ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย 2557 ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย 2557 ขอเชิญทุกท่านร่วม "งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2557" ระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2557 จัดขึ้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมืองมรดกโลกและเป็นต้นกำเนิดประเพณีลอยกระทง ภายในงานประกอบไปด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยต่าง ๆ เช่น โขน รำ ระบำต่าง ๆ ดนตรีไทย การละเล่นต่าง ๆ มีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งในช่วงเช้าและร่วมฟังธรรมะ เรียกว่า "พิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุข" นอกจากนี้ยังมีการแสดงน้ำพุเต้นระบำ การแสดง พลุ ตะไล ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ประกวดนางนพมาศ ประกวดกระทง มีตลาดโบราณ จำหน่ายสินค้าโบราณ และงานข้าวขวัญวันเล่นไฟ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รับประทานขันโตกอาหารโบราณ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม "ตลาดแลกเบี้ย ททท." ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดจำลองรูปแบบตลาดโบราณ (ตลาดปสาน) สมัยสุโขทัยในอดีต ซึ่งได้จำลองตลาดบกขายอาหารคาวหวานโบราณที่หาทานได้ยาก อย่างเช่น ขนมกง ชะมดงาดำ ข้าวเกรียบโป่ง ปลาเห็ดโบราณ ผัดไทยใบตอง ข้าวเปิ๊บ และก๋วยเตี๋ยวแบ มาให้ทุกท่านลิ้มลองอาหารพื้นถิ่นรสอร่อย มีโซนท่าน้ำให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเรือชมบรรยากาศงานลอยกระทงที่สว่างไสวไปด้วย แสงไฟ แสงเทียน สวยงาม ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองเมื่อครั้งสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรก อีกทั้งยังจะได้ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมนาฏศิลป์ภายในตลาดแลกเบี้ย และการแสดงร่วมสมัยในตลาดของ ททท. ในทุกค่ำคืน ลอยกระทงสุโขทัย สำหรับจุดเด่นของงานนี้ คือ งานแสดง แสง สี เสียงตำนานเมืองสุโขทัยและตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นการแสดงที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลก แสดงโดยทีมงานนาฏศิลป์สุโขทัย รอบการแสดงเวลา วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2557 : เวลา 19.00 น. วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2557 : รอบการแสดงเวลา 19.00 น. วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557: รอบการแสดงเวลา 19.00 น. วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2557 : รอบการแสดงเวลา 19.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2557 : รอบการแสดงเวลา 19.00 น. และ เวลา 21.00 น. ชาติไทยมีประเพณีอันดีงามตกทอดสืบต่อกันมาแต่ครั้งโบราณกาล ตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่ระบุว่า ในสมัยสุโขทัยมีประเพณีที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ ประเพณีทางด้านศาสนา ชาวสุโขทัยเป็นพุทธมามกะที่มีศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ชาวสุโขทัย นับแต่พระมหากษัตริย์จนถึงชาวบ้านทั่วไปจะไปวัดทำบุญทำทานรักษาศีลอย่าง เคร่งครัด ไปฟังพระธรรมเทศนาที่กลางดงตาลในเมืองสุโขทัย เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษาในเดือน 8 ชาวสุโขทัยมีการถือศีล ทำบุญ ทำทาน กุลบุตรที่มีอายุพอสมควรก็ออกบวชเป็นภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาชั่วระยะเวลา เข้าพรรษาตามประเพณีนิยม และเมื่อถึงเทศกาลออกพรรษาในเดือน 11 ก็มีการ ทอดกฐินถวายปัจจัย เช่น ถวายพนมเบี้ย พนมหมาก พนมดอกไม้ ถวายหมอนนั่ง หมอนนอน เป็นต้น การทอดกฐินนี้กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาเดือนหนึ่ง ในเทศกาลออกพรรษาก็มีการละเล่นต่างๆ เช่น เล่นดอกไม้ไฟ หกคะเมน ไต่ลอดบ่วง รำแพน เล่นดนตรี ขับร้อง เต้นระบำรำฟ้อน เครื่องดนตรีในสมัยนั้นมี ฆ้องวง กลองประเภทต่างๆ อาทิ กลองมโหระทึก แตร สังข์ ระฆัง กังสดาล ฉิ่งฉาบ บัณเฑาะว์ พิณ และซอ เป็นต้น
บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง พระราชพิธีสิบสองเดือน กล่าวไว้ว่า การลอยพระประทีป ลอยกระทงนี้ เป็นนักขัตฤกษ์ที่รื่นเริงทั่วไปของชนทั้งปวง ทั่วกัน ไม่เฉพาะแต่การหลวง แต่จะนับว่าเป็นพระราชพิธีอย่างใดก็ไม่ได้ ด้วยไม่มีพิธีสงฆ์ พิธีพราหมณ์อันใดเกี่ยวข้องเนื่องในการลอยพระประทีปนั้น เว้นไว้แต่จะเข้าใจว่า ตรงกับคำที่ว่า ลอยโคมลงแช่น้ำเช่นกล่าวมาแล้ว แต่ควรนับถือว่าเป็นราชประเพณีซึ่งมีมาในแผ่นดินสยามแต่โบราณ ตั้งแต่พระนครยังอยู่ฝ่ายเหนือ เมื่อตรวจดูในกฎมนเฑียรบาลซึ่งได้ยกมาอ้างในเบื้องต้น ต่อความที่ว่าพิธีจองเปรียงลดชุดลอยโคมลงน้ำไป มีข้อความต่อไปว่า "ตั้งระทาดอกไม้ในพระเมรุ 4 ระทา หนัง 2 โรง" การเรื่องนี้ก็คงจะตรงกันกับที่มีดอกไม้เพลิงที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามและ ที่ชลาทรงบาตร
|