Airpods 1 กับ 2 ต่างกัน ยัง ไง Pantip

ใช้ "ค้นหาของฉัน" เพื่อค้นหา AirPods, AirPods Pro หรือ AirPods Max ของคุณบนแผนที่และเล่นเสียงเพื่อหาตำแหน่งเครื่อง

Show

เกี่ยวกับ "ค้นหาของฉัน"

คุณสมบัติค้นหาของฉันคือวิธีเดียวที่คุณสามารถติดตามหรือค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ที่สูญหายหรือหาไม่พบได้ ไม่มีบริการอื่นๆ ของ Apple ที่สามารถค้นหา ติดตาม หรือแจ้งสถานะอุปกรณ์ให้กับคุณได้

หากต้องการค้นหา AirPods ของคุณ คุณต้องตั้งค่า "ค้นหาของฉัน" ด้วย iPhone, iPad หรือ iPod touch ที่คุณใช้กับ AirPods ก่อนที่จะพยายามค้นหา AirPods คุณควรอัปเดต iOS หรือ iPadOS หรือ macOS ของคุณเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

และคุณยังสามารถค้นหา AirPods ของคุณบนเว็บได้ที่ iCloud.com สำหรับ AirPods บางรุ่น ประสบการณ์การใช้งานบนเว็บอาจแตกต่างกันและบางฟังก์ชั่นอาจไม่พร้อมใช้งาน

หากคุณไม่ได้เปิด "ค้นหาของฉัน" ก่อนที่ AirPods ของคุณจะสูญหาย คุณจะใช้ "ค้นหาของฉัน" เพื่อหาตำแหน่งเครื่องไม่ได้

เรียนรู้วิธีตั้งค่า "ค้นหาของฉัน"

ค้นหา AirPods ของคุณบนแผนที่

หากคุณทำ AirPods หายหรือวางผิดที่ คุณอาจสามารถค้นหาได้หากคุณใช้แอป "ค้นหาของฉัน" บน iPhone, iPad, iPod touch หรือ Mac ที่คุณลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกัน และใน AirPods Pro (รุ่นที่ 2) คุณยังสามารถระบุตำแหน่งเคสชาร์จบนแผนที่ได้ด้วยหากเคสแยกจาก AirPods ของคุณ

ค้นหา AirPods ของคุณในแอป "ค้นหาของฉัน"

  1. เปิดแอปค้นหาของฉัน
  2. เลือกแท็บอุปกรณ์
  3. เลือก AirPods ของคุณ ใต้อุปกรณ์แต่ละเครื่อง คุณจะเห็นตำแหน่งหรือ "ไม่พบตำแหน่งที่ตั้ง"

เปิดเครือข่าย "ค้นหาของฉัน"

หากคุณเปิดเครือข่าย "ค้นหาของฉัน" คุณอาจเห็นตำแหน่งของ AirPods (รุ่นที่ 3), AirPods Pro และ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) หรือ AirPods Max ของคุณ แม้ว่า iPhone, iPad หรือ iPod touch ของคุณจะไม่ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือเครือข่ายเซลลูลาร์:

  1. บน iPhone, iPad หรือ iPod touch ให้เปิดแอปการตั้งค่า
  2. เลือกชื่อของคุณ จากนั้นเลือกค้นหาของฉัน
  3. เลือกค้นหา [อุปกรณ์] ของฉัน จากนั้นเปิดค้นหา [อุปกรณ์] ของฉัน
  4. เปิด "เครือข่ายค้นหาของฉัน"
    Airpods 1 กับ 2 ต่างกัน ยัง ไง Pantip

เล่นเสียงบน AirPods ของคุณ

หาก AirPods ของคุณอยู่ใกล้อุปกรณ์ Apple ใดๆ ของคุณและเชื่อมต่อกับบลูทูธ คุณสามารถเล่นเสียงเพื่อช่วยในการค้นหาได้ และใน AirPods Pro (รุ่นที่ 2) คุณยังสามารถเล่นเสียงเพื่อช่วยค้นหาเคสชาร์จของคุณได้อีกด้วย

  1. เปิดแอปค้นหาของฉัน
  2. เลือกแท็บอุปกรณ์
  3. เลือก AirPods ของคุณจากรายการ
  4. แตะเล่นเสียงเพื่อเล่นเสียงที่ค่อยๆ ดังขึ้น
    Airpods 1 กับ 2 ต่างกัน ยัง ไง Pantip

