ต่อมาในปี พ.ศ. 2477 กระทรวงธรรมการได้จัดตั้ง "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ" ขึ้นโดยมีพระช่วงเกษตรศิลปะการ ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ ดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ และในปี 2479 กระทรวงธรรมการได้จัดตั้ง "โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือ" ขึ้นในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ปี 2481 กระทรวงธรรมการได้ยุบโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคใต้ ที่สงขลา โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคกลาง ที่บางกอกน้อย และโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคอีสาน ที่นครราชสีมา และโอนกิจการโรงเรียนเหล่านั้นทั้งหมดมารวมกันที่โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือที่แม่โจ้เพียงแห่งเดียว ในปีเดียวกันนี้ โรงเรียนได้ย้ายไปอยู่ในความดูแลของกระทรวงเกษตรตราธิการ และเปลี่ยนสถานะมาเป็น "วิทยาลัยเกษตรศาสตร์แม่โจ้" หลังจากที่ ม.เกษตร บางเขน ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2482 วิทยาลัยเกษตรศาสตร์แม่โจ้ได้เปลี่ยนเป็น "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" ในอีก 4 ปีหลังจากนั้น และก็ได้มีการพัฒนาเรื่อยมาและเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนเกษตรศาสตร์แม่โจ้" ในปี 2491 และยกฐานะเป็น "วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่" ในปี 2499 ก่อนที่จะได้รับการสถาปนาเป็น "สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร" ในปี 2518 จนกระทั่ง พ.ศ. 2525 สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้" สุดท้ายก็ได้รับการจัดตั้งเป็น "มหาวิทยาลัยแม่โจ้" เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2539 มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันผลิตบัณฑิตสาขาวิชาเกษตรที่มีชื่อเสียงมาโดยตลอด และเพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานที่หลากหลายในยุคนี้ ม.แม่โจ้จึงได้ขยายการเรียนการสอนออกไปอีกหลายแขนงที่นอกเหนือจากการเกษตร โดยนอกจากที่เชียงใหม่แล้ว ม.แม่โจ้ยังได้ขยายการเรียนการสอนออกไปอีก 2 วิทยาเขตคือ วิทยาเขตแพร่ เฉลิมพระเกียรติ และวิทยาเขตชุมพร สัญลักษณ์ มีอะไรเรียนบ้าง วิทยาเขตแพร่ เฉลิมพระเกียรติ/ชุมพร/วิทยาลัย ค่าใช้จ่าย สิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียน ทุนการศึกษา ชีวิตนักศึกษา ยานพาหนะที่เป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษาคือเวสป้า ถึงขนาดมีชมรมเวสป้าด้วย หรือหากขับรถก็นิยมรถเก่า เช่น ฮอนด้ารุ่นเก่า หรือโฟล์ครุ่นเก่า แต่หากใครไม่มีรถ หรือเวสป้า หรือมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถใช้บริการรถเมล์เขียวสายแม่แฝก สายใหม่ ขึ้นได้ในตัวมหาวิทยาลัย แต่เมื่อเร็วๆ นี้นักศึกษาของ ม. แม่โจ้ ได้เป็นผู้นำเทรนด์การเดินทางแบบใหม่เพื่อให้เข้ากับยุคน้ำมันแพง นั่นก็คือ การขี่ม้ามาเรียน แถมทางมหาวิทยาลัยยังจัดตั้งชมรมขี่ม้าให้อีกต่างหากด้วย กิจกรรมนักศึกษาที่เด่น ได้แก่ งานรับน้อง งานยี่เป็ง งานลอยกระทง งานวันเกษตรสลับกับงานวันกล้วยไม้ปีเว้นปี และงานกีฬาแม่โจ้สัมพันธ์ ส่วนสถานที่ที่เป็นที่สักการบูชา ไม่ว่าใครจะบนเรื่องอะไร โดยเฉพาะนักศึกษาปีสุดท้ายแทบทุกคนต้องเคยมาบนที่ "ศาลเจ้าแม่โจ้" เพื่อขอให้จบการศึกษา มักแก้บนโดยใช้ดอกไม้สีขาว และนอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่เคารพอื่นๆ ได้แก่ "องค์พ่อพิรุณ" และอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญของแม่โจ้ในอดีตอย่างอนุสาวรีย์พระช่วงเกษตรศิลปะการ หรือ อนุสาวรีย์ ศ.ดร. วิภาต บุญศรี วังซ้าย โหลดเพิ่ม แท็กที่เกี่ยวข้องข้อมูลมหาวิทยาลัยประวัติมหาวิทยาลัยแม่โจ้มจ.มหาวิทยาลัยแม่โจ้เรียนต่อมหาวิทยาลัยแม่โจ้แม่โจ้EDUCATIONเรียนต่อในประเทศมหาวิทยาลัย |