เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท ? ซึ่งถ้าเราแบ่งในทางพาณิชย์ตามผู้ค้า จะสามารถแบ่งน้ำมันเครื่องออกเป็น 3 ประเภท หลัก ๆ ครับ โดยทั้งสามประเภทจะมีส่วนผสมหลักอยู่ 2 อย่าง ที่เหมือนกันก็คือ น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน (Base Oil) ซึ่งได้จากน้ำมันดิบใต้ดินหรือได้จากน้ำมันแร่ และอีกอย่าง คือ สารเพิ่มคุณสมบัติ หรือ สารเติมแต่ง (Additive) ซึ่งในน้ำมันเครื่องแต่ละยี่ห้อจะมีการใส่ส่วนผสมในส่วนนี้ที่ต่างกันออกไปครับ เป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐานแบบเดียวกันจึงมีประสิทธิภาพที่ต่างกัน และเนื่องจาก Base Oil ที่ได้จากธรรมชาติยังมีจุดด้อยอยู่ ทำให้มีการนำเข้าสู่กระบวนการ สังเคราะห์ทางเคมี เพื่อกำจัดจุดด้อยออกไป และเพิ่มคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ เกิดเป็น น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์

Show

จากที่มาของน้ำมันเครื่องที่เรากล่าวไป ทำให้ผู้ค้า น้ำมันเครื่องรถยนต์ จะมีการแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความต่างกันที่ส่วนผสมที่ใช้ ทำให้โครงสร้างโมเลกุลในน้ำมันแตกต่างกันไป มีการจับตัวกันของอะตอมต่างกัน ส่งผลให้มีความหนืดที่ไม่เท่ากัน และมีระยะการใช้งานที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนี้

1. น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral oil)

ผลิตโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ผสมกับสารเติมแต่งโดยตรง โดยไม่มีการผ่านกระบวนการใด ๆ ทางเคมีเลย ส่งผลให้ยังมีจุดด้อยอยู่หลายด้าน ทำให้น้ำมันเครื่องธรรมดา เป็นน้ำมันที่มีคุณภาพน้อยที่สุด และมีราคาถูกที่สุดด้วย โดยมันสามารถใช้งานได้ในระยะทางประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันมันแทบจะไม่มีอยู่แล้ว หรือหากมีเราก็ไม่แนะนำหากรถของคุณเป็นรถรุ่นใหม่

2. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic) 

ผลิตโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ผสมกับสารเติมแต่งโดยตรงเช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่ น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่นำมาใช้ ได้ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ทางเคมีแล้ว ทำให้มีการกำจัดจุดด้อยต่าง ๆ ออกไป และเพิ่มเติมคุณสมบัติที่จำเป็นเข้ามา ช่วยให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีคุณภาพมากที่สุดและแน่นอนราคาสูงที่สุดด้วยครับ โดยสามารถใช้งานได้ประมาณ 7,000-10,000 กิโลเมตร เลยทีเดียว

3. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)

ส่วนในแบบนี้ก็ตามชื่อเลยครับ ผลิตโดยใช้ทั้ง 3 ส่วนมาผสมกัน ก็คือ น้ำมันดิบ ผสมกับน้ำมันสังเคราะห์ และนำไปผสมกับสารเติมแต่งอีกหนึ่งส่วน ทำให้คุณภาพมันอยู่กึ่งกลาง ระหว่าง 2 ประเภทแรก และราคาก็จะประหยัดลงมาด้วย โดยน้ำมันประเภทนี้สามารถใช้งานได้ประมาณ 5,000-7,000 กิโลเมตร


สำหรับในวันนี้เราได้ทำการคัดเลือก น้ำมันเครื่องรถยนต์ รุ่นยอดนิยม มารีวิวให้คุณได้อ่านกันครับ โดยเป็นการรีวิวพอสังเขป ซึ่งคุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบกัน เพื่อหาน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่เหมาะกับรถของคุณมากที่สุดครับ โดยทางเราได้ทำการเลือกมาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัด ไปจนถึงรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง และเพื่อให้ง่ายในการหาน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับรถของคุณ เราได้แบ่งเป็น 2 หัวข้อ คือ และ




น้ำมันเครื่อง สำหรับ “เครื่องยนต์เบนซิน”

PTT Performa Syntec Plus น้ำมันเครื่อง เบนซิน กึ่งสังเคราะห์ 10W-40

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก pttlubricants.pttor.com

ราคา 430 บาท*

PTT Performa Syntec Plus เป็นน้ำมันเครื่องราคาคุ้มค่า ประเภทกึ่งสังเคราะห์ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่เป็นระบบฉีดตรงทั้ง GDI และ Turbo-GDI และเครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นที่ใช้ระบบฉีดเชื้อเพลิง PFI ทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วและแก๊สโซฮอล์ ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี Evotec และเติม Smart Molecules ช่วยให้ความสะอาดภายในเครื่องยนต์ที่ดีขึ้น และช่วยป้องกันเครื่องยนต์จุดระเบิดผิดจังหวะ ทำให้รุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติหลากหลาย โดดเด่นในด้านลดความเสียดทาน และมีคุณสมบัติทนความร้อนสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ในการตอบสนองต่ออัตราเร่ง ช่วยเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ได้ดีขึ้นด้วย

ประเภทน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ปริมาณ4 ลิตรมาตรฐาน APIAPI SPความหนืด SAE10W-40สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

PTT Performa Super Synthetic น้ำมันสังเคราะห์แท้

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก pttlubricants.pttor.com

ราคา 820 บาท*

PTT Performa Super Synthetic เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ถูกออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทุกรุ่น และยังสามารถใช้กับเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซ CNG, NGV และ LPG อีกด้วย สามารถเข้ามาช่วยปกป้องเครื่องยนต์แบบฉีดน้ำมันโดยตรง (T-GDI) ปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบเครื่องต่ำ ช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้เทคโนโลยี High Film Strength (HFS) ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ป้องกันเขม่าสะสมทำให้เครื่องสะอาด มีอัตราเร่งดี และยังสามารถเพิ่มอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงได้อีกด้วย ถือเป็นน้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ที่มาในราคาสุดคุ้มค่ามาก ๆ ครับ

ประเภทน้ำมันสังเคราะห์แท้ปริมาณ4 ลิตรมาตรฐาน APIAPI SNความหนืด SAE0W-20/ 0W-30/ 0W-40/ RACING/ 5W-30/ 5W-40/ NGV 5W-40สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

SHELL Helix HX7 น้ำมันเครื่องรถยนต์ กึ่งสังเคราะห์ เบนซิน 10W-30

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก shell.co.th

ราคา 965 บาท*

SHELL Helix HX7 น้ำมันเครื่องรถยนต์คุณภาพสูง สำหรับตัวนี้เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ที่สามารถเข้ามาช่วยปกป้องเครื่องยนต์ของคุณจากคราบสกปรกและคราบเขม่าต่าง ๆ ได้อย่างยาวนาน ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ มีการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น ช่วยลดแรงเสียดทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม สามารถเพิ่มอายุการใช้งานให้กับเครื่องยนต์ของคุณ โดยน้ำมันตัวนี้เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิล รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงผสมระหว่างเบนซินและเอทานอล หากใครกำลังมองหาน้ำมันเครื่องราคาสุดคุ้มที่มีคุณภาพสูง ๆ ต้องตัวนี้เลยครับ

ประเภทน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ปริมาณ6 ลิตรมาตรฐาน APIAPI SNความหนืด SAE10W-30สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

SHELL Helix HX8 น้ำมันเครื่องรถยนต์ สังเคราะห์แท้ 100% เบนซิน 5W-40

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก shell.co.th

ราคา 1,340 บาท*

มาต่อกันที่ SHELL Helix HX8 ตัวนี้เป็นน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์แท้ 100% เกรดพรีเมี่ยม ที่สามารถมอบกำลังเครื่องยนต์ได้เต็มสมรรถนะ เพิ่มอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม มีการป้องกันเขม่าและสิ่งสกปรกสะสม ช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณสะอาดมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดการเสียดทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการปกป้องเครื่องยนต์ของคุณ และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ถึงแม้จะมีการใช้งานอย่างหนัก นอกจากนั้นยังสามารถให้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื่อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย สำหรับน้ำมันเครื่อง Helix HX8 สามารถใช้ร่วมกับเครื่องยนต์เบนซินได้เกือบทุกรุ่น และรวมถึงเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันผสมระหว่างเบนซินและเอทานอล

ประเภทน้ำมันสังเคราะห์แท้ปริมาณ4 ลิตรมาตรฐาน APIAPI SNความหนืด SAE5W-40สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Mobil 1 น้ำมันเครื่องเบนซิน คุณภาพสูง สังเคราะห์แท้ 0W-40

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก mobil.co.th

ราคา 1,488 บาท*

Mobil 1 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ สูตรก้าวหน้า สำหรับเครื่องรถยนต์เบนซิน จากแบรนด์ชั้นนำของโลก สำหรับน้ำมันเครื่องตัวนี้มีการพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลาย ๆ เจ้า ทำให้มีการรับการรับรองมาจากผู้ผลิตทั้ง MB-Approval, Nissan Genuine Performances และ VW ช่วยให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพได้มากขึ้น ส่งมอบสมรรถนะที่ทรงพลัง และปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของคุณด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ทั้ง ปกป้องอย่างรวดเร็ว ช่วยลดการสึกหรอ ช่วยลดคราบสะสมในเครื่อง และสามารถลดแรงเสียดทานได้ดี ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ถือเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ประสิทธิภาพสูง การันตีคุณภาพจากการได้รับเลือกเป็นน้ำมันเครื่องที่เติมจากโรงงานของแบรนด์รถยนต์หลากหลายรุ่น

ประเภทน้ำมันสังเคราะห์แท้ปริมาณ4 ลิตรมาตรฐาน APIAPI SNความหนืด SAE0W-40สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

CALTEX Havoline ProDS ECO 5 น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์แท้ 5W-30

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก caltex.com

ราคา 1,558 บาท*

CALTEX Havoline ProDS ECO 5 เป็นน้ำมันเครื่องยนต์เบนซินสังเคราะห์แท้ 100% ระดับพรีเมี่ยม ออกแบบมาให้ใช้สำหรับอีโค่คาร์หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่ว ๆ ไปและรถบรรทุกขนาดเล็ก ที่ต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ โดยการสร้างชั้นฟิล์มเคลือบพื้นผิวของชิ้นส่วนต่าง ๆ เอาไว้ ลดการสึกหรอ ช่วยป้องกันการเกิดคราบเขม่าภายใน อีกทั้งยังช่วยลดแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย มันจึงช่วยให้รถของคุณมีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมและมีอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น Havoline ProDS ECO 5 น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ราคาคุ้มค่า ที่พร้อมจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทน้ำมันสังเคราะห์แท้ปริมาณ4 ลิตรมาตรฐาน APIAPI SN+ความหนืด SAE5W-30สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า


PTT Dynamic Commonrail น้ำมันเครื่องดีเซล กึ่งสังเคราะห์ 10W-30

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก pttlubricants.pttor.com

ราคา 734 บาท*

PTT Dynamic Commonrail น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นยอดนิยมที่ทั้งดีทั้งประหยัด เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีสมรรถนะสูง ๆ มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษมากมาย สามารถช่วยทำให้เครื่องยนต์สะอาดมากยิ่งขั้น ลดการเกิดเขม่า ป้องกันการเกิดโคลนภายในเครื่องยนต์ สามารถลดแรงเสียดทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มอัตราการเร่ง เพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมัน ป้องกันการสึกหรอ และสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานยาวนานมากยิ่งขึ้น เหมาะมากสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลระบบ Common Rail ทุกชนิด ไม่ว่าจะรถยนต์ส่วนตัวหรือรถยนต์พาณิชย์ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานไม่ว่าจะหนักมากแค่ไหน

ประเภทน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ปริมาณ6 ลิตรมาตรฐาน APIAPI CF-4/SLความหนืด SAE10W-30สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Valvoline MAXLIFE DIESEL น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ดีเซล 10W-40

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก valvoline.co.th

ราคา 830 บาท*

Valvoline MAXLIFE DIESEL น้ำมันเครื่องสังเคราะห์คุณภาพสูง ได้รับการออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ดีเซลโดยเฉพาะ โดยมีการผลิตจากน้ำมันพื้นฐานคุณภาพสูง ผสมกับสารเพิ่มคุณภาพ Multi-life™ Additives ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Valvoline ช่วยเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์สูงสุด มาพร้อมคุณสมบัติมากมายทั้ง ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง สามารถป้องกันการสึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดคราบเขม่าได้ดีเยี่ยมอีกด้วย เหมาะสำหรับใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล และเครื่องยนต์ดีเซลทุกชนิด ทุกรุ่น ทุกค่าย ทั้งขับ 2 ขับ 4 รถตู้ หรือรถเก๋งเครื่องยนต์ดีเซล ก็ใช้งานได้

ประเภทน้ำมันสังเคราะห์แท้ปริมาณ6 ลิตรมาตรฐาน APIAPI CI-4 PLUSความหนืด SAE10W-40สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

SHELL Helix HX8 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% สำหรับเครื่องยนต์ ดีเซล 5W-30

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก shell.co.th

ราคา 1,570 บาท*

สำหรับตัวนี้ SHELL Helix HX8 ดีเซล ก็เป็นน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์แท้ 100% เกรดพรีเมี่ยม สำหรับรถกระบะ หรือรถตู้ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง ๆ น้ำเครื่องรุ่นนี้สามารถช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพ มีการหล่อลื่นที่ดีช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่มากยิ่งขึ้นและลดการสึกหรอได้เป็รนอย่างดีอีกด้วย เป็นการเพิ่มอายุการใช้งานให้กับชิ้นส่วนต่าง ๆ เครื่องยนต์ ถึงแม้ว่าจะมีการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงก็ตาม โดย Helix HX8 ถือเป็นน้ำมันเครื่องที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพสูงในหลาย ๆ ด้าย สามารถดูแล รักษา และปกป้องเครื่องยนต์ของคุณได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

ประเภทน้ำมันสังเคราะห์แท้ปริมาณ6 ลิตรมาตรฐาน APIAPI CFความหนืด SAE5W-30สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Shell Helix Ultra น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์แท้ 100% ดีเซล 0W-40

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี
รูปภาพจาก shell.co.th

ราคา 2,350 บาท*

Shell Helix Ultra น้ำมันสังเคราะห์แท้ 100% ออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลโดยเฉพาะ ที่พัฒนาเป็นพิเศษ ทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และใช้เทคโนโลยีเชลล์เพียวพลัส (Shell PurePlus Technology) ทำให้น้ำมันเครื่องตัวนี้ มีคุณสมบัติทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการเกิดคราบปกปรกต่าง ๆ เพิ่มอายุการใช้งานเครื่องยนต์และยังช่วยลดแรงเสียดทาน เพื่อปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม  โดยการปกป้องพื้นผิวของชิ้นส่วนต่าง ๆ ลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ ทำให้ลดการสึกหรอลง และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นด้วย Shell Helix Ultra น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อรถกระบะ รถปิคอัพ รถครอบครัว และรถเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ที่มีสมรรถนะสูง ๆ

ประเภทน้ำมันสังเคราะห์แท้ปริมาณ6 ลิตรมาตรฐาน APIAPI CFความหนืด SAE0W-40สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า


สิ่งที่ควรรู้ในการเลือกซื้อ น้ำมันเครื่องรถยนต์ มาใช้งาน ?

1. เครื่องยนต์ ดีเซล หรือ เบนซิน

อย่างที่บอกไปครับว่า น้ำมันเครื่องรถยนต์ นั้นมีหลายแบบหลายประเภทเช่นเดียวกับเครื่องยนต์นั่นแหละครับ ซึ่งถ้าหากว่ารถของคุณใช้เครื่องยนต์ดีเซลคุณก็ต้องใช้น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น แต่หากรถของคุณ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน คุณก็จะต้องใช้น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้นเช่นกันครับ แต่ในปัจจุบันนี้อาจจะมีน้ำมันเครื่องบางรุ่นที่สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ทางที่ดีคุณควรเลือกใช้ให้ถูกต้อง เนื่องจากเครื่องยนต์ทั้ง 2 แบบ จะมีการทำงานต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการจุดระเบิด การปล่อยเขม่า ความเร็วรอบในการทำงาน อัตราเร่ง การตอบสนองของเครื่องยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ฉะนั้นเพื่อป้องกันการสลับใส่ผิดใส่ถูก แนะนำให้ใช้แบบที่มันระบุไว้ชัด ๆ ไปเลยดีกว่าครับ

2. ประเภทของน้ำมันเครื่อง

อย่างที่เราได้พูดไปในหัวข้อของ คุณจะเห็นถึงความแตกต่าง ๆ ของน้ำมันเครื่องแต่ละประเภท ขึ้นอยู่กับคุณเองว่า ต้องการแบบไหน ? ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีน้ำมันเครื่องอยู่ 2 ประเภท ที่นิยมใช้กัน ก็คือ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ และ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ครับ ซึ่งแน่นอนว่า น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า ทำให้มันเหมาะสำหรับรถที่มีสมรรถนะสูง ๆ

3. คุณภาพของน้ำมันเครื่อง

คุณภาพน้ำมันเครื่อง ได้รับการรับรองจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน หรือ API (American Petroleum Institute) ใช้ระบุประเภทและสมรรถนะในการทำงาน การปกป้องชื้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับน้ำมันเครื่อง แบบสากล หากเป็น น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน จะขึ้นต้นด้วยตัว “S” มาจาก Spark Ignition แต่หากเป็น น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซล จะขึ้นต้นด้วยตัว “C” มาจาก Compression Ignition

ส่วนตัวอักษรที่ต่อท้ายเป็นตัวบ่งบอกถึงระดับคุณภาพของน้ำมันเครื่อง ซึ่งจะใช้ตัวอักษรไล่ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ A, B, C,… เหมือนกันทั้งเครืองยนต์เบนซินและดีเซล ซึ่งมีออกมาเรื่อย ๆ เพื่อรองรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ

  • “API SP” คือ มาตรฐาน คุณภาพสูงสุด ของน้ำมันหล่อลื่น เครื่องยนต์เบนซิน
  • “API CK-4” คือ มาตรฐาน คุณภาพสูงสุด ของน้ำมันหล่อลื่น เครื่องยนต์ดีเซล

สำหรับวิธีการเลือกใช้แบบง่าย ๆ ว่า รถของคุณเหมาะกับมตราฐานแบบไหนคือ คุณสามารถเปรียบเทียบได้จากปีที่ผลิตรถยนต์ของคุณได้เลย อย่างที่บอกไปครับมาตราฐานออกมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ใหม่ ๆ ดังนั้นหากรถยนต์ของคุณผลิตในปี 2015 ให้ใช้ API SN ขึ้นไป หรือถ้าหากรถยนต์ของคุณผลิตปี 2008 ก็สามารถเลือกใช้ได้ ตั้งแต่ API SM ขึ้นไป ครับ ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

4. ค่ามาตรฐาน SAE

ใน น้ำมันเครื่องรถยนต์ แต่ละตัว มันจะมีการระบุคุณสมบัติของน้ำมันเอาไว้ด้วย รับรองโดย สมาคมวิศวกรรมยานยนต์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ SAE (The Society of Automotive Engineer) โดยจะระบุตัวเลข 2 ฝั่ง และมีตัวอักษร W อยู่ตรงกลาง อาทิเช่น 0W-30, 0W-40, 5W-30, 5W-40, 10W-30 และ 10W-40 เป็นต้น ซึ่งข้อความเหล่านี้เป็นค่าความหนืดและคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องนั่นเองครับ ซึ่งเราสามารถแยกได้ดังนี้

  • 0W-30 : ปกติแล้ว น้ำมัน หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็น มันจะจับตัวกันเป็นไข ดังนั้นตัวเลขด้านหน้านี้ คือ ค่าที่บ่งบอกว่า น้ำมันเครื่อง ตัวนี้ สามารถยังคงความข้นใสได้ โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนถึงช่วงอุณหภูมิไหน หากมีอุณหภูมิเกินกว่าที่ระบุไว้ น้ำมันก็จะกลายสภาพเป็นไข ดังนี้
    • 0W สามารถคงความข้นใสได้ จนถึงระดับต่ำกว่า -30°C
    • 5W  สามารถคงความข้นใสได้ จนถึง -30°C
    • 10W สามารถคงความข้นใสได้ จนถึง -20°C
    • 15W สามารถคงความข้นใสได้ จนถึง -10°C
    • 20W สามารถคงความข้นใสได้ จนถึง 0°C
  • 0W-30 : ส่วนตัวเลขด้านหลังนั้น เป็นค่าที่ระบุถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องตัวนั้น ๆ ซึ่งค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะช่วยในการหล่อลื่น และปกป้องเครื่องยนต์ของคุณ โดยมีการเข้าไปเคลือบชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ ซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 50, 40, 30, 20 และ 10 ยิ่งค่ามาก ความหนืดก็จะมีมาก ซึ่งโดยทั่วไปที่นิยมใช้กัน จะมีความหนืดอยู่ที่ 30-40 ครับ

ตารางเปรียบเทียบ น้ำมันเครื่องรถยนต์ ทั้ง เบนซิน และดีเซล รุ่นไหนดี ปี 2022

ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก pttlubricants.pttor.com

  • ประเภทน้ำมัน : กึ่งสังเคราะห์
  • ปริมาณ: 4 ลิตร
  • มาตรฐาน API: API SP
  • ความหนืด SAE : 10W-40
  • สำหรับ : เครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก pttlubricants.pttor.com

  • ประเภทน้ำมัน : กึ่งสังเคราะห์
  • ปริมาณ: 6 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API CF-4/SL
  • ความหนืด SAE : 10W-30
  • สำหรับ : เครื่องยนต์ดีเซล

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก pttlubricants.pttor.com

  • ประเภทน้ำมัน : สังเคราะห์แท้
  • ปริมาณ: 4 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API SN
  • ความหนืด SAE : 0W-20/ 0W-30/ 0W-40/ RACING/ 5W-30/ 5W-40/ NGV 5W-40
  • สำหรับ : เครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก valvoline.co.th

  • ประเภทน้ำมัน : สังเคราะห์แท้
  • ปริมาณ: 6 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API CI-4 PLUS
  • ความหนืด SAE : 10W-40
  • สำหรับ : เครื่องยนต์ดีเซล

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก shell.co.th

  • ประเภทน้ำมัน : กึ่งสังเคราะห์
  • ปริมาณ: 6 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API SN
  • ความหนืด SAE : 10W-30
  • สำหรับ : เครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก shell.co.th

  • ประเภทน้ำมัน : สังเคราะห์แท้
  • ปริมาณ: 4 ลิตร
  • มาตรฐาน API: API SN
  • ความหนืด SAE : 5W-40
  • สำหรับ : เครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก mobil.co.th

  • ประเภทน้ำมัน : สังเคราะห์แท้
  • ปริมาณ: 4 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API SN
  • ความหนืด SAE: 0W-40
  • สำหรับ : เครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก caltex.com

  • ประเภทน้ำมัน : สังเคราะห์แท้
  • ปริมาณ: 4 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API SN+
  • ความหนืด SAE : 5W-30
  • สำหรับ : เครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก shell.co.th

  • ประเภทน้ำมัน : สังเคราะห์แท้
  • ปริมาณ: 6 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API CF
  • ความหนืด SAE : 5W-30
  • สำหรับ : เครื่องยนต์ดีเซล

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

รูปภาพจาก shell.co.th

  • ประเภทน้ำมัน : สังเคราะห์แท้
  • ปริมาณ: 6 ลิตร
  • มาตรฐาน API : API CF
  • ความหนืด SAE : 0W-40
  • สำหรับ : เครื่องยนต์ดีเซล

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อไหนดี

บทส่งท้าย

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตามระยะทาง เป็นเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด มันอาจจะเป็นเรื่องที่จุกจิก และทำให้คุณต้องเสียเงินอยู่บ่อย ๆ แต่มันจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ของรถคุณได้เป็นอย่างดีครับ ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ หลีกเลี่ยงปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมา ยืดอายุการใช้งาน ช่วยให้เครื่องยนต์แน่นขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ถ้าหากคุณมองข้าม ไม่มีการเปลี่ยนถ่ายเลย น้ำมันเครื่องก็จะค่อย ๆ หมดสภาพไป จากที่เคยใสก็จะดำปิ๊ดปี๋ จากที่เคยหนืดก็จะเหลว จากที่เคยช่วยหล่อลื่น เมื่อหมดสภาพมันก็แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย และหากปล่อยไว้นานกว่านี้ เครื่องยนต์ของคุณก็จะไม่มีอะไรปกป้อง และจะเสียดสีจนเกิดการสึกหรอไปเรื่อย ๆ ตามการใช้งานครับ

สุดท้ายนี้เราอยากแนะนำว่า หาเวลาสักนิดนำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเถอะครับ ถ้าเอาแบบสะดวก ๆ ก็นำรถเข้าศูนย์บริการได้เลย ซึ่งแน่นอนราคาก็จะสูง แต่ถ้าหากอยากประหยัดก็สามารถหาซื้อด้วยตนเองจากนั้นนำไปให้ร้านทั่วไปเปลี่ยนให้ก็ได้ครับ แต่ข้อสำคัญคือ ต้องเลือกซื้อ ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของรถคุณด้วยนะครับ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด