ฟัน เหลือง ทํา ไง ดี วิธี แก้

รอยยิ้มสวย คือสิ่งที่จะทำให้คุณดูดีขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันหากยิ้มแล้วฟันเหลือง คงสูญเสียเสน่ห์และขาดความมั่นใจไปไม่น้อย สำหรับใครที่กำลังพบกับปัญหาฟันเหลืองอยู่ก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะการแก้ไขฟันเหลืองนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองและเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ฟันเหลืองแก้ไขได้ไม่ยาก ด้วย 6 วิธี ดังต่อไปนี้

1. การแปรงฟัน นอกจากแปรงฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอแล้ว นักวิชาการทันตสาธารณสุขยังแนะนำให้เลิกบ้วนน้ำหลังแปรงฟันอีกด้วย แต่ควรทำเพียงแค่บ้วนฟองออกให้หมด และอย่าเพิ่งดื่มน้ำหรือทานอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงหลังแปรงฟัน เพื่อให้ฟลูออไรด์ได้ออกฤทธิ์ป้องกันฟันผุได้เต็มที่

2. ขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน เพราะบางครั้งคราบเหลืองบนฟัน อาจเกิดจากหินปูนที่สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นก่อนอื่นควรกำจัดหินปูนนี้ออกไปให้หมดเสียก่อน

3. การเคี้ยวผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ลหรือแครอท ก็เป็นการทำให้ฟันขาวไปในตัว เพราะความกรอบของผลไม้เหล่านี้ จะช่วยขัดคราบเหลืองบนฟันให้ออกได้ โดยหลังการกินทุกครั้งอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าตาม เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั่นเอง

4. เบคกิ้งโซดา ถือว่าเป็นไอเทมสารพัดประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม ลองนำเบคกิ้งโซดามาแปรงฟัน หลังจากนั้นแปรงด้วยยาสีฟันอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ฟันดูขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

5. HOME BLEACHING การฟอกสีฟันแบบทำที่บ้าน คือการใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นในระดับที่ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่เลือกใช้คือ Opalescence Home Bleach ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้เจลฟอกสีที่มีคุณภาพลักษณะข้นเหนียว สามารถติดแน่นกับตัวฟันในช่องปากได้ดี โดยไม่ไหลไประคายเคืองเหงือก แต่จะค่อยๆ แตกตัวเป็น Active bleaching form อย่างช้าๆ มีประสิทธิภาพในการฟอกสี และช่วยลดอาการเสียวฟันไปในตัว วิธีนี้ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากก่อน เพื่อให้ได้ถาดฟอกสีฟันที่แนบสนิทกับตัวฟัน จากนั้นก็สามารถนำกลับไปทำที่บ้าน โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เท่านี้คุณก็จะได้ฟันขาวสะอาดสดใส ชวนมอง

6. Zoom! Teeth Whitening เทคโนโลยีฟอกฟันขาวที่ช่วยปรับสีฟันให้ขาวขึ้น ใช้ระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยและต้องการเห็นผลอย่างรวดเร็ว โดย Zoom! ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กรทางวิทยาศาสตร์ที่ออกแบบให้พลังงานแสงกระตุ้นประสิทธิภาพของเจลฟอกฟันให้แทรกซึมลงสู่ชั้นผิวฟัน เพื่อขจัดคราบฟันเหลือง คราบชา กาแฟและสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีฟันได้ถึง 8 เฉดสี ทันตแพทย์จาก APEX Dental แนะนำว่า วิธีการนี้จะไม่ทำลายโครงสร้างของฟันธรรมชาติ จากผลการศึกษาและวิจัยระบุว่าการฟอกฟันขาวด้วย Zoom! ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นการฟอกสีฟันที่ปลอดภัยที่สุดในขณะนี้

นอกจากวิธีแก้ฟันเหลืองที่บอกไปข้างต้นแล้ว การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต้นเหตุของฟันเหลืองอันได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มชา และกาแฟเป็นประจำก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้มีผลทำให้ฟันของคุณเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองโดยตรง ดังนั้นหากอยากมีฟันขาว สวย ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ ถึงจะเรียกว่าเป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุจริงๆ

คุณรู้หรือไม่ว่า? ฟันเหลือง เกิดจากอะไร แล้วพฤติกรรมที่ทำให้คุณฟันเหลือง จนอาจจะเสียความมั่นใจเมื่อต้องยิ้มออกมา วันนี้เราจะมาเรียนรู้ถึงที่มาของปัญหา และวิธีแก้ปัญหาฟันเหลืองอย่างตรงจุดกันค่ะ

ฟันเหลือง เกิดจากอะไร?

ฟันเหลืองเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

• สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี ผิวฟันของเราจะถูกเคลือบด้วยชั้นบาง ๆ โปร่งแสงสีขาว ซึ่งจะช่วยปกปิดชั้นเนื้อฟันที่มีสีเหลืองเอาไว้ แต่เมื่อไหร่ที่สุขภาพช่องปากไม่ดี ผิวฟันจะเริ่มผุกร่อน สีเหลืองของเนื้อฟันก็จะปรากฏออกมาให้เห็น

• อาหารและเครื่องดื่มสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ  ไวน์แดง โซดา ช็อกโกแลต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผักผลไม้สีเข้ม อย่าง เบอร์รี่ เพราะการสะสมของคราบสีจากอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้ฟันเหลือง นอกจากนั้นเครื่องดื่มที่เป็นกรด อย่าง มะนาว โซดา ยังสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันของเราได้

• การสูบบุหรี่ คือสาเหตุอันดับต้น ๆ ของฟันเหลือง เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมี อย่าง กำมะถัน และการเผาไหม้ ทำให้ยิ่งสูบบุหรี่มากเท่าไหร่ สารเคมีกำมะถัน ทาร์ จะยิ่งสะสมบนผิวฟัน และแทรกซึมเข้าไปในเนื้อฟัน จนเกิดเป็นคราบที่ทำให้ฟันเหลืองเป็นฟันสีน้ำตาลได้ การมีคราบบุหรี่สะสมมากเข้า การจะเอาออกก็เป็นเรื่องยากมากอีกเช่นกัน อาจจะต้องใช้การฟอกสีฟันร่วมด้วย

• โรคต่าง ๆ และการใช้ยา การเจ็บป่วยหรือยาบางอย่างที่ใช้เป็นสาเหตุของฟันเหลืองได้เช่นกัน เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี ส่วนยารักษาโรคที่มีผลให้ฟันเหลืองก็เช่น ยารักษาโรคหอบหืด ยาโรคความดันโลหิตสูง

• อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นเคลือบฟันจะเริ่มบางลง เป็นผลให้ฟันเหลืองได้

ฟันคุณอยู่ในเฉดสีไหน? มาดูเกณฑ์วัดฟันเหลืองกัน

เฉดสีของฟันแบ่งออกเป็น 4 เฉดหลัก ได้แก่

1. น้ำตาลอมแดง
2. เหลืองอมแดง
3. เทา
4. เทาอมแดง
   

ทั้งนี้ในแต่ละเฉดจะมีระดับความเข้มอ่อนแยกย่อยออกไปอีกเพื่อให้คุณสามารถเทียบกับสีฟันของตัวเองได้ เพียงแค่เทียบสีฟันของคุณกับสีในตาราง ตรงนี้เองที่จะทำให้คุณตัดสินใจได้ว่าต้องการฟันขาวในระดับใด

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งจากการใช้ยาสีฟันฟอกฟันขาว เจล หรือสีฟันธรรมชาติของเราเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสีฟันเพียง 2-3 เฉดก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ขณะที่ในความเป็นจริงการฟอกฟันขาวสามารถทำให้ฟันคุณขาวขึ้นได้ถึง 9 เฉดหรือมากกว่า ในคนทั่วไปจะเห็นความแตกต่างได้ตั้งแต่ความเปลี่ยนแปลง 2-7 เฉด

รู้หรือไม่ คุณสามารถเช็คระดับเฉดสีฟันของคุณผ่าน application ได้ฟรี

DMP Dental Chromatcher คือ mobile shade guide application ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยทันตแพทย์ทำการบูรณะฟันเเละเลือกเฉดสีที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถเช็คเฉดสีฟันของตัวเองได้โดยการถ่ายภาพบริเวณฟันที่ต้องการและจับคู่กับระบบเฉดสีของ DMP

สีฟันที่เปลี่ยนเป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรบ้าง?

• ฟันสีน้ำตาล เกิดจากสารนิโคตินทำปฏิกิริยากับฟัน ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่สูบบุหรี่มานาน จนฟันเหลืองแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลช้า ๆ แล้วฝังอยู่ในเนื้อฟัน
• ฟันสีคล้ำ เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นใช้งานฟันมานานกับการกิน ดื่ม การใช้ชีวิตประจำวัน การนอนกัดฟันก็ทำให้สารเคลือบฟันกร่อนส่งผลให้ฟันมีสีคล้ำได้ รวมถึงการใช้ยาที่มีสารเตตร้าไซคลิน
• ฟันดำ เกิดจากฟันผุ การอุดฟันด้วย silver sulfide รวมถึงการกินอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็ก
• ฟันตกกระ เกิดจากการบริโภคฟลูออไรด์มากเกินไป

พฤติกรรมทำให้ฟันเหลืองที่ควรหลีกเลี่ยง

• หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหาร และเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม ๆ  ที่มีผลให้สีฟันเปลี่ยน ถ้าจำเป็นควรใช้หลอดเพื่อลดการสัมผัสระหว่างเครื่องดื่มและฟัน หลังรับประทานอาหารควรดื่มน้ำเปล่าตาม
• เลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิดที่เป็นกรด เช่น โซดา มะนาว ที่จะกัดกร่อนสารเคลือบฟัน ทำให้สีของฟันเปลี่ยนได้
• การแปรงฟันแรงเกินไป แปรงแบบผิดวิธี หรือใช้ขนแปรงที่แข็งเกินไปจนทำลายชั้นผิวฟันโดยตรงได้

ฟันเหลืองแก้ยังไง solution ไหนที่เหมาะกับคุณ

• แก้ฟันเหลืองด้วยวิธีธรรมชาติ

• ออยล์ พูลลิ่ง (Oil Pulling) เป็นวิธีล้างพิษด้วยน้ำมัน หลักการคือใช้น้ำมันในการดูดสารพิษ แบคทีเรีย และเชื้อโรคต่าง ๆ ภายในปากให้หลุดออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ในงานวิจัยบางชิ้นยังกล่าวว่าการล้างปากด้วยน้ำมันทำให้ฟันขาวขึ้นได้ วิธีการคือ อมน้ำมัน(นิยมใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา) แล้วกลั้วให้ทั่วปากประมาณ 15-20 นาที จากนั้นให้บ้วนออก แล้วแปรงฟันให้สะอาดอีกครั้ง
• ใช้ผงฟู หรือ Baking Soda หลายคนอาจไม่รู้ว่ายาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวโดยส่วนใหญ่มีผงฟูเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากผงฟูมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรกบนผิวฟันได้อย่างอ่อนโยน ทั้งยังช่วยไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโต ลดคราบจุลินทรีย์ และป้องกันฟันผุ ดังนั้นเราสามารถใช้ผงฟู 1 ช้อนชาผสมกับน้ำเปล่า 2 ช้อนชาแทนยาสีฟัน แปรงฟัน 2-3 นาที ประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อให้ฟันขาวขึ้น
• รับประทานผักผลไม้ เหตุผลเพราะผลไม้มีกากและเส้นใยจำนวนมาก ทำให้เมื่อเคี้ยว เส้นใยต่าง ๆ จะไปช่วยขจัดคราบบนฟันให้หลุดออก และผลไม้บางชนิดอย่างเช่น สับปะรด หรือมะละกอ ยังมีเอนไซม์ที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้น
• รักษาความสะอาดในช่อง เป็นวิธีพื้นฐานที่ได้ผลดี ซึ่งการรักษาความสะอาดนั้นต้องรวมหมดทั้งฟัน ลิ้น เหงือก เพราะแบคทีเรียไม่ได้อยู่เฉพาะแค่ฟัน แนะนำให้ใช้ไหมขัดฟัน รวมถึงการใช้ยาสีฟัน Whitening หรือฟลูออไรด์ที่มีสารป้องกันฟันผุ

• แก้ฟันเหลืองด้วย Airflow เป็นอุปกรณ์ทางทันตกรรมที่ใช้นวัตกรรมการขัดฟันด้วยพลังงานจากน้ำ ลม และผงขัดชนิดพิเศษที่มีอณูเล็กมาก ๆ พ่นไปยังบริเวณผิวฟัน และซอกฟัน เพื่อให้คราบและสีต่าง ๆ หลุดออกมา นับเป็นวิธีทำความสะอาดฟันที่สามารถขจัดคราบต่าง ๆ ได้อย่างล้ำลึก เพราะแรงดันสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง แม้ในบริเวณซอกฟันที่เข้าถึงยาก โดยระดับแรงดันจะถูกออกแบบมาเพื่อทำให้คราบหายไปแต่ไม่ทำร้ายผิวเคลือบฟัน

• แก้ฟันเหลืองด้วยการฟอกฟันขาว (Teeth whitening) คือการทำให้ฟันที่มีสีหมองคล้ำดูขาวขึ้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 วิธี คือ

1. In-office Power Bleaching การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์คลินิก ด้วยการใช้สารฟอกฟันที่มีความเข้มข้นสูง ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือเฉพาะทาง
2. At-home Bleaching การฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ ตั้งแต่การพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟันให้เฉพาะบุคคล การจ่ายน้ำยา รวมถึงคำแนะนำที่ถูกต้อง
3.  In-office assisted Bleaching เป็นการฟอกสีฟันที่ใช้วิธีที่ 1 ร่วมกับวิธีที่ 2 ในกรณีที่สีฟันเข้มมาก จึงต้องฟอกสีฟันที่คลินิกก่อน แล้วค่อยกลับไปทำต่อเองที่บ้าน
4. Over-the-counter Bleaching การฟอกสีฟันด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ทั่วไป โดยไม่อยู่ในการดูแลของทันตแพทย์
5. Internal Bleaching การฟอกสีฟันเฉพาะซี่ ซึ่งมักทำในกรณีที่ฟันเปลี่ยนสีเนื่องจากฟันตาย
   
   สนใจเรื่องการฟอกสีฟัน

• แก้ฟันเหลืองด้วยวีเนียร์ เคลือบฟัน (Veneer) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งของการเปลี่ยนสีฟันให้สวยมั่นใจ วิธีการคือจะใช้แผ่นวัสดุบาง ๆ ที่มีขนาดพอดีกับฟันของเรามาเคลือบฟัน โดยวัสดุที่ทำแผ่นเคลือบฟันนั้นมักผลิตจากเซรามิกหรือพลาสติกชนิดเรซิ่น แต่เมื่อเทียบกันแล้วแผ่นเคลือบฟันจากเซรามิกจะมีความคงทน ช่วยป้องกันการเกิดคราบ และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ขณะเดียวกันก็มีราคาแพงกว่า

บทความเกี่ยวกับวิเนียร์ที่คุณอาจสนใจ : วีเนียร์คืออะไร วีเนียร์มีกี่แบบ มีข้อดีเเละจุดที่แตกต่างกันอย่างไร

FAQ ฟันเหลือง

ฟันเหลืองมาก แก้ไขยังไงได้บ้าง?

วิธีแก้ไขปัญหาฟันเหลืองมาหลายวิธี
1. วิธีธรรมชาติ เช่น Oil Pulling ใช้การอมน้ำมัน(นิยมใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา) แล้วกลั้วให้ทั่วปากประมาณ 15-20 นาที บ้วนออก แล้วแปรงฟันให้สะอาด หรือใช้ผงฟู 1 ช้อนชาผสมกับน้ำเปล่า 2 ช้อนชาแทนยาสีฟัน แปรงฟัน 2-3 นาที เพราะผลฟูมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรกได้

2. ทำ AirFlow กำจัดคราบฟันเหลือง เป็นการใช้พลังงานจากน้ำ ลม บวกกับผงขัดชนิดขัดชนิดพิเศษที่มีอณูเล็กมาก ๆ พ่นไปชะล้างคราบสะสม สิ่งสกปรกบริเวณผิวฟัน และซอกฟัน

3. ฟอกสีฟันแก้ฟันเหลือง ปรับเฉดความขาวของฟันให้สว่างขึ้นด้วยน้ำยาฟอกสีฟัน กระตุ้นด้วย Cool Light LED หรือสามารถปรึกษาทันตแพทย์เพื่อขอชุดฟอกสีฟันที่บ้านที่เหมาะกับคุณ

4. ทำวีเนียร์แก้ฟันเหลือง สำหรับคนไข้ที่การฟอกสีฟัน ไม่ได้ผล หรือต้องการปรับปรุงรูปร่างของฟันให้สวยงามขึ้น แผ่นแปะฟันวีเนียร์ช่วยแก้ไขปัญหาสีฟันเเละรูปร่างฟันให้ดูสวยเป็นธรรมชาติได้อย่างดี

ฟันเหลืองแต่อยากฟอกสีฟันเองอันตรายมั้ย?

Care Dental แนะนำให้ทำการฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ที่คลินิก เพื่อให้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญดูเเลควบคุมความเข้มข้นของน้ำยาฟอกสีฟัน เเละจัดพิมพ์ปากฟอกฟันสำหรับคนไข้ซึ่งจะมีขนาดพอดีกับช่องปาก ไม่ต้องกังวลว่าต้องน้ำยาฟอกฟันจะไม่ทั่วถึงตัวเนื้อฟัน เเละยังได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการซื้อชุดฟอกฟันขาวที่มีขายทั่วไปอีกด้วย

คนไข้ที่ต้องการฟอกสีฟันเองที่บ้าน สามารถปรึกษาทันตแพทย์ดูได้เช่นกัน เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงต่างๆ เช่น อาการเเสบเหงือก เสียวฟันมาก เพราะใช้น้ำยาที่เข้มข้นมากเกินไป

อยากแก้ฟันเหลืองแบบเร่งด่วน ทำยังไงได้บ้าง

1. ถ้าสาเหตุฟันเหลืองเป็นที่ปัจจัยภายนอก เช่น สีจากอาหาร คราบหินปูน คราบฟันต่าง ควรทำความสะอาดผิวฟันด้วย AirFlow ขจัดคราบสะสมตามส่วนต่างๆ ของฟันก่อน
2. ถ้าต้องการปรับระดับความขาวให้มากขึ้น แนะนำการฟอกสีฟัน Cool Light ที่คลินิกกับทันตแพทย์ ในกระบวนการฟอกสีฟันจะใช้น้ำยาฟอกสีฟัน บวกกับระบบแสง LED กระตุ้นการแตกตัวของน้ำยาฟอกสีฟันให้ทำงานได้ดีขึ้น เเต่ระดับความขาวของฟันขึ้นอยู่กับคนไข้เเต่ละคนด้วย คุณหมออาจจะพอประเมินผลการรักษาได้คร่าวๆ เเต่ถ้าคนไข้ต้องการปรับความขาวของฟันเพิ่ม ก็สามารถฟอกสีฟันกับคุณหมออีกทีได้
3. กรณีที่ฟันเหลืองจากปัจจัยภายใน เช่น การรับประทานยาเตตร้าไซคลิน ฟันตาย ฟันตกกระ ทำให้สีฟันไม่สม่ำเสมอซึ่งการฟอกสีฟันไม่สามารถปรับให้ฟันขาวขึ้นได้ การทำวีเนียร์เซรามิกก็ช่วยปรับสีฟันตามเฉดความขาวที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการติดสีจากอาหาร

ข้อมูลเหล่านี้คงจะทำให้คุณพอจะรู้แล้วว่าปัญหาฟันเหลืองของคุณเกิดจากอะไร และควรจะเริ่มต้นแก้ปัญหาอย่างไร แต่ถ้าอยากให้สามารถแก้ปัญหาฟันเหลืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ควรปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดนะคะ