น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 เห็นชอบหลักการการปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวสำหรับผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในลักษณะงบประมาณผูกพันต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569 ครอบคลุมการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ของสถานศึกษารัฐและเอกชน การจัดการศึกษาโดยครอบครัวและสถานประกอบการ Show สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณในแต่ละปีมีรายละเอียดดังนี้ ในปีที่ 1 ปี 2566 งบประมาณ 48,741.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 2,259.22 ล้านบาท , ปีที่ 2 ปี 2567 งบประมาณ 50,399.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 1,657.50 ล้านบาท , ปีที่ 3 ปี 2568 งบประมาณ 52,612.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 จำนวน 2,213.16 ล้านบาท , ปีที่ 4 ปี 2569 งบประมาณ 54,548.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 1,936.58 ล้านบาท รวมเงินอุดหนุนระยะเวลา 4 ปี 206,301.88 ล้านบาท ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในลักษณะของเงินอุดหนุนตามจำนวนผู้เรียนผ่านสถานศึกษาเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี สำหรับค่าใช้จ่ายพื้นฐาน 5 รายการหลัก ได้แก่ 1.ค่าจัดการเรียนการสอน 2.ค่าหนังสือเรียน 3.ค่าอุปกรณ์การเรียน 4.ค่าเครื่องแบบนักเรียน 5.ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน อย่างไรก็ตามจากผลการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า อัตราเงินอุดหนุนปัจจุบันต่ำกว่าค่าใช้จ่ายจริงและไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและสถานศึกษา ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่ได้มีการปรับมามากกว่า 10 ปี โดยปรับครั้งสุดท้ายในปีการศึกษา 2553 ยกเว้นค่าหนังสือเรียนที่มีการปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาสินค้าบริการและค่าครองชีพปรับเพิ่มสูงขึ้นทุกปีตามสภาพเศรษฐกิจสังคม ส่งผลให้สถานศึกษาจำเป็นต้องระดมเงินสนับสนุนจากแหล่งอื่น เช่น เงินค่าบำรุงการศึกษา เงินบริจาคเงินรายได้สถานศึกษา โดยผู้เรียนและผู้ปกครองต้องรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาที่เพิ่มขึ้น สำหรับการปรับอัตราเงินอุดหนุนในครั้งนี้ เป็นการปรับอัตราให้สอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้เรียน ผู้ปกครอง และสถานศึกษาสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนทุกคนเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ลดอุปสรรคสำคัญในการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อของผู้เรียนโดยเฉพาะผู้เรียนยากจน ทั้งนี้ ในการปรับปรุงอัตราเงินอุดหนุน กระทรวงศึกษาธิการได้ใช้ข้อมูลจำนวนนักเรียนและข้อมูลนักเรียนยากจน ณ ปี 2564 ซึ่งมีนักเรียนยากจนคิดเป็น ร้อยละ 18 ของนักเรียนทั้งหมด ในการนำมาประเมินแนวโน้มใน 4 ปีข้างหน้า พร้อมกับพิจารณาถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของจำนวนผู้เรียนการศึกษาในระบบและนอกระบบ ซึ่งในส่วนของการศึกษาในระบบปี 2560-2563 มีจำนวนผู้เรียนลดลงร้อยละ 0.8 ขณะที่การศึกษานอกระบบ ปี 2561-2565 ผู้เรียนลดลงประมาณร้อยละ 8.7 ต่อปี รายละเอียด การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ซึ่งให้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นในลักษณะขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2569) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ให้ความเห็นชอบการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เรียน และเพิ่มศักยภาพสถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั้งสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ครอบคลุมการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาทางเลือก โดยปรับเพิ่มแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปีงบประมาณ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 – 2569 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ รมว.ศธ. กล่าวว่า การปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวฯที่ปรับเพิ่มขึ้น สามารถจำแนกตามรายการค่าใช้จ่าย ดังนี้
ตาราง 1 กรอบวงเงินกรอบวงเงินงบประมาณตามอัตราที่เสนอขอปรับอัตราเงินอุดหนุนฯ ในลักษณะงบประมาณผูกพันต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2566 – 2569) มีรายละเอียดงบประมาณในแต่ละปีปัจจุบัน (2565) ศธ.ได้รับอัตราเงินอุดหนุนฯ 46,482 ล้านบาท จากนั้นจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดในลักษณะงบประมาณผูกพันต่อเนื่อง โดยในปีที่ 4 (2569) จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 8,066 ล้านบาทเศษ เป็นอุดหนุนฯ 54,548 ล้านบาท ตาราง 2 แนวทางการปรับเงินแนวทางการปรับอัตราเงินอุดหนุนตามรายละเอียด การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ซึ่งให้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นในลักษณะขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2569) 1) การศึกษาในระบบ : ครอบคลุมสถานศึกษารัฐและเอกชน การจัดการศึกษาโดยครอบครัว และการจัดการศึกษาโดยสถานประกอบการ โดยปรับเพิ่มแบบขั้นบันได ทั้งค่าจัดการเรียนการสอน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบ และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 2) การศึกษานอกระบบ ปรับเป็นอัตราเดียวกันกับการศึกษาในระบบ (ผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานนอกระบบ ยังไม่เคยได้รับเงินอุดหนุนค่าอุปกรณ์การเรียนและค่าเครื่องแบบ) ทั้งนี้ ค่าหนังสือเรียนมีการปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ได้เสนอขอปรับอัตราเงินอุดหนุนฯ อัตราเงินอุดหนุน ปรับใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีอัตราเงินอุดหนุนปัจจุบัน (ปีการศึกษา พ.ศ. 2565) อัตราเงินอุดหนุนที่ปรับเพิ่ม ปีที่ 1 พ.ศ. 2566 รายละเอียด การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ซึ่งให้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นในลักษณะขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2569) 11อัตราเงินอุดหนุนที่ปรับเพิ่ม ปีที่ 2 พ.ศ.2567 รายละเอียด การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ซึ่งให้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นในลักษณะขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2569) 12อัตราเงินอุดหนุนที่ปรับเพิ่ม ปีที่ 3 พ.ศ.2568 รายละเอียด การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ซึ่งให้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นในลักษณะขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2569) 13อัตราเงินอุดหนุนที่ปรับเพิ่ม ปีที่ 4 พ.ศ.2569 รายละเอียด การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ซึ่งให้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นในลักษณะขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2569) 14ดาวน์โหลดไฟล์ขอบคุณที่มา : ศธ.360 องศา (moe360.blog) | ศธ.360 องศา | Facebook |