สุนัขจิ้งจอกกับพวงองุ่น ภาษาอังกฤษ

นิทานภาษาอังกฤษ: สุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา (The Fox and the Stork)

Nov 5, 2014

115201

Share

Facebook

Twitter

LINE

 

วันนี้  DailyEnglish ขอนำเสนอนิทานภาษาอังกฤษ พร้อมคำศัพท์น่ารู้เรื่อง สุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา (The Fox and the Stork) : 

At one time the Fox and the Stork were on visiting terms and seemed very good friends.

กาลครั้งหนึ่งหมาจิ้งจอกและนกกระสาต่างไปมาหาสู่กันเป็นประจำและดูเหมือนว่าพวกมันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

 

สุนัขจิ้งจอกกับพวงองุ่น ภาษาอังกฤษ
So the Fox invited the Stork to dinner, and for a joke put nothing before her but some soup in a very shallow dish.

จนกระทั่งหมาจิ้งจอกได้เชิญนกกระสาให้มาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน และแกล้งนกกระสาด้วยการไม่มีสิ่งใดมาเลี้ยงต้อนรับเลย นอกจากน้ำซุปที่ใส่ไว้ในจานทรงตื้นเท่านั้น

 

This the Fox could easily lap up, but the Stork could only wet the end of her long bill in it, and left the meal as hungry as when she began.

สุนัขจิ้งจอกสามารถใช้ลิ้นตะหวัดกินซุปได้อย่างง่ายดาย ในทางกลับกันนกกระสาได้เพียงแต่จุ่มปากจงอยของมันลงไปในซุปเท่านั้น และปล่อยอาหารมือนั้นเหลือไว้เหมือนกับความหิวของมันที่ยังคงอยู่

“I am sorry the soup is not to your liking”, said the Fox.

 “ฉันขอโทษด้วย เธอคงไม่ชอบซุป” สุนัขจิ้งจอกเอ่ย

“Please do not apologize,” said the Stork. “I hope you will return this visit, and come and dine with me soon.”

“เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก” นกกระสากล่าว “ฉันหวังว่าเธอจะมากลับมาเยือนอีกครั้งและร่วมรับประทานอาหารกับฉันในเร็ว ๆนี้”

So a day was appointed when the Fox should visit the Stork; but when they were

สุนัขจิ้งจอกกับพวงองุ่น ภาษาอังกฤษ
 seated at table all that was for their dinner was contained in a very long-necked jar with a narrow mouth, in which the Fox could not insert his snout, so all he could manage to do was to lick the outside of the jar.

จนกระทั่งถึงวันนัดหมายที่สุนัขจิ้งจอกมาเยือนนกกระสาบ้าง แต่เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะ อาหารที่นำมาทั้งหมดในมื้อนั้นถูกใส่ไว้ในเหยือกที่มีคอยาวและปากแคบใบหนึ่ง ซึ่งหมาจิ้งจอกไม่สามารถเอาแม้แต่จมูกของมันใส่ลงไปได้ สิ่งเดียวที่มันสามารถทำได้คือ การเลียที่ด้านนอกของเหยือก

 

“I will not apologize for the dinner,” said the Stork

“ฉันจะไม่ขอโทษสำหรับอาหารมื้อนี้หรอกนะ” นกกระสากล่าว

Moral of the story: One bad turn deserves another.

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การกระทำสิ่งใดที่ไม่ดีต่อผู้อื่น สักวันหนึ่งเราอาจได้รับสิ่งนั้นกลับมา เช่นเดียวกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ ที่แกล้งนกกระสา สุดท้ายก็โดนเอาคืนอย่างสาสม

    ในป่าอันร่มรื่น มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่ชอบกลั่นแกล้งสัตว์ตัวเล็ก ๆ มันจะหัวเราะชอบใจที่ทาให้สัตว์นั้นๆ ตกใจ สักพักมันก็เกิดหิวขึ้นมา มองซ้ายขวาไปเจอองุ่นน่ากิน แต่องุ่นอยู่สูงเกินไปเจ้าสุนัขไม่สามารถเก็บมากินได้ พวกสัตว์ที่เคยถูกสุนัขจิ้งจอกกลั่นแกล้งผ่านมาเห็นเข้า จึงพากันหัวเราะเยาะ สุนัขจิ้งจออกโมโหจึงพูดไปว่า องุ่นนี้ยังไม่สุกคงไม่หวานอร่อยหรอก แล้วมันก็เดินจากไปด้วยความเสียดาย เรื่องนี้สอนว่า "คนที่ไม่มีความสามารถจะทำสิ่งใดให้สำเร็จ ก็มักตำหนิสิ่งนั้นว่าด้อยค่าเกินไปเสมอ" 

นิทานสองภาษา เรื่อง สุนัขจิ้งจอกกับผลองุ่น เล่มนี้ จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้อ่านนิทานที่แสนสนุก พร้อมฝึกฝนทักษะด้านภาษาไปด้วย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ด้วยคำศัพท์ที่เข้าใจง่าย เนื้อหาที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป

สุนัขจิ้งจอกผู้หิวโหยตัวหนึ่งเดินผ่านมายังไร่องุ่น มันเห็นพวงองุ่นสุกฉ่ำห้อยอยู่บนกิ่งไม้สูง มันจึงพูดว่า “พวงองุ่นพวงนั้นคงจะพอช่วยดับกระหายให้ข้าได้บ้าง” มันกระโดดขึ้นคว้าพวงองุ่นแต่ก็พลาด มันจึงหาวิธีอื่น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร มันก็ไม่สามารถคว้าพวงองุ่นลงมากินได้สักที ในที่สุดมันก็ล้มเลิกความตั้งใจ ก่อนจะบ่นกับตัวเองว่า “องุ่นนั่นคงจะเปรี้ยวมาก ไม่เห็นจะน่ากินสักนิด” แล้วมันก็เดินจากไป

The Fox & the Grapes

A Fox one day spied a beautiful bunch of ripe grapes hanging from a vine trained along the branches of a tree. The grapes seemed ready to burst with juice, and the Fox’s mouth watered as he gazed longingly at them.

The bunch hung from a high branch, and the Fox had to jump for it. The first time he jumped he missed it by a long way. So he walked off a short distance and took a running leap at it, only to fall short once more. Again and again he tried, but in vain.

Now he sat down and looked at the grapes in disgust.

“What a fool I am,” he said. “Here I am wearing myself out to get a bunch of sour grapes that are not worth gaping for.”