การ เขียน ใบลา ออก เหตุผล

The Best Reasons for Leaving a Job เรามีเหตุผลที่ดี ที่จะใช้ในการตัดสินใจลาออกจากงานหรือเปล่า? และเหตุผลที่ดีของเราควรเป็นอย่างไร?

เมื่อการทำงานของเรามาถึงทางตัน มันก็ถึงเวลาที่เราจำเป็นต้องบอกลาที่ทำงานเก่า เพื่อมองหาเส้นทางใหม่ที่มอบโอกาสที่ดีกว่าและมองเห็นอนาคตได้ชัดกว่า แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ความคิดเกี่ยวกับการลาออกเกิดขึ้นมาในหัวของเรา มันก็มักจะมีความคิดที่เป็นข้อขัดแย้งมากมายเกิดขึ้นเช่นกัน อาทิเช่น เหตุผลมากมายที่บอกว่าเรายังลาออกไม่ได้ขึ้นมาเถียงตลอดเลย ผลที่ตามมาก็ทำให้เราเกิดความลังเล ตัดสินใจได้ยาก หรือ ตัดสินใจไม่ได้ จนต้องอยู่ที่เดิมต่อไป

เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว เรามาดู 8 เหตุผลที่สำคัญ ที่เป็นสัญญาณเตือนว่าเราควรลาออกจากงานที่ทำอยู่ได้แล้ว ว่ามีอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้

ไม่มีโอกาสให้เติบโต ในสายงานที่ทำอยู่ หรือ ทำดีแค่ไหนก็ยังอยู่ที่เดิม ขาดความก้าวหน้า
เดินทางลำบาก การเดินทางมาทำงานที่ไกลเกินไป หรือ มีความยากลำบากระหว่างเดินทาง สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความเครียดและอาการหงุดหงิดให้แก่เราได้ ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของงานของเราแบบเต็มๆ
งานไม่ตรงปก งานที่เราสมัครเข้ามาทำ กับงานที่เราทำอยู่ไม่สอดคล้องกันเลย โดนเปลี่ยนสายงานให้ทำในสิ่งที่ไม่ได้อยากทำ หรือ ในสิ่งที่ไม่ถนัดเลย
ถูกนินทาหรือใส่ร้าย การโดนตำหนิที่ไม่ได้เกิดจากความหวังดี หรือโดนใส่ร้าย ป้ายสี อยู่เป็นเนืองๆ หรือ ต้องทำงานภายใต้ระบบการปกครองในองค์กรที่ไม่มีความโปร่งใส
โดนมองข้าม หัวหน้าหรือบริษัทมองข้ามคุณค่าของเราหรือพนักงานในบริษัท หรือ การได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำเกินความสามารถและเนื้องานที่เราสามารถทำได้
ความฝันโดนทำลาย งานในฝันหรือเป้าหมายในการทำงานที่เคยวางเอาไว้กับงานจริงที่ได้ทำ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำต่อไปก็ไม่มีทางไปถึงตามที่ผันหรือเป้าหมายที่วางเอาไว้
ไม่มีเวลาพัฒนาตนเอง ไม่สามารถเรียน หรือ พัฒนาตนเองในด้านอื่นๆ ควบคู่ไปกับการทำงานได้ ด้วยตารางงานที่หนักอึ้งไปกระทบกับเรื่องการเรียน สุดท้ายจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาแย่ทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียนได้
หนทางมืดมน บริษัทจูงมือเราเข้าไปในหมอก องค์กรขาดความชัดเจน ไม่มีความมั่นคง มองไม่เห็นความก้าวหน้าและปลายทางร่วมกับบริษัท

ลองประเมินสถานการณ์ของตัวเองดูว่าเป็นอย่างไร? ถ้าหากเราได้ครบทั้ง 8 เหตุผลนี้แล้วล่ะก็ เราควรเริ่มมองหาเหตุผลที่จะใช้บอกหัวหน้าหรือนายจ้างของเราเพื่อขอลาออกจากงานได้แล้ว เหตุผลเหล่านี้เราสามารถใช้ในการตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานเก่าเท่านั้น เรายังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในตอนที่เรากำลังสัมภาษณ์งานใหม่ได้ด้วย เพราะที่ใหม่เขาต้องถามเราแน่ๆ ว่าทำไมเราถึงอยากเปลี่ยนงาน หรือ อยากลาออกจากงานที่เก่า

“เราต้องใช้ไหวพริบช่วยให้เราสามารถออกจากงานได้อย่างราบรื่น”

แน่นอนว่าหัวหน้าของเรากฌต้องการรู้ว่าทำไมเราถึงจะลาออก? และหัวหน้าในอนาคตของเราก็จะต้องอยากรู้เช่นกันว่าทำไมเราถึงอยากย้ายมา? ก่อนที่เราจะเอ่ยปากขอลาออกและเริ่มการค้นหางานใหม่ มันเป็นความคิดที่ดีที่เราควรทบทวนตัวเองและคิดหาเหตุผลที่ดีเพื่อใช้ในการลาออกเพื่อสร้างจุดจบที่ดีกับที่ทำงานเก่าและมีจุดเริ่มต้นที่ดีกับที่ทำงานใหม่

“เพราะบางครั้ง เราอาจจะต้องเขียนเหตุผลลงไปในใบสมัครงานว่าทำไม เราถึงอยากเปลี่ยนงาน”

เหตุผลที่เราควรวางแผนและคิดเกี่ยวกับเหตุผลการลาออกให้ถี่ถ้วนเพราะว่ามันส่งผลกระทบต่อเรามากกว่าที่เราคิด เหตุผลในการลาออกไม่ได้มีแค่หัวหน้าที่ทำงานเก่าเท่านั้นที่จะได้รับรู้มัน เพราะบ่อยครั้งใบสมัครงานมีช่องให้กรอกเหตุผลที่ลาออกจากที่เดิม หรือเราอาจจะถูกถามในระหว่างการสัมภาษณ์งาน นอกจากนี้บางบริษัทยังมีการติดต่อไปยังบริษัทเก่าของเราเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่เราให้ว่าตรงกันหรือเปล่าด้วย

เหตุผลที่ดีที่สุดในการลาออกจากงาน ควรเป็นอย่างไร?

เหตุผลข้างล่างเหล่านี้ เป็นเหตุผลที่ดีพอจะบอกกับเจ้านายเก่าและเจ้านายใหม่ ว่าทำไมเราถึงเลือกออกที่ทำงานเดิมโดยที่ไม่สร้างความร้าวฉานกับที่ทำงานเก่าและสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับที่ทำงานใหม่ได้อีกด้วย ดังต่อไปนี้

1. ต้องการเปลี่ยนอาชีพ

เพราะเป้าหมายและความฝันของทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามกาลเวลาและสถานการณ์ที่ได้พบเจอ เมื่อเราต้องการเปลี่ยนอาชีพ เช่น

เราลาออก เพราะเราอยากเปลี่ยนอาชีพ หรือ สายงาน
เรารู้สึกเหมือนพัฒนาตัวเองมาไกล และมากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้แล้วในสายงานเดิม
เราต้องการที่จะออกเดินทางสำรวจเส้นทางใหม่ของสายอาชีพที่เราต้องการมากกว่านี้
ถึงแม้ว่าจะภูมิใจและยินดีอย่างมากที่ได้มีโอกาสทำงานกับที่ทำงานเดิม แต่ตอนนี้เราได้รับการเสนองานในฝัน ที่เราต้องการทำมาตลอดจากบริษัทอื่น
เราตัดสินใจจะกลับไปเรียนต่อปริญญาโท เพื่อเพิ่มความรู้และเตรียมตัวสำหรับสายงานในอนาคต

2. การเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร

มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับพนักงานในองค์กรทุกระดับ เมื่อการเปลี่ยนแปลงมาถึงก็ต้องมีคนได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งมันอาจจะส่งสัญญาณให้พนักงานก้าวเดินต่อไปในเส้นทางอื่นๆ แทน

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้เราเห็นแล้วว่ามันยากที่เราจะไปต่อในทิศทางเดียวกับองค์กร ดังนั้นเราคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องออกไปสำรวจเส้นทางใหม่ๆ ของสายอาชีพของเราเสียที
การลดจำนวนพนักงานลงหมายความว่าเราต้องทำงานขนาดเท่าเดิมกับทีมที่ขนาดแค่หนึ่งในสามของทีมเดิม ซึ่งมันไม่ยุติธรรมสำหรับเราเลย
บริษัทของเราลดจำนวนพนักงานและลดขนาดธุรกิจลง เราเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้ไปต่อ
บริษัทของเรามีการปรับโครงสร้างภายในบริษัท และแผนกของเราไม่ได้ไปต่อ
บริษัทขอให้เราลาออก
เราและพนักงานคนอื่นๆ ถูกบริษัทลอยแพจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

3. สถานการณ์ครอบครัวหรือเหตุผลด้านสุขภาพ

งานเป็นสิ่งที่สำคัญมากก็จริง แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต อย่าลืมว่าครอบครัวและชีวิตของเราเองก็เป็นเรื่องที่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการลาออกจากงานได้เช่นกัน

คนในครอบครัวป่วย เราต้องลาออกเพราะไม่มีใครดูแลพวกท่าน
เราต้องลาออกจากงานเดิม เพราะเรามีเหตุผลทางครอบครัว
งานก่อนหน้านี้ของเราไม่สามารถยืดหยุ่นเวลาการทำงานให้กับเราได้ และเรามีความจำเป็นต้องดูแลลูกๆ ที่กำลังเล็กอยู่
เรากำลังจะแต่งงานและย้ายไปอยู่ที่อื่น
ตอนนั้นเราลาออกเพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ตอนนี้เราหายดีแล้วและสามารถกลับมาทำงานได้แล้ว
เราลาออกจากงานเดิมเพราะเรากำลังตั้งท้อง สภาพงานไม่เหมาะกับคนที่กำลังท้อง
เราจะไม่กลับมาทำงานแล้วหลังจากคลอดลูก เราตัดสินใจที่จะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเป็นครอบครัวที่มีเวลาให้ลูกของเรา
เราลาออกเพราะมีปัญหาส่วนตัว

4. ได้รับโอกาสที่ดีกว่า

เพราะโอกาสที่ดี ไม่ได้บอกว่าจะเข้ามาหาเราตอนไหน บางครั้งโอกาสในด้านการทำงานก็เข้ามาในตอนที่เรามีงานทำอยู่แล้ว มันจึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องหาทางลาออกจากงานเก่าเพื่อคว้าโอกาสเอาไว้

เราได้รับการเสนอโอกาสที่ดี ในการทำงานจากบริษัทที่อยู่ใกล้บ้านของเรามากกว่า
บริษัทใหม่มีชื่อเสียงที่ดีและยังเสนอโอกาสที่แสนวิเศษให้กับเรา เราจึงลาออกจากงานเดิมในทันที
บริษัทเดิมมีโอกาสในการเติบโตที่จำกัดด้วยรูปแบบการทำงานของบริษัท
เรากำลังมองหาความท้าทายใหม่ๆ
เราจะมีความสุขมากกว่าที่จะได้ทำงานที่ต้องอาศัยความรับผิดชอบที่มากขึ้น
งานก่อนหน้านี้เป็นแค่งานชั่วคราว และเรากำลังมองหางานประจำ

เหตุผลที่แย่ที่สุดในการลาออกจากงาน เป็นอย่างไร?

เหตุผลที่ดีเป็นสิ่งที่เราควรเลือกเอามาบอกกล่าว แต่เหตุผลที่แย่เป็นสิ่งที่เราควรเก็บไว้ให้ลึกที่สุดแล้วจงหลีกเลี่ยงจะพูดถึงมันจะดีกว่า ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม เพราะการเปิดเผยเหตุผลในการลาออกของเราในแง่นั้น อาจจะไม่ส่งผลดีต่อตัวเราสักเท่าไร ยกตัวอย่างเช่น

เรามีคดีความ หรือ เคยถูกตัดสินถูกจับเข้าคุกมาก่อน
ที่ทำงานเดิม เป็นบริษัทที่แย่มากในการทำงานด้วย
เราเบื่อการทำงานกับที่เก่า
เรากับหัวหน้าไปด้วยกันไม่ได้
เราไม่ชอบงานที่เก่า
เราเกลียดหัวหน้าของเรา
งานที่เดิมยากเกินไป
เราถูกไล่ออกเพราะฉันล่วงละเมิดทางเพศและฉันเป็นคนขี้เกียจ
ครอบครัวของเราบอกให้ลาออก
เราลาออก เพราะพลาดการได้รับเลื่อนตำแหน่ง

“มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย ที่จะพูดถึงงานเก่าในเชิงลบ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการทำงาน หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัท เพราะการเปิดเผยข้อมูลมากเกินไปเป็นสิ่งทีทำลายภาพลักษณ์ของเรามากกว่า”

นอกจากเหตุผลที่จะใช้อธิบายในตอนขอลาออกแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องการจัดการก็คือ จิตใจของเราเอง เมื่อเราได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่าเราต้องการลาออก เราต้องหนักแน่นในการตัดสินใจของเรา ไม่ใช่เพียงแค่การทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ อย่าลืมว่าในขณะที่มีเหตุผลดีๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้เราลาออกจากงาน ก็ยังมีเหตุผลดีๆ อีกมากเช่นกันที่บอกว่าเรายังไม่ควรลาออกจากงาน

“เหตุผลที่ทำให้คุณลาออกมักเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากกว่าสิ่งจูงใจต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ดึงดูดให้คุณอยู่ต่ออยู่แล้ว ดังนั้นจงหนักแน่นเข้าไว้แล้วเลือกสิ่งที่ดีกว่าเพื่อตัวคุณเอง”

บทสรุป

ในตอนแรกเราอาจจะคิดว่าจุดเริ่มต้นของการทำงานที่เราต้องนั่งคิดเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากทำงานที่บริษัทนี้เป็นเรื่องที่ยากแล้ว แต่เมื่อเราต้องการจะลาออกจากบริษัทที่ทำอยู่กลับพบว่ามันเป็นเรื่องยากกว่าการโฆษณาตัวเองให้เขารับเข้าทำงานเสียอีก

เหตุผลที่เราจะใช้ตอนลาออกเป็นสิ่งสำคัญมากและสามารถตัดสินผลกระทบหลายอย่างที่จะตามมาภายหลังได้ เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องพูดความจริงทุกอย่างหากมันเป็นเรื่องที่แย่ ลองคิดทบทวนให้ดีและรอบคอบ บอกเหตุผลที่จะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งหรือความไม่พอใจเกิดขึ้น และอย่าลืมว่าเหตุผลที่บอกที่ทำงานเก่ากับที่ทำงานใหม่ต้องสอดคล้องกัน เพราะถ้าเขาไปตรวจสอบกับที่เก่าภายหลัง เราคงต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่ๆ