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้สวมใส่ AirPods ในหูก่อนที่คุณจะเล่นเสียง

รับการแจ้งเตือนเมื่อคุณลืม AirPods ทิ้งไว้

หากคุณมี iPhone 12 หรือใหม่กว่า คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อลืมทิ้งไว้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ทิ้ง AirPods (รุ่นที่ 3), AirPods Pro และ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) หรือ AirPods Max ของคุณไว้ในที่ที่ไม่รู้จัก

  1. เปิดแอปค้นหาของฉัน
  2. ไปที่แท็บอุปกรณ์ แล้วเลือก AirPods ของคุณ
  3. ภายใต้การแจ้งเตือน ให้เลือก "แจ้งเตือนเมื่อลืมทิ้งไว้"
  4. เปิดการแจ้งเตือนเมื่อลืมทิ้งไว้
    Airpods 1 กับ 2 ต่างกัน ยัง ไง Pantip

เปิดโหมดสูญหายสำหรับ AirPods ของคุณ

เมื่อคุณเปิดโหมดสูญหายสำหรับ AirPods (รุ่นที่ 3), AirPods Pro และ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) หรือ AirPods Max ของคุณ คุณสามารถแชร์ข้อความที่มีหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณได้ หากมีคนพบ AirPods ของคุณ ข้อความนั้นจะปรากฏบน iPhone ของพวกเขา

เปิดโหมดสูญหายโดยทำดังนี้

  1. บน iPhone, iPad หรือ iPod touch ของคุณ ให้เปิดแอป "ค้นหาของฉัน"
  2. ไปที่แท็บอุปกรณ์ แล้วเลือก AirPods ของคุณ
  3. เลื่อนลงไปที่ "ระบุว่าสูญหาย" และเลือก "เปิดใช้งาน"
  4. ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอหากคุณต้องการให้แสดงข้อมูลติดต่อสำหรับ AirPods ที่สูญหาย
    Airpods 1 กับ 2 ต่างกัน ยัง ไง Pantip
  5. เลือกเปิดใช้งาน

หาก AirPods ของคุณออฟไลน์

หาก AirPods ของคุณอยู่นอกระยะหรือจำเป็นต้องชาร์จ คุณอาจเห็นตำแหน่งสุดท้ายที่ทราบ "ไม่พบตำแหน่งที่ตั้ง" หรือ "ออฟไลน์"

คุณจะไม่สามารถเล่นเสียงเพื่อค้นหาได้ แต่คุณอาจสามารถขอเส้นทางไปที่ตำแหน่งที่ตั้งล่าสุดที่มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ หากอุปกรณ์กลับมาออนไลน์ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนบน iPhone, iPad, iPod touch หรือ Mac ที่คุณใช้ร่วมกัน

เปลี่ยน AirPods หรือเคสชาร์จที่สูญหาย

วันที่เผยแพร่: 18 ตุลาคม 2565

ไม่มีสาย ไม่มีความยุ่งยากมีแต่ความมหัศจรรย์ล้วนๆ

AirPods ให้คุณพูดคุยและฟังได้นานอย่างเหลือเฟือ

แถมเรียกใช้งาน Siri ด้วยเสียงได้ แล้วยังมีเคสชาร์จแบบไร้สาย

ให้เลือก จึงมอบประสบการณ์อันน่าทึ่งในการใช้หูฟังไร้สาย

เพียงหยิบออกมาก็พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ

และแค่ใส่เข้าไปในหูก็จะเชื่อมต่อในทันที ให้คุณได้เต็มอิ่มกับ

เสียงคุณภาพสูงสมจริง นี่ล่ะคือสิ่งที่มหัศจรรย์

ดูภาพยนตร์

ไร้สายขั้นสุด

หลังจากตั้งค่าง่ายๆ ด้วยการแตะแค่ครั้งเดียว AirPods

ก็จะเปิดโดยอัตโนมัติและเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา1 และเมื่อจะใช้ก็ง่าย

ไม่แพ้กัน เพราะหูฟังจะรู้ได้เองว่าเมื่อไหร่ที่อยู่ในหูคุณ และจะหยุดเล่น

เมื่อคุณถอดออก ที่สำคัญคือ ประสบการณ์การฟังจาก AirPods

ยังน่าทึ่งไม่ต่างกัน ไม่ว่าคุณจะใช้งานกับ iPhone,

Apple Watch, iPad, Mac หรือ Apple TV ก็ตาม

Siri ผู้ช่วยมือขวาของคุณ

ถ้ามือไม่ว่างละก็ เพียงแค่พูดว่า "หวัดดี Siri" เมื่อต้องการความช่วยเหลือ

โดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกมา และด้วยคุณสมบัติการอ่านการแจ้งเตือน

Siri จะอ่านการแจ้งเตือนต่างๆ ที่สำคัญจากแอปข้อความ โทรศัพท์ ปฏิทิน

เตือนความจำ และอื่นๆ ให้คุณฟังโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับ ซึ่งคุณสามารถ

เลือกได้ว่าต้องการฟังการแจ้งเตือนจากใครในรายชื่อบ้าง และ Siri จะ

ไม่รบกวนคุณหากคุณติดสายหรือกำลังแชร์เพลงกับคนอื่นอยู่2

หวัดดี Siri
โทรหาพ่อ

หวัดดี Siri เล่นมิกซ์เพลงชิลของฉันให้ฟังหน่อย

หวัดดี Siri เพิ่มระดับเสียง

หวัดดี Siri ไป
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครยังไง

ประสิทธิภาพที่คู่ควรแก่การฟัง

AirPods มาพร้อมกับขุมพลังจากชิปหูฟัง Apple H1 จึงเชื่อมต่อ
แบบไร้สายกับอุปกรณ์
ของคุณได้เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสลับไปมา
ระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ได้เร็วขึ้น
ถึง 2 เท่า3 และเชื่อมต่อเพื่อรับสาย
โทรศัพท์ได้เร็วขึ้น 1.5 เท่า4 ยิ่งกว่านั้นชิป H1
ยังช่วยให้คุณเรียกใช้งาน Siri ด้วยเสียงได้ และลดอัตราความหน่วงขณะเล่นเกมได้
ถึง 30%5 ทีนี้ไม่ว่าคุณจะเล่นเกม ฟังเพลง หรือเพลิดเพลินกับพ็อดคาสท์ ก็จะได้
สัมผัสกับประสบการณ์คุณภาพเสียงที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น

รู้ทันทีเมื่อคุณฟัง

เซ็นเซอร์แบบออปติคัลและอุปกรณ์

ตรวจจับการเคลื่อนไหวจะทำงาน
ร่วมกัน
เพื่อควบคุมประสบการณ์
การฟัง สั่งให้
ไมโครโฟนทำงาน
เมื่อคุยโทรศัพท์และเรียก
ใช้งาน Siri
อีกทั้งยังทำให้ AirPods
เล่นเสียง
ทันทีที่อยู่ในหูคุณโดยอัตโนมัติ

แถมคุณยังเลือกได้อย่างฟรีสไตล์
ว่าจะใส่
AirPods ข้างเดียวหรือ
ทั้งสองข้าง
และถ้าฟังเพลงอยู่
แล้วนึกอยากกดเล่น
หรือกดข้าม
ก็แค่แตะเพียงสองครั้ง

รู้ทุกครั้งเมื่อคุณกำลังคุย

อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว

จากการพูดนั้นรู้ว่าเมื่อไหร่ที่
คุณกำลัง
พูดอยู่ และจะทำงาน
ร่วมกับไมโครโฟนคู่
แบบ
บีมฟอร์มมิ่งเพื่อกรองเสียง
รบกวน
รอบข้าง และให้
ความสำคัญกับ
เสียงของคุณ
เป็นหลัก

แค่วางก็ชาร์จ แค่นั้นเอง

เคสชาร์จแบบไร้สายที่มีให้เลือกทำให้การชาร์จกลายเป็นเรื่องง่ายๆ
เพียงแค่วางเคส AirPods
ลงบนแผ่นรองชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi
แค่นั้นก็เรียบร้อย ทั้งยังมีไฟ LED แสดงสถานะ
ที่ด้านหน้าของเคสเพื่อบอกให้รู้ว่า
AirPods ของคุณกำลังชาร์จอยู่ และถึงแม้ไม่มี
แผ่นรองชาร์จอยู่ใกล้ๆ
คุณก็สามารถชาร์จผ่านพอร์ต Lightning ได้

ซื้อเคสชาร์จแบบไร้สาย

ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ 24 ชั่วโมง เล็กแต่ทรงพลัง

AirPods นั้นเป็นหูฟังระดับแนวหน้าของวงการ6 ที่ฟังได้นาน
ถึง 5 ชั่วโมง7 และตอนนี้สนทนา
ได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง8 ต่อการ
ชาร์จหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังออกแบบมาให้พร้อมไปกับคุณได้ทุกที่

เพราะมีเคสชาร์จที่สามารถใช้ชาร์จได้หลายครั้ง เพื่อฟังได้นานกว่า
24 ชั่วโมง9 หรือถ้าต้องรีบใช้
ก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่ใส่ AirPods
ไว้ในเคส 15 นาที คุณก็ใช้ฟังได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง10 หรือ
สนทนา
ได้นานสูงสุด 2 ชั่วโมง11 และถ้าอยากรู้ว่าแบตเตอรี่เหลือเท่าไหร่
ก็เพียงหยิบ AirPods
มาไว้ข้างๆ iPhone หรือถาม Siri ว่า "AirPods
เหลือแบตเตอรี่เท่าไหร่" ง่ายๆ แค่นี้เอง
และเมื่อถึงเวลาที่ต้องชาร์จ
AirPods ก็จะมีการแจ้งเตือนให้คุณทราบ
บน iPhone
อย่างสะดวกสบาย

แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 24 ชม. เมื่อมีเคสชาร์จ

ฟังได้นานสูงสุด
5 ชม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ชาร์จเพียง 15 นาที สามารถใช้ฟังได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง

ตั้งค่าให้เลย จากนั้นก็กดเพลย์เลย

AirPods เชื่อมต่อในทันที และสลับไปมาระหว่างเสียงบน iPhone, Apple Watch, Mac,
iPad และ Apple TV แบบไม่มีสะดุด เรียกว่าตั้งค่าก็ง่าย
ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็มหัศจรรย์ไปเลย

เพลงเดียว ฟังสองคน

คุณสมบัติการแชร์เสียง12 ช่วยให้คุณแชร์เพลง
พ็อดคาสท์ หรือสตรีม
เสียงอื่นๆ ระหว่าง AirPods สองคู่
ได้ง่ายๆ ทั้งยังคุมความดังของแต่ละคู่
ได้อย่างอิสระ
หาก AirPods ของคุณอยู่ในเคส ก็แค่นำไปไว้ใกล้ๆ iPhone

หรือ iPad ที่คุณต้องการแชร์ด้วย แล้วเชื่อมต่อด้วยการแตะ
เพียงครั้งเดียว
และหากคุณใส่ AirPods อยู่
ก็แค่นำ iPhone เข้ามาใกล้ๆ แทน

บอกความในใจ ในแบบคุณ

พบกับตัวเลือกการสลักข้อความใหม่ๆ
สำหรับ AirPods ด้วยการผสมอิโมจิ
ข้อความ และตัวเลข

  • ซื้อ AirPods

ใช้ Apple Music ได้ฟรีนาน 6 เดือน เมื่อซื้อ AirPods*

ดูเพิ่มเติม

AirPods รุ่นไหนที่ใช่สำหรับคุณ

ไม่มีระบบเสียงตามตำแหน่ง

ไม่มีการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอก

ไม่มีความสามารถในการทนเหงื่อและน้ำ

ฟังได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว 6 16 15 3 4 12 18 9 12

ระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณพร้อมการติดตามศีรษะ
แบบไดนามิก 2 13 12 1 1 2 1 1 1

ไม่มีการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ

ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว 6 16 15 3 4 12 18 9 12

ระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณพร้อมการติดตามศีรษะ
แบบไดนามิก 2 13 12 1 1 2 1 1 1

การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ

ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว 6 16 15 3 4 12 18 9 12

ระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณพร้อมการติดตามศีรษะ
แบบไดนามิก 2 13 12 1 1 2 1 1 1

การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอก

ไม่มีความสามารถในการทนเหงื่อและน้ำ

ฟังได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว 6 16 15 3 4 12 18 9 12

เปรียบเทียบ AirPods ทุกรุ่น