปี) ลอบปลงพระชนม์พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ผู้เป็นพระสัสสุระ ทำให้พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติ มีการรับนักการทูตชาวจีนหยวน โจว ต๋ากวาน (พ.ศ. 1839 – 1840)55พระเจ้าอินทรวรมันที่ 4 พ.ศ. 1851 – 1870 (19 ปี)56พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 พ.ศ. 1870 – 1879 (9 ปี) มีพระนามปรากฏในศิลาจารึกภาษาสันสกฤตเป็นพระองค์สุดท้าย สิ้นสุดการปกครองโดยราชสกุลมหิธรปุระหลังจากที่ได้ปกครองอาณาจักรมาอย่างยาวนานกว่า 300 ปี57พระเจ้าแตงหวาน พ.ศ. 1879 – 1883 (4 ปี) ต้นสายราชสกุลตระซ็อกประแอม58พระบรมนิพพานบท พ.ศ. 1883 – 1889 (6 ปี)59พระสิทธานราชา พ.ศ. 1889 – 1890 (1 ปี)60พระบรมลำพงษ์ราชา พ.ศ. 1890 – 1896 (6 ปี)อาณาจักรอยุธยา ตีนครธมแตก แต่ยังคงมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป 61พระบาสาต (พระบากระษัตร) พ.ศ. 1896 – 1899 (3 ปี)62พระบาอาต (พระบาอัฐ) พ.ศ. 1899 – 1900 (1 ปี)63พระกฎุมบงพิสี พ.ศ. 1900 (น้อยกว่า 1 ปี)64พระศรีสุริโยวงษ์ พ.ศ. 1900 – 1906 (6 ปี)65พระบรมรามา พ.ศ. 1906 – 1916 (10 ปี)66พระธรรมาโศกราช พ.ศ. 1916 – 1936 (20 ปี)อาณาจักรอยุธยา นำโดยสมเด็จพระราเมศวร ตีนครธมแตกครั้งที่ 2 แต่ยังคงมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป 67พระอินทราชา (พญาแพรก) พ.ศ. 1931 – 1964 (33 ปี)สถาปนา จตุรมุข เป็นเมืองหลวงอาณาจักรเขมรจตุมุข(พ.ศ. 1974 – 2083)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรจตุมุข (พ.ศ. 1974 – 2083)พ.ศ. 1974 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา เสด็จยกทัพมาตีนครธม ได้สำเร็จ และทรงแต่งตั้งพระอินทราชา พระราชโอรสครองเมืองนครธมต่อไป ในฐานะประเทศราช ต่อมาอาณาจักรอยุธยาได้แต่งตั้งให้เจ้าพระยาแพรก พระราชโอรสอีกพระองค์ในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 มาครองนครธม จนกระทั่งถูกเจ้าพระยาญาติ เชื้อพระราชวงศ์วรมันกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ พระองค์ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบรมราชารามาธิบดีที่ 1 ส่วนเจ้าพระยาแพรกถูกปลงพระชนม์ สถาปนา จตุมุข เป็นเมืองหลวง 68 พระบรมราชารามาธิบดีที่ 1 (พระบรมราชาเจ้าพญาญาติ) พ.ศ. 1916 – 1976 (60 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงจตุมุข เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรจตุมุขย้ายเมืองหลวงกลับมาที่ พระนคร 69พระนารายณ์รามาธิบดี (พระนารายณ์ราชาที่ 1 , พญาคำขัด) พ.ศ. 1976 – 1980 (4 ปี) ย้ายราชธานีกลับมาเมืองพระนคร70พระศรีราชา พ.ศ. 1980 - 1981 (1 ปี) ถูกพระศรีสุริโยไทยราชา พระอนุชาชิงราชสมบัติ71พระศรีสุริโยไทยราชา (เจ้าพญาเดียรราชา) พ.ศ. 1981 – 2019 (38 ปี) เป็นพระราชโอรสเจ้าพญาญาติ กับพระอิทรมิตรา (พระราชธิดาสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา) ถูกพระพระธรรมราชาชิงราชสมบัติย้ายเมืองหลวงกลับมาที่ จตุมุข 72สมเด็จพระธรรมราชาธิราชรามาธิบดีที่ 1 (พระศรีธรรมราชาที่ 1) พ.ศ. 2011 – 2047 (36 ปี) เป็นพระราชโอรสพระศรีสุริโยไทยราชา กับธิดาขุนทรงพระอินทร์ (ขุนนางอยุธยาที่ถูกส่งมาเป็นเจ้าเมืองโพธิสัตว์) ถูกพระอนุชาก่อกบฏ แต่สามารถขอกำลังอยุธยาปราบกบฏได้ทัน และย้ายราชธานีกลับมาเมืองจตุรมุขอีกครั้งสถาปนา บาสาณ เป็นเมืองหลวง 73พระศรีสุคนธบท (พญางามขัต , เจ้าพระยาฎำขัตราชา) พ.ศ. 2047 – 2055 (8 ปี) สถาปนาบาสาณเป็นราชธานี74พระเจ้าไชยเชษฐาฐิราช (เจ้ากน, ขุนหลวงพระเสด็จ) พ.ศ. 2055 – 2068 (13 ปี) ชิงราชสมบัติพระศรีสุคนธบทอาณาจักรเขมรจตุมุข เปลี่ยนมาเป็นอาณาจักรเขมรละแวก และได้ตกเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยาอาณาจักรเขมรละแวก(พ.ศ. 2083 – 2140)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรละแวก (พ.ศ. 2083 – 2140)สถาปนา ละแวก เป็นเมืองหลวง 75 พระบรมราชาที่ 2 (พญาจันทร์) พ.ศ. 2059 – 2109 (50 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงละแวก เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรละแวก76สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (พระยาละแวก, ปรมินทราชา) พ.ศ. 2109 – 2119 (10 ปี) ประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา, ทำสงครามและเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระบรมราชาที่ 3ทรงประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรเขมรละแวกได้เอกราชจากกรุงศรีอยุธยา 77สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) พ.ศ. 2119 – 2137 (18 ปี) ครองราชย์ร่วมกับพระราชโอรสสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพมาตีกรุงละแวกได้สำเร็จ อาณาจักรเขมรละแวกได้ตกเป็นประเทศราชกรุงศรีอยุธยา) เป็นครั้งที่สอง 78พระไชยเชษฐาที่ 1 (นักพระสัตถา) พ.ศ. 2127 – 2137 (10 ปี) ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระบรมราชาที่ 579 (1)พระบรมราชาที่ 5 (พญาตน) พ.ศ. 2127 – 2137 (10 ปี) ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระไชยเชษฐาที่ 1อาณาจักรเขมรศรีสันธร(พ.ศ. 2140 – 2162)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรศรีสันธร (พ.ศ. 2140 – 2162)สถาปนา ศรีสันธร เป็นเมืองหลวง 80 พระบาทรามเชิงไพร (พระรามที่ 1) พ.ศ. 2137 – 2139 (2 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงศรีสันธร เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรศรีสันธร81พระรามที่ 2 (พญานูร) พ.ศ. 2139 – 2140 (1 ปี)79 (2)พระบรมราชาที่ 5 (พญาตน) พ.ศ. 2140 – 2142 (2 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 282พระบรมราชาที่ 6 (พญาอน) พ.ศ. 2142 – 2143 (1 ปี)83พระแก้วฟ้าที่ 1 (เจ้าพญาโญม) พ.ศ. 2143 – 2145 (2 ปี)84พระบรมราชาที่ 7 (ศรีสุริโยพรรณ, พระศรีสุพรรณมาธิราช) พ.ศ. 2145 – 2162 (17 ปี)อาณาจักรเขมรอุดง(พ.ศ. 2162 – 2384)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรอุดง (พ.ศ. 2162 – 2384)สถาปนา อุดงมีชัย เป็นเมืองหลวง 85 พระไชยเชษฐาที่ 2 (พระชัยเจษฎา) พ.ศ. 2162 – 2170 (8 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงอุดงมีชัย เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรอุดง86พระศรีธรรมราชาที่ 2 (พญาตู) พ.ศ. 2170 – 2175 (5 ปี)87พระองค์ทองราชา (องค์ทอง) พ.ศ. 2175 – 2183 (8 ปี)88พระปทุมราชาที่ 1 (องค์นน) พ.ศ. 2183 – 2185 (2 ปี)89พระรามาธิบดีที่ 1 (พระยาจันทร์) พ.ศ. 2185 – 2201 (16 ปี)90พระบรมราชาที่ 8 (นักองค์สูร) พ.ศ. 2202 – 2215 (13 ปี)91พระปทุมราชาที่ 2 (พระศรีชัยเชษฐ์) พ.ศ. 2215 – 2216 (1 ปี)92พระแก้วฟ้าที่ 2 (นักองค์ชี) พ.ศ. 2216 – 2220 (4 ปี)93 (1)พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) พ.ศ. 2220 – 2238 (18 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 194พระรามาธิบดีที่ 2 (นักองค์ยง) พ.ศ. 2238 – 2239 (1 ปี)93 (2)พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) พ.ศ. 2239 – 2243 (4 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 295 (1)พระแก้วฟ้าที่ 3 (นักองค์อิม) พ.ศ. 2243 – 2244 (1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 193 (3)พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) พ.ศ. 2244 – 2245 (1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 396 (1)พระศรีธรรมราชาที่ 3 พ.ศ. 2245 – 2247 (2 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 193 (4)พระไชยเชษฐาที่ 3 (นักองค์สูร) พ.ศ. 2247 – 2250 (3 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 496 (2)พระศรีธรรมราชาที่ 3 พ.ศ. 2252 – 2258 (6 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 295 (2)พระแก้วฟ้าที่ 3 (นักองค์อิม) พ.ศ. 2258 – 2265 (7 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 297 (1)พระสัตถาที่ 2 (นักองค์ชี) พ.ศ. 2265 – 2272 (7 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 195 (3)พระแก้วฟ้าที่ 3 (นักองค์อิ่ม) พ.ศ. 2272 – 2272 (น้อยกว่า 1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 397 (2)พระสัตถาที่ 2 (นักองค์ชี) พ.ศ. 2272 – 2280 (8 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 296 (3)พระศรีธรรมราชาที่ 3 พ.ศ. 2281 – 2293 (12 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 398พระศรีธรรมราชาที่ 4 (นักองค์อิ่ม) พ.ศ. 2293 – 2293 (น้อยกว่า 1 ปี)99 (1)พระรามาธิบดีที่ 3 (นักองค์ทอง) พ.ศ. 2293 – 2294 (1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 197 (3)พระสัตถาที่ 2 (นักองค์ชี) พ.ศ. 2294 – 2294 (น้อยกว่า 1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 3100พระศรีไชยเชษฐ์ (นักองค์สงวน) พ.