หลายคนอาจจะมองว่าการเรียนต่อต่างประเทศนั้นยากแล้วแต่การหาเงินไปเรียนต่อนั้นยากกว่า555 วันนี้เปิ้ลขอเปิดมุมมองอีกด้านหนึงสำหรับคนไม่เก่งภาษา ไม่มีเงิน มีแต่ตัวและหัวใจกันค่ะ ข้างล่างนี้คือกระทู้ที่เคยเขียนเรื่องขอทุนไว้ค่ะ วิธีการวางแผนเพื่อขอทุน 1 ประเมินความรู้ความสามารถของตนเอง+หาความชอบ 2. ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ‘มงบุคะงะคุโชว’ หรือเรียกสั้นว่าทุนมง สำหรับคนที่ชอบแดนปลาดิบ ผู้คนมีระเบียบวินัย ให้ตั๋วเครื่องบิน ให้ค่าเล่าเรียน พร้อมเงินกว่าเดือนละ 50,000 บาท ที่สำคัญไม่ต้องคืนเงิน ไม่ต้องใช้ทุนครับ 3. ทุนสหภาพยุโรป (Erasmus Mundus) ในหลักสูตรเดียวให้เลือกเรียนได้ถึง 2–3 ประเทศ อยู่ประเทศละเทอมสองเทอม กว่าจะเรียนจบก็ได้เที่ยวหลายที่ ให้เงินเดือน มีค่าที่พัก มีกิจกรรมทัศนศึกษา แถมที่สำคัญเรียนจบก็ไม่บังคับ อยากกลับบ้านก็ได้ อยากทำงานในยุโรปก็ได้ ขอแค่สมัครเอง แล้วบริษัทรับก็เป็นพอ 4. ทุนประเทศฝรั่งเศส (Franco-Thai) อันนี้ให้สำหรับปริญญาโทเอก มีทั้งแบบทุนเต็มจำนวนและกี่งหนี่งก็ว่ากันไป แต่ช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่นจะได้รับการคุ้มครองทั้งกายและใจ รวมถึงมีสวัสดิการสังคมให้เต็มที่ 5. ทุนฟูลไบรท์ อันนี้ของสหรัฐอเมริกานะครับ ให้ทุนด้านภาษาวัฒนธรรม เศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์ โดยรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งมวล ขอแค่เรียนจบห้ามหางานในอเมริกา 2 ปี หลังจากนั้นจะตีตั๋วกลับมาก็เอาตามที่สบายใจเลยนะครับ 6. ทุนรัฐบาโมรอกโก อันนี้สำหรับคนที่พอได้ภาษาฝรั่งเศสหรืออาหรับนะครับ สมัครเรียนได้ทุกสาขาไม่จำกัดอายุ ไม่ต้องอยู่ใช้ทุน แต่อาจต้องพกพาเงินเดือนไปเพิ่มเติมบ้าง อันนี้ก็ถือว่าลงทุนเพื่อการศึกษานะครับผม 7. ทุนรัฐบาลจีน (CSC) อันนี้ก็ขอแนะนำเลย คนไทยได้กันเยอะมาก เรียนจบไม่ผูกมัด แถมอยู่ใกล้เดินทางไปกลับได้สะดวก ได้ภาษาจีนมาเพิ่มด้วย แถมบางหลักสูตรเรียนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ส่วนทุนที่ได้ครอบคลุมทั้งการเดินทางทั้งในทั้งนอกประเทศ ทั้งค่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอย ที่พัก สวัสดิการ เงินเดือน ถ้าไม่อยากใช้ทุนก็น่าสนครับทุนนี้ 8. ทุนไต้หวัน อันนี้สำหรับป.โท ได้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาทโดยประมาณจนจบหลักสูตร รวมทุกอย่างที่อยากได้ครับ ทั้งเครื่องบิน ที่พัก ค่าหนังสือ แถมยังมีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาจีนให้ด้วย 9. ทุนมาเลเซีย อันนี้ก็น่าสนใจครับ มีค่าใช้ให้หลายประการ เริ่มตั้งแต่เรียนตรียันเรียนเอกเลยทีเดียว นอกจากนี้ที่นี่ยังใช้ภาษาอังกฤษสำหรับการเรียนการสอน ทำให้ผู้เรียนได้เปรียบมากมาย แต่มีข้อแม้ว่าหลังเรียนจบห้ามทำงานในมาเลเซียเท่านั้นเอง 10. ทุนรัฐบาลเมกซิโก สำหรับใครที่อยากไปผจญภัย เรียนรู้วัฒนธรรม พูดภาษาสเปนด้วยอังกฤษด้วย ที่เม็กซิโกก็เป็นตัวเลือกหนี่งที่น่าสนนะครับ ดูแลตั้งแต่เงินรายเดือน ถึงค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ได้ป่วย เผลอๆ หากเรียนสายวิทย์ บริษัทในประเทศหากดึงตัวให้ทำงานต่อก็เป็นได้ 11. ทุนอังกฤษ Chevening สำหรับผู้ที่สนใจด้วย ไม่มีข้อผูกมัด ยกเว้นต้องกลับมาทำงานที่ไหนก้ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นภาครัฐ) ในเมืองไทยสองปีหลังเรียนจบ ใครอยากมาใช้ชีวิตเมืองผู้ดี ก็ลองสมัครทุนนี้ดูนะครับ ทุนนี้มีเครือข่ายผู้รับทุนที่ใหญ่และมีเกียรติแห่งหนี่งของโลกเชียวนะ 12. ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ สำหรับใครที่หลงใหลในประเทศเกาหลีใต้ และอยากที่จะศึกษาหาความรู้ในประเทศที่ให้ทั้งทุนเรียนภาษาและทุนปริญญาแบบ (1+2 ปี) โดยไม่ต้องใช้ทุนแต่อย่างใด 13. ทุน UN ไปเรียนด้านสันติภาพ ที่คอสตาริกาและฟิลิปปินส์ ทุนนี้ก็เป็นทุนให้เปล่าเช่นเดียวกันเพื่อสร้างเครือข่ายผู้นำสันติภาพในระดับโลก ใครอยากไปใช้ชีวิตชาวเกาะ พร้อมทุนการศึกษาและโอกาสทำงานในองค์การระหว่างประเทศก็อันนี้เลยครับ 14. ทุน DAAD ของเยอรมัน อาจได้ทำงานในเยอรมันต่อ ได้ทุนเรียนภาษา ที่สำคัญใครมีลูกภรรยาสามีพาไปด้วย เค้าก็ให้เงินทุนเพิ่มด้วยนะเออ แถมมีสาขาให้เลือกเยอะ หากใครมีความสามารถจริง มหาวิทยาลัยอาจารย์หางานให้ทำต่อด้วยนะครับ 15. ทุนรัฐบาลตุรกี เรียนที่นี่ได้อยู่ทั้งยุโรปและเอเชียในประเทศเดียว มีหลายคอร์สให้เลือกจากตรีถึงเอก แถมยังได้ภาษาตุรกีและอังกฤษอีกด้วย สำหรับผู้สนใจด้านศาสนา อิสลามศึกษาก็น่าสนนะครับ |