ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการส่งเสริม ให้ประชาชนมีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี ประกาศใช้พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำผิดอย่างจริงจัง มีผู้ควบคุมดูและระบบใหญ่และระบบย่อยทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดขึ้น นอกจากนี้ต้องมีการส่งเสริมให้คนมีคุณภาพเข้ามาใช้อินเทอร์เน็ต และต้องสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้นมากๆ รณรงค์ให้ผู้บริหารฯ อาจารย์ นักวิชาการ หรือแม้กะทั่งนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทำการเขียนบทความลง website webblog เหล่านี้จะเป็นการส่งเสริมผลักดันให้มีเว็บไซต์คุณภาพ ที่สำคัญคือสถานศึกษาต้องปลูกฝังจิตสำนึกของนักเรียนในสถาบันของตนเองให้มี ความรู้ ความเข้าใจในการใช้Internet อย่างถูกต้อง 1. ส่ิงท่ีอาจจะก่อให้เกิดเสียหายต่อคุณสมบัติของข้อมูลดา้ น 7. บุคคลใดปฏบิ ตั ิตามมารยาทในการใช้อนิ เทอรเ์ น็ต ใดดา้ นหนง่ึ หรือมากกวา่ หนง่ึ ดา้ น คือข้อใด 1. กา้ นเข้าไปซือเสือผา้ ลอกเลยี นแบบในเวบ็ ไซตข์ ายเสอื ผา้ 1. ภัยธรรมชาติ 2. ก้อยคัดลอกภาพอาหารของผู้อื่นเพ่ือนามาทาเป็น 2. ภยั พบิ ัติ เมนอู าหารของร้าน 3. ภัยคุกคาม 3. กุ๊กพิมพ์ไลน์ต่อว่าเพื่อนด้วยถ้อยคาท่ีรนุ แรง เนื่องจาก 4. อุทกภยั เพื่อผิดนัดตน 2. การกระทาใดเป็นการใช้อนิ เทอร์เนต็ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4. ไก่พบบุคคลน่าสงสัยในห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรยี น 1. ไม่ควรใช้อนิ เทอร์เนต็ ทกุ วัน จงึ นาเรอ่ื งไปแจง้ ให้ครผู ู้ดแู ลทราบ 2. ไมใ่ ชอ้ ินเทอร์เนต็ เพอื่ ทาร้านผู้อืน่ 8. การนาข้อมูลของผู้อื่นมาเป็นประโยชน์ต่อตนเอง จัดเป็น 3. ใช้อินเทอรเ์ นต็ เพื่อความบนั เทงิ เท่านนั อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ประเภทใด 4. ใช้อินเทอรเ์ น็ตเพอ่ื ผลประโยชนท์ างธุรกิจเท่านนั 1. การแทรกแซงขอ้ มูลโดยมชิ อบ 3. หากต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในการเผยแพร่ภาพ สิ่งใดที่ 2. การละเมิดลขิ สิทธ์แิ ละปลอมแปลง นักเรียนไม่ควรกระทา 3. อนั ธพาลทางคอมพิวเตอร์และผกู้ ่อการรา้ ย 1. เผยแพรภ่ าพลามกอนาจาร 4. การใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรด์ ัดแปลงข้อมูล 2. เผยแพร่ภาพกฬี าสี 9. ขอ้ ใดไม่ใช่ความหมายของอาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ 3. เผยแพรภ่ าพไปเท่ยี วลงใน Facebook 1. การกระทาใด ๆ ท่เี ปน็ ความผดิ ทางอาญา 4. เผยแพร่ภาพอาหารทก่ี าลังรับประทาน 2. การกระทาใด ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับคอมพิวเตอร์และเป็น 4. อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ทีเ่ ป็นการขโมยข้อมูลมีลักษณะ ความผดิ ทางอาญา อยา่ งไร 3. การกระทาใด ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ซ่ึงทาให้ 1. ขโมยขอ้ มูลจากร้านสะดวกซอื ผอู้ ่นื ได้รับความเสียหาย 2. ขโมยข้อมลู จากห้างสรรพสินค้า 4. การกระทาใด ๆ ที่เก่ียวข้องกับคอมพิวเตอร์ ซ่ึงทาให้ 3. ขโมยข้อมูลจากธนาคาร ผู้กระทาผดิ ได้รับผลประโยชน์ 4. ขโมยข้อมลู จากผใู้ ชง้ านอินเทอรเ์ นต็ 10. จากบทความตอ่ ไปนี 5. นกั เรียนมีบทบาทอย่างไรในการมสี ่วนร่วมทจ่ี ะสง่ เสริมให้ “เป็ดต้องการซือรองเท้าคู่ใหม่แต่มีเงินไม่พอ ซันจึง คนท่วั ไปใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งมีมารยาท ชักชวนเป็ดเข้าไปเล่นพนันฟุตบอลในเว็บไซต์หนึ่ง ต่อมา 1. ใชค้ อมพิวเตอร์ทารา้ ย หรือละเมดิ ผอู้ ื่น เปด็ เล่นพนันชนะ จงึ นาเงนิ ไปซือรองเท้าคใู่ หม่” 2. สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดแู ฟ้มข้อมูลของผู้อื่น การกระทาของเปด็ เปน็ อาชญากรรมคอมพวิ เตอรป์ ระเภท 3. ใชค้ อมพวิ เตอร์รบกวนการทางานของผู้อืน่ ใด 4. ปฏิบัตติ นเปน็ ตวั อย่างทด่ี ี เคารพกฎระเบียบ 1. การฟอกเงินทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลักษณะของการก่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์ 2. การใชค้ อมพวิ เตอร์เผยแพร่ภาพ 1. การเจาะเขา้ ไปในระบบรกั ษาความปลอดภัยสว่ นบุคคล 3. การละเมดิ ลิขสทิ ธิแ์ ละการปลอมแปลง 2. การเจาะเข้าไปในระบบรักษาความปลอดภัยของเวบ็ 4. อาช ญากร ร มท่ีใช้การ สื่อส าร ผ่ าน เค รื อ ข่ า ย สาธารณะ คอมพิวเตอร์ 3. การเจาะเข้าไปในระบบรักษาความปลอดภัยส่วนที่ เปน็ ระบบปฏบิ ตั ิการ 4. การเจาะเข้าไปในระบบส่ือสารและรักษาความ ปลอดภัยของซอฟตแ์ วร์ข้อมลู เฉลย 1. 3 2. 2 3. 1 4. 4 5. 4 6. 2 7. 4 8. 1 9. 1 10. 1 แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ที่เป็นการขโมยขอ้ มลู มีลักษณะ 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลักษณะของการก่ออาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ อยา่ งไร 1. การเจาะเข้าไปในระบบรักษาความปลอดภยั สว่ นบุคคล 1. ขโมยขอ้ มูลจากร้านสะดวกซอื 2. การเจาะเขา้ ไปในระบบรักษาความปลอดภยั สว่ นที่เป็น 2. ขโมยข้อมูลจากหา้ งสรรพสนิ คา้ ระบบปฏิบัติการ 3. ขโมยขอ้ มลู จากธนาคาร 3. การเจาะเข้าไปในระบบส่ือสารและรัก ษาความ 4. ขโมยขอ้ มลู จากผูใ้ ช้งานอินเทอรเ์ นต็ ปลอดภยั ของซอฟต์แวร์ขอ้ มลู 2. การกระทาใดเปน็ การใช้อินเทอรเ์ นต็ ได้อยา่ งเหมาะสม 4. การเจาะเข้าไปในระบบรักษาความปลอดภัยของเว็บ 1. ไมค่ วรใชอ้ ินเทอร์เน็ตทกุ วัน สาธารณะ 2. ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตเพือ่ ความบันเทงิ เท่านัน 8. การนาข้อมูลของผู้อ่ืนมาเป็นประโยชน์ต่อตนเอง จัดเป็น 3. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ เพ่ือผลประโยชนท์ างธุรกิจเทา่ นัน อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ประเภทใด 4. ไมใ่ ชอ้ ินเทอรเ์ นต็ เพ่อื ทาร้านผอู้ ื่น 1. การแทรกแซงขอ้ มลู โดยมิชอบ 3. ส่ิงท่ีอาจจะกอ่ ให้เกิดเสยี หายต่อคณุ สมบัตขิ องข้อมูลดา้ น 2. การละเมิดลิขสทิ ธแ์ิ ละปลอมแปลง ใดดา้ นหนง่ึ หรอื มากกว่าหนึ่งด้าน คอื ข้อใด 3. อนั ธพาลทางคอมพิวเตอร์และผู้ก่อการร้าย 1. ภยั ธรรมชาติ 4. การใชเ้ ทคโนโลยคี อมพิวเตอรด์ ดั แปลงข้อมลู 2. ภัยพิบัติ 9. บคุ คลใดปฏบิ ตั ิตามมารยาทในการใช้อินเทอรเ์ น็ต 3. อุทกภยั 1. ก้านเข้าไปซอื เสือผ้าลอกเลยี นแบบในเวบ็ ไซต์ขายเสือผ้า 4. ภัยคกุ คาม 2. ไก่พบบุคคลน่าสงสัยในห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรยี น 4. หากต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในการเผยแพร่ภาพ ส่ิงใดที่ จงึ นาเรอื่ งไปแจ้งใหค้ รผู ู้ดแู ลทราบ นกั เรียนไม่ควรกระทา 3. ก้อยคัดลอกภาพอาหารของผู้อื่นเพื่อนามาทาเป็น 1. เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร เมนูอาหารของร้าน 2. เผยแพร่ภาพกฬี าสี 4. กุ๊กพิมพ์ไลน์ต่อว่าเพื่อนด้วยถ้อยคาท่ีรนุ แรง เนื่องจาก 3. เผยแพรภ่ าพไปเท่ียวลงใน Facebook เพ่อื ผิดนัดตน 4. เผยแพร่ภาพอาหารท่กี าลงั รับประทาน 10. จากบทความต่อไปนี 5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ความหมายของอาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ “เป็ดต้องการซือรองเท้าคู่ใหม่แต่มีเงินไม่พอ ซันจึง 1. การกระทาใด ๆ ที่เก่ียวข้องกับคอมพิวเตอร์และเปน็ ชักชวนเป็ดเข้าไปเล่นพนันฟุตบอลในเว็บไซต์หน่ึง ต่อมา ความผิดทางอาญา เปด็ เล่นพนันชนะ จงึ นาเงนิ ไปซือรองเทา้ คู่ใหม่” 2. การกระทาใด ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับคอมพิวเตอร์ ซงึ่ ทาให้ การกระทาของเป็ดเปน็ อาชญากรรมคอมพิวเตอรป์ ระเภท ผ้อู ื่นไดร้ ับความเสียหาย ใด 3. การกระทาใด ๆ ทเี่ ป็นความผิดทางอาญา 1. การใช้คอมพวิ เตอร์เผยแพรภ่ าพ 4. การกระทาใด ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกับคอมพิวเตอร์ ซ่งึ ทาให้ 2. การฟอกเงินทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ผู้กระทาผิดไดร้ บั ผลประโยชน์ 3. การละเมิดลิขสทิ ธ์แิ ละการปลอมแปลง 6. นกั เรียนมบี ทบาทอย่างไรในการมีสว่ นรว่ มท่จี ะส่งเสริมให้ 4. อาช ญากร ร มที่ใช้การ ส่ือส าร ผ่ าน เค รื อ ข่ า ย คนท่วั ไปใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อย่างมีมารยาท คอมพิวเตอร์ 1. ใชค้ อมพวิ เตอร์ทารา้ ย หรือละเมดิ ผู้อื่น 2. ปฏบิ ัติตนเป็นตวั อย่างทด่ี ี เคารพกฎระเบียบ 3. สอดแนม แกไ้ ข หรือเปิดดแู ฟม้ ขอ้ มลู ของผ้อู ืน่ 4. ใช้คอมพวิ เตอร์รบกวนการทางานของผู้อ่นื เฉลย 1. 4 2. 4 3. 4 4. 1 5. 3 6. 2 7. 4 8. 1 9. 2 10. 2 แบบประเมินผลงานผังมโนทัศน์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงาน/ชนิ งานของนกั เรยี นตามรายการท่ีกาหนด แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกับระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ 1 ความสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์ 2 ความถูกต้องของเนือหา 3 ความคิดสร้างสรรค์ 4 ความตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอื่ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ประเดน็ ท่ีประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 ระบบ 4. ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานมคี วามเป็น ระเบยี บ ระเบียบแสดงออกถึง ความประณีต เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–16 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ คาช้แี จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 1 ความถูกตอ้ งของเนอื หา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ................................................... ผปู้ ระเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ คาชแ้ี จง : ให้ผูส้ อน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล สงั เกตพฤตกิ รรมของ นักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู น่ื 3 การทางานตามหน้าทีท่ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย 4 ความมีนาใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชือ่ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง คาชี้แจง : ให้ผู้สอน แแบบบบปสรงัะเเกมตินพคฤุณตลกิ กั รษรมณกะาอรนั ทพางึ าปนรกะสลง่มุ ค์ สงั เกตพฤติกรรมของ นกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องทตี่ รงกับระดบั คะแนน ลาดับที่ ชอ่ื –สกุล การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมีนา้ ใจ การมี รวม 321321321321321 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมนิ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ คาช้แี จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีส่ รา้ งความสามคั คปี รองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ ปฏบิ ตั ิตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามที่โรงเรยี นจดั ขนึ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ใหข้ อ้ มูลทถี่ ูกตอ้ งและเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในส่ิงท่ีถูกต้อง 3. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 ร้จู กั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ 4.2 รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เช่ือฟังคาสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ตังใจเรยี น 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุง่ มั่นในการ 6.1 มีความตงั ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสานกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิง่ แวดล้อมของหอ้ งเรียนและโรงเรียน ลงช่อื ................................................... ผู้ประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคานวณ ว21104 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 เรอื่ ง จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 2 ชัว่ โมง 1. มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด 1.1 ตวั ชี้วัด 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ได้ (K) 3. สาระการเรยี นรู้ 1. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เชน่ การปกป้องความเปน็ สว่ นตัวและอตั ลักษณ์ 2. การจัดการอตั ลกั ษณ์ เชน่ การตังรหสั ผา่ น การปกป้องข้อมลู สว่ นตวั 3. การพจิ ารณาความเหมาะสมของเนอื หา เชน่ ละเมิดความเป็นสว่ นตัวผอู้ ื่น อนาจาร วิจารณ์ผอู้ ื่นอย่างหยาบ คาย 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ในปัจจุบันด้วยประโยชนท์ ี่หลากหลายของระบบสารสนเทศในการเข้าถึงข้อมูลรวมทังข่าวสารต่าง ๆ อย่าง ใด ๆ ที่จะส่งผลให้ผู้อ่ืนได้รับความเสียหาย และต้องใช้งานสารสนเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการสอื่ สาร 3. มงุ่ มั่นในการทางาน 2) ทกั ษะการทางานร่วมกนั 3) ทกั ษะกระบวนการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 4) ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ กระตุ้นความสนใจ (Engage) ขั้นสอน สารวจคน้ หา (Explore) ชัว่ โมงที่ 2 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูอธิบายเนือหาเพิ่มเติมหลังการอภิปรายของนกั เรียนในส่วนที่ขาดตกบกพรอ่ ง หรือส่วนท่ีเป็นประเดน็ สาคัญ ในหัวข้อความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ จาก PowerPoint เรื่อง ความปลอดภัยของ 2. ครูอธิบายประเด็นสาคัญในหัวข้อ รูปแบบภัยคุกคามต่อระบบรักษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ ว่า 1) ภยั คกุ คามแกร่ ะบบ 4) ภัยคกุ คามทีไ่ ม่มเี ปา้ หมาย 3. ครูแทรกความรู้เสริมจากกรอบ Com Sci in Real Life ถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยโปรแกรม IE 4. ครูถามนักเรียนว่า ภัยคุกคามด้านข้อมูลในคอมพิวเตอร์ มีอะไรบ้าง แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ โดยใช้ เรยี น หรือผิด 8. ครูใหค้ วามรู้และอธบิ ายเนน้ ยาเพิ่มเติมเกี่ยวกบั แนวโน้มของภยั คกุ คามในอนาคต เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนได้เสนอวิธกี ารต่าง ๆ อยา่ งอิสระ 10. ครอู ธบิ ายเรอื่ ง แนวโนม้ ระบบรกั ษาความปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต แล้วส่มุ นกั เรียนเพ่อื ให้ (แนวตอบ: 1. ระบบรกั ษาความปลอดภัยสาหรบั เครือ่ งผใู้ ช้ 4. ระบบป้องกนั การเจาะข้อมลู 6. ระบบรกั ษาความปลอดภยั สาหรับเครือขา่ ย สามารถศึกษาได้ในหวั ข้อ ความปลอดภยั ของระบบสารสนเทศในด้านความมัน่ คงของประเทศ และลงมอื ทาเป็นการบา้ น ขนั้ สรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูอธิบายและลงข้อสรุปเก่ียวกับเนือหาที่นักเรียนได้ศึกษามาแล้ว และเน้นยาถึงวิธีการป้องกันการถูก 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนอื หา เร่ือง ความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ว่ามีส่วนไหนทย่ี งั ไม่ 3. ครูให้นักเรียนเขียนสรุปเนือหา โดยการทาผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เรื่อง ความปลอดภัยของ ตรวจสอบผล (Evaluate) 7.การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลกั ความ พอประมาณกบั เวลา นกั เรียนสามารถเรยี นรู้ เรือ่ งความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ในการจัดการเรียนการสอน นักเรยี นสามารถปฏิบัตแิ บบฝกึ หัด จากเรื่องความปลอดภัย หลักการสรา้ ง การจดั การเรยี นสอนแตล่ ะครงั นักเรียนเกดิ ความเข้าใจในการเรียน เนอื หา ได้เปน็ อย่าง เงือ่ นไขความรู้ นักเรียนมคี วามร้คู วามเข้าใจเร่ือง ความปลอดภยั ของระบบสารสนเทศ ได้เป็นอย่างดี เงื่อนไขคณุ ธรรม รจู้ ักการทางานร่วมกล่มุ ซื่อสัตย์ มคี วามรบั ผดิ ชอบ 8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 4) กระดาษฟลิปชาร์ต (Flip chart) 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 9. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ 9.2 การประเมนิ ระหว่าง 2) การนาเสนอ 3) พฤตกิ รรมการ 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 2 ใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง ความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ คาช้แี จง : นาคาทกี่ าหนดให้เติมลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง ระบบเครือขา่ ย มัลแวร์ ฮาร์ดแวร์ แฮกเกอร์ 1. ของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ คอื นโยบาย ขนั ตอนการปฏิบัติ และมาตรการ ทางเทคนคิ ที่นามาใชป้ อ้ งกันการใช้งานจาก แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี 1) ภยั คุกคามต่อ 2) ภยั คุกคามต่อ 3) ภยั คกุ คามต่อ และ 4) ภัยคุกคามตอ่ 2. ภยั คกุ คามทไี่ มม่ เี ปา้ หมายแน่นอน เช่น สง่ ขอ้ ความหรอื อีเมลรบกวนผู้ใช้งานในระบบหลาย ๆ คน เรืยกวา่ 3. โปรแกรมที่ถูกสร้างขึนมาเพ่ือประสงค์ร้ายต่อเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และจะขโมยข้อมูลหรือพยยามทาให้เครื่องที่ ตดิ ตงั ซอฟตแ์ วร์เกิดความเสยี หาย คอื 4. คือ โปรแกรมท่ีฝังตัวอยู่ในคอมพิวเตอร์ ทาให้ทราบข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยท่ี เจ้าของเคร่อื งคอมพิวเตอรน์ นั ไม่สามารถทราบไดว้ า่ มีการดกั ดขู ้อมลู การใชง้ านอยู่ 5. วิธีการป้องกันและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่าง ๆ มีหลายวิธี ซ่ึงหน่ึงในนัน คือ ตดิ ตงั เพื่อทาหน้าทีเ่ หมือนเปน็ กาแพงในการป้องกนั การบุกรกุ ของ และ 6. การเข้า มีจุดประสงค์เพื่อรักษาความลับของข้อมูล ซึ่งข้อมูลนันจะถูกเปิดอ่านโดยผู้ท่ี ไดร้ บั อนญุ าตเท่านนั 7. วธิ ีการป้องกันการถกู ข้อมูล ควรตังรหัสผ่านเพ่ือให้เกิดความปลอดภัย เช่น ควรจะตัง รหสั ผา่ นใหม้ ีความยาว 8 และมีการผสมตกั อกั ษรกับ ใบงานท่ี 4.1 เฉลย เรือ่ ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย คาชแ้ี จง : นาคาทีก่ าหนดใหเ้ ตมิ ลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง ระบบเครือขา่ ย มัลแวร์ ฮารด์ แวร์ แฮกเกอร์ 1. ความปลอดภยั ของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ นโยบาย ขนั ตอนการปฏิบัติ และมาตรการ ทางเทคนิคทนี่ ามาใชป้ อ้ งกันการใชง้ านจาก บคุ คลภายนอก แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี 1) ภยั คกุ คามตอ่ ฮาร์ดแวร์ 2) ภยั คกุ คามต่อ ซอฟตแ์ วร์ 3) ภยั คุกคามต่อ ระบบ เครอื ขา่ ย และ การส่ือสาร 4) ภัยคกุ คามต่อ ขอ้ มูล 2. ภัยคกุ คามท่ีไม่มีเป้าหมายแนน่ อน เช่น สง่ ข้อความหรืออเี มลรบกวนผใู้ ชง้ านในระบบหลาย ๆ คน เรยื กว่า สแปม 3. โปรแกรมที่ถูกสร้างขึนมาเพ่ือประสงค์ร้ายต่อเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และจะขโมยข้อมูลหรือพยยามทาให้เคร่ืองท่ี ติดตงั ซอฟตแ์ วรเ์ กดิ ความเสียหาย คอื มลั แวร์ 4. ระบบเครือขา่ ย คือ โปรแกรมที่ฝังตัวอยู่ในคอมพิวเตอร์ ทาให้ทราบข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยท่ี เจ้าของเครือ่ งคอมพวิ เตอร์นนั ไมส่ ามารถทราบได้ว่ามีการดักดขู อ้ มลู การใชง้ านอยู่ 5. วิธีการป้องกันและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่าง ๆ มีหลายวิธี ซึ่งหน่ึงในนัน คือ ตดิ ตงั ไฟลว์ อลล์ เพ่ือทาหนา้ ท่เี หมือนเป็นกาแพงในการปอ้ งกันการบุกรุกของ แฮกเกอร์ และ แครกเกอร์ 6. การเขา้ รหัสขอ้ มลู มีจุดประสงค์เพ่ือรักษาความลับของข้อมูล ซ่ึงข้อมูลนันจะถูกเปิดอ่านโดยผู้ท่ี ไดร้ บั อนุญาตเทา่ นนั 7. วธิ ีการปอ้ งกันการถูก โจรกรรม ข้อมูล ควรตังรหัสผ่านเพ่ือให้เกิดความปลอดภัย เช่น ควรจะตัง รหสั ผา่ นให้มีความยาว 8 ตัวอักษร และมีการผสมตักอักษรกับ ตัวเลข แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคานวณ ว21104 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด 1.1 ตวั ชี้วัด 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายเกี่ยวกับขอ้ กาหนด ขอ้ ตกลงในการใช้แหล่งขอ้ มูลได้ (K) 3. สาระการเรยี นรู้ 1. ข้อตกลง ขอ้ กาหนดในการใช้ส่อื หรือแหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ เช่น Creative commons 4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทต่อการดารงชีวิตของมนุษย์มากขึน และจะเห็นได้ว่ายิ่งมี ในทางสร้างสรรค์ จึงมีการควบคุมการใช้ และกาหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดคุณธรรมและจริยธรรมในการใช้ 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทักษะการสอื่ สาร 3. มุ่งมั่นในการทางาน 2) ทักษะการแกป้ ญั หา 3) ทักษะการทางานรว่ มกัน 4) ทกั ษะกระบวนการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ 5) ทักษะการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนา 1. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุย โดยถามนักเรียนถึงการใช้งาน social media ของนักเรียนในการรับ-ส่งข้อมูล 2. ครูยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่มีบคุ คลอื่นทาการเข้าถึงขอ้ มลู หรือแฮกเข้าระบบ Facebook ท่ีเกิดขึนตามข่าว 3. ครูกล่าวถึงประเด็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศว่า นอกจากเรื่องความปลอดภัยของระบบสารสนเทศที่ 4. ครูพูดถึงความปลอดภัยของระบบสารสนเทศท่ีเป็นความรู้เดิมจากช่ัวโมงที่แล้ว เพ่ือเช่ือมโยงถึงเร่ือง ขน้ั สอน 1. ครูบอกขอบเขตเนือหาหรือประเด็นสาคัญที่จะเรียนในชั่วโมงนี ซ่ึงประกอบด้วย จริยธรรมในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ จรรยาบรรณในการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อกาหนด ข้อตกลงในการใช้ อยา่ งไร โดยครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นไดต้ อบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ อย่างอิสระ หรอื นาไปใชง้ านโดยไม่ไดร้ บั อนุญาตจากเจา้ ของลิขสทิ ธิ์ จงึ มกี ารจดั ทา Creative Commons หรือสัญญา 3. ครูสนทนากับนกั เรียนตอ่ ว่า จรยิ ธรรม คอื หลกั ประพฤตปิ ฏิบัตทิ ี่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อเปน็ แนวทางในการ 4. ครูอธิบายเนือหาเกี่ยวกับ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และจรรยาบรรณในการใช้งาน สารสนเทศ ประกอบด้วยอะไรบ้าง โดยแบ่งกันตอบคนละ 1 ข้อ เพื่อเป็นการตรวจสอบความสนใจของ 5. ครูอธิบายถึงข้อกาหนด ข้อตกลงในการใช้แหล่งข้อมูล และเช่ือมโยงไปถึงการจัดทาสัญญาอนุญาต 6. ครูสุ่มตัวอย่าง Creative Commons ที่เป็นไอคอน แล้วสุ่มถามนักเรียนว่าไอคอนสัญญาอนุญาตดัง เนือหาท่ีได้ศึกษาไปแล้ว ความถกู ต้องของข้อมลู ตา่ ง ๆ ก่อนนาไปเผยแพร่ ควรใชภ้ าษาท่สี ภุ าพและเปน็ ทางการ ไม่เผยแพร่ข้อมูลท่ี ไม่เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ ควรระบุแหล่งท่ีมาให้ชัดเจน ไม่ควรเผยแพรข่ ้อมูลของผู้อื่นก่อนไดร้ ับ ขน้ั สรุป 1. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามเนือหา เร่ือง จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ วา่ มีส่วนไหนท่ียัง ไมเ่ ขา้ ใจและครูใหค้ วามรูเ้ พ่ิมเตมิ ในส่วนนัน ชว่ั โมง 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาอภปิ รายผลการทากิจกรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง 4. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เนอื หาเกยี่ วกบั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เพ่ือให้เกิดความเข้า 5. ครูใหน้ กั เรยี นตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง จากกรอบ Self Check 6. ครมู อบหมายให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัด Unit Question 4 ลงในสมดุ ในกระดาษ A4 10. ครตู รวจแบบตรวจตอบตอนเอง (Self Check) ของนักเรียน 12. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล การทางานกล่มุ 13. ครูวัดและประเมินผลจากชินงานการสรุปผังมโนทัศน์ เรื่อง จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ นกั เรียนไดส้ ร้างขึน 7.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักความ พอประมาณกับเวลา นกั เรยี นสามารถเรียนรู้ เรอื่ ง จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี ในการจัดการเรยี นการสอน นกั เรียนสามารถปฏิบัติแบบฝึกหัด จากเรื่อง จริยธรรมใน หลักการสรา้ ง การจดั การเรียนสอนแตล่ ะครงั นกั เรียนเกดิ ความเขา้ ใจในการเรียน เนอื หา ได้เป็นอยา่ ง เงือ่ นไขความรู้ นกั เรยี นมีความรู้ความเข้าใจเร่อื ง จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ได้เป็นอยา่ ง เง่ือนไขคุณธรรม รู้จักการทางานรว่ มกลุม่ ซื่อสตั ย์ มคี วามรับผิดชอบ 8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 2) ใบงานที่ 4.2 เร่ือง จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 9. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ ง ปลอดภัย 9.2 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) จรยิ ธรรมในการ - ตรวจใบงานท่ี 4.2 ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ 2) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ ผลงาน ผลงาน 3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล 4) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพ 2 ใบงานที่ 4.2 เร่ือง จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ คาชแ้ี จง : ตอบคาถามต่อไปน้ใี ห้ถกู ตอ้ ง 1. เงอื่ นไขในการให้อนุญาตของครีเอทฟี คอมมอนสม์ ีอยู่กี่เงื่อนไข อะไรบา้ ง และแต่ละเงื่อนไขเปน็ อย่างไร |