น้ำตาไหลพราก มิตรภาพ ความรัก ของบุนอี กับบังวอน ช่างซาบซึ้ง คนรักที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ 0 1 new เม่า สมาชิกหมายเลข 1999613 ถูกใจ ▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼ แสดงความคิดเห็น คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ เข้าสู่ระบบ กระทู้ที่คุณอาจสนใจสมาชิกหมายเลข 7896713 สมาชิกหมายเลข 2871023 สมาชิกหมายเลข 871625 สมาชิกหมายเลข 1882203 สมาชิกหมายเลข 2166726 สมาชิกหมายเลข 1999613 สมาชิกหมายเลข 2464693 สมาชิกหมายเลข 1999613 สมาชิกหมายเลข 5492417 สมาชิกหมายเลข 6344549 อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ นักแสดงเกาหลี ซีรีส์เกาหลี เจิมเบาๆก่อนละกัน เดี๋ยวมาโพสต์เนื้อหาซีเรียสทีหลัง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพื่อนๆชอบคู่ไหนกันบ้าง? ทั้งคู่จิ้นคู่จริง มูฮยุลกับความเปลี่ยนแปลง กลับมาโชซอนคราวนี้ ไม่ได้มีแต่หนวดเคราที่งอกมาเท่านั้น มูฮยุลยังโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น อย่างเห็นได้ชัด การได้ฝึกวิชาที่เหลียวตงอยู่พักใหญ่ ไม่ได้อยู่ใกล้คนที่เป็นที่พึ่งทางใจได้ อย่างบังวอนหรือย่า และการได้ฝึกฝีมือรบทั้งวันทั้งคืน เป็นแรงผลักดันให้เติบโตขึ้นในฐานะ องครักษ์ที่พร้อมจะสังหารทุกคนที่ปองร้ายบังวอนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เหมือนที่มูฮยุลพูด กับอีบังจี "ชีวิตการเป็นนักดาบคิดได้แค่ก้าวต่อไปเท่านั้น ไม่คิดล่วงหน้าไป มากกว่านั้น" นั่นหมายถึงการไม่กังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ไม่กังวลว่าวันหนึ่งจะ ได้สู้กับอีบังจีขึ้นมาจริงๆหรือในวันหนึ่งอาจจะต้องจ่อดาบไปที่คอของซัมบง...มูฮยุลแค่ต้องทำสิ่งที่ต้องทำ ... ปกป้องบังวอน...แม้ว่าจะไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ตนปกป้องอยู่มันจะถูกหรือจะผิด แม้จะแอบเสียดาย ความใสซื่อของมูฮยุลที่อาจจะไม่ได้เห็นแล้ว แต่เมื่อเรื่องกำลังจะเข้าไคลแม็กซ์ก็เป็นเวลาอันควรแล้ว สายสัมพันธ์พี่น้องต่างแม่ มันเปราะบางขนาดนี้เลยหรือ? เป็นฉากที่สะเทือนใจที่สุดในสองตอนนี้ การคุกเข่าของบังวอนที่ขอให้องค์รัชทายาทให้อภัย ไม่บอกก็รู้ว่าบังซอกที่วิ่งออกมาหาพี่ชายนั้นรู้สึกสะเทือนใจจริงๆ นี่เป็นน้ำตาแห่งความจริงใจ บังซอกเห็นบังวอนเป็นฮยองนิมเท่านั้น เด็กน้อยที่แสนไร้เดียงสา แสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ โดยไม่รู้จักวิธีเก็บซ่อน ไม่ได้มีความซับซ้อนแบบสิ่งที่ผู้ใหญ่คิดกัน หากแต่บังวอน...มองบังซอกเป็นคนในครอบครัวหรือไม่? หรือที่บังวอนอ้อนวอนบังซอก และขานแต่ชื่อ "เซจาชอฮา" นั้นแสดงว่าในหัวของบังวอน บังซอกเป็นเพียงองค์รัชทายาท ที่ขวางทางขึ้นบัลลังก์ของตน เป็นเพียงบุตรของราชินีซินต็อกที่หวังชีวิตของตนเท่านั้นหรือ? เป็นเรื่องเศร้าที่เรื่องราวของพี่น้องต้องเดินทางมาถึงจุดนี้ ใบหน้าของอีซองกเยบ่งบอก ความรู้สึกดังกล่าวได้เป็นอย่างดี มันมาถึงเวลาที่ครอบครัวต้องมาแตกหักเพราความเชื่อทางการเมือง และน่าสนใจว่าถ้าบังซอก เป็นลูกแม่เดียวกันกับบังวอน สุดท้ายแล้วบังวอนจะตัดใจสังหารลงรึเปล่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ในละครเกาหลีทั้งซากึกทั้งปัจจุบันเราไม่ค่อยได้เห็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันทั้งพ่อแม่ทำร้ายกัน หรือฆ่ากันเท่าไหร่ แต่เวลาที่เป็นพี่น้องคนละแม่กลับไม่ลังเลที่จะทำร้ายกัน หรือมันมีคำอธิบาย ทางจิตวิทยาที่จะสามารถตอบประเด็นนี้ได้จริงๆ? ป.ล. ชอบความจริงใจของบังวอนตอนที่ปัดมือราชินีที่กำลังจะสิ้นนะ ถ้าไปสัญญาว่าจะไม่ทำร้าย บังซอกแล้วทำไม่ได้จะผิดคำพูดเปล่าๆ ในสถานการณ์ที่ปฏิเสธได้ยาก เป็นคำสั่งเสียของผู้ตาย แต่บังวอนก็ไม่พูดเพื่อเอาใจใคร แม่เลี้ยงคงช็อคมากซัมบงกับการรวมอำนาจเป็นจุดเดียว เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดของสองตอนนี้เลยกับการที่ซัมบงพยายามรวมอำนาจและกองทัพมาเป็น จุดเดียวกันทั้งหมด โดยให้เหตุผลในการสร้างความมั่นคงของอาณาจักรใหม่ และนี่เป็นการทำเพื่อ ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว ผู้นำคอมมิวนิสต์แทบจะทุกคนมักให้เหตุผลนี้ในการยึดอำนาจ มาไว้เป็นจุดเดียว ปากบอกว่าอยากทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนซัมบงจะลงเอยด้วยการบ้า อำนาจเหมือนกันไปตลอดเวลาที่ได้บริหารประเทศหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้แน่ชัด เพราะชิงตายไปซะก่อน แต่เท่าที่รู้ตอนนี้คือซัมบงต้องการดูแลทุกๆอย่าง ดูแลเจ้าหน้าที่ทุกคนในประเทศควบคุมทุก รายละเอียด และไม่อนุญาตให้คนเห็นต่างในช่วงที่สร้างเสถียรภาพให้กับประเทศนี้ แต่ตามวิสัยทัศน์ ของซัมบงนั้นต้องการระบบตรวจสอบกันระหว่างเจ้าหน้าที่แน่นอน และรวมถึงการให้คนที่จะเข้ามา รับราชการได้นั้นต้องผ่านการสอบเข้ามา การลงโทษคนที่ขัดขืนการรวมอำนาจทางทหารอย่างเด็ดขาด การเผาธงกองทัพต่างๆทิ้ง เพื่อไม่ต้องการให้มีกองทัพส่วนตัวของขุนนางและราชวงศ์ เพราะซัมบงเล็งเห็นว่าที่โครยอตกต่ำลง ก็เนื่องมาจากกองทัพส่วนตัวนี่แหละที่เป็นตัวลดจำนวนกองทัพส่วนกลาง ทำให้ไม่มีกำลังมากพอที่จะ รับมือข้าศึกรอบด้าน แถมเวลายามศึก ขุนนางทุจริตทั้งหลายก็ไม่ปล่อยทหารตนมาง่ายๆอีก เห็นได้จากที่ฮงอินบังแห่งโครยอคิดแผนชั่วในการยึดครองที่ดินชาวบ้าน ด้วยการส่งทหารของตน ไปปกป้องชาวบ้านในบริเวณที่มีญี่ปุ่นมาลุกล้ำ แลกกับที่ดินชาวบ้าน เนื่องจากตอนนั้นทรัพย์สินส่วนกลางของ โครยอร่อยหรอเต็มที่แล้ว ไม่มีที่ดินไปแลกกับทหารขุนนางเป็นการแลกเปลี่ยน คนที่ซวยสุดก็เลยเป็นชาวบ้าน ซัมบงถามคำถามแทงใจดำของบังวอนว่า "เจ้าก็ไม่ได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกับข้าเลยไม่ใช่หรือ?" "ยังไงเจ้าก็ต้องรวมอำนาจเป็นจุดเดียวแบบข้า เจ้าจะไม่ยอมให้ราชวงศ์มามีอำนาจได้หรอกถ้าเจ้าได้ขึ้นเป็น กษัตริย์" ท้ายที่สุดแล้วคำตอบที่"ถูก"ที่สุดที่จะถูกบันทึกลงไปในประวัติศาสตร์คือคำตอบของ"ผู้ที่ชนะ"เท่านั้น หากบังวอนเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียที บังวอนก็ต้องถูกจารึกว่าเป็น"กบฎบ้าอำนาจ"ผู้ที่เปี่ยมไปด้วย"ความโลภ" แทนที่ของซัมบง สุดท้ายแล้วทุกคนต่างก็มีปรารถนาความโลภด้วยกันทั้งนั้น และความปรารถนาของผู้ชนะก็จะได้รับ การยกย่องในประวัติศาสตร์ว่าเป้นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ส่วนผู้แพ้ทำอะไรก็ดูขี้เหร่ไปเสียหมด การดีเบตของบังวอน และซัมบงน่าสนใจมากจริงๆ ผมก็เปลี่ยนใจไปมาไม่รู้ว่าใครถูกหรือใครผิดกันแน่ แต่ผมติดใจตรงที่ ซัมบงในเรื่องกล่าวหาว่าบังวอนมีความโลภมีความกระหายอำนาจ แต่บังวอนแทบไม่เคยกล่าวหาซัมบง ในเรื่องนี้เลย ทั้งๆที่ต่างคนก็พอๆกัน จะมองว่าซัมบงเป้นคนที่เห็นแต่ความร้ายของฝั่งคนอื่นโดยไม่ดูตัวเอง หรือจริงๆแล้วในใจบังวอนก็แอบรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะไปแย่งประเทศมาจากซัมบงจริงๆก็ไม่รู้เหมือนกัน น่าสนใจจริงๆ ถ้ามองในมุมของซัมบง ถ้าโชซอนเป็นประเทศที่วางรากฐานของซัมบง เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในไอเดียที่จะใช้ ปูรากฐานไปอีกหลายๆร้อยปี และซัมบงมีความคิดอยากจะให้เสนาบดีเป็นรากของประเทศ แล้วจู่ๆมีคน ที่มีส่วนที่แทบจะสำคัญที่สุดในการก่อตั้งประเทศ (แต่ก็เป็นวิธีที่ซัมบงไม่เห็นชอบเท่าไหร่ ซัมบงมองว่า ทำให้เสียแผน)อย่างบังวอนจะมาครอบครองประเทศที่ซัมบงสร้าง ก็เข้าใจซัมบงได้ว่าทำไมถึงมองว่าบังวอน เป็นฝ่ายโลภ แต่เมื่อครั้งที่ซัมบงจะเปลี่ยนประเทศจากโครยอมานั่นก็ต้องมองว่าซัมบงโลภอยากใช้ไอเดีย ตัวเองในการเปลี่ยนประเทศไม่ใช่หรือ? ซัมบงหาเหตุผลชอบธรรมในการละทิ้งโครยอ นั่นก็เป็นความโลภ หรือไม่? ซัมบงพูดถึงประโยชน์ของประชาชน แต่ซัมบงก็ต้องการอำนาจให้ตัวเองเพื่อที่จะได้ใช้ไอเดีย ตัวเองในการทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็ไม่ต่างจากที่บังวอนหวังให้ประชาชนยิ้มได้บังวอน ถ้ามองว่าบังวอนจะไปเอาทุกอย่างที่ซัมบงคิดขึ้นมาๆเป็นของตัวเองแต่ไม่ต้องการส่วนที่สำคัญที่สุด นั่นคือการให้กษัตริย์เป็นยอดของดอกไม้ นั่นเป็นความโลภของบังวอนที่อาจจะขัดขวางการพัฒนาระยะยาวของ โชซอนหรือไม่ (พอพ้นจากบังวอน ใครจะรับประกันได้ว่ากษัตริย์จะแข็งแกร่งไปตลอด พอถัดจากพระเจ้าเซจง ก็มีกษัตริย์ขี้โรคอยู่หลายคน) การสังหารโพอึนแม้เป้นสิ่งจำเป็น แต่นั่นทำให้รากฐานเหล่า บัณฑิตขงจื๊อในโชซอนล้าหลังไปนับร้อยปีใช่หรือไม่? แต่ต้องไม่ลืมว่านั่นเป็นการให้เหตุผลภายใต้หลักการของ ซัมบงทั้งหมด คิดจนหัวแตกเลยจริงๆ 6 มังกรกําเนิดโชซอน ดูได้ที่ไหนชมย้อนหลังง่ายๆ กด SUBSCRIBE TV3 OFFICIAL และอีกหนึ่งช่องทาง http://www.thaitv3.com หรือดูสดแบบ Real Time 24 ชม. โหลด 3LIVE Application ได้ง่ายๆ ฟรี! Six Flying Dragons กี่ตอน6 มังกรกำเนิดโชซอน. |