น้ำมันเกียร์ CVT ต้องเปลี่ยนตอนไหน

          น้ำมันประเภทนี้ ในรถที่เป็นพวงมาลัยไฟฟ้าจะไม่ได้ใช้งานแล้ว จะมีอยู่ในรถที่เป็นพวงมาลัยไฮดรอลิก หรือที่เรียกว่าพวงมาลัยเพาเวอร์ ซึ่งทำหน้าที่ส่งถ่ายแรงดันไฮดรอลิกให้ช่วยผ่อนแรงในการหมุนพวงมาลัย ระยะในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเพาเวอร์มีตั้งแต่ 20,000 -80,000 กิโลเมตร ถ้าเอาจำง่ายก็เปลี่ยนที่ 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี

เกียร์รถยนต์ มีการแบ่งประเภทแยกเป็นเกียร์ธรรมดา เกียร์ออโต้ และเกียร์ออโต้ก็ยังมีการแบ่งชนิดไปอีก ซึ่งในปัจจุบันรถที่ใช้งานได้เปลี่ยนเป็นระบบเกียร์ CVT มากขึ้น และการจะเติมน้ำมันเกียร์ก็ต้องเติมให้ถูกประเภท น้ำมันเกียร์ CVT ควรใช้กับระบบเกียร์ CVT ด้วยกัน ไม่อย่างนั้น หากเติมผิดชีวิตเปลี่ยน

เกียร์ CVT เป็นยังไง?

เกียร์ CVT (Continous Variable Transmission) เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติที่มีการปรับอัตราทดต่อเนื่อง โดยเปลี่ยนแปลงการทำงานตามกำลังที่ส่งมาจากเครื่องยนต์ ประกอบด้วย พูลเลย์ขับ (Drive Pullay) เป็นตัวที่ต่อกับเครื่องยนต์ และ พูลเลย์ตามหรือพูลเลย์กำลัง (Driven Pulley) เป็นส่วนที่ต่อกับเพลา โดยมีการทำงานที่สอดคล้องกันตามอัตราเร่งและรอบเครื่องยนต์ โดยไม่มีการใช้เฟืองเหมือนรุ่นก่อน หรือเป็นการเปลี่ยนจากเฟืองเป็นพูลเลย์นั่นเอง ดังนั้นการใช้น้ำมันเกียร์จึงต้องใช้คนละประเภทกัน

น้ำมันเกียร์ CVT มีอะไร?

ในน้ำมันเกียร์ CVT จะมีสารที่ช่วยลดการสึกหรอของสายพานและพูลเลย์ โดยเป็นสารหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติไม่ลื่นจนเกินไปและไม่ฝืดจนเกินไป เพราะหากลื่นเกินไปจะไถลเป็นกับร่องพูลเลย์และไม่สามารถส่งแรงขับเคลื่อนได้ และถ้าฝืดเกินไปก็อาจทำให้ชิ้นส่วนสึกหรอเร็วกว่าเดิม เกียร์มีอายุการใช้งานสั้นลง โดยน้ำมันเกียร์ต้องมีความฝืดเพียงพอที่จะยึดสายพานกับพูลเลย์และขับเคลื่อนแรงดันได้ 

รวมไปถึงสารประกอบอื่นๆ ที่เสริมเพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเกียร์ CVT คือ สารที่ไม่ทำให้เกิดฟอง สารที่จะไม่ทำให้น้ำมันข้นเมื่ออุณหภูมิเย็นลง และไม่ใสเกินไปเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น สารต้านทานแรงกดดัน เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนสึกหรอ จึงเห็นได้ว่าน้ำมันเกียร์ CVT จะมีส่วนประกอบที่เฉพาะเจาะจงกับเกียร์ชนิดนี้โดยเฉพาะ ไม่เหมือนกับเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติรุ่นอื่น

น้ำมันเกียร์ ใช้ไม่ถูกประเภท จะเป็นอย่างไร?

หากเอาน้ำมันเกียร์ออโต้ที่ไม่ใช่ CVT มาใช้งาน จะมีคุณสมบัติ เน้นการหล่อลื่นผิวโลหะ ให้ความหนืดคงที่ในทุกสภาวะ แต่น้ำมันเกียร์ CVT จะเน้นความหนืดที่ต้องมีความฝืดคงที่เพียงพอในการยึดเกาะสายพานและพูลเลย์ ดังนั้น ถ้าเป็นน้ำมันเกียร์ออโต้ธรรมดาก็อาจมีความลื่นมากเกินไปสำหรับเกียร์ CVT ไม่มีการยึดเกาะสายพาน และไม่ได้ช่วยให้เกียร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืออาจกล่าวว่าใส่ไปก็เปล่าประโยชน์ แถมยังไม่ช่วยอะไร และยิ่งใช้ไปเรื่อยๆ ระบบเกียร์ CVT ทำงานขัดข้องแน่ๆ เพราะระบบทำงานไม่ถูกต้อง สายพานพูลเลย์ส่งกำลังไม่ได้ ชิ้นส่วนก็สึกหรอ ดีไม่ดีอาจเกียร์พัง


เครื่องยนต์จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาตามระยะที่กำหนด น้ำมันเกียร์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับการดูแลรักษาเครื่องยนต์เช่นกัน เพราะมีหน้าที่หล่อลื่นระบบการทำงานของเกียร์รถยนต์ เนื่องจากมีกลไกที่ซับซ้อน และต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาในระหว่างการขับขี่ ซึ่งทำให้เกิดแรงเสียดทานระหว่างอะไหล่ของตัวเกียร์ได้
น้ำมันเกียร์จึงเหมือนตัวเชื่อมให้กลไกต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกตินั่นเอง อีกทั้งยังช่วยไม่ให้เกียร์สะดุดระหว่างที่เราเปลี่ยนเกียร์ด้วย ซึ่งน้ำมันเกียร์มีทั้งเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา แต่ปัจจุบันมักจะใช้เกียร์ออโต้กันเป็นส่วนใหญ่ เพราะใช้งานได้ง่ายกว่าและสะดวกกว่ามากนั่นเอง 


ทำไมต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งความจริงแล้วยังมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะน้ำมันเกียร์ก่อนใช้จะมีสีเหลืองหรือสีแดงใส แต่เมื่อใช้ไปสักพักจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม แล้วเมื่อใช้ไปนาน ๆ เข้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำในที่สุด และยังมีลักษณะข้นเหนียวหนืดกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งเกิดความร้อนในการทำงานของระบบเกียร์ และเศษโลหะที่เข้าไปปะปน จึงทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพลงนั่นเอง 


หากไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อถึงระยะ ก็อาจจะทำให้เกียร์พังได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะแทนที่จะเสียเงินซื้อน้ำมันเกียร์เพียงหลักร้อยหลักพัน กลับต้องเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูกเป็นหลักหมื่น ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสม หรือหากไม่แน่ใจว่าถึงระยะแล้วหรือยัง ก็สามารถนำรถเข้าไปเช็กที่ศูนย์รถยนต์หรืออู่ซ่อมรถได้เช่นกัน


ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อไร
ปกติแล้วอายุการใช้งานของน้ำมันเกียร์ออโต้ จะอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 กิโลเมตร ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จะช่วยยืดอายุเกียร์ไปได้อีกนาน และช่วยให้ประหยัดเงินไปได้เยอะเลยทีเดียว แม้ว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จะไม่สามารถถ่ายน้ำมันเก่าออกมาได้ทั้งหมด 100%  โดยจะมีน้ำมันเก่าหลงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้ส่งผลเสียต่อเกียร์เท่าไรนัก
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ได้ทั้งหมด 100% อาจต้องใช้เครื่องมือพิเศษเข้ามาช่วย นั่นคือการถ่ายน้ำมันเกียร์แบบ Flushing ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์โดยสมบูรณ์นั่นเอง โดยจะช่วยยืดเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ได้ 70,000-80,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 3-4 ปี


ดังนั้น หากคุณใช้รถเป็นประจำอย่าละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้เป็นอันขาด เพราะมีความสำคัญต่อระบบเกียร์และเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนดจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้อยู่คู่กับรถยนต์คู่ใจของคุณไปได้นาน ๆ นั่นเอง

�����������ö ��� �����ҹ ����դ�Ҥ���� ���Ѵਹ �ͧ�ء��� ���� �ء������

ö����� �����ҳ 40,000-50,000 �������� (���������)

�������� �ѧࡵ� ��Ҩк͡��� ����ѹ������ Lifetime (������ʹ���Ե�� �ѹ����ҳ 2 �ʹ��������) ö�����蹡ѹ

����Ңͧö ���� �����ö �����͡��������¹����ҳ 40,000 ������ ���ЪԹ ���� ��ͧ����ѡ������� ����ͺ����·�

�ҧ������¹�ء 20,000 �������� �����蹡ѹ

ö�����к� lifetime ����͹�ѹ ������¹�͹ 50,000 �������� ��ͺ 10 �Ե� ��Ҩ�����¹�ա�� �� 100,000 ��������