เมื่อพ่อแม่ ผู้ปกครองส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสือ ย่อมต้องคาดหวังว่าสถานศึกษาที่เลือกมานั้นจะประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับนักเรียน พร้อมทั้งปลูกฝังคุณธรรม และจริยธรรมให้เด็ก ๆ เพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นคนดีของสังคม Show อย่างไรก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ปัจจุบันยังมีโรงเรียนหลายแห่งที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะบุคลากรที่ได้ชื่อว่าเป็นครูบาอาจารย์ จนทำให้ผู้ปกครองไม่กล้าวางใจ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของบุตรหลาน ยิ่งเป็นชั้นเรียนสำหรับเด็กเล็กในระดับอนุบาล และชั้นประถมต้น ก็ยิ่งสร้างความกังวลใจมากขึ้น เพราะไม่แน่ใจว่าลูก ๆ ของตนเองจะได้รับอันตรายใด ๆ หรือไม่ เพราะแม้แต่ผู้ที่ประกอบวิชาชีพครูก็ยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็น ด้วยเหตุนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงเห็นชอบให้มีมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเพื่อยกระดับการพัฒนาเด็กปฐมวัย และใช้เป็นมาตรฐานกลางทั้งประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการดูแล พัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระบุว่า การจัดทำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ถือเป็นมาตรฐานขั้นต้นที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเด็กของประเทศ เพื่อให้เริ่มต้นชีวิตอย่างมีคุณภาพ ทำไมต้องให้ความสำคัญกับเด็กปฐมวัยเด็กปฐมวัยซึ่งยังมีอายุไม่ครบ 6 ปีบริบูรณ์นั้น เป็นช่วงวัยที่พัฒนาการด้านต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด และเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับพัฒนาการในช่วงวัยต่อ ๆ ไป เด็กในวัยนี้จึงเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของประเทศ หากเด็กปฐมวัยที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยจะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพและจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต นั่นหมายความว่า การพัฒนาเด็กปฐมวัยจึงเป็นรากฐานที่มีผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของคนตลอดชีวิต และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด จำนวนครู / ผู้ดูแลเด็ก ต้องสัมพันธ์กันนอกจากหลักสูตรการเรียนการสอนด้านวิชาการจะเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว การบริหารบุคลากรให้มีอัตราส่วนของครู และผู้ดูแลเด็กอย่างเหมาะสม พอเพียงต่อจำนวนเด็กในแต่ละกลุ่มอายุก็ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน โดยมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ระบุไว้ดังนี้
ร่างกาย-สุขภาพเด็กต้องไม่ละเลย
ครู / ผู้ดูแลเด็ก ต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมขณะเดียวกันบุคลากรที่ประกอบวิชาชีพครู รวมถึงผู้ดูแลเด็ก ที่ทำหน้าที่หลักในการดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัย จะต้องมีวุฒิการศึกษา และคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วย ซึ่งจากข่าวดังที่อยู่ในความสนใจของผู้ปกครอง พบว่า ครูพี่เลี้ยงไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ขณะที่ครูชาวต่างชาติก็ไม่มีอนุญาตทำงาน และไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้างจากทางโรงเรียน อีกทั้งยังเข้ามาอยู่ในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวด้วย เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของโรงเรียนดังกล่าวแล้วว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คู่มือมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ จึงไม่น่าแปลกใจที่เหตุใดพ่อแม่ ผู้ปกครองถึงรับไม่ได้กับพฤติกรรมของครูที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนต้องออกมาเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับบุตรหลาน แบบ 1 (โรงเรียนประถมศึกษาที่มีนักเรียน 120 คน ลงมาและจัดการเรียนการสอน อ.1-ป.6 หรือ ป.1-ป.6) - นักเรียน 1 -20 คน มีผู้บริหารได้ 1 คน มีครูผู้สอนได้ 1 คน แบบ 2 (โรงเรียนประถมศึกษาที่มีนักเรียน 121 คนขึ้นไป และจัดการเรียนการสอน อ.1-ป.6 หรือ ป.1-ป.6) อัตราส่วน (อนุบาล) ครู : นักเรียน = 1 : 25 หรือ ครู(ป) รวม = (ห้องอนุบาล x 30 + นร.อนุบาล) + (ห้องประถม x 40 + นร.ประถม) จำนวนบุคลากรสายบริหาร เงื่อนไข - การคิดจำนวนห้องเรียน (โดยใช้จำนวนนักเรียน : ห้อง หารจำนวนนักเรียน) แต่ละชั้น แบบ 3 (โรงเรียนประถมศึกษาที่มีนักเรียน 121 คนขึ้นไป และจัดการเรียนการสอน อ.1-ม.3 หรือ ป.1-ม.3) อัตราส่วน (อนุบาล) ครู : นักเรียน = 1 : 25 จำนวนครูปฏิบัติการสอน(ป) รวม = จำนวนครู(ป)อนุบาล + จำนวนครู(ป)ประถม + จำนวนครู(ป) มัธยม จำนวนบุคลากรสายบริหาร เงื่อนไข - การคิดจำนวนห้องเรียน (โดยใช้จำนวนนักเรียน : ห้อง หารจำนวนนักเรียน) แต่ละชั้น แบบ 4 (โรงเรียนมัธยมศึกษา) อัตราส่วน (มัธยม) ครู : นักเรียน = 1 : 20 จำนวนครูปฏิบัติการสอน = จำนวนห้องเรียน x (จำนวนนักเรียน : ห้อง) / จำนวนครู : นักเรียน จำนวนบุคลากรสายบริหาร เงื่อนไข - การคิดจำนวนห้องเรียน (โดยใช้จำนวนนักเรียน : ห้อง หารจำนวนนักเรียน) แต่ละชั้น แบบ 5 การคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จำนวนครูรวม = (35 x จำนวนห้องเรียน) / 12 จำนวนครูปฏิบัติการสอน = จำนวนครูรวม - จำนวนบุคลากรสายบริหาร จำนวนบุคลากรสายบริหาร หมายเหตุ ในการคำนวณตามสูตรหากมีเศษตั้งแต่ 0.1 ขึ้นไปให้ปัดเป็น 1 เปิดอ่าน 29,350 ครั้ง เปิดอ่าน 2,911 ครั้ง เปิดอ่าน 13,831 ครั้ง เปิดอ่าน 25,462 ครั้ง เปิดอ่าน 25,880 ครั้ง เปิดอ่าน 19,879 ครั้ง เปิดอ่าน 11,197 ครั้ง เปิดอ่าน 22,679 ครั้ง เปิดอ่าน 8,895 ครั้ง เปิดอ่าน 50,975 ครั้ง เปิดอ่าน 22,496 ครั้ง เปิดอ่าน 2,945 ครั้ง เปิดอ่าน 78,626 ครั้ง เปิดอ่าน 11,846 ครั้ง เปิดอ่าน 69,791 ครั้ง |