อใดเป็นเครื่องหมายแสดงความน่าเชื่อถือ (Trustmark)

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--คอร์ แอนด์ พีค
ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าหรือใช้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตก็เหมือนกับการเสี่ยงโชคดีๆ นี่เอง เกิดโชคร้ายมีโอกาสได้ของไม่ตรงกับความต้องการหรือบางข้อมูลที่เราลงทะเบียนไว้ก็อาจจะถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จนทำให้ผู้บริโภคหลายท่านเข็ดขยาดไปตามๆ กัน
แต่ปัญหาเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะวันนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำโครงการ “เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” หรือ Trustmark ขึ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการได้รับความคุ้มครองของผู้บริโภค โดยเว็บไซต์ที่ผ่านการตรวจสอบ และรับรองคุณภาพจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะได้รับอนุญาตให้นำเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์คำว่า “Verified” ไปแสดงไว้บนหน้าเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเครื่องหมายรับรองที่ใช้ในระดับสากล เสมือนเป็นอีกขั้นหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยให้เป็นที่ยอมรับ และสามารถขยายโอกาสไปสู่ตลาดต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Trustmark) นั้น เป็นเครื่องหมายที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้การรับรองว่าเว็บไซต์นั้นได้ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบ และสามารถเชื่อถือได้ โดยยึดแนวทางจากองค์กรการออกเครื่องหมายรับรองในระดับสากลมาประยุกต์ใช้ ได้แก่ พันธมิตรองค์กรการออกเครื่องหมายรับรองฯ แห่งเอเชีย หรือ Asia Pacific Trustmark Alliance (ATA) ซึ่งเป็นความร่วมมือของประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก อีกทั้งเร็วๆ นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ยังมีโครงการเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับองค์กรนี้ด้วย เพื่อให้เครื่องหมาย Trustmark ของไทย เป็นที่ยอมรับในระดับโลก
นายวรวิทย์ กัมมารพัฒน์ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ www.thaibabymart.com จำหน่ายหนังสือสำหรับเด็ก หนึ่งในผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่ได้รับมอบเครื่องหมาย Trustmark กล่าวถึงประโยชน์ของเครื่องหมาย Trustmark ว่า “ก่อนหน้าที่จะมีเครื่องหมาย Trustmark ธุรกิจที่ทำอยู่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้รับเครื่องหมายมาไว้บนหน้าเว็บไซต์แล้ว ปรากฏว่ามีคนสนใจเข้าดู และสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เคยมีโอกาสได้คุยกับลูกค้าหลายท่าน ส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่เลือกใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ของเรา เพราะเห็นเครื่องหมาย Trustmark ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทำให้มีส่วนในการตัดสินใจซื้อสินค้าและมั่นใจมากขึ้น ในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และมาตรฐานในการให้บริการจัดส่งสินค้าได้อย่างถูกต้องครบถ้วน”
ด้านนายเยล สุวรรณยั่งยืน ผู้ให้บริการเว็บไซต์ www.shop4thai.com จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้า หนึ่งในผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่ได้รับมอบเครื่องหมาย Trustmark กล่าวถึงประโยชน์ของเครื่องหมาย Trustmark ว่า “บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2540 และก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 ของการดำเนินการธุรกิจในปีนี้ ซึ่งการได้รับมอบเครื่องหมาย Trustmark จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในครั้งนี้ บริษัทฯ รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และมั่นใจว่าการมีเครื่องหมาย Trustmark นั้นจะเป็นประโยชน์ทั้งผู้ประกอบการ คือแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ มีแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจที่ดี ผ่านการรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเป็นประโยชน์กับผู้บริโภค คือ สามารถเลือกซื้อบริการและสินค้าจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ ทำให้ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจซื้อและทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น สะดวก และ ประหยัดเวลา รวมทั้งหากมีข้อพิพาท หรือประสบปัญหา สามารถติดต่อหรือร้องเรียนไปยังกรมฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้”
ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Trustmark ได้ ผ่านทางเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงผู้สมัครอัพโหลดเอกสารประกอบการสมัครผ่านหน้าเว็บฯ จากนั้นจะสามารถทราบผลการสมัครทางอีเมล์ภายใน 20 วันทำการ หากเว็บไซต์นั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์ “Verified” เพื่อนำไปแสดงบนหน้าเว็บไซต์ และผู้สมัครจะต้องทำการต่ออายุเครื่องหมายทุก ๆ 1 ปี
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณปาริชาติ สุวรรณ์ และคุณบุษกร สนธิกร
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด
โทร. 0-2439-4600 ต่อ 8302, 8202
อีเมล์ [email protected]


รู้จัก"Trustmark"เครื่องหมายการันตีเว็บขายของออนไลน์

เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2550 13:18   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

อใดเป็นเครื่องหมายแสดงความน่าเชื่อถือ (Trustmark)

โครงการ Trustmark คืออะไร จำเป็นต่อผู้เปิดร้านขายของออนไลน์เพียงไร ผู้ซื้อจะได้รับประโยชน์มากน้อยแค่ไหน คำตอบอยู่ที่นี่

ธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นหากไม่เคยเห็นหน้าตาคนที่จะทำการซื้อขายสินค้าด้วย ก็ยากที่จะเกิดการทำธุรกรรม แต่เมื่อผู้ซื้อ-ผู้ขายมีโอกาสได้เจรจากันโดยตรง หรือมีการรับรองจากบุคคลที่สามหรือหน่วยงานที่เชื่อถือได้ว่าผู้ขายคนนี้ไว้ใจได้ อย่างน้อยที่สุดผู้ซื้อจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ หากมีองค์กรที่เชื่อถือได้มารับรองว่า เว็บไซต์นั้น ๆ มีแนวการดำเนินธุรกิจที่ดี มีการปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้วางไว้ ตลอดจนมีความปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้วย ผู้บริโภคย่อมมีความมั่นใจในการซื้อขายออนไลน์มากขึ้น

ความเป็นมาของโครงการ Trustmark

ในประเทศที่มีความเจริญด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมสูง ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ กลุ่มประเทศยุโรป ตลอดจนประเทศในแถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฯลฯ ล้วนมีกลไกการสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อขายออนไลน์หรือเรียกสั้นๆ ว่า Trustmark ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงปี ค.ศ. 2000

สำหรับประเทศไทยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และได้นำแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นในการออกเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Trustmark) ของประเทศต่าง ๆ มาเป็นแนวทางในการออก Trustmark โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมในการนำมาประยุกต์ใช้กับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย โดยคำนึงถึงรูปแบบทางธุรกิจที่หลากหลายและบรรทัดฐานทางสังคมไทย เพื่อจะไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการแข่งขัน และต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม(SMEs) ไทย ในการเข้าร่วมโครงการเครื่องหมายรับรองฯ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องค่าใช้จ่ายหรือหลักเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ

จึงเป็นที่มาของโครงการการออกเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกสั้น ๆ ว่า Trustmark ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ได้ออกเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือของผู้บริโภค ซึ่งโครงการดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างแท้จริง เพราะในบางประเทศนั้น ผู้ประกอบการต้องเสียค่าธรรมเนียมการขอใช้เครื่องหมาย Trustmark ในอัตราที่ค่อนข้างสูง

โครงการ Trustmark จะเป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ คือ แสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ และมีแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจที่ดี ผ่านการรับรองจากกรมฯ และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างความแตกต่างและสร้างศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งช่วยขยายโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ๆ ให้กับสินค้าและบริการได้

ในส่วนของผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ คือ เมื่อใช้บริการของเว็บไซต์ที่เข้าร่วมโครงการ Trustmark แล้ว มั่นใจว่าเป็นเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ โดยจะมีเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์คำว่า “Verified” รับรองความน่าเชื่อถือปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นั้นๆ และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Trustmark จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กรมฯ ระบุไว้ หากมีข้อพิพาท หรือประสบปัญหา ผู้บริโภคสามารถติดต่อหรือร้องเรียนมายังกรมฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้

ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Trustmark ได้ ผ่านทางเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงผู้สมัครอัพโหลดเอกสารประกอบการสมัครผ่านหน้าเว็บฯ จากนั้นจะสามารถทราบผลการสมัครทางอีเมล์ภายใน 20 วันทำการ หากเว็บไซต์นั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์ “Verified” เพื่อนำไปแสดงบนหน้าเว็บไซต์ และผู้สมัครจะต้องทำการต่ออายุเครื่องหมายทุก ๆ 1 ปี

สำหรับปัจจุบัน การทำธุรกรรมผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง และมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ซึ่งดูได้จากสถิติพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยในปี 2549 พบว่ามีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 305,159 ล้านบาท เป็นการซื้อขายออนไลน์จากทางภาครัฐผ่านระบบ e-auction ประมาณ 176,683 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57.9 ตามด้วยการซื้อขายสินค้าแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B to B) ประมาณ 79,726 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.1

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายสินค้าธุรกิจกับผู้บริโภค (B to C) มีเพียง 47,501 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.6 เท่านั้น ซึ่งตัวเลขมูลค่าการซื้อขายของ B to C นี้ ยังขยายตัวได้อีกมากหากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการซื้อหรือขายสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต

Company Related Links :
Trustmark

อใดเป็นเครื่องหมายแสดงความน่าเชื่อถือ (Trustmark)

กำลังโหลดความคิดเห็น

เครื่องหมายTrustแสดงถึงอะไร

หมายถึง เครื่องหมายที่หน่วยงานหรือองค์กรซึ่งอาจเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชนที่ทำหน้าที่รับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจทางอินเทอร์เน็ต ได้ตราให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจทางอินเตอร์เน็ท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการทางเว็บไซต์ และ สร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้ประกอบการธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตว่าได้ ...

หลักเกณฑ์ Trustmark มีกี่ข้อ

หลักเกณฑ์ Trustmark. ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ 8 ข้อ ได้แก่ 1. ความโปร่งใสของผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(Operational Transparency) เว็บไซต์ของท่านต้องมีข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็น เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ วิธีการติดต่อ ฯลฯ