อยากลงทุนแต่กังวลเรื่องความเสี่ยง แต่ถ้าคุณไม่ลงทุนเลยอาจจะเสี่ยงมากกว่า เพราะว่าเงินเฟ้อจะทำให้มูลค่าเงินในมือของคุณลดลงในทุกๆ ปี แล้วควรลงทุนอะไรดีที่ความเสี่ยงน้อยแต่ได้มาก ลองมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย Show
ลงทุนอะไรดีความเสี่ยงน้อยแต่ได้มากเมื่อพูดถึงการลงทุนหลายคนอาจนึกถึงการทำธุรกิจ เปิดพอร์ตหุ้น ไปจนถึงการซื้อสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร แต่เมื่อเรามีการระบุชัดถึงความเสี่ยงทิศทางของคำตอบมักเอนเอียงมาทาง “กองทุนรวม” กองทุนรวมเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะนอกจากมีความเสี่ยงที่หลากหลายให้ผู้ลงทุนได้เลือกแล้วกองทุนต่างๆ ยังได้รับการดูแลจากมืออาชีพด้านการลงทุนช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องศึกษาในเชิงลึกเองอีกด้วย 3. กองทุนรวมที่มีการลดหย่อนภาษีหากพูดถึงการลงทุนที่ “เสี่ยงน้อยแต่ได้มาก” กองทุนประเภทสุดท้ายเห็นจะไม่พ้นกองทุนที่มีการลดหย่อนภาษี อย่าง SSF และ RMF ที่นอกจากจะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้อีกด้วย กองทุนที่น่าสนใจ KFGBRANSSF กองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นพื้นฐานแข็งแรงทั่วโลก ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Fund ทำให้ KFGBRANSSF เป็นอีกหนึ่งกองทุนมาแรงที่มีคุณสมบัติทั้งการเติบโตอย่างมีคุณภาพและการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี จึงเหมาะสำหรับการลงทุนน้อยแต่ได้มากจริงๆ ข้อควรรู้ก่อนการลงทุนสำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน หรือเพิ่งจะลงทุนไปได้ไม่นาน เราขอแนะนำข้อควรรู้ก่อนที่จะเริ่มลงทุนเพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการขาดทุน โดยมีหลัก 3 ประการดังนี้
ปรับพอร์ตสม่ำเสมอ เทคนิคสำคัญในการลงทุนน้อยแต่ได้มากขึ้นเทคนิคสำคัญสำหรับการลงทุนน้อยแต่ได้มากคือการปรับพอร์ตอย่างเหมาะสม แม้ว่าจะเป็นการลงทุนระยะยาวนักลงทุนก็ควรปรับพอร์ตทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสอบมูลค่า ประสิทธิภาพในการทำกำไร และปรับเปลี่ยนการซื้อขายต่างๆ ให้เหมาะสมกับช่วงเวลานั้นๆ มากที่สุด สรุปแม้การลงทุนในกองทุนข้างต้นอาจมีความเสี่ยงน้อย แต่ผู้ลงทุนทุกคนควรคำนึงอยู่เสมอว่า “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง” แม้จะเป็นการลงทุนที่มั่นคงก็อาจมีเหตุให้ขาดทุนได้อยู่ดี ดังนั้นควรมีการวางแผนและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ เชื่อว่าเหตุผลที่ทำให้คนรุ่นใหม่วัยเพิ่งเริ่มทำงานหันมาสนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้นนั้นเนื่องจากต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเองในวัยเกษียณ ซึ่งแน่นอนว่าการออมเงินในธนาคารอย่างเดียวอาจไม่พอต่อความต้องการในอนาคต ดังนั้นการลงทุนจึงเป็นหนึ่งในวิธีการวางแผนการเงินที่คนอยากมีชีวิตดีๆ ในช่วงบั้นปลายควรรีบลงมือทำ อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญที่หลายคนยังลังเลไม่กล้าที่นำเงินที่มีอยู่ไปลงทุน เพราะขาดความรู้เกี่ยวกับประเภทของการลงทุน การลงทุนระยะสั้น หรือการลงทุนระยะยาวมีอะไรบ้าง จึงทำให้ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นลงทุนอย่างไรดี
1. การลงทุนตราสารหนี้ หรือการลงทุนระยะสั้นการลงทุนตราสารหนี้ คือ การลงทุนที่นักลงทุนอยู่ในสถานะเจ้าหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้ โดยได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยและรับเงินลงทุนคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา สำหรับระยะเวลาการลงทุนจะขึ้นอยู่กับชนิดของตราสารหนี้ แต่รวมแล้วจะเป็นการลงทุนระยะสั้น อย่างตั๋วเงินคลังมีอายุไม่เกิน 365 วัน ตั๋วเงินธนาคารแห่งประเทศไทยมีอายุไม่เกิน 365 วัน หุ้นกู้เอกชนระยะสั้นมีอายุไม่เกิน 270 วัน ทำให้ตราสารหนี้ระยะสั้นจัดในกลุ่มประเภทของการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนอยู่ที่ 2 – 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ถึงอย่างนั้นนอกจากผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยแล้ว นักลงทุนสามารถค่าตอบแทนจากการซื้อขายตราสารหนี้ได้ด้วย ประโยชน์จากการลงทุนตราสารหนี้
ความเสี่ยงจากการลงทุนตราสารหนี้
2. การลงทุนในพันธบัตร/ หุ้นกู้ หรือการลงทุนระยะยาวการลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้คือ การลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี จัดอยู่ในกลุ่มประเภทของการลงทุนระยะยาว มีลักษณะการลงทุน ผลตอบแทน และความเสี่ยงต่ำคล้ายกับตราสารหนี้ระยะสั้น โดยนักลงทุนที่ครอบครองพันธบัตรหรือหุ้นกู้จะได้รับดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นจากผู้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้เมื่อครบสัญญา แต่ สำหรับการลงทุนประเภทนี้หากเป็นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจจะเรียกว่าพันธบัตรรัฐบาล ได้รับผลดอกเบี้ยเฉลี่ยปีละประมาณ 3% แต่ถ้าเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยเอกชนจะเรียกว่าหุ้นกู้ ได้รับผลตอบแทนขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทเอกชนที่เป็นเจ้าของหุ้นกู้ แต่ส่วนใหญ่จะสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุสัญญาใกล้เคียงกัน จ่ายผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยปีละ 2 – 4 ครั้ง ประโยชน์จากการลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้
ความเสี่ยงจากการลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้
3. การลงทุนในหุ้นการลงทุนในหุ้นคือ การลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนจะเป็นผู้ตัดสินใจซื้อขายด้วยตัวเองผ่านบัญชีหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์ โดยปัจจุบันบัญชีหุ้นมีด้วยกันทั้งสิ้น 3 ประเภท ได้แก่ บัญชีวางเงินล่วงหน้า บัญชีเงินสด และบัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ สำหรับผลตอบแทนจะอยู่ในรูปของเงินปันผลจากกำไรการดำเนินการของบริษัทและส่วนต่างที่ได้จากการซื้อขายหุ้น แต่ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความผันผวนของความต้องการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และระยะเวลาในการลงทุน ทำให้การลงทุนในหุ้นถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเภทของการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ประโยชน์จากการลงทุนในหุ้น
ความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น
4. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คือ การลงทุนในทรัพย์สินประเภทที่ดิน บ้าน คอนโดมิเนียม ทาวน์โอม อาคารสำนักงาน โกดัง ใบจองอสังหาริมทรัพย์ หรือหน่วยลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ โดยสามารถสร้างผลตอบแทนได้หลากหลายแบบ ทั้งปล่อยเช่ารายวัน ปล่อยเช่ารายเดือน สร้างบ้านมือหนึ่งขาย ซื้อบ้านเก่ามาซ่อมแซมเพื่อขายต่อ ซื้อขายใบจองอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนในกองทุนหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเหตุนี้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจึงขึ้นอยู่กับประเภทของการลงทุน อย่างในกรณีลงทุนสร้างบ้านมือหนึ่งขายจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 80 – 100 เปอร์เซ็นต์ต่อการขาย การลงทุนในกองทุนได้รับผลตอบแทนที่ 6 – 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลตอบแทน 2 – 4 เปอร์เซ็นต์ต่อการขาย ในขณะที่การปล่อยเช่าได้รับผลตอบแทนสูง 8 – 12 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ประโยชน์จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ความเสี่ยงจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
5. การลงทุนในของมีค่าสำหรับการลงทุนในของมีค่าถือเป็นอีกหนึ่งประเภทของการลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะสร้างผลตอบแทนในอนาคตแล้ว ยังตอบโจทย์ความชอบส่วนตัวของนักลงทุนด้วย สำหรับของมีค่าที่นิยมสะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนมีดังนี้ การลงทุนในทองคำการลงทุนในทองคำคือ การลงทุนกับสินทรัพย์ประเภททองคำเพื่อรับผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาซื้อขาย โดยผลตอบแทนเฉลี่ยจะขึ้นอยู่กับราคาทองคำในประเทศและตลาดโลกในแต่ละปี นอกจากนั้นยังมีการลงทุนในกองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอีทีเอฟทองคํา (Gold ETFs) และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเงินลงทุนน้อย แต่ต้องการผลตอบแทนสูง ประโยชน์จากการลงทุนในทองคำ
ความเสี่ยงจากการลงทุนในทองคำ
การลงทุนในค่าเงินการลงทุนในค่าเงินคือ การลงทุนกับการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของสกุลเงินต่างๆ ผลตอบแทนได้จากส่วนต่างของการซื้อขายค่าเงิน สำหรับสกุลเงินที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินยูโร สกุลเงินเยน สกุลเงินปอนด์ สกุลเงินฟรังก์สวิส สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ประโยชน์จากการลงทุนในค่าเงิน
ความเสี่ยงจากการลงทุนในค่าเงิน
การลงทุนในสินค้าพลังงานการลงทุนในสินค้าพลังงานคือ การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องพลังงานสะอาด อย่างกลุ่มพลังงานทางเลือกพลังงานหมุนเวียน รถยนต์ไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง สำหรับนักลงทุนทั่วไปสามารถลงทุนโดยการซื้อหุ้นหรือกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาธุรกิจด้านพลังงาน ประโยชน์จากการลงทุนในสินค้าพลังงานเป็นธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของภาครัฐของทุกประเทศทั่วโลก ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ความเสี่ยงจากการลงทุนในสินค้าพลังงาน
การลงทุนในค่าเงินดิจิตอลการลงทุนในค่าเงินดิจิตอลคือ การลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลที่พัฒนาจากอัลกอลิทึม มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิตอลจะขึ้นอยู่กับความต้องการของนักลงทุน ถ้าสกุลเงินดิจิตอลใดเป็นที่ต้องการมากก็จะยิ่งมีราคาสูง จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเภทของการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ปัจจุบันมีมากกว่า 10,000 สกุล สุกลเงินที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก ได้แก่ Bitcoin สำหรับวิธีสร้างผลตอบแทนทำได้หลากหลายวิธีทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว ทั้งการถือสกุลเงินเพื่อทำกำไรในระยะยาว การเทรดซื้อขายระยะสั้นทำกำไรจากราคาขึ้นลงรายวัน การเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิตอลเพื่อรับดอกเบี้ย การฝากใน Liquidity Pool เพื่อรับผลตอบแทนรูปแบบต่างๆ การขุด Bitcoin และรับเหรียญแจกฟรีจากการทำกิจกรรม ประโยชน์จากการลงทุนในค่าเงินดิจิตอล
ความเสี่ยงจากการลงทุนในค่าเงินดิจิตอล
การลงทุนในของสะสมการลงทุนในของสะสมคือ การลงทุนกับสิ่งของที่มีมูลค่า อย่างรถยนต์ นาฬิกา พระเครื่อง เหรียญที่ระลึก พระเครื่อง ภาพวาด เครื่องประดับ เครื่องดื่ม ของเก่า โดยผลตอบแทนมาจากส่วนต่างของราคาซื้อขาย ประโยชน์จากการลงทุนในของสะสม
ความเสี่ยงจากการลงทุนในของสะสม
การลงทุนระยะยาวมีอะไรบ้างการลงทุนระยะยาวมีอะไรบ้าง? และการลงทุนระยะยาวคืออะไร? การลงทุนที่มีการวางแผนสร้างผลตอบแทนเพื่อบรรลุเป้าหมายในระยะยาว อย่างการซื้อทรัพย์สินที่มีราคาแพงหรือสะสมความมั่งคั่งสำหรับชีวิตเกษียณที่มีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบและลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อสะสมผลตอบแทนต่อเนื่อง สำหรับประเภทของการลงทุนระยะยาวมีดังนี้
ประโยชน์จากการลงทุนระยะยาวเนื่องด้วยเป็นการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว จึงทำให้ได้ผลตอบแทนมากกว่า อีกทั้งยังเสี่ยงขาดทุนน้อยกว่าการลงทุนระยะสั้น เพราะนักลงทุนให้ความสนใจกับผลตอบแทนสุดท้ายมากกว่าความผันผวนทางการเงินที่เกิดขึ้นในระหว่างลงทุน ความเสี่ยงจากการลงทุนระยะยาวสินทรัพย์ที่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ต้องใช้เวลาสะสมผลตอบแทนนาน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ประจำหรือคนที่มีเงินเก็บ การลงทุนระยะสั้นมีอะไรบ้างการลงทุนระยะสั้นคือ การลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะสั้นไม่เกิน 3 เดือน - 3 ปี แต่ก็มีสินทรัพย์หลายชนิดที่สามารถทำกำไรแบบวันต่อวันได้เช่นกัน สำหรับประเภทของการลงทุนระยะยาวมีดังนี้
ประโยชน์จากการลงทุนระยะสั้นการลงทุนระยะสั้นเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงในเวลาสั้น ทำให้นักลงทุนมีสภาพคล่องทางการเงินสูงกว่าการลงทุนระยะยาว ความเสี่ยงจากการลงทุนระยะสั้นการลงทุนระยะสั้นมีความผันผวนทางการเงินสูง นักลงทุนจึงต้องศึกษา ติดตามปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และประเมินความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา
การลงทุนระยะยาว หรือระยะสั้น ดีกว่ากันนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังศึกษาประเภทของการลงทุน มั่นใจว่าหลายคนคงสงสัยว่าการลงทุนระยะสั้น การลงทุน ระยะยาวมีอะไรบ้าง และควรเริ่มจากการลงทุนระยะยาวหรือระยะสั้นดีกว่ากัน สำหรับคำตอบคือ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคล กรณีที่มีการกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนเพื่อเป้าหมายหรือเงินก้อนใหญ่ การลงทุนระยะยาวจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะมีเวลาในการสะสมผลตอบแทนอย่างมั่นคง แต่ถ้าต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงินในชีวิตประจำวัน การลงทุนระยะสั้นเหมาะสมมากกว่า
จากข้อมูลการลงทุนจะเห็นได้ว่าการลงทุนมีหลายประเภท อย่างไรก็ตามหากให้แบ่งง่ายๆ สามารถแบ่งได้การ ลงทุนระยะสั้น เหมาะกับคนที่ต้องการผลตอบแทนในช่วงเวลาสั้น และการลงทุนระยะยาว เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนทางการ แต่ไม่ว่าจะเลือกลงทุนแบบไหน สิ่งสำคัญคือ ต้องศึกษาการลงทุนอย่างละเอียด ต้องรู้ว่าการลงทุนระยะยาวมีอะไรบ้าง และการลงทุนระยะสั้นมีอะไรบ้าง รวมทั้งความเสี่ยงของการลงทุนแต่ละแบบ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการขาดทุนมากขึ้น |