ศ. 2294 – 2300 (6 ปี)99 (2)พระรามาธิบดีที่ 3 (นักองค์ทอง) พ.ศ. 2301 – 2303 (2 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 2101พระนารายน์ราชารามาธิบดี (นักองค์ตน) พ.ศ. 2303 – 2318 (15 ปี)อาณาจักรเขมรอุดงได้ตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรธนบุรี (หมายเหตุ: สยามในนามอาณาจักรอยุธยาล่มสลายเมื่อ พ.ศ. 2310 และถูกฟื้นฟูขึ้นใหม่ในนามอาณาจักรธนบุรี)102สมเด็จพระรามราชาธิราช (นักองค์โนน) พ.ศ. 2318 – 2322 (4 ปี)103สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดีศรีสุริโยพรรณ (นักองค์เอง) พ.ศ. 2322 – 2325 (3 ปี)อาณาจักรเขมรอุดงได้ตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (หมายเหตุ: สยามในนามอาณาจักรธนบุรีสิ้นสภาพจากการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และมีการสถาปนาอาณาจักรรัตนโกสินทร์ขึ้นแทนที่ใน พ.ศ. 2325)เกิดสงครามขึ้นระหว่างอาณาจักรรัตนโกสินทร์ กับราชวงศ์เหงียน เพื่อแย่งชิงอิทธิพลเหนือกัมพูชา นำไปสู่สงครามอานัมสยามยุทธ 104สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี (นักองค์จัน) พ.ศ. 2349 – 2377 (28 ปี)105กษัตรีองค์มี (นักองเม็ญ) พ.ศ. 2349 – 2377 (28 ปี) พระนางได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามให้พระนางได้สถาปนาเป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชาเพื่อถ่วงดุลกับสยามในช่วงอานัมสยามยุทธ106สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) พ.ศ. 2384 – 2403 (19 ปี)ตำแหน่งว่าง พ.ศ. 2383 – 2384 (1 ปี)รัฐอารักขาของฝรั่งเศส(พ.ศ. 2406 – 2496)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อารักขาฝรั่งเศส (พ.ศ. 2406 – 2496)กัมพูชาตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และกลายเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2406 (เข้าสู่ยุคกัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส) (หมายเหตุ: กัมพูชาพ้นจากความเป็นประเทศราชของสยาม ทางฝ่ายสยามถือเป็นการเสียอิทธิพลให้ฝรั่งเศส)107 พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี) พ.ศ. 2403 – 2447 (44 ปี) พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง)108พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์) พ.ศ. 2447 – 2470 (23 ปี) พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) พระอนุชาต่างพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี)109พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์) พ.ศ. 2470 – 2484 (14 ปี) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์)110 (1)พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พ.ศ. 2484 – 2498 (14 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 1 พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์)ในปี พ.ศ. 2496 กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ จึงมีการสถาปนาพระราชอาณาจักรกัมพูชาโดยใช้ระบอบสังคมราษฎรนิยม พ.ศ. 2496 – 2513 กัมพูชาเข้าสู่ยุคสังคมราษฎรนิยมราชอาณาจักรกัมพูชาที่ 1(พ.ศ. 2496 – 2513)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ ราชอาณาจักรกัมพูชา (พ.ศ. 2496 – 2513)111 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต พ.ศ. 2498 – 2503 (5 ปี) เป็นพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี)เกิดรัฐประหารปี พ.ศ. 2513 ตำแหน่งพระมหากษัตริย์ถูกยกเลิก (หมายเหตุ: ยุบเลิกราชอาณาจักรกัมพูชา เปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นสาธารณรัฐเขมร พ.ศ. 2513 – 2536)ราชอาณาจักรกัมพูชาที่ 2(พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน)[แก้] พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ ราชอาณาจักรกัมพูชา (พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน)ฟื้นฟูราชอาณาจักรกัมพูชาขึ้นใหม่ พ.ศ. 2536 110 (2) พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พ.ศ. 2536 – 2547 (11 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 2 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต112พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน (19 ปี+) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุอ้างอิง[แก้]
|