ประโยชน์ และ โทษ ของดวงอาทิตย์ ป. 3

เปา้ หมายการเรยี นรู้

1. อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขนึ้ และตกของดวงอาทติ ยไ์ ด้

2. อธิบายสาเหตุการเกิดปรากฎการณก์ ารขึน้ และตกของดวงอาทติ ย์
การเกิดกลางวนั กลางคืน และการกาหนดทศิ ได้

3. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของดวงอาทติ ย์และประโยชน์ของดวงอาทติ ย์
ต่อสง่ิ มีชีวติ ได้

ความสาคญั ของดวงอาทิตยต์ ่อส่ิงมีชีวิต

คาถาม หากไม่มีดวงอาทติ ย์ โลกของเราจะเปน็ อยา่ งไร

ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ที่มีแสงสว่างในตัวเองและยังเป็นแหล่งพลังงานท่ี
สาคญั ต่อโลกของเราอยา่ งยิง่ เพราะดวงอาทติ ยใ์ ห้พลังงานความรอ้ นและพลงั งานแสงแกโ่ ลกของเรา

ทาให้สิ่งมีชีวิตนาพลังงานไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ทาให้
เกดิ วฏั จกั รน้า ให้พลังงานและให้ความอบอุ่นแก่โลก

ประโยชน์ของพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์

1 พชื ใช้แสงแดดในการสร้างอาหาร 2 นามาใช้ผลติ กระแสไฟฟา้
อาหารท่ีพชื สร้างข้ึนจะถกู ลาเลยี งไปเล้ียง ได้ โดยอาศยั เซลล์สุริยะ ในการ
สว่ นต่าง ๆ ของพืช ทาใหพ้ ชื เจริญเตบิ โต เปล่ียนแปลงพลงั งานแสงเปน็
เพื่อใช้เป็นแหลง่ อาหารให้แกค่ นและสัตว์ พลงั งานไฟฟา้

3 ช่วยใหค้ นและสตั ว์บนโลก 4 ทาใหโ้ ลกเกิด
มองเหน็ สิง่ ต่าง ๆ ในช่วงเวลา ช่วงเวลากลางวันและ
กลางวนั กลางคนื

ประโยชนข์ องพลังงานความรอ้ นจากดวงอาทิตย์

1 อากาศบริเวณท่ีได้รับแสงแดดมี 2 ท า ใ ห้ เ กิ ด ล ม แ ล ะ ก า ร
อุณหภูมสิ ูงขนึ จนเกิดความอบอุ่น หาก หมุนเวียนของนา ซึ่งวัฏจักรน้าจะ
บริเวณใดได้รับแสงแดดน้อย อาจทาให้ เกิดการหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ทาให้
อุณหภมู ิตา่ และเกิดอากาศหนาวเยน็ มนษุ ย์มีน้าใชไ้ ปตลอด

3 ช่วยรักษาสภาพอาหารให้เก็บอยู่ได้
นาน มนุษย์จึงนิยมถนอมอาหารบางชนิด
โดยนาอาหารไปตากแดดให้แห้ง เช่น เนื้อ
แดดเดยี ว ปลาแห้ง กุง้ แห้ง

แสงจากดวงอาทติ ย์นอกจากจะทาให้เรามองเหน็ สงิ่ ต่าง ๆ ไดใ้ นชว่ งกลางวันแลว้ แสงจาก
ดวงอาทิตย์ยงั มีรังสีอลั ตราไวโอเลตหรือรงั สยี ูวี (UV) ท่ีสามารถทาลายเชอื โรคได้หลายชนิด
และยงั ชว่ ยลดปริมาณจลุ นิ ทรยี ์ทก่ี ่อให้เกิดโรค ซึง่ มอี ยู่ทว่ั ไปในอากาศหรอื บนพ้ืนผิวตา่ ง ๆ

วิธกี ารทาลายเชือโรคต่าง ๆ ดว้ ยรงั สียูวี (UV) ทาไดห้ ลายวิธี เชน่ การนาเส้อื ผ้า เครื่องนอน
หรอื ภาชนะมาผ่ึงแดด การเปดิ หนา้ ต่างใหแ้ สงแดดสอ่ งเขา้ ไปในหอ้ ง

การขนึ และตกของดวงอาทิตย์

การหมุนรอบตัวเองของโลก ทาให้เราเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏขึนบนท้องฟ้าในเวลากลางวันจาก
ขอบฟ้าด้านหน่ึงและตกลับขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง ทาให้โลกเข้าสู่ช่วงเวลากลางคืน ซ่ึงการขึ้นและตก
ของดวงอาทติ ยย์ ังทาให้เรากาหนดทศิ ได้อีกด้วย

ในแต่ละวัน คนบนโลกจะมองเห็นดวงอาทิตย์กาลังเคลื่อนท่ีข้ามขอบฟ้าจากด้านหน่ึงไปยังอีกด้าน
หนง่ึ ซงึ่ ในความเป็นจรงิ ดวงอาทติ ยไ์ ม่ไดเ้ คลื่อนที่ แตเ่ ป็นเพราะโลกของเรากาลังหมนุ รอบตัวเองและ
โคจรรอบดวงอาทิตย์ จึงทาให้เรามองเห็นดวงอาทติ ย์กาลงั เคลือ่ นที่

การขึนและตกของดวงอาทิตย์

ในขณะท่ีโลกหมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา เราจะมองเห็นวัตถุท้องฟ้าเปล่ียนตาแหน่งไป โดยที่เราไม่รู้สึกว่าโลกกาลัง
เคลื่อนที่หรอื หมนุ อยู่ แตเ่ ราจะรู้สกึ วา่ วัตถทุ อ้ งฟา้ น้ันกาลงั เคล่ือนที่ ปรากฏการณ์การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์เกิดจากการท่ีโลกหมุนรอบ
ตัวเอง จงึ ทาใหเ้ รามองเหน็ ดวงอาทติ ย์เคลื่อนทีจ่ ากขอบฟา้ ดา้ นหนงึ่ ไปยงั ขอบฟา้ อีกดา้ นหนงึ่ ซึง่ มลี กั ษณะ ดงั นี้

ทศิ ตะวนั ออก ทิศตะวนั ตก ทิศตะวันตก

ทศิ ตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศตะวนั ออก

เมอ่ื โลกหมนุ คนบนโลกเร่มิ มองเหน็ เมอ่ื โลกหมนุ ตอ่ ไป คนบนโลกจะ เมื่อโลกหมนุ ตอ่ ไป คนบนโลกจะมองเหน็
ดวงอาทิตย์ขนึ้ จึงกาหนดใหท้ ิศนีเป็น มองเห็นดวงอาทิตย์ค่อย ๆ สงู ขนึ จน ดวงอาทติ ยค์ ่อย ๆ ลอยตา่ จนลับขอบฟ้า จงึ
ทิศตะวันออก (E) ตรงศรี ษะในตอนกลางวัน กาหนดใหท้ ศิ นเี ปน็ ทิศตะวันตก (W)

การหมุนรอบตัวเองของโลกในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ทาให้เรามองเห็นว่าดวงอาทิตย์กาลังเคล่ือนท่ีข้ามขอบฟ้าจนเกิดแบบ

รปู การขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์ในลกั ษณะของครึ่งวงกลม ดังภาพ

การกาหนดทศิ เราสามารถกาหนดทิศไดโ้ ดยดจู ากการขึนและตกของดวงอาทิตย์ ซง่ึ จะกาหนดทิศตะวนั ออกเปน็ หลกั ดงั นี้

ในตอนเชา้ ถา้ หันไปทางดวงอาทติ ยข์ นึ จะเปน็ ทิศตะวนั ออก (E)

ทิศเหนือ (North : N)
ทิศใต้ (South : S)
ทิศตะวันออก (East : E)
ทิศตะวันตก (West : W)

ด้านซ้ายมอื จะเป็นทศิ เหนือ (N) ด้านขวามือจะเปน็ ทศิ ใต้ (S)

ดา้ นหลังจะเปน็ ทิศตะวนั ตก (W)

การเกดิ กลางวนั กลางคนื

มนุษยอ์ าศยั อยู่บนโลกที่กาลงั หมนุ รอบตัวเองและโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทาให้ซีกด้านหน่ึงหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ และซีกโลกอีก
ดา้ นหนึ่งหันออกจากดวงอาทติ ย์ ซีกโลกแต่ละด้านจะได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ไมพ่ รอ้ มกนั จึงเกิดเป็นชว่ งเวลากลางวันและกลางคนื

ช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เกิดจากโลกหมุนรอบตัวเอง โดยซีกโลกด้านที่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์
เกิดเปน็ ชว่ งเวลากลางวนั และซีกโลกอกี ดา้ นหน่ึงท่ีหันออกจากดวงอาทิตย์จะไม่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ จึงเกิดความมืดกลายเป็น
ช่วงเวลากลางคืน

โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ ใช้เวลา 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน ซ่ึงเป็นช่วงเวลากลางวัน 12 ช่ัวโมง และช่วงเวลากลางคืน 12
ชว่ั โมง ปรากฎการณก์ ารเกดิ กลางวนั กลางคนื ของแตล่ ะประเทศบนโลกจะแตกต่างกันไป เช่น ประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา
อยู่คนละซีกโลกจึงมีช่วงเวลาที่ต่างกัน หากประเทศไทยเป็นช่วงเวลากลางวัน ประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นช่วงเวลากลางคืน หาก
ประเทศสหรัฐอเมรกิ าเป็นชว่ งเวลากลางวนั ประเทศไทยจะเป็นช่วงเวลากลางคนื สลับกันไป