Show
Innovation : 5 เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน 1. Smart Home หรือการใช้เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้กับอุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น หลอดไฟที่เปิดปิดเองได้ผ่านโทรศัพท์ หรือระบบความปลอดภัยที่สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา 2. Smart Grid หรือกระบวนการส่งไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบส่งไฟฟ้า ทำให้การซื้อขายไฟฟ้าเป็นไปอย่างเสรี ไฟฟ้ามีราคาถูกลง และสามารถตรวจสอบจุดที่มีปัญหาได้ 3. Smart Wearable หรืออุปกรณ์สวมใส่ที่มีฟังก์ชันที่มากกว่านาฬิกาปกติ เช่น บันทึกข้อมูลสุขภาพ โทรเข้าออกได้ มี GPS ในตัว เป็นต้น 4. Smart City คือการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับสิ่งต่าง ๆ
ภายในเมืองเพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย เช่น เซ็นเซอร์ที่ใช้วัดจำนวนรถยนต์เพื่อคำนวณเป็นสัญญาณบอกเวลา เป็นต้น 5. Connected Car เป็นเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการจราจรบนท้องถนนด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ งานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) นายวรุฒ กิ่งเล็ก โทรศัพท์ 085 344 9163 อีเมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. www.tedfund.mhesi.go.th ติดต่อเราที่อยู่ : กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เลขที่ 75/47 อาคารพระจอมเกล้า (ห้อง 308) ถ.พระราม 6 โทรศัพท์ : 02 333 3700 ต่อ 4072 - 4075 แผนที่โลโก้และแบนเนอร์สำหรับเว็บไซต์© 2017 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม . All Rights Reserved. IoT คืออะไร ? อุปกรณ์แบบไหนเรียก IoT ?เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นและคุ้นเคยกับคำว่า "IoT (Internet of Things)" กันมาบ้างแล้ว เพราะทุกวันนี้อุปกรณ์ IoT ก็ได้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตและการทำงานของเราจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว แต่บางคนอาจยังไม่แน่ใจว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เราใช้งานกันอยู่เป็นประจำนั้นเป็นอุปกรณ์ IoT หรือไม่ ? และเจ้าอุปกรณ์ IoT ที่ว่านี้มีกี่ประเภทและมีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง ดังนั้นเราจึงรวบรวมคำตอบของสิ่งที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ IoT มาไว้ในบทความนี้แล้ว บทความเกี่ยวกับ IoT อื่นๆ IoT คืออะไร ? มีหลักการทำงานอย่างไร ?IoT หรือที่ย่อมาจากคำว่า “Internet of Things” ในภาษาไทย ถ้าแปลตรง ๆ เลยก็คือ "อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง" หรือ "อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง" (แล้วแต่จะเรียก) นั้นคำอธิบายถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีตัวประมวลผล, ตัวรับสัญญาณ, ซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่มีการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ภาพจาก : https://www.tibco.com/reference-center/what-is-the-internet-of-things-iot และเนื่องจากแกนหลักของการควบคุมและใช้งานอุปกรณ์ IoTนั้นอยู่ที่ I หรือ Internet ดังนั้นอุปกรณ์เหล่านี้จึงต้องพึ่งพาสัญญาณอินเทอร์เน็ตในการรับ - ส่ง, จัดเก็บ หรือประมวลผลและจัดการข้อมูลต่าง ๆ ภายในระบบตามคำสั่งที่มนุษย์ป้อนลงไป โดยอาจมีการทำงานแบบ M2M (Machine to Machine) หรือ M2H (Machine to Human) ก็ได้ และอุปกรณ์ IoT บางอย่างก็รองรับการสั่งงานจากระยะไกล (Remote) ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าไว้ด้วยกันได้ด้วยเช่นกัน โดยอุปกรณ์ IoT แต่ละตัวจะมี “เซนเซอร์ (Sensor)” เพื่อตรวจจับ, รับ และปล่อยสัญญาณของข้อมูลไปยังระบบ Cloud ผ่านทางบลูทูธ, Wi-Fi, สัญญาณดาวเทียม, สัญญาณมือถือ หรือ LPWAN (Low Power Wide Area Networks) หรือเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยตรง และเมื่อได้รับ “ข้อมูล” เป็นที่เรียบร้อย ซอฟต์แวร์ภายในก็จะทำการประมวลผลสิ่งที่ได้รับและแสดงผลต่าง ๆ ออกมาตามที่ระบบได้ประมวลผลไว้ เช่น การสแกน รหัสคิวอาร์ (QR Code) เพื่อชำระเงินผ่านตู้สินค้า หากไปซื้อของและเลือกชำระเงินแบบ Self-Checkout ที่ตู้คิดเงิน เมื่อยิงบาร์โค้ดสินค้าทั้งหมดแล้วกดชำระเงินโดยการจ่ายด้วย QR Code ระบบก็จะประมวลผลและแสดงผล QR Code ที่สามารถยกมือถือขึ้นมาสแกนเพื่อชำระเงินได้ เป็นต้น
