สัมภาษณ์งานราชการใส่ชุดแบบไหน

– จะเพิ่มเน็คไทเป็นออปชันเสริมหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าไม่มีเลยก็ไม่เสียหายอะไร แต่งกายเพียงแค่เสื้อเชิ้ตและกางเกงสแลคก็ดูเรียบร้อยพอแล้ว

– แต่ไม่ควรมองข้ามเข็มขัดสักเส้น เพราะมันคือออปชันที่จะทำให้คุณหล่อลงตัวมากขึ้น ไม่เหมือนว่าคุณใส่แต่ผ้าล้วน ๆ ยาวมาตั้งแต่ท่อนบนยันท่อนล่างราวกับชุดนอน

– ถึงแม้ว่าลักษณะงานที่เข้ารับสัมภาษณ์จะเป็นสไตล์ศิลปิน ให้อิสระการแต่งกายในขณะทำงาน แต่เวลาสัมภาษณ์คือเวลาแห่งความเป็นทางการ เพราะฉะนั้น ควรสวมรองเท้าหนัง อย่าเพิ่งใส่รองเท้าผ้าใบโชว์ความอาร์ตในตอนนี้

– เซตผมเพื่อให้ทรงผมเข้าที่เข้าทางสักหน่อยยิ่งดี เพราะนี่คือจุดที่ช่วยเสริมความหล่อได้ แต่ระวังด้วยว่ามูสหรือแว็กซ์ที่ใช้จับตัวกันเป็นไขตามไรผมหรือไม่ (เมื่อกรรมการต้องมองสีหน้าของคุณ ย่อมมองรวมไปถึงทรงผมด้วย)

– โกนหนวดเคราและจัดการขนจมูกให้เรียบร้อยดี

ทริคการแต่งกายสำหรับผู้หญิง 

ภาพประกอบจาก fashionurge.com

ภาพประกอบจาก dhgate.com

– ในกรณีที่เป็นเชิ้ตแขนยาว ควรเป็นโทนสีอ่อน เช่น ขาว, ครีม, ชมพูอ่อน, ฟ้าอ่อน มีลูกเล่นอื่นได้ เช่น เป็นคอบัว, มีสายผูก แต่ไม่ควรดูรกเกินไปหรือโชว์สัดส่วนมากเกินไป (ลุคแบบนี้เหมาะกับทุกสนามสอบ โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐ)

– ในกรณีที่เป็นเชิ้ต แต่เนื้อผ้าชีฟอง ไม่ควรบางจนเห็นทะลุปรุโปร่งไปถึงข้างใน ถึงแม้ว่ากรรมการบางสนามจะไม่ได้โฟกัส แต่ก็ควรเผื่อใจไว้ด้วยว่าจะต้องเจออะไรนอกสนามสอบ เช่น ภัยจากคนแปลกหน้า, ฝนฟ้าอากาศที่ไม่เป็นใจ

Advertisement

– ในกรณีที่สวมเสื้อแขนกุดแล้วสวมสูททับข้างนอก เสื้อแขนกุดที่อยู่ด้านในควรเป็นสีพื้นเข้มหรืออ่อน ไม่ฉูดฉาดแสบตา ไม่มีลวดลาย คอไม่ควรเว้าลึกเว้ากว้างมากเกินไป ถ้าเป็นลูกไม้หรือชีฟอง เนื้อผ้าควรหนาพอที่จะพรางชุดชั้นในและผิวได้ สูทควรเป็นดำ (ลุคแบบนี้เหมาะกับองค์กรที่ไม่ได้เคร่งครัดมาก เช่น บริษัทเอกชนบางแห่ง, งานประเภทออฟฟิศทั่วไป)

– ถึงแม้จะมีกางเกงสำหรับผู้หญิงออฟฟิศ แต่! ในการสัมภาษณ์ต้องใช้กระโปรงเท่านั้น เพื่อความเรียบร้อยสมกับความเป็นหญิงมากที่สุด ควรเป็นกระโปรงทรงกระสอบหรือทรงเอที่ยาวเลยเข่าสีดำหรือสีเทา (คล้ายกับกระโปรงนักศึกษา) ไม่ควรสวมกระโปรงพลีทหรือกระโปรงที่พลิ้ว ๆ เพราะอาจไม่สะดวกในการเดินทางได้

– ก่อนสวมรองเท้าคัชชูอย่าลืมสวมถุงน่อง(สีเนื้อ) ไม่เพียงแต่จะช่วยพรางขาไม่ให้ดูน่าเกลียด ยังช่วยลดอาการเจ็บเท้าในกรณีที่คุณไม่เคยใส่คัชชูมาก่อนด้วยเช่นกัน

– แต่งหน้าโทนสีอ่อนหรือนู้ดเท่านั้น อย่าทาเปลือกตา, ปัดแก้ม, และ/หรือทาลิปสติกด้วยสีที่ฉูดฉาดหรือโทนมืด (เช่น สีม่วงเปลือกมังคุด, สีม่วงดำ, สีแดงเลือดหมู) ถ้าแต่งหน้าไม่เป็นเลยหรือไม่มีเงินซื้อเครื่องสำอางจริง ๆ ทาลิปมันสักหน่อยก็ดี เพราะขณะสัมภาษณ์ อากาศแห้ง ๆ ในห้องแอร์อาจทำให้ปากแห้งได้

– ผมยาวหรือผมสั้นก็ได้ ปล่อยผมหรือมัดผมก็ได้ แต่ควรเป็นลุคที่เปิดเผยใบหน้ามากที่สุดขณะสัมภาษณ์ ไม่มีเส้นผมย้อยมารุงรังหรือปรกหน้าจนน่ารำคาญ สีผมย้อมได้แต่ควรเป็นโทนธรรมชาติ เช่น น้ำตาลทอง, แดงอมน้ำตาล (ถ้าใช้กิ๊บในการเก็บไรผม ขอให้ใช้ กิ๊บดำเท่านั้น)

– ถ้าวันสัมภาษณ์ตรงกับวันที่ประจำเดือนมาพอดี ควรสวมกางเกงสเตย์เพื่อเก็บผ้าอนามัยให้เข้าที่ ไม่นูนออกมาชัดเจน หลีกเลี่ยงกระโปรงสีเทาอ่อนเพื่อป้องกันคราบเลอะ อย่าลืมใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วย ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมารึเปล่า

– เครื่องประดับควรเป็นสไตล์เรียบ ๆ เช่น เป็นเงินล้วน, เป็นมุกขนาดไม่ใหญ่ ไม่ควรใช้เครื่องประดับที่มีประกายแพรวพราวหรือแฟชันจ๋าเกินไป (งานราชการบางแห่งที่เคร่งครัดมาก เช่น ทหาร, ตำรวจ ไม่อนุญาตให้ใส่เลยสักชิ้น)

– นาฬิกาข้อมือควรเป็นสายหนังหรือเหล็กเรียบ ๆ เพื่อเสริมลุคให้ดูเป็น working womanที่สุด ข้อมือไม่ว่างเกินไป

– กระเป๋าถือหรือกระเป๋าสะพายไม่ควรใหญ่เทอะทะเกินไป ใช้งานเพียงแค่ใส่ของจุกจิกส่วนตัว เช่น ลิปสติก, ผ้าอนามัย, กระจก, ทิชชู่ซับหน้า ก็พอแล้ว ส่วนสัมภาระที่ใหญ่กว่านั้น เช่น แฟ้มเอกสาร, ขวดน้ำดื่ม ให้ถือแยกต่างหาก (ดื่มแล้วอย่าลืมเก็บทิ้งด้วย เดี๋ยวจะโดนหักคะแนนฐานสร้างความสกปรกในองค์กร)

สำหรับเพศที่สาม เช่น ทอม, กะเทย
– ถ้าเป็นองค์กรที่ค่อนข้างเคร่งในกฎระเบียบมาก เช่น หน่วยงานที่เป็นงานราชการ, องค์กรรัฐวิสาหกิจ ควรแต่งกายตามเพศกำเนิด เช่น ถ้าเป็นทอมก็ควรแต่งกายเป็นหญิงเข้ารับการสัมภาษณ์ ถ้าเป็นกะเทยก็ควรแต่งกายเป็นชายเข้ารับการสัมภาษณ์ (อาจจำเป็นต้องสวมวิกไปก่อน ในกรณีที่เป็นคนผมยาว)

– ถ้าเป็นองค์กรที่ไม่เคร่งครัดอะไรมาก ให้อิสระในการแต่งกาย เช่น งานออฟฟิศทั่วไป, งานที่เกี่ยวกับศิลปะ แต่งตามรสนิยมที่ตัวเองต้องการได้ (ทอมแต่งแบบผู้ชาย กะเทยแต่งแบบผู้หญิง) แต่ขอให้โดยรวมแล้วมีความสุภาพเรียบร้อยที่สุด

เพราะบุคลิกภาพคือสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจแต่แรกเห็น … อยากให้คนอื่นเขามองคุณอย่างไร ลองส่องกระจกดูให้ดีสิว่า คุณสร้างคุณค่าให้กับตัวคุณเองให้น่ามองแล้วหรือยัง ?

หลายคนคงตื่นเต้นกับการไปสัมภาษณ์งานครั้งแรก ทำตัวไม่ถูกหรือบางที ก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ คิดนั่นคิดนี่ทั้งคืน เพราะมีอีกหลายอย่างที่ต้องกังวล โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกาย และบุคลิกภาพในการไปสมัครงาน และสัมภาษณ์งาน เพราะการแต่งกายก็ถือได้ว่า เป็นปัจจัยหนึ่ง ในการตัดสินใจเลือกรับหรือไม่รับ คนเข้าทำงานด้วยเหมือนกัน

แต่ทั้งนี้ บางคนอาจคิดในใจว่า ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย การไปสัมภาษณ์งาน ทำไมจะต้องแต่งตัวผิดแปลก แตกต่างไปจากทุกวันด้วย แล้วต้องแต่งขนาดไหน เขาถึงสนใจที่จะนัดเราสัมภาษณ์ เรื่องนี้จะบอกว่าไม่เกี่ยวเลย ก็ไม่ถูกเหมือนกัน เพราะว่าการสมัครงาน ก็จำเป็นต้องแต่งตัว ให้เป็นทางการสักหน่อย เพื่อความเหมาะสมและให้ถูกกาละเทศะ อีกทั้งเป็นการสร้างภาพว่า เราเป็นคนมีบุคลิกดี มีความน่าเชื่อถือ

เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ หรือเสื้อเชิ้ตพับแขน ห้ามเด็ดขาด! เพราะคนสัมภาษณ์ เค้าไม่ได้เห็นว่ามันงาม เหมือนที่คุณเห็นหรอก แล้วก็อย่าแต่งตัวเวอร์จนเกินไป หรือแต่งแบบตามสบายมากเกินไป เวอร์เกินไป ก็ประมาณว่า มีทองหยองอะไร ก็ประเคนขนกันมาใส่ คุณไม่ใช่ตู้ทองเคลื่อนที่นะ แค่ไปสมัครงาน ไม่ต้องแต่งถึงขนาดนั้นก็ได้ แล้วเสื้อผ้าสีสันบาดตา สะท้อนแสงวูบวาบๆ น่ะ อย่าแต่งจะดีกว่า เพราะจะทำคุณค่าของตัวคุณลดลงได้

โดยเฉพาะคุณผู้หญิง พยายามอย่าแต่งตัววับๆ แวมๆ เว้านั่นนิด เว้านี่หน่อย ประมาณว่า ก้มทีก็เห็นไปถึงไหนต่อไหน เพราะนอกจากจะไม่ได้เพิ่มคะแนนให้แล้ว ตรงกันข้าม อาจจะโดนตัดคะแนนลงด้วยซ้ำ เพราะเขาอาจมองว่า คุณ ไม่ได้สนใจทำงานเท่าไร เพราะมัวเสียเวลาไปกับการแต่งตัว ที่จริงการแต่งตัวไปสมัครงาน ก็แค่แต่งให้สุภาพเรียบร้อย ผมเผ้าก็อย่าให้รกรุงรัง รองเท้าก็ขัดเสียหน่อย ลองนึกภาพดูสิว่า แต่งตัวซะเนี้ยบเชียว แต่รองเท้าเขรอะ ยังกับไม่ได้โดนน้ำยามาสักปีหนึ่ง มันคงจะเป็นภาพที่ไม่น่าดู เท่าไหร่ใช่ไหมคะ

เพราะฉะนั้น จะแต่งตัวไปสมัครงานทั้งที ก็ลงทุนหน่อย หาซื้อหนังสือนิตยสาร ที่เกี่ยวกับการแต่งตัวให้ดูดี มีบุคลิกมาดูเสียบ้าง ไม่ต้องเอาแบบทันสมัยสุดๆ ก็ได้ เพียงแต่เอามาดูเป็นแนวทางว่า ต้องแต่งยังไงถึงจะดูดีหรือมีมาด สง่างาม เพราะว่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนั้น สามารถช่วยให้มีบุคลิกที่ดีได้ ใครเห็นก็อยากเข้าไปคุย อยากไปทำความรู้จัก แถมยังช่วยให้คุณ ดูเป็นคนที่น่าเชื่อถือขึ้นอีกด้วยค่ะ

แถมท้ายอีกนิด…ถ้าหากคุณพิถีพิถัน ในการเลือกเครื่องแต่งตัว อย่างดีตอนเข้าสัมภาษณ์ เมื่อต้องไปทำงานวันแรก คุณก็ควรจะพิถีพิถันไม่แพ้กัน ในเรื่องที่จะใส่ชุดแบบไหนไปทำงานวันแรก ถ้าไม่แน่ใจก็อาจจะขอคำแนะนำ จากเจ้านายก็ได้ ถ้าบริษัทใส่ชุดฟอร์ม คุณควรเลือกเสื้อผ้าแนวนั้น แต่ถ้าไม่มีแบบฟอร์ม ก็น่าจะเลือกชุดที่เข้ากับลักษณะงาน ยังไงคงไม่ถึงขนาดใส่เสื้อยืด กับกางเกงยีนส์ตัดชายหรอกนะคะ ไม่ว่าครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ เขาจะแต่งตัวกันแบบหลุดโลกแค่ไหนก็ตาม คุณอย่าเพิ่งไปตามเขาเด็ดขาด ขอให้เน้นเป็นงานเป็นการหน่อยจะดีกว่า ที่สำคัญต้องให้ตัวเองรู้สึกสบาย และมั่นใจในเสื้อผ้าที่สวมใส่ด้วยถึงจะดีที่สุด…. อย่างที่เรียกว่า แต่งตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ไงคะ