ข้อใดเป็นข้อดีของระบบเครือข่ายแบบPeer to Peer

เป็นการเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรง ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องนั้นจะมีความเท่าเทียมกัน

          สามารถทำงานของตนเองและขอใช้บริการเครื่องอื่นได้ จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้งานเพื่อจุดประสงค์ ด้านความรวดเร็ว หรือติดตั้งได้โดยง่ายเมื่อไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับ ตัวอย่างเช่น ในศูนย์ประชุมหรือการประชุมที่จัดนอกสถานที่

          อีกทั้ง Peer to Peer เป็นระบบเครือข่ายขนาดเล็ก และเหมาะกับหน่วยงาน ที่มีคอมพิวเตอร์น้อยกว่า 10 เครื่อง ระบบ Peer to Peer นี้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง สามารถเข้าไปใช้ไฟล์ที่่เก็บบนเครื่องไหนก็ได้ software ที่ใช้คือ Windows for Workgroups, Windows 95, 98, 2000 การติดตั้งเพียงแต่เพิ่มอุปกรณ์ที่เรียกว่า LAN Card ในแต่ละเครื่องคอมพิวเตอร์ และต่อสายแลนเข้าไปสู่ อุปกรณ์ที่เป็นตัวกลาง ซึ่งเรียกว่า HUB หากเปรียบเทียบแล้วเทคโนโลยีระบบเครือข่ายแบบ Peer-to-Peer จะมีการทำงานในลักษณะที่เป็น Decentralization ส่วนระบบ Client-Server มีการทำงานเป็นแบบ Centralization นั่นเอง

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

ข้อใดเป็นข้อดีของระบบเครือข่ายแบบPeer to Peer

คว้างานที่ใช่ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

 

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

โรคภัยของชาวไอที

5 วิธีบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของแผนก IT

P2P  P2P คืออะไร  P2P ใช้ประโยชน์อย่างไร  การใช้งาน P2P  รูปแบบเชื่อมต่อแลนไร้สาย  อะไรคือ P2P

บทความยอดนิยม

ข้อใดเป็นข้อดีของระบบเครือข่ายแบบPeer to Peer

20 ประเภทเพื่อนร่วมงานชวนป่วน พร้อมวิธีรับมือ

ในหนึ่งวันชาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ ใช้เวลาอยู่ที่ออฟฟิศไม่น้อยกว่า 9 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ถ้าไม่นับเวลาที่เราต้องนอนในแต่ละวัน...

peer to peer network (P2P) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ธรรมดา เกิดขึ้นครั้งแรกในปลายทศวรรษ 1970 ที่นี่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องทำหน้าที่เป็นโหนดสำหรับการแชร์ไฟล์ภายในเครือข่ายที่มีรูปแบบ ที่นี่แต่ละโหนดทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นจึงไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลางในเครือข่าย ซึ่งช่วยให้สามารถแบ่งปันข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ งานจะถูกแบ่งเท่าๆ กันระหว่างโหนด แต่ละโหนดที่เชื่อมต่อในเครือข่ายมีปริมาณงานเท่ากัน เพื่อให้เครือข่ายหยุดทำงาน โหนดทั้งหมดต้องหยุดทำงานทีละตัว เนื่องจากแต่ละโหนดทำงานอย่างอิสระ

ประวัติของเครือข่าย P2P :
ก่อนการพัฒนา P2P นั้น USENET เกิดขึ้นในปี 2522 เครือข่ายดังกล่าวทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านและโพสต์ข้อความได้ ต่างจากฟอรั่มที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ มันไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลาง ใช้เพื่อคัดลอกข้อความใหม่ไปยังเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของโหนด หลังจากนี้ Napster ได้รับการพัฒนาซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ P2P สำหรับการแชร์ไฟล์ สามารถใช้เพื่อแชร์ไฟล์เสียงได้เช่นกัน ซอฟต์แวร์นี้ถูกปิดเนื่องจากการแชร์ไฟล์อย่างผิดกฎหมาย แต่แนวคิดของการแบ่งปันเครือข่ายเช่น P2P กลายเป็นที่นิยม

ประเภทของเครือข่าย P2P :

  1. เครือข่าย P2P ที่ไม่มีโครงสร้าง –
    ในเครือข่าย P2P ประเภทนี้ อุปกรณ์แต่ละชิ้นสามารถมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกัน เครือข่ายนี้สร้างได้ง่ายเนื่องจากอุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อแบบสุ่มในเครือข่าย แต่เนื่องจากไม่มีโครงสร้าง จึงยากต่อการค้นหาเนื้อหา
  2. เครือข่าย P2P ที่มีโครงสร้าง –
    ได้รับการออกแบบโดยใช้ซอฟต์แวร์ที่สร้างเลเยอร์เสมือนเพื่อวางโหนดในโครงสร้างเฉพาะ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตั้งค่า แต่สามารถให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย
  3. เครือข่าย Hybrid P2P –
    รวมคุณสมบัติของทั้งเครือข่าย P2P และสถาปัตยกรรมไคลเอนต์ – เซิร์ฟเวอร์ ตัวอย่างของเครือข่ายดังกล่าวคือการค้นหาโหนดโดยใช้เซิร์ฟเวอร์กลาง

คุณสมบัติของเครือข่าย P2P : เครือ
ข่ายเหล่านี้ไม่มีโหนดจำนวนมาก โดยปกติแล้วจะน้อยกว่า 12 โหนด คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่ายเก็บข้อมูลของตนเอง แต่กลุ่มสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ ต่างจากเครือข่ายไคลเอนต์-เซิร์ฟเวอร์ P2P ใช้ทรัพยากรและจัดหาให้ด้วย ส่งผลให้มีทรัพยากรเพิ่มเติมหากจำนวนโหนดเพิ่มขึ้น ต้องใช้ซอฟต์แวร์พิเศษ อนุญาตให้ใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างเครือข่าย เนื่องจากโหนดทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ด้วย จึงมีภัยคุกคามจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ระบบปฏิบัติการเกือบทั้งหมดในปัจจุบันรองรับเครือข่าย P2P

วิธีใช้เครือข่าย P2P อย่างมีประสิทธิภาพ : ขั้น
แรกให้รักษาความปลอดภัยเครือข่ายของคุณผ่านโซลูชันความเป็นส่วนตัว ออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถาปัตยกรรมพื้นฐานเพื่อจัดการแอปพลิเคชันและข้อมูลพื้นฐาน ตรวจสอบภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อาจเหนือกว่าในเครือข่าย ลงทุนในซอฟต์แวร์คุณภาพดีที่สามารถรักษาการโจมตีและป้องกันเครือข่ายจากการถูกโจมตี อัปเดตซอฟต์แวร์ของคุณเป็นประจำ

ข้อดีของเครือข่าย P2P :

  • เครือข่ายดูแลรักษาง่ายเพราะแต่ละโหนดแยกจากกัน
  • เนื่องจากแต่ละโหนดทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นค่าใช้จ่ายของเซิร์ฟเวอร์กลางจึงถูกบันทึกไว้
  • การเพิ่ม การลบ และการซ่อมแซมโหนดในเครือข่ายนี้เป็นเรื่องง่าย

ข้อเสียของเครือข่าย P2P :

  • เนื่องจากไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลาง ข้อมูลจึงเสี่ยงที่จะสูญหายได้เสมอเนื่องจากไม่มีการสำรองข้อมูล
  • การรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายทั้งหมดเป็นเรื่องยาก เนื่องจากแต่ละโหนดเป็นอิสระจากกัน

ตัวอย่างของเครือข่าย
P2P : โดยทั่วไปเครือข่าย P2P สามารถแบ่งออกเป็นสามระดับ ระดับแรกเป็นระดับพื้นฐานที่ใช้ USB เพื่อสร้างเครือข่าย P2P ระหว่างสองระบบ ประการที่สองคือระดับกลางที่เกี่ยวข้องกับการใช้สายทองแดงเพื่อเชื่อมต่อมากกว่าสองระบบ ที่สามคือระดับขั้นสูงซึ่งใช้ซอฟต์แวร์เพื่อสร้างโปรโตคอลเพื่อจัดการอุปกรณ์จำนวนมากผ่านทางอินเทอร์เน็ต

ข้อใดเป็นข้อดีของระบบเครือข่ายแบบ Client Server

ประโยชน์ของระบบ Client/Server ช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลในการทำงานของระบบเครือข่าย เมนเฟรมและมินิคอมพิวเตอร์ที่ยุ่งยากและราคาแพง มาสู่ระบบเครือข่าย Client and Server ที่มีราคาถูกกว่า การจัดเก็บข้อมูลง่าย สะดวก และสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงแก้ไขฐานข้อมูลให้ถูกต้อง และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา

ข้อใดเป็นลักษณะเด่นของเครือข่ายแบบ Peer

รูปแบบการเชื่อมต่อระบบแลนไร้สายแบบ Peer to Peer เป็นลักษณะ การเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่องหรือมากกว่านั้น เป็นการใช้งานร่วมกันของ wireless adapter cards โดยไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเลย โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีความเท่าเทียมกัน สามารถทำงานของตนเองได้ ...

ระบบเครือข่าย Peer to Peer คืออะไร

Peer-to-Peer Network เป็นระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่ทำการเชื่อมต่อของเครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ในละเครื่อง โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์หลัก แต่ถ้าต้องการดึงไฟล์จากอีกเครื่องมาสู่อีกเครื่อง สามารถทำได้ เปรียบเสมือนแชร์ไฟล์ให้กับผู้อื่นโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอน

เครือข่ำยแบบที่เชื่อมต่อแบบ Peer to Peer ใช้สำย UTP ที่มีกำรต่อแบบใด

2. สาย UTP ใช้ต่อแบบ Star เป็นที่นิยมในปัจจุบัน สาย UTP หัว RJ-45. กรณีที่ต่อแบบ peer-to-peer เพียง 2 เครื่อง จะต้องเข้าหัวสายในลักษณะ Cross Over. กรณีที่ต่อสายเข้า HUB ปลายสายทั้งสองข้างจะเข้าสายเหมือนกัน