ภาพจาก : https://internetofthingsagenda.techtarget.com/definition/Internet-of-Things-IoT อุปกรณ์ IoT มีกี่ประเภท ? และอุปกรณ์แบบไหนเรียกว่าอุปกรณ์ IoT ?อุปกรณ์ IoT ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Smart Devices หรือ Connected Devices ดังนั้นแล้ว อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีชื่อคำว่า “Smart” รวมอยู่ในชื่ออุปกรณ์ก็นับได้ว่าเป็นอุปกรณ์ IoT ทั้งสั้น ซึ่งเราจะสามารถแบ่งประเภทของอุปกรณ์ IoT ได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ 1. อุปกรณ์ IoT ที่นิยมใช้งานในหมู่ผู้ใช้ทั่วไป (Consumer Internet of Things)หรืออุปกรณ์ IoT สำหรับการใช้งานส่วนตัวหรือการใช้สอยภายในบ้าน เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตของเราเป็นไปด้วยความราบรื่นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยส่วนมากแล้วอุปกรณ์ IoT ชนิดนี้มักมีอายุการใช้งานที่สั้นและมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ ภาพจาก : https://www.venafi.com/sites/default/files/styles/823x390/public/content/blog/2021-03/Top%2010%20IoT%20Vulnerabilties%20.jpg?itok=FLmpp7TU ตัวอย่างอุปกรณ์ Consumer IoT เช่น PC, Tablet, Smartphone, Smart Watch, Gadget, Router Wi-Fi, Smart TV, Smart Car รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ในตระกูล Smart Home หลอดไฟ, ตู้เย็น, แอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านชนิดอื่น ๆ ที่สามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือเองก็นับเป็นอุปกรณ์ IoT ด้วยเช่นกัน 2. อุปกรณ์ IoT เชิงพาณิชย์ (Commercial Internet of Things)เป็นอีกหนึ่งประเภทของอุปกรณ์ IoT ที่พบได้บ่อย โดยมันจะต่างจาก Consumer IoT ตรงที่มันจะเป็นอุปกรณ์ที่เราพบเห็นได้ภายนอกบ้าน เช่น ภายในห้างร้าน, โรงแรม, โรงพยาบาล, หรือสถานที่สาธารณะต่าง ๆ มักเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตภายนอกบ้าน ตัวอย่างอุปกรณ์ Commercial IoT ได้แก่ ป้ายไฟ/จอทีวีโฆษณา, ไฟจราจร, ระบบการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน, ระบบขนส่งสาธารณะที่รองรับการใช้งาน Smart Card, อุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์เสริมความงามที่นำเอาเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจวินิจฉัยและรักษาคนไข้ รวมไปกล้องตรวจจับความเร็วและกล้องวงจรปิดเองก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ IoT ด้วย ภาพจาก : https://ubidots.com/blog/iot-consumer-vs-commercial-vs-industrial-main-overview/ 3. อุปกรณ์ IoT ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial Internet of Things)สำหรับ IIoT หรืออุปกรณ์ IoT ที่ใช้ในภาตอุตสาหกรรม นั้นเป็นอุปกรณ์ IoT ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเชื่อมต่อและควบคุมเครื่องจักรต่าง ๆ ในแวดวงอุตสาหกรรมต่าง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการทำงานและลดปัญหาจุกจิกที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้แรงงานมนุษย์ในการผลิตหรือประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ช่วยทุ่นแรงมนุษย์และควบคุมคุณภาพสินค้า ทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และนอกจากนี้ยังมีการใช้งาน ระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ให้เป็นระบบและสามารถเรียกใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย อุปกรณ์ IoT ประเภทนี้มักมีขนาดใหญ่และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอุปกรณ์ IoT รูปแบบอื่น ๆ ภาพจาก : https://www.passionateinmarketing.com/wp-content/uploads/2021/08/Industrial-IOT.png ตัวอย่างอุปกรณ์ IIoT เช่น แขนกลที่ใช้ในโรงงานผลิต, สายพาน, เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ, ระบบ Cloud, ระบบจัดการเครื่องจักรต่าง ๆ ภายในโรงงาน เป็นต้น ข้อดี - ข้อเสียของอุปกรณ์ IoTข้อดีของอุปกรณ์ IoT
ภาพจาก : https://cdn.ttgtmedia.com/rms/onlineimages/iota-advantages_and_disadvantages-f_mobile.png ข้อเสียของอุปกรณ์ IoT
ที่มา : www.zdnet.com , www.electronicdesign.com , www.oracle.com , us.norton.com , optiware.com , behrtech.com , ubidots.com
|