แผนการสอนสังคม ม.1 เศรษฐศาสตร์


  • หน้าหลัก
  • /
  • รายการสินค้า
  • /
  • หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ม.1

ดาวน์โหลดสื่อประกอบการสอน

ISBN : 9786162038747

ชื่อชุด : หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน

ชื่อผู้แต่ง : ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ

ฉบับ : ฉบับ อญ.

รายละเอียดสินค้า

หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ม.1 ฉบับอนุญาต (อญ) ตรงตามหลักสูตรแกนกลาง '51 เป็นสื่อการเรียนรู้ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ครูและผู้เรียน ช่วยพัฒนาศักยภาพให้ผู้เรียนบรรลุตัวชี้วัดและมาตรฐานตามที่หลักสูตรกำหนดไว้ทุกประการ โดยผู้เรียนจะเข้าใจความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น วิเคราะห์ค่านิยมและพฤติกรรมการบริโภคของคนในปัจจุบัน เข้าใจถึงความสำคัญของสถาบันการเงินที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ สามารถยกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวันได้

หลักสูตร : แกนกลาง '51

แผนการสอนสังคม ม.1 เศรษฐศาสตร์

ราคา 54 บาท

แบบฝึกสมรรถนะและการคิด เศรษฐศาสตร์ ม.1

แผนการสอนสังคม ม.1 เศรษฐศาสตร์

ราคา 45 บาท

แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.1

แผนการสอนสังคม ม.1 เศรษฐศาสตร์

ราคา 1,000 บาท

Active Learner เศรษฐศาสตร์ ม.1 หลักสูตรแกนกลา...

สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

        เศรษฐศาสตร์มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ การศึกษาและทำความเข้าใจ ทรัพยากรที่มีจำกัดกับความต้องการที่มีไม่จำกัดมีผลต่อการตัดสินใจในการบริโภคของมนุษย์ได้อย่างเหมาะสม

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

ตัวชี้วัด

          ส 3.1  ม.1/1 อธิบายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์

จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ 

- นักเรียนสามารถอธิบายขอบข่ายของการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ได้

- นักเรียนสามารถบอกเป้าหมายของการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ได้ 

ด้านทักษะและกระบวนการ

- นักเรียนสามารถจำแนกเหตุการณ์ระหว่างเศรษฐศาสตร์จุลภาคและเศรษฐศาสตร์มหภาคได้

ด้านคุณลักษณะ 

- นักเรียนสามารถสะท้อนความสำคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อชีวิตประจำวันได้อย่างสมเหตุสมผล

การวัดผลและประเมินผล

- ประเมินจากการตอบคำถามในใบงาน

- ประเมินจากการจำแนกเหตุการณ์ระหว่างเศรษฐศาสตร์จุลภาคและเศรษฐศาสตร์มหภาค

แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา สงั คมศกึ ษาฯ 1
ประจาปีการศึกษา 2562

สาระ เศรษฐศาสตร์

โดย
นายปยิ ะบุตร จติ รช่วย
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ

กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
โรงเรียนมุกดาหาร อาเภอเมอื งมุกดาหาร
จังหวัดมกุ ดาหาร

สังกดั สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 22

แผนการจดั การเรียนรูห้ นว่ ยท่ี 1
เรือ่ ง ทำความรจู้ กั เศรษฐศาสตร์

สาระการเรยี นรู้ เศรษฐศาสตร์ รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562

แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 36 เร่อื ง ความหมายของเศรษฐศาสตร์ เวลา 1 คาบ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้

ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ทรพั ยากรทม่ี อี ยู่
จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มคา่ รวมทั้งเข้าใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำรงชวี ิตอย่าง
มีดุลยภาพ
ตัวชี้วดั

ส 3.1 ม.1/1 อธิบายความหมายและความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์

จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตวั ชว้ี ดั
1) ความรู้ (K)

นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของเศรษฐศาสตร์ได้
2) ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P)

นกั เรยี นสามารถจำแนกความหมายของเศรษฐศาสตร์ท่ีมคี วามจำเปน็ ต่อการดำเนนิ ชีวิตประจำวนั ได้
3) คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

นกั เรียนเหน็ ความสำคญั ของเศรษฐศาสตรท์ มี่ ีความจำเป็นตอ่ การดำเนินชวี ิตประจำวัน
สาระสำคญั
เศรษฐศาสตร์ เปน็ ศาสตรท์ ศ่ี กึ ษาถงึ การจัดการบริหารทรพั ยากรท่ีมีอย่อู ย่างจำกดั เพ่ือสนองความ
ต้องการของมนุษย์ทไ่ี ม่มขี ีดจำกัด อันเป็นการบรรเทาหรอื แกป้ ญั หาทจี่ ะเกิดขึน้ ของมนุษย์

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

√ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ √ 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง

2