วันที่ 30 เมษายน 2557 นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากผลการศึกษาวิเคราะห์และแนวโน้มแรงงานในโครงการเตรียมการรองรับการเคลื่อนย้ายของแรงงานสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (AEC) พบว่า หากไทยมีความต้องการขยายผลการทางด้านแรงงานใน AEC นั้น อาชีพที่มีความเหมาะสมและมีความพร้อม มี 7 อาชีพที่คนไทยถนัดและได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมือจากนานาประเทศ รวมทั้งโอกาสในการเคลื่อนย้ายแรงงานมีความต้องการในประเทศอาเซียน อาทิ ประเทศสิงคโปร์ บรูไน และมาเลเซีย โดย 7 อาชีพ ที่มีความต้องการใน AEC ได้แก่ 1. ช่างเชื่อมแม็ก คือ การเชื่อมด้วยมือหรือระบบกึ่งอัตโนมัติ 2. ช่างเชื่อมทิก การเชื่อมเหล็กกล้าคาร์บอนหรือสเตนเลส ด้วยมือหรือกึ่งอัตโนมัติ 3. ช่างเชื่อมท่อโพลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) 4. ช่างประกอบท่อ การประกอบ ติดตั้งท่อเหล็กกล้าภายใต้มาตรฐานที่กำหนด 5. ช่างไม้ก่อสร้าง 6. พนักงานนวดไทย 7. ผู้ประกอบอาหารไทย นายสุเมธ กล่าวว่า อาชีพผู้ประกอบการอาหาร พนักงานบริการในร้านอาหาร และการนวดแผนไทย แรงงานด้านนี้มีโอกาสเคลื่อนย้ายไปทำงานในประเทศมาเลเซีย โดยรัฐบาลและสมาคมกายภาพบำบัด (Malaysian Society of Complementary Therapist : MSCT) กำหนดอาชีพนวดแผนไทย ผู้ที่จะเข้าไปทำงานต้องผ่านการฝึกอบรม 772 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบมาตรฐานของไทย ในระดับ 2 จากสถาบันหรือศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน หรือหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน จึงเป็นโอกาสสำหรับแรงงานไทยอีกด้วย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ปี 2558 สำนักงานสถิติเเห่งชาติ ระบุว่า ครัวเรือนไทยรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 26,915 บาทต่อเดือน หากเทียบกับเพื่อนบ้านหลายๆ ประเทศเเล้ว ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ยกเว้นที่เดียว คือ มาเลเซีย โดยผลสำรวจรายได้ของคนมาเลเซีย Hays Asia Salary Guide 2016 เปิดเผยว่า เงินเดือนโดยเฉลี่ยของคนมาเลเซีย คือ เดือนละ 7384 ริงกิต ตีเป็นเงินไทย 64,800 บาท ซึ่งนี่คือเงินเดือนที่มีการบันทึกเเละขึ้นทะเบียนอย่างถูกกิจลักษณะ ไม่นับกิจการเล็กๆ น้อยๆ หรือธุรกิจครอบครัวที่ไม่ได้ทำการสำรวจ ยิ่งถ้าเรามาดูรายได้ขั้นต่ำ คือ 900 ริงกิต หรือ ราวๆ 7,800 บาท ถือว่าเยอะกว่าหลายๆ อาชีพในเมืองไทย ส่วนเกณฑ์ในการเลือกงานนั้น เงินกลายเป็นที่ตั้ง ตามมาด้วยความท้าทาย ความก้าวหน้าในอาชีพ เเละวัฒนธรรมองค์กร ในขณะที่ ความมั่นคงของหน้าที่การงาน เเละความพอดีที่ลงตัวระหว่างชีวิตการทำงานเเละชีวิตครอบครัวนั้น คนมาเลเซียต่างจากคนไทยพอสมควร เมื่ออิงจากการสำรวจนี้เเล้ว ถ้าสุ่มถามคนมาเลเซีย 100 คน ว่าเกณฑ์ในการเลือกงานคืออะไร 53 คนจะตอบทันทีว่า รายได้ต้องดีไว้ก่อน ขณะที่เเค่ 12 คน ที่จะบอกว่างานที่ทำนั้นจะต้องมีความสมดุลระหว่างการทำงานเเละการใช้ชีวิต ทั้งนี้เมื่อมีการสำรวจ top 10 ของอาชีพที่รายได้ดีที่สุดเเล้ว พบว่า ศัลยเเพทย์เป็นอาชีพที่เงินดีที่สุด คือ ราวๆ 70 000 ริงกิต หรือ กว่า 600,000 บาท ตามมาติดๆ ด้วย CFO หรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของบริษัท หัวหน้าการตลาดมาเป็นอันดับ 3 ส่วนอันดับ 4 คือ นักวิจัยด้านยาชีวภาพ อันดับ 5 คือ นักค้าที่ดิน ตามมาด้วยผู้บริหารความเสี่ยงธุรกิจประกันภัย นักวางกลยุทธฺ์มาเป็นอันดับ 7 ตามติดๆ ด้วยนักบินเป็นอันดับ 8 ส่วนที่ปรึกษาด้านกฏหมายเเละวิศวกรด้านไฟฟ้าหรือขุดเจาะน้ำมัน คือ อันดับ 9 เเละ 10 เเม้รายได้เฉลี่ยจะถือว่าสูงกว่าคนไทยเเละอีกหลายๆ ประเทศในอาเซียน เเต่ในที่สุดความพอใจรายได้ของตัวเองก็อยู่ที่ 2.42 เต็ม 5 เเปลง่ายๆ ว่าคนมาเลเซียส่วนมากไม่ค่อยจะพอใจกับรายได้ของตัวเอง คำถามคือเเล้วต้องเเค่ไหนถึงจะพอใจ? หรือจริงๆ ความสุขที่ได้จากชีวิตการทำงานนั้น มีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึง กีฬาประจำชาติ silat ศิลปะการป้องกันตัวของชนชาวมลายูคือ Silat โดยศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้มีมาเป็นเวลานานแล้ว Silat ได้กำเนินขึ้นมาเป็นเวลานับร้อยพันปีมาแล้ว ลักษณะของศิลปะการป้องกันตัวที่เรียกว่า Silat นั้นมีอยู่ 3 ลักษณะ คือ ความสามารถของศิลปะการป้องกันตัว Silat มีอยู่ 5 ระดับ คือ |