เมื่อล้อสวยพร้อมยางเทพเรียบร้อย แน่นอน ” โช๊คอัพ ” เป็นอีกสิ่งหนึ่งของคนที่ชอบแต่งรถมักจะทำเป็นอย่างแรกๆ รวมถึงเจ้าของรถยนต์อีโคคาร์ด้วย เพราะโช็คอัพที่ให้มามันนุ่มนวลจนบางรุ่นบางยี่ห้อออกจะนุ่มและนิ่มจนเกินไป เค้าโค้งด้วยความเร็วอาจจะมีอาการโยนและโคลงให้ได้สัมผัส แต่ผมไม่ได้บอกว่าโช๊คอัพเดิมจากโรงงานไม่ดีนะครับ เพียงแต่เค้าปรับเซ็ทมาให้เราขับสบายนุ่มนวลที่สุด คือมันดีมากสำหรับท่านที่ขับรถไม่เร็วมากไปเรื่อยๆดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ไม่แข็งกระด้าง แต่มันอาจจะไม่เหมาะกับท่านที่ชอบขับรถเร็ว เค้าโค้งด้วยความเร็ว และไม่ชอบช่วงล่างโช๊คอัพที่นุ่มนิ่ม อีกสิ่งหนึ่งที่ดูจะขัดหูขัดตามั้นก็คือความสูงของตัวรถ เพราะเมื่อเราเปลี่ยนล้อแม็กและยางเรียบร้อยแล้วลองสังเกตุดูซิว่า รถยนต์อีโคคาร์ของเรามันลอย เหมือนคนใส่กางเกงขาลอย คือพื้นที่ระหว่างซุ้มล้อ และยางมันห่างกันมากเกินไป Fitment (ฟิตเมนต์)มันไม่ได้ เดี๋ยวจะงงกัน Fitment (ฟิตเมนต์)คือการให้ล้อหรือยางอยู่ “ชิด” กับซุ้มล้อมากที่สุดนั้นเองโช๊คแต่งมีหลากหลายประเภทครับ สำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ แบ่งเป็น 3 แบบหลักๆ โช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ โช๊คอัพประเภทนี้หน้าตามันคล้ายโช๊คอัพเดิมจากโรงงานเลยเพียงแต่มีการออกแบบอัพเกรดสมรรถนะให้สูงขึ้น แก่นใหญ่ขึ้น หนึบแน่นมากขึ้น โช๊คอัพแบบนี้จะเป็นแบบปรับความสูงไม่ได้เบ้าสปริงและเบ้าโช๊คจะมีขนาดใหญ่เท่าของเดิมโรงงาน นิยมนำไปใส่กับสปริงเดิมติดรถ หรือไม่ถ้าใส่กับสปริงเดิมแล้วรถยังสูงอยู่ใส่คู่กับสปริงโหลดก็เข้ากันได้ดี สปริงโหลดก็มีหลากหลายยี่ห้อไม่ว่าเป็น TEIN,SILVER,RSR เป็นต้น โช้คอัพประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหนึบเพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง และอยากได้ความนุ่มนวลอยู่นั่นเอง ยี่ห้อดังๆที่นิยมใส่คงหนีไม่พ้น  Kayaba New SR Special กระบอกฟ้านำเข้าจากญี่ปุ่น เป็นโช๊คอัพสำหรับรถเก๋งสมรรถนะสูงให้ความปลอดภัยสูงแม้จะขับขี่ด้วยความเร็ว แต่ยังคงความนุ่มนวลในการขับขี่ สามารถใช้ได้กับสปริงมารฐาน และสปริงโหลดซึ่งใช้ได้ดีกับสปริงโหลดที่ลดความสูงลงมาไม่เกิน 30 มม. Kayaba New SR Special เป็นโช๊คที่ปรับเพิ่มค่าความหนืดในจังหวะยืด 80% และจังหวะยุบตัว 50% จากโช๊คอัพเดิมติดรถแต่ละรุ่น ระบบวาว์ลปรับความหนืดอัตโนมัติ โครงสร้างกระบอกสองชั้น Twin-Tube ราคาประมาณ 16,000 บาท สำหรับโช๊คอัพทั้ง 4 ต้น โช๊คอัพประเภทนี้ส่วนมากนิยมใส่กับสปริงโหลดตรงรุ่น หรือใส่กับสปริงเดิมก็ได้ ฟิลลิ่งที่ได้จะใกล้เคียงโช๊คเดิมอาจจะแข็งกว่านิดหน่อย แต่แน่นและหนึบขับสนุกกว่าโช๊คอัพเดิมติดรถแน่นอน ราคามิตรภาพประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป โช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบ “สไลด์กระบอก” เมื่อก่อนโช๊คแบบสตรัทปรับเกลียวจะทำได้แค่สามารถปรับเบ้าสปริงเลื่อนสูงต่ำได้เพื่อปรับความสูง-ต่ำของตัวรถได้อย่างละเอียดจะเอาสูง-ต่ำแค่ไหนก็หมุนเอา ส่วนมากสปริงที่ใช้คู่กันจะทำออกมาความสูงเท่ากันต่างกันที่ค่าความแข็ง หรือค่า K ตัวสปริงเองก็เท่านั้น หรือที่เมื่อก่อนเราเรียกกันว่า “สปริงหลอด” ทำออกมาทรงเดียว แต่ใช้กันหลากหลายเพราะมันไม่ได้เป็นทรงเข้าเบ้าปกติเหมือนแบบธรรมดา ปัจจุบันสตรัทปรับเกลียวก็ถูกพัฒนาขึ้นเป็นแบบสไลด์กระบอกคือมันสามารถปรับความสูงได้ที่ตัวกระบอกโช๊คอัพเลยไม่ต้องไปปรับที่เบ้าสปริงอีกแล้ว เพราะฉะนั้นจะแก้ปัญหาเรื่องการบีบสปริงในกรณีปรับสูงขึ้น รวมถึงอาการยันของโช๊คอัพเวลาปรับเตี้ย ปัจจุบันนี้ถ้าโช้คอัพแบบสตรัทปรับเกียวขายกันเป็นเซ็ทของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อโดยจะมาพร้อมสปริงที่มีค่าความแข็งของรถนั้นๆเลย นอกจากมันสามารถปรับความสูง-ต่ำได้แล้วยังสามารถปรับความหนืดได้ของโช๊คได้ด้วยจะเอาแข็งอ่อนขนาดไหนจัดได้หมดยี่ห้อที่นิยมสำหรับอีโคคาร์เช่น
โช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบ “สไลด์กระบอก”นี้ต้องบอกก่อนเลยว่ามันค่อนข้างกระด้างกว่าโช๊คเดิม และโช๊คแต่ง แน่นอนนะครับถึงแม้เจ้าของแบรนด์เค้าจะบอกว่านุ่มนวลก็ตามยังไงมันก็ยังแข็งและกระด้างกว่าโช๊คเดิม และโช๊คแต่ง มันต้องแลกกันครับจะเอาขับสนุกเค้าโค้งเฉียบฟิลลิ่งขับรถแข่งก็ต้องแลกกับความนุ่มนวล เพราะฉะนั้นถ้าท่านไหนไม่ชอบช่วงล่างที่กระด้างอย่าเปลี่ยนมาใช้โช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวนะครับ ส่วนเรื่องราคาแน่นอนครับมันสูงตามคุณภาพราคาเริ่มต้นของโช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวก็จะประมาณ 28,000 บาทขึ้นไปครับ แน่นอนท่านไหนที่เลือกใส่โช๊คอัพประเภทนี้คุณต้องรับรู้ไว้เลยว่ามันแข็งกระด้างกว่าโช๊คเดิม และโช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ ท่านที่ชอบความนุ่มนวลฟิลลิ่งแบบโช๊คเดิมผมไม่แนะนำเลย แต่ท่านไหนต้องการจัดทรงรถFitmentงามๆ เวลาขับได้ฟิลลิ่งแบบเข้าโค้งคมๆไม่มีอาการโคลงเข้าด้วยความเร็วนิ่งกริบ ควบคุมง่าย ขับสนุก ชอบขับรถเร็ว เวลาว่างๆไปลงวิ่งแข่งเซอร์กิตแบบเบาๆได้ โช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบ “สไลด์กระบอก”ตอบโจทย์คุณแน่นอน แต่ราคาก็จะสูงตามคุณภาพนะครับ เจ็บแต่จบครับ โช๊คเดิมโมดิฟาย สำหรับท่านที่อยากจะโหลด และต้องการฟิลลิ่งแน่น หนึบ แต่งบประมาณมีไม่มาก มันก็มีวิธีทำครับแต่ผมไม่ค่อยอยากแนะนำเท่าไหร่นัก มันทำได้ด้วยการ อัดโช๊ค ตัดสปริง หรือไม่ก็เอาโช๊คและสปริงเดิมไปแปลงเป็นสตรัทปรับเกลียว การอัดโช๊คถ้าทำได้ตามมาตรฐานมีการทดสอบดีๆ มันก็พอใช้ได้ครับ ส่วนการตัดสปริงเป็นวิธีที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะการตัดสปริงด้วยแก๊สทำให้สปริงเสียความยืดหยุ่น แข็งกระด้าง พร้อมหักและแตกได้ทุกเมื่อ!!อันตราย ดังนั้น โช๊คและสปริงซิ่งถึงถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนน ปัจจุบัน มีหลายแบรนด์ให้เลือก ตั้งแต่ญี่ปุ่นแท้ๆ ก็แพงหน่อย หรือ จากไตหวันก็ราคาถูกหน่อย และยังมีแบรนด์คนไทยที่ได้มาตรฐานอีกราคาซื้อหาไหวแน่นอน เดี๋ยวนี้ โช๊คอัพ พัฒนาไปมากโช๊คซิ่งสมัยนี้สามารถปรับความหนืดได้หลายระดับ และไม่แข็งกระด้างเหมือนยุคเก่าๆ เพราะหลายแบรนด์ก็มาพัฒนาและออกแบบให้เหมาะสมกับถนนเมืองไทย เพราะเมืองไทยถนนสุดยอดที่สุดแล้ว หลุมบ่อเพียบผ่านเมืองไทยได้ถือว่าโช๊คอัพแบรนด์นั้นอึด ทึก ทน ครับ รวมถึงวัสดุที่พัฒนามากขึ้น ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างมั่นใจมากขึ้น โช๊คอัพสมัยนี้พัฒนาออกมาได้คุณภาพใกล้เคียงกันหมดทุกแบรนด์แล้วครับสมัยนี้ ขึ้นอยู่กับบริการหลังการขาย และศูนย์ซ่อมมาตรฐานใครดีกว่าใครก็เท่านั้น โช๊คประเภทนี้ถ้าคุณดวงดีเจอร้านเทพๆ ที่แกะมาโมดิฟายแล้วปัญหาน้อยงานจบในครั้งเดียวคุณก็โชคดีไป ฟิลลิ่งมันคล้ายโช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ แต่ราคาถูกกว่า ประหยัดงบ แต่ถ้าเจอร้านแบบทำไม่จบทำไปทำมาปวดหัวเสียเวลาแถมเผลอๆแก้ไปมาราคาอาจจะสูงกว่าโช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นถ้าคิดอยากได้โช๊คประเภทนี้คิดดูให้ดีๆก่อนนะครับ |
สต รั ท ปรับ เกลียว ยี่ห้อ ไหน ดี
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.apacode Inc.
