กินอะไรช่วยลดอาการปวดท้องประจําเดือน

ปวดประจำเดือน อาการที่สุดแสนจะทรมานของลูกผู้หญิง แต่ก็รับมือได้ง่าย ๆ แค่กิน 7 อย่างนี้เอง

เรื่องที่น่าปวดใจในแต่ละเดือนของสาว ๆ ก็คงหนีไม่พ้นการปวดท้องช่วงมีประจำเดือนใช่ไหมล่ะคะ แถมยังเป็นเรื่องธรรมชาติที่เลี่ยงไม่ได้อีกต่างหาก แต่ถ้าจะให้กินยาแก้ปวดทุกเดือนเลยก็น่าสงสารร่างกายอยู่นะคะ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอแนะนำสิ่งที่ควรกินเพื่อลดอาการปวดประจำเดือนมาฝากค่ะ บอกเลยว่าช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี แถมยังปลอดภัยไม่เป็นอันตรายสะสมในร่างกายด้วย

1. ชาคาโมมายล์

ในชาคาโมมายล์มีคุณสมบัติแก้อักเสบและแก้อาการปวดเกร็งอยู่แล้ว ซึ่งหากดื่มเข้าไปในช่วงที่ปวดประจำเดือน ก็จะช่วยบรรเทาให้อาการทุเลาลงได้ดีทีเดียว แถมการดื่มชาคาโมมายล์ร้อน ๆ ยังช่วยให้รู้สึกรีแล็กซ์ด้วยนะ

2. แมกนีเซียม

พวกอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงทั้งหลาย เช่น เนื้อปลา ผักใบเขียว และดาร์กช็อกโกแลต ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่ช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี เพราะแมกนีเซียมช่วยป้องกันการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกปวดท้องช่วงเป็นประจำเดือนนั่นเอง

3. ขิง

ขิงนี่แหละเป็นสมุนไพรที่ควรค่าแก่การกินตอนมีประจำเดือนเลย เพราะมันทั้งช่วยบรรเทาอาการปวด และยังช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดระหว่างเป็นประจำเดือนด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนและท้องเสียที่สาว ๆ บางคนอาจจะเป็นระหว่างวันแดงเดือดได้

4. โหระพา

ในใบโหระพามีกรดคาเฟอิกที่เป็นเสมือนยาบรรเทาอาการปวดอยู่ ซึ่งหากปวดประจำเดือนมาก ๆ แทนที่จะพึ่งยาเม็ดอย่างที่เคย ก็ลองนำใบโหระพาสัก 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำร้อน 1 ถ้วย ปิดให้สนิทแล้วทิ้งไว้จนกว่าจะเย็น แล้วดื่มทุก ๆ ชั่วโมงเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน หรือจะใส่ใบโหระพาสด ๆ ลงบนอาหารจานโปรดก็เป็นไอเดียที่ดีนะคะ

5. อบเชย

อบเชยมีคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบและการหดเกร็ง ฉะนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะนำมากินเวลามีประจำเดือนเลยแหละ แค่นำผงอบเชย 1-4 ช้อนชา มาผสมกับน้ำร้อน 1 ถ้วย คนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย นำมาจิบสัก 1-2 วัน ก่อนประจำเดือนมา พอถึงวันประจำเดือนมาจริงก็จะไม่รู้สึกปวดท้องอย่างที่เคย

6. กรดไขมันโอเมก้า 6

รู้หรือไม่ว่ากรดไขมันโอเมก้า 6 เป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อร่างกายของผู้หญิงเลย เพราะมันสามารถช่วยลดอาการปวดช่วงมีประจำเดือนได้เป็นอย่างดีเลยแหละ สำหรับกรดไขมันโอเมก้า 6 จะอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส หรือถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ นั่นเอง

7. มะละกอ

สาว ๆ คนไหนชอบกินมะละกอนับว่าโชคดีสุด ๆ เพราะมะละกอนี่แหละเป็นผลไม้ที่ช่วยแก้อาการปวดท้องประจำเดือนได้ แถมยังมีสารอาหารเพียบทั้ง แคโรทีน เหล็ก แคลเซียม วิตามินเอและซี ที่ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ แค่กินมะละกอเข้าไปเยอะ ๆ ก่อนเป็นประจำเดือน เวลาเป็นก็จะได้ไม่ต้องทรมานกับอาการปวดท้องไงล่ะ

งานนี้สาว ๆ ที่ปวดท้องประจำเดือนทุกเดือนคงเฮกันแล้วล่ะสิ เพราะต่อไปก็ไม่ต้องร้องโอดโอยหรือใช้ถุงน้ำร้อนประคบในวันแดงเดือดอีกแล้ว

ประคบร้อน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึง มีการผ่อนคลาย ลองประคบกระเป๋าน้ำร้อนครั้งละ 3-5 นาที แล้วจะรู้สึกว่าอาการปวดท้องดีขึ้น วิธีนี้ มีการวิจัยว่า สามารถลดอาการปวดได้ดีพอๆกับการกินยาแก้ปวด หากไม่มีกระเป๋าน้ำร้อน จะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนแทนก็ได้
การเล่นกีฬา เช่น วิ่งจ็อกกิ่ง ว่ายน้ำ เดิน ช่วยให้ผ่อนคลาย คลายเครียด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3ครั้งต่อสัปดาห์ หรือการทำโยคะ จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
การดื่มน้ำอุ่นๆ 6-8 แก้ว/วัน ลดอาการท้องอืด ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น หรือจะผสมใบมินท์ หรือมะนาวซักเล็กน้อย จะยิ่งช่วยได้มาก
น้ำขิง ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ ขิงมีส่วนช่วยลดการหลั่งสาร Prostaglandins ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มดลูกบีบตัวทำให้เกิดการปวดประจำเดือน ทานน้ำขิงเพียง 1-2 แก้วต่อวันจะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
เลี่ยงบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เพิ่มความเสี่ยงในการปวดประจำเดือนได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง
พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความตึงเครียดของร่างกายและสมอง หาเวลานอนหลับให้ได้อย่างน้อย วันละ 6 ชั่วโมง
การแต่งตัว ควรใส่เสื้อผ้าที่หลวมๆ ไม่ควรใส่แบบรัดรูป เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด ยิ่งปวดแน่นท้องมากขึ้น
การใช้วิตามินเสริมบางอย่าง สามารถลดอาการปวดประจำเดือนได้ เช่น วิตามิน B1, B12, วิตามิน E, fish oil หรือ Magnesium อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาเพียงพอในการใช้วิตามินเสริมเหล่านี้ จึงแนะนำให้การกินอาหารที่มีประโยชน์ ได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ครบถ้วน
รับประทานอาหาร low fat เพิ่มการทานผัก Anti-Inflammatory food หรืออาหารที่ช่วยต่อต้านการอักเสบ เช่น เชอรี่ บลูเบอรี่ มะเขือเทศ พริกหยวก ก็ช่วยลดการปวดได้ แถมยังมีวิตามินสูงด้วยนะคะ ️

ถ้าหากลองใช้วิธีต่างๆเหล่านี้ ร่วมกับการกินยาแก้ปวดแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น, ปวดประจำเดือนมากขึ้นทุกเดือน หรือมีประจำเดือนมากร่วมด้วย นั่นเป็นสัญญาณเตือนแล้ว ให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัดจะดีที่สุด