งานขายแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

2.1ประเภทของงานขาย
            การแบ่งประเภทของงานขายนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการแบ่งว่าจะยึดสิ่งใดเป็นเกณฑ์โดยทั่วไปงานขายแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
2.1.1 งานขายที่แบ่งตามระบบการจัดจำหน่าย สามารถแยกออกได้ 2 ประเภท คือ

  1.ระบบการขายตรง (Direct Sales) คืองานที่จัดจำหน่ายสินค้าและบริการจากผู้ผลิตให้แก่ผู้บริโภโดยตรงไม่ใช่พ่อค้าคนกลางหรือตัวแทนจำหน่ายใดๆ

    1.1 การขายสินค้าตามบ้าน (Door to Door Selling) คือการที่พนักงานขายสินค้าจะไปขายสินค้าให้กับผู้บริโภคถึงบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทของใช้ เช่น ผงซักฟอก ยาสีฟัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง งายขายประเภทนี้พนักงานขายจะต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีด้วย
    1.2 การขายโดยทางไปรษณีย์ (Mail Selling) โดยผู้ขายจะส่งภาพตัวอย่างสินค้าไปให้ลูกค้าสั่งซื้อทางไปรษณีย์ หรือลงโฆษณาสินค้าทางนิตยสาร หนังสือพิมพ์ พร้อมแบบฟรอร์มสั่งซื้อเพื่อให้ลูกค้ามาสั่งซื้อ สำหรับต่างประเทศจะนิยมส่งจดหมายไปยังลูกค้าที่บ้าน เพราะเป็นวิธีการขายที่เสียค่าใช็จ่ายน้อย และมีขอบเขตการขายได้กว้างขวาง
     1.3 การขายโดยใช้โทรศัพท์ (Telephone Selling) ความก้าวหน้าทางด้านการติดต่อสื่อสารทำให้พนักงานขายส่วนมากใช้การติดต่อทางโทรศัพท์กับลูกค้าโดยติดต่อเพื่อเสนอขายสินค้าของตน ซึ่งผู้สนใจก็จะสามารถสั่งซื้อได้
     1.4การขายที่แหล่งผลิต (Manufacturer Selling) มักจะเป็นสินค้าที่ผู้ผลิตจำหน่ายเอง เช่น ร้านตัดรองเท้า ร้านขายขนมหวาน เป็นต้น
     2 ใระบบผ่านตัวแทนคนกลาง (Middleman Sales) คือการขายที่ผู้ผลิตไม่ได้ขายสินค้าให้ผู้บริโภคโดยตรง แต่จะมีตัวแทนจำหน่าย ผู้ค้าส่งหรือผู้ค้าปลีกเข้ามาเป็นคนที่รับสินค้าจากผู้ผลิตมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคอีกต่อหนึ่ง
     2.1พ่อค้าคนกลาง (Merchant Middleman) เป็นพ่อค้าที่มีกรรมสิทธิ์ในตัวสินค้า ซึ่งสามารถตั้งราคาขายได้ ได้แก่ ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก เช่น บรืษัทผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะขายสินค้าไปยังร้านขายส่งหรือร้านขายปลีก (ห้างสรรพสินค้า) เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคคนสุดท้ายต่อไป
     2.2 ตัวแทนค้นกลาง (Agent Middleman) เป็นตัวแทนของผู้ผลิต ไม่มีกรรมสิทธิ์ในตัวสินค้ามีหน้าที่จัดส่งสินค้า ได้แก่ นายหน้า หรือตัวแทนจำหน่าย ตัวอย่างเช่น บรษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังขายสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายแต่ล่ะเขต จากนั้นผู้ค้าส่งมารับสินค้าจากตัวแทนจำหน่ายเขตนั้นไปขายให้กับร้านค้าปลีก ก่นนที่จะขายให้แกผู้บริโภคคนสุดท้าย


งานขายแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง


รูปที่ 2.1 แสดงการจัดจำหน่ายสินค้าผู้บริโภค


2.1.2 งานขายที่แบ่งตามลักษณะงาน แยกเป็น 2 ประเภทย่อย
      1.งานขายที่ใช้พนักงานขาย (Personal Selling)  คืองานขายที่ให้พนักงานไปเสนอขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าโดยตรง งานชายประเภทนี้จัดเป็นงานขายที่สำคัญที่สุด และยังเป็งานที่ต้องสัมพันธ์กับกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายของกิการนั้นๆ งานขายที่ใช้พนักงานขายนี้แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
   1.1 งานขายปลีก (Retail Selling) คือการขายสินค้าหลากหลายชนิดในเวลาพร้อมๆกันเป็นการขายในปริมานน้อยให้กับลููกค้าที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึงถือเป็นผู้บริโภคคนสุดท้าย ได้แก่ ร้านขายของชำ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
   1.2 งานขายส่ง (Wholesales Selling) คือการขายสินค้าให้กับคนกลางต่างๆ เช่น ตัวกลางประเภทร้านค้าปลีก เพื่อนำสินค้านั้นไปขายต่อให้กับผู้บริโภคโดยกิจการร้านขายส่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรจาการขายสิ้นค้าให้แก่คนกลาง สิ้นค้าที่นำมาขายส่งนั้นมีมากมายหลายชนิดส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เครื่องแต่งตัว อุปกรณ์การเรียน เครื่องใช้สำนักงาน รวมทั้งสินค้าฟุ่มเฟื่อยที่สร้างความสุขทางใจ เช่น เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เป็นต้น
   1.3 งานขายด้านอุตสาหกรรม (Industrial Selling) คือการขายสินค้าให้กับหน่วยงานองค์กร โรงงานอุตสาหกรรม และกิจการธุรกิจต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบ เครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในกิจการเหล่านั้น เช่น ขายเครื่องพิมพ์ และกระดาษให้กับโรงพิมพ์ ขายเครื่องตอมพิวเตรอร์ให้แก่ธนาคาร และกิจการทางธุรกิจต่างๆ ขายอุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลหรือขายเหล็กให้แก่โรงงานผลิตรถยนต์ เป็นต้น
      2. งานขายที่ไม่ใช้พนักงานขาย (Non-Personal Selling) คืองานขายที่ไม่ต้องใช้บุคคลไปติดต่อเพื่อเสนอขาย แต่จะใช้เทคนิควิธีการอื่นนๆ เพื่อนำเสนอแก่ลูกค้าแทน วิธการที่นิยมใช้กันในกิจกรรมทางธุรกิจมีหลายประการเช่น
   2.1 การโฆษณา (Advertising) งานขายจะใช้วิธีการโฆษณาประชาสัมพันธ์หลากหลาย วิธีที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นการใชสื่อมวลชนซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก เช่น การโฆษณาในหนังสื่อพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ วิทยุ ป้ายโฆษณาตามที่สาธารณะต่างๆ แผ่นผับ แค็ตตาล็อค เป็นต้น
   2.2 การจัดนิทรรศการหรือการจัดแสดงสินค้า (Display) เป็นงานที่ไม่ต้องใช้พนักงานขายแต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงสินค้าให้ลูกค้าได้ทราบข้อมูลอละเห็นรูปลักษณ์ของสินค้า การจัดแสดงสินค้าจะต้องให้เป็นที่สนใจและน่าดึงดูดลูกค้าให้มากที่สุด เพราะถ้าหากลูกค้าสนใจในตัวสินค้าก็จะเข้าไปติดต่อสอบถามขอชมสินค้าและบริการ อันจะทำให้เกิดความต้องการและตัดสินใจซื้อสินค้าในเวลาต่อม
   2.3 การส่งเสริมการขาย (Promotion) คือ งานที่กิจการทางธุรกิจดำเนินการเพิ่อส่งเสรมให้งานขายนั้นมีประสิทธิภาพ เช่น  การลด แลก แจก แถม ส่งชิ้นส่วชิงโชค เป็นต้น
   2.4 การบริการตนเอง (Self Service) คือ งานขายประเภทที่ลูกค้าจะต้องบริการตนเอง เช่น ตู้ขายน้ำดื่มที่ผู้ซื้อจะต้องหยอดเหรียญและเลือกสินต้าเองตามความพอใจ หรืการซื้อสินค้าในแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น