ห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยควรมีวัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการรู้หนังสือที่มีคุณภาพ เด็กที่ได้อยู่ในห้องเรียนที่มีวรรณกรรมสำหรับเด็กที่มีคุณภาพมีแนวโน้มที่จะรักการอ่าน และการอ่านวรรณกรรมที่ดีจะกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตในอนาคตของเด็ก อีกทั้งยังเป็นส่วนที่กระตุ้นให้เด็กมีความต้องการอ่านบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในการเรียนในระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้วัสดุอุปกรณ์ที่ควรมีในห้องเรียนได้แก่วรรณกรรมสำหรับเด็กที่มีความหลากหลายในด้านของผู้แต่ง และผู้วาดภาพประกอบ มีระดับความยากแตกต่างกัน มีวัสดุที่ใช้สำหรับการอ้างอิง ประกอบด้วยพจนานุกรม แผนที่ บัญชีคำศัพท์ และสารานุกรม นิตยสารสำหรับเด็ก นอกจากนี้ครูควรจัดให้มีสื่อสำหรับการเขียนทั้งกระดาษที่ไม่มีเส้น และมีเส้นหลายสี หลายแบบ หลายขนาด กระดาษบันทึกเล็กๆ ซองจดหมาย ดินสอ ปากกา สีชนิดต่างๆ เครื่องเหลาดินสอ ตรายางและแท่นประทับ นอกจากนี้ยังอาจจัดสื่อสำหรับการเย็บกระดาษ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเย็บกระดาษ ที่เจาะกระดาษ เชือก กาว เทปใส กระดาษกาว คลิปหนีบกระดาษ กรรไกร เป็นต้น โดยควรจัดวางให้เด็กสามารถเลือกหยิบใช้และนำมาเก็บคืนได้ด้วยตนเองด้วย Show
(คำถามที่ 2-12) ที่มา: วรรณวิไล พันธุ์สีดา. (2549). ผลงานทางวิชาการ ก้าวสู่วิทยฐานะ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: อี เค บุคส์. กิจกรรมที่ 1: กำหนดชื่อเรื่อง และวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ - ศึกษาตัวอย่างหลักสูตรสถานศึกษา ตัวอย่างการตั้งชื่อหน่วย และศึกษาจากคู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (สำหรับเด็กอายุ ๓ - ๕ ปี) ฝึกปฏิบัติ วิเคราะห์สาระการเรียนรู้ (จำแนกเป็น สาระที่ควรเรียนรู้ ได้แก่ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก บุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก ธรรมชาติรอบตัว และสิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก และ ประสบการณ์สำคัญ ได้แก่ ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา) กิจกรรมที่ 2: กำหนดกิจกรรมประจำวันลงในตารางกิจกรรมประจำวัน - ศึกษาตัวอย่างการจัดตารางกิจกรรมประจำวันของโรงเรียนต่างๆ เช่น - ควรทำเข้าใจนิยามศัพท์ เกี่ยวกับ ศาสตร์การสอน (ทฤษฎีการสอน หลักการสอน รูปแบบการสอน วิธีสอน เทคนิคและทักษะการสอนต่างๆ) แล้วนำไประบุไว้ในตารางกิจกรรมประจำวัน - ควรเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ "การจัดประสบการณ์แบบต่างๆ" และ วิธีสอน เริ่มต้นจาก เอกสาร “14วิธีสอนสำหรับครูมืออาชีพ” และ ศึกษาเทคนิคการสอน โดยเน้นทักษะการใช้คำถามเพื่อเสริมต่อการเรียนรู้
- ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับ การใช้แผนที่ความคิด/ผังความคิด ผังมโนทัศน์/ผังความคิดรวบยอด
- นิยมใช้แบบนำทางมากกว่าปลายทาง - ศึกษาเพิ่มเติม เอกสาร “คุณลักษณะตามวัยของผู้เรียน” “สาระการเรียนรู้” และ “ประสบการณ์สำคัญ” จาก คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย กิจกรรมที่ 4: การเขียนสาระสำคัญหรือความคิดรวบยอด
- ควรเขียนในลักษณะที่สั้น-ง่าย-ใจความเดียว - เขียนแบบ 3ค. “คือ-ควร-คุณค่า” - เขียนสัมพันธ์กับจุดประสงค์และเนื้อหา การเขียนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม นอกจากการศึกษาเอกสารที่ให้ไปแล้ว นักศึกษาสามารถใช้แบบฝึกปฏิบัติเขียนแผนฯ ต่อไปนี้ (ตอบคำถาม 2 และ 3) แม้จะเป็นการฝึกเขียนแผนฯ ระดับอื่นที่ไม่ใช่ปฐมวัย ก็ประยุกต์ใช้ได้ เนื่องจากมีจุดประสงค์ทางการศึกษาเช่นเดียวกัน คือ ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ 3 ด้าน ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และ เจตคติ หรือคุณลักษณะที่พึงประสงค์ กิจกรรมที่ 5: การเขียนประสบการณ์สำคัญ เลือกรายการในตารางซึ่งเป็นรายละเอียดของประสบการณ์สำคัญทั้งหมดจากหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย แล้วนำมาเขียนลงในตารางสรุป ทั้งนี้ ต้องระบุกิจกรรมให้มีความสัมพันธ์กับเนื้อหาของหน่วยที่สอนอย่างชัดเจน - ศึกษาเอกสาร “สาระการเรียนรู้” และ “ประสบการณ์สำคัญ” จาก คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย กิจกรรมที่ 6: การเขียนประสบการณ์เดิมของผู้เรียน
- รูปร่าง/ลักษณะ (สี/น้ำหนัก/ผิวหนัง / อวัยวะต่างๆ เช่น ตา หู จมูก แขน ขา ฯลฯ)
กิจกรรมที่ 7: การเลือกกิจกรรมและการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (ต่อเนื่องจาก กิจกรรมที่ 2 การระบุวิธีสอน และเทคนิคการสอน) > การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย > การจัดสภาพแวดล้อม(ทางกายภาพและจิตภาพ) เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย
>> นักศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ กระบวนการสอน = กระบวนการจัดประสบการณ์ และ พิจารณาเลือกวิธีสอน กิจกรรมที่ 8: ก่อนเขียนแผนการจัดประสบการณ์ ต้องเข้าใจส่วนประกอบของแผนฯ ว่ามีอะไรบ้าง แต่ละหัวข้อมีวิธีเขียนอย่างไร - ศึกษารายละเอียดจากเอกสาร และ power point นักศึกษาสามารถใช้แบบฝึกปฏิบัติเขียนแผนฯ ต่อไปนี้ [ ทำแบบตรวจสอบเครื่องมือประเมินผลของหน่วยที่จะสอน ]
นอกจากการศึกษาเอกสารดังกล่าวแล้ว นักศึกษาสามารถฝึกเขียนสาระสำคัญหรือความคิดรวบยอดจากแบบฝึกปฏิบัติเขียนแผนฯ ต่อไปนี้ คำถามที่ 11 เพื่อศึกษาวิธีเขียนสาระสำคัญของผู้เรียนชั้นประถมศึกษา เปรียบเทียบกับระดับชั้นปฐมวัย ซึ่งจะมีผลให้การเชื่อมต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นไปอย่างราบรื่น
|