Helix3 Framework เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการจัดการ Joomla Template สามารถปรับแต่งได้ตั้งแต่ Theme โทนสีพื้นหลัง, สีหลัก, สีตัวอักษร, Logo, Menu, Footer, รูปแบบตัวอักษร, จัด Layoutl แล้วกำหนด position เพื่อให้ Component, Module และ plug-in เรียกใช้ได้ ทั้งนี้บาง Template ยังมี Component ให้เราได้ใช้ปรับแต่งได้อีกด้วย เช่น Virtuemart เป็นส่วนแสดงรายการสินค้าระบบ e-Commerce, Blog เป็นต้น บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการใช้งานของ Helix3 Framework เพื่อนำมาปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ของเรา เริ่มแรก ให้เข้าด้วยฝั่ง Administrator > ไปที่เมนู Extension > Templates > Style > เข้าไปที่ Template ที่เราปรับแต่ง จากตัวอย่างจะเป็นของ Megadeal II ซึ่งจะมี Helix3 Framework ในตัว Template นี้อยู่ หน้าตั้งค่าการใช้งานปรับ Template ของ Helix3 Framwork เมื่อเข้ามาแล้วจะแสดงส่วนการทำงานของ Helix3 Framework ซึ่งจะแนะนำแต่ละ Tab ว่ามีส่วนตั้งค่าอย่างไรบ้าง ดังนี้ 1. Basic เป็นส่วนตั้งค่าเบื้องต้นของหน้าเว็บไซต์ เช่น
2. Preset เป็นการกำหนด Theme โทนสีที่ใช้อย่าง Background, ข้อความ, สีที่ใช้หลัก (เช่น สีขอบกรอบ, link เป็นต้น) ส่วนตั้งค่า Preset3. Layout เป็นส่วนกำหนดพื้นที่การทำงานเป็น Section > layout แบบ Bootstrap > position
4. Menu เป็นการกำหนดกลุ่มของเมนูว่าเว็บไซต์เราจะใช้เมนูใดบ้าง
5. Typography เป็นการตั้งค่า Font ชุดมาตราฐานที่จะใช้งานของเว็บไซต์ และสามารถนำ font เพิ่มเติมได้จาก Google font หรือกำหนดเองได้โดยการเปิด CUSTOM FONT ส่วนตั้งค่า Typography6. CUSTOM CODE หากจะต้องมีการปรับ CSS, Javascript ในส่วนของ header กับ Body ก็สามารถใส่ได้ (แต่แนะนำให้ทำเป็นแบบ Override ของ Template เองน่าจะดีกว่า) ส่วนตั้งค่า CUSTOM CODE7. Advance เป็นส่วนตั้งค่าเกี่ยวข้องกับการความเร็วในการ load หน้าเพจจะมีผลต่อ CMS ของเว็บไซต์ได้ จะเปิดใช้งานเมื่อทำการ customize Template เสร็จแล้ว ส่วนตั้งค่า Advance8. Blog เป็นส่วนตั้งค่าหน้าเว็บที่เป็นประเภท Blog (บทความ) เช่น การแชร์ Blog, รูปแบบของ Blog รวมไปถึงการแสดงรูปภาพในบทความ 9. VIRTURMART เป็นตัวช่วยเสริมเกี่ยวข้องระบบ e-Commerce ที่จัดการแสดงสินค้าและการขายของออนไลน์ของ Template นี้ สามารถตั้งค่าการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับรายการและข้อมูลของสินค้าเบื้องต้นได้ ส่วนตั้งค่า VIRTURMART10. Update Setting เป็นการกำหนด E-mail และ License Key ของ Joomla ที่เราใช้ ส่วนตั้งค่า Update Setting11. Assignment เป็นหน้ากำหนดว่า Menu ไหนใช้การตั้งค่าด้วย Helix บ้าง จะเห็นได้ว่า Helix3 เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการปรับแต่ง Template สำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์ได้สะดวกและง่าย โดยเฉพาะในส่วนของกำหนด Layout เพื่อให้เราสามารถนำ Component, Module และ Plug-in ที่เราต้องการแสดงเพียงกำหนด Position ที่จะให้ปรากฏขึ้นได้ อีกทั้งตัว layout สามารถกำหนดแบ่งพื้นที่ของ Position ด้วย Style ของ Bootstrap ทำให้เว็บไซต์เราเป็น Responsive คือสามารถเปิดได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้การทำปรับแต่ง Template ยังสามารถทำได้เพิ่มเติมในสิ่งที่ Helix3 ไม่มีด้วยการทำ Override ให้กับตัว Template ได้อีกด้วย อ้างอิง
|