สำหรับการทำงานในบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐหรือบริษัทภาคเอกชนก็ตาม การวางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก การทำงานที่สะดวก ลื่นไหล และความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร จุดเริ่มต้นก็อยู่ที่การวางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั่นเอง บริษัทไหนสามารถวางระบบเครือข่ายได้ดี การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ดังนั้น เรื่องนี้จึงต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ แต่การวางระบบเครือข่ายในองค์นั้นสามารถทำได้หลายแบบ client server คือระบบเครือข่ายอีกรูปแบบหนึ่งที่หลายภาคส่วนนิยมใช้กันมาก ว่าแต่ ระบบ client server คืออะไรกันล่ะ มารู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยClient server คือระบบเครือข่ายแบบไหนการจะทำความเข้าใจว่า client server คืออะไร มีการทำงานเป็นเครือข่ายแบบไหน ก็ต้องมาตั้งต้นความเข้าใจกันก่อน เครือข่ายแบบ client server นั้นจะแบ่งการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ออกเป็น 2 กลุ่มตามชื่อเลย นั่นคือ Show
อธิบายกันตามนี้ก็จะเห็นว่า แม่ 1 คน สามารถมีลูกได้หลายคน หมายความว่า Server 1 เครื่องจะสามารถทำงานเชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปหลาย ๆ เครื่องได้ client server คือระบบเครือข่ายแบบนี้นั่นเอง ข้อดีและข้อเสียของระบบ client server คืออะไร ข้อดี
ข้อเสีย
เรียกว่า client server คือระบบเครือข่ายที่ทุกบริษัทและทุกองค์กรใช้เป็นพื้นฐานในการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องเข้าหากัน เป็นระบบศูนย์กลางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการใช้งานจนถึงปัจจุบัน เมื่อคุณรู้จักแล้วบริษัทของคุณจำเป็นที่จะต้องมีระบบเครือข่ายแบบนี้หรือไม่ ด้วยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยคุณในการพิจารณาได้ เซิร์ฟเวอร์ประเภท Web Server นั้น คือ ซอฟต์แวร์ และ ฮาร์ดแวร์ ที่ใช้ภาษาโพรโทคอลแบบ HTTP (Hypertext Transfer Protocol) และอื่นๆ ในการตอบสนองและสื่อสารกับเครื่องลูก (Client) ในเครือข่าย ในแพลตฟอร์ม World Wide Web หน้าที่หลักของเว็บเซิร์ฟเวอร์ คือแสดงผลข้อมูลและเนื้อหา Website ด้วยการจัดเก็บ, ประมวลผล และ นำเสนอออกมาแก่ User ในลักษณะ Webpage นั่นเอง > อ่านบทความ Server คืออะไร ได้ที่นี่ นอกจาก HTTP แล้ว Webserver ยังรองรับโพรโทคอลได้หลากหลายรูปแบบ คือ SMTP (Simple Mail Transfer Protocol), FTP (File Transfer Protocol), การใช้งาน Email, การรับส่งไฟล์ และ จัดเก็บข้อมูล อีกด้วย Web Server Hardware จะเชื่อมต่อกับ Internet และทำหน้าที่รับส่ง, แลกเปลี่ยนข้อมูล Data ต่างๆ กับอุปกรณ์อื่นๆ ขณะที่ Web Server Software จะควบคุมการเข้าถึงไฟล์ใน Host ของ User ลักษณะการทำงานนี้คือหนึ่งในวิธีการทำงานแบบ Client/Server Model นั่นเอง คอมพิวเตอร์ทุกๆ เครื่อง ที่ทำหน้าที่เป็น Host Website ต้องมีการติดตั้ง Web Server Software ด้วย สารบัญ
Web Server ทำงานยังไงWeb Server Software จะทำหน้าที่เข้าถึง Domain Name ของ Website และประมวลผลพร้อมนำส่งเนื้อเว็บ Site ให้กับ User ในส่วนของ Software นี้ก็มีองค์ประกอบที่หลากหลายเช่นกัน อย่างน้อยคือ HTTP Server ซึ่งทำหน้าที่อ่าน HTTP และ URLs ในฝั่ง Hardware นั้น คือ Computer ที่ทำหน้าที่จัดเก็บ ข้อมูลจำพวก Software และไฟล์เนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Website เช่น HTML Document, รูปภาพ และ ไฟล์ JavaScript เป็นต้น เมื่อ Web Browser อาทิเช่น Google Chrome, Firefox หรือ Microsoft Edge ต้องการไฟล์จาก Web Server ตัว Browser จะทำการร้องขอไฟล์ด้วย HTTP เช่นกัน ซึ่งเมื่อทาง เว็บเซิร์ฟเวอร์ได้รับคำร้องขอแล้ว HTTP Server จะทำการตอบรับ, ค้นหาข้อมูล และส่งกลับไปยัง Browser ผ่าน HTTP ขั้นตอนการ Request Web Page ของ Browserเรามาดูกันว่า เมื่อ Browser ทำการ Request หน้าเพจจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ กระบวนการทั้งหมด ที่เกิดขึ้นนั้น มีอะไรบ้าง
ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลเพจที่ต้องการ หรือมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น เว็บเซิร์ฟเวอร์จะทำการตอบสนองด้วยข้อความแจ้งเตือน Error ไปยังเบราว์เซอร์ ซึ่งจะแสดงข้อความดังกล่าวให้แก่ User บนเว็บเพจ อีกทีหนึ่งครับ Domains หลายๆ ชื่อ สามารถ Host ลงบน Web Server เดียวกันได้ ในการส่ง URL ผ่านระบบ DNS จำเป็นต้องใช้ดีเอ็นเอสเซิร์ฟเวอร์ ศึกษาเพิ่มเติม อ่านบทความ DNS Server คืออะไรที่นี่ โดยตัวแทนจำหน่ายโดยตรง HPE Serverเลือกซื้อDell Serverเลือกซื้อLenovo Serverเลือกซื้อเลือกซื้อ Server ทั้งหมด > กลับสู่สารบัญ ทำไมต้องใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์Webserver นั้น ทำหน้าที่เก็บไฟล์ต่างๆ ของ Website มากมาย ในลักษณะของข้อมูล HTML และองค์ประกอบอื่นๆ ประกอบด้วย รูปภาพ, CSS Stylesheets, ไฟล์ JaVaScript, Font และ Video เป็นต้น ในทางทฤษฏีแล้ว เราสามารถใช้ Computer ทั่วไปในการ Host ไฟล์เหล่านี้ได้ แต่การเลือกใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์จะช่วยมอบความสะดวกและฟีเจอร์การใช้งานที่ได้เปรียบมากกว่าเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลข้อดีดังนี้
และสำหรับองค์กรที่ Website มี Traffic เข้าถึงมากมาย ไม่ว่าจากช่องทางไหน หรือบนแพลตฟอร์มโครงสร้าง การเขียนด้วยโปรแกรมใดๆ อาทิเช่น WordPress, Magento หรือ Dreamweaver การใช้คอมพิวเตอร์ธรรมดาก็อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการรองรับการเข้าถึงที่มหาศาลได้ จนอาจทำให้เกิดเหตุการณ์เว็บล่มขึ้นมา ด้วยเหตุผลต่างๆ ข้างต้นนี้ การเลือกใช้ Host ที่ดี ถือเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณ หรือแม้กระทั่งการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์เพื่อใช้เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว ก็ควรจะเลือกรุ่นที่รองรับการทำงานได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ กลับสู่สารบัญ ตัวอย่างการใช้งานส่วนใหญ่นั้นเว็บเซิร์ฟเวอร์จะมาพร้อมกันเป็นชุดแพคเกจกับโปรแกรมต่างๆ ที่ใช้งานตามจุดประสงค์ดังต่อไปนี้ คือ
ซึ่งโดยพื้นฐานของ Web Server คือจะสามารถรองรับ Server-Side Scripting ซึ่งใช้สำหรับการฝัง Script ลงบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ ทำให้สามารถปรับแต่งตั้งค่าการตอบสนองต่อเครื่อง Client ได้ โดย Server-Side Scripting นี้ จะประมวลผลผ่าน Server Machine และมีฟีเจอร์ให้เลือกตั้งค่ามากมาย ซึ่งนั่นหมายถึงรวมการเข้าถึง Database ด้วย Server-Side Scripting จะดำเนินการประมวลผลต่อ โดยใช้ Active Server Pages (ASP), Hypertext Preprocessor (PHP) และ ภาษา Scripting อื่นๆ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ HTML Documents สามารถสร้างสรรค์ได้อย่างทรงพลัง กลับสู่สารบัญ Dynamic vs Static Web ServersWeb Server นั้น สามารถใช้สำหรับรองรับเนื้อหาได้ทั้งแบบ Static และ Dynamic โดย Static นั้น คือเนื้อหาที่แสดงผลอย่างที่เป็นเท่านั้น ขณะที่ Content แบบไดนามิค สามารถอัพเดตและเปลี่ยนแปลงได้โดย User นั่นคือมีการตอบสนองได้นั่นเอง Static Web Server จะประกอบด้วยคอมพิวเตอร์และ HTTP Software ซึ่งภาษา HTTP ถือว่าเป็นเนื้อหาแบบสแตติก เพราะตัวเซิร์ฟเวอร์จะทำการนำส่งข้อมูลไฟล์ Host ไปยัง Browser และแสดงผลในรูปแบบเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์แบบ Dynamic หมายถึงเว็บที่มีการตอบสนองได้ ประกอบด้วย Webserver และ Software เฉพาะทางอื่นๆ อาทิเช่น Application Server และ Database โดยตัวแอพพลิเคชั่นเซิร์ฟเวอร์สามารถใช้ Update ไฟล์ Host ใดๆ ก็ตาม ก่อนที่จะนำไปแสดงผลบน Browser ซึ่งเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้นสามารถสร้าง Content ขึ้นมาตามคำขอจาก Database ได้ทันที กระบวนการเหล่านี้มีความยืดหยุ่นสูง แต่ก็มีความยุ่งยากซับซ้อนระดับหนึ่ง กลับสู่สารบัญ Software ที่นิยมปัจจุบันมีซอฟแวร์สำหรับใช้งานกับเว็บเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกใช้มากมาย โดยโปรแกรมที่เป็นที่นิยมสูง เรามาดูกันว่า Software ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง Apache HTTP Serverพัฒนาโดย Apache Software Foundation สามารถใช้งานได้ฟรี และรองรับระบบปฏิบัตการ Windows, Mac OS X, Unix, Linux, Solaris และ อื่นๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม ต้องทำเรื่องขอ License จาก Apache ก่อน Microsoft Internet Information Services (IIS)พัฒนาโดย Microsoft สำหรับแพลตฟอร์มไมโครซอฟ มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน แต่เป็นที่นิยมค่อนข้างสูง NginxSoftware แบบฟรี ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากความยืดหยุ่นและเรียบง่ายในการใช้งาน สามารถรองรับจัดการการทำงานหลายๆ Session ได้ในเวลาเดียวกัน เพราะมีการโครงสร้างซอฟแวร์เป็นแบบ Event-Driven Architecture นอกจากนี้ ตัว Nginx นี้ยังสามารถใช้งานได้กับ Proxy Server และ Load Balancer อีกด้วย Lighttpdอีกหนึ่งซอฟแวร์ที่ใช้งานได้ฟรีๆ มาพร้อมกับระบบประมวลผล FreeBSD มีข้อดีคือทำงานได้รวดเร็ว และเสถียร ในขณะที่กินพลังงานจาก CPU เพียงเล็กน้อยเท่านั้น Sun Java Systemฟรีซอฟแวร์อีกตัวที่พัฒนาโดย Sun Microsystems สามารถใช้งานบน Operatins System Windows, Linux และ Unix เหมาะกับการจัดการเว็บไซต์ขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่เลยทีเดียวครับ ในการเลือกใช้ Web Server นั้น ต้องคำนึงถึงความเข้ากันกับ Operating System และ Server ประเภทอื่นๆ, คุณภาพในการรองรับ Server-Side Programming, ความปลอดภัย Security, ความเสถียร, Search Engine และ เครื่องมือสำหรับการปรับแต่งที่มาพร้อมกับตัว Software ตัวเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้น อาจจะมีการตั้งค่าและปรับคุณลักษณะพื้นฐานที่หลากหลาย เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน การปรับค่าThroughput ที่สูง และ Latency ที่ต่ำจะช่วยได้ประมาณหนึ่งครับ กลับสู่สารบัญ การตรวจสอบความปลอดภัยในส่วนของความปลอดภัยในการใช้งานนั้น ต้องหมั่นตรวจสอบความปลอดภัยหรือระบบ Security อยู่เสมอๆ ซึ่งมีวิธีในการ Re-Check มากมายให้เลือกใช้ บทความนี้จะขอยกตัวอย่างวิธีง่ายๆ ในการเช็คความเสถียรของเว็บเซิร์ฟเวอร์ ประกอบด้วย
Addin.co.th ภายใต้บริษัท แอด อิน บิซิเนส จำกัด เราจัดจำหน่ายพร้อมให้บริการสินค้าไอทีแบรนด์ชั้นนำมาตั้งแต่ปี 1993 เราเชื่อมั่นในการผลักดันกลุ่มลูกค้าองค์กร ภาคธุรกิจ และบุคคล โดยการเลือกสรรอุปกรณ์และบริการที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ดูสินค้าทั้งหมดกลับสู่สารบัญ ประวัติความเป็นมาในเดือนมีนาคม ปี 1989 เซอร์ Tim Berners-Lee ได้นำเสนอโปรเจคใหม่ให้แก่พนักงานของ CERN (องค์กรวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ในยุโรป) โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ ด้วยระบบ Hypertext ซึ่งในปี 1990 ทางทีมได้มีการสร้างเครื่องมือขึ้นมา 2 โปรแกรม ได้แก่
ในระหว่างปี 1991 ถึง 1994 ประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยน Data ผ่าน World Wide Web ช่วยให้มีการนำระบบนี้ไปประยุกต์ใช้กับระบบปฏิบัติการต่างๆ มากมาย และมีการนำไปใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มองค์กร, มหาวิทยาลัย และ วงการอุตสาหกรรมต่างๆ ในปี 1994 Berner-Lee ตัดสินใจในการอุทิศ World Wide Web Consortium นำมาพัฒนาควบคู่กับ Technology อื่นๆ คู่กันมากมาย อาทิเช่น HTTP และ HTML เป็นต้น และทำให้นวัตกรรมนี้เป็นที่นิยมตลอดมาจนถึงปัจจุบัน CERN httpd ตัวแรกของโลก ขอบคุณที่มา จาก Techtarget กลับสู่สารบัญ Add In Business จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีราคาถูกภายใต้บริษัท แอด อิน บิซิเนส จำกัด ตัวแทนจำหน่าย ดูสินค้าทั้งหมด สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่หน้า Contact หรือ สรุปหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านได้ทำความเข้าใจ และรู้จัก Web Server ว่ามันคืออะไร มากขึ้น เว็บไซต์เรานอกจากจะมีบทความดีๆ แบบนี้ให้เลือกอ่านแล้ว ยังมีสินค้าไอทีให้เลือกซื้ออีกมากมาย หากท่านผู้อ่านมีความสนใจเพิ่มเติมในการสั่งซื้อสินค้าอุปกรณ์ไอที สอบถามข้อมูล หรือขอใบเสนอราคา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุปกรณ์ใดๆก็ตาม สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Facebook Inbox : https://goo.gl/9wo8oL ผู้เขียนUnnoteอดีตสถาปนิกและนักศึกษาจบปริญญาโทสาขาอสังหาริมทรัพย์ ผันตัวมาคลุกคลีในวงการไอที เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ |