เวลาอ่านโดยประมาณ : 2 minutes วันนี้เราจะพาเพื่อนมาชม 5 ไมค์ลอยสุดคุ้มค่า ในราคาไม่ถึงหมื่น!! โดยทางทีมงานได้คัด
ไมโครโฟนไร้สาย รุ่นยอดฮิตที่ขายดีประจำ SoundDD.Shop จะเป็นไมโครโฟนไร้สายตัวไหนบ้าง?? และจะคุ้มค่ามากแค่ไหน!? ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลยครับ ~
JBL WIRELESS MICROPHONE SETตัวไมค์ลอยถูกออกแบบมาให้มีการใช้งานที่ง่ายสุดๆ แค่ Plug&Play ก็สามารถใช้งานได้ทันที ให้เสียงที่ค่อนข้างคมชัด และความสะดวกในการพกพาที่พกพาได้ง่ายแบบสุด เป็นไมโครโฟนแบบไร้สายที่พกพาได้สะดวกที่สุดในบทความนี้เลยครับ ด้วยความที่ตัวรับสัญญาณมีขนาดที่เล็กมากๆ ต้องยอมรับในการออกแบบของ JBL จริงๆ ครับ จัดเป็นไมโครโฟนไร้สายที่ราคาถูกที่สุดในบทความนี้ และในด้านของการใช้งานก็ทำได้สมราคามากๆ ครับ
CLEARSOUND CS-500เป็นไมโครโฟนไร้สายที่ใช้คลื่นในช่วงย่านความถี่ UHF 748.3 ~ 757.7 MHz ตามมาตรฐาน กสทช (ประเทศไทย) ตัวไมโครโฟนสามารถเลือกปรับช่องความถี่สัญญาณได้ 40 ช่อง (2 x 20) ให้กำลังส่งมาที่ 10mW รองรับการใช้งานในพื้นที่โล่งแจ้งได้ไกล 50 เมตร ตัวไมโครโฟนจะมาพร้อมเครื่องรับสัญญาณที่มาในขนาดแบบ Half-Rack ต่างจาก JBL ก่อนหน้า ช่วยให้ตัวไมโครโฟนจะรับเสียงและ ป้องกันการรบกวนของสัญญาณได้ดีกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังให้เรื่องของการพกพาที่ต้องบอกว่ายังพกพาได้ง่าย จัดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับผู้ที่ต้องการการใช้งานที่เป็นมืออาชีพขึ้นมาอีกระดับครับ
SOUNDVISION SU-820D/HTเป็นไมโครโฟนไร้สายที่ใช้คลื่นในช่วงย่านความถี่ UHF 697 ~ 702.7 MHz ตามมาตรฐาน กสทช. (ประเทศไทย) ตัวไมโครโฟนจะตอบสนองความถี่ได้ที่ 30Hz ~ 20kHz ให้เสียงที่มีความเป็นธรรมชาติมากๆ โดยตัวไมโครโฟนจะสามารถเลือกปรับช่องความถี่สัญญาณได้ 48 ช่อง (2 x 24) ให้กำลังส่งมาที่ 20 mW รองรับการใช้งานในพื้นที่โล่งแจ้งได้ไกล 50 เมตร ตัวไมโครโฟนจะมาพร้อมเครื่องรับสัญญาณที่มาในขนาดแบบ Half-Rack เช่นเดียวกันกับ CS-500 แตกต่างกันตรงกำลังส่ง และช่วงความถี่ที่เลือกใช้ ถึงแม้ว่าในสเปคจะเขียนว่าให้กำลังส่งมาที่ 20mW แต่ได้ระยะการใช้งานที่ 50 เมตรเท่ากัน แต่ด้วยกำลังส่งที่มากกว่า มันจะช่วยในเรื่องของการรบกวนของสัญญาณให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
SOUNDVISION SU-850DAเป็นไมโครโฟนไร้สายที่ใช้คลื่นในช่วงความถี่ DIGITAL UHF 694.4 ~ 702.7 MHz ตามมาตรฐาน กสทช. (ประเทศไทย) ตัวไมโครโฟนจะตอบสนองความถี่ได้ที่ 30Hz ~ 20kHz ให้เสียงที่มีความเป็นธรรมชาติมากๆ โดยตัวไมโครโฟนจะสามารถเลือกปรับช่องความถี่สัญญาณได้ 168 ช่อง (2 x 84) ให้กำลังส่งมาที่ 10 mW รองรับการใช้งานในพื้นที่โล่งแจ้งได้ไกล 60 เมตร ตัวไมโครโฟนจะมาพร้อมเครื่องรับสัญญาณที่มาในขนาดแบบ Half-Rack เช่นเดียวกับสองรุ่นก่อนหน้า แต่จะจัดเต็มในเรื่องของช่องสัญญาณ ที่อัพแบบก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนหน้า ให้ช่องสัญญาณมามากถึง 168 ช่อง ช่วยให้มีการใช้งานที่ยืดหยุ่นได้มากกว่า สามารถเลือกปรับกำลังส่งของไมโครโฟนได้ 2 โหมด (Low 5mW/High 10mW) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการใช้งานในระดับมืออาชีพ จัดว่าคุ้มค่ามากๆ ในเรทราคาที่ยังไม่แตะหมื่นแบบนี้ครับ
SOUNDVISION SU-850DGเป็นไมโครโฟนไร้สายที่ใช้คลื่นในช่วงความถี่ DIGITAL UHF 748.3 ~ 757.7 MHz ตามมาตรฐาน กสทช. (ประเทศไทย) ตัวไมโครโฟนจะตอบสนองความถี่ได้ที่ 30Hz ~ 20kHz ให้เสียงที่มีความเป็นธรรมชาติมากๆ โดยตัวไมโครโฟนจะสามารถเลือกปรับช่องความถี่สัญญาณได้ 190 ช่อง (2 x 95) ให้กำลังส่งมาที่ 20 mW รองรับการใช้งานในพื้นที่โล่งแจ้งได้ไกล 100 เมตร ตัวไมโครโฟนจะมาพร้อมเครื่องรับสัญญาณที่มาในขนาดแบบจัดเต็ม โดยจะเป็นไมโครโฟนไร้สายในบทความนี้เพียงตัวเดียวที่มาในไซส์ใหญ่ขนาดนี้ ให้ช่องสัญญาณ ที่มากที่สุดจากทุกรุ่นก่อนหน้า 190 ช่อง ช่วยให้มีการใช้งานที่ยืดหยุ่นได้มากกว่า สามารถเลือกปรับกำลังส่งของไมโครโฟนได้ 2 โหมด (Low 5mW/High 20mW) นอกจากนั้นตัวไมโครโฟนยังใช้แบตเตอรี่แบบ Lithium ซึ่งหมายความตัวไมโครสามารถรีชาร์ตได้ด้วย สาย USB Type-C ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานแบบครบๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการใช้งานในระดับมืออาชีพ จัดว่าคุ้มค่ามากๆ ในเรทราคาที่ยังไม่แตะหมื่นแบบนี้ครับ
สรุปต้องบอกว่าไมโครโฟนไร้สายในบทความนี้นับว่ามีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเพื่อนๆ แม้จะอยู่ในเรทราคาไม่ถึงหมื่น แต่บางตัวนี่ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างกับไมค์ตัวละสองหมื่น หวังว่าบทความนี่จะช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อไมโครโฟนไร้สายของเพื่อนๆ ให้ดียิ่งขึ้น หากเพื่อนๆ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม SoundDD.Shop ยินดีให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียง วันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ ~ บทความที่คุณอาจสนใจ..แชร์หน้านี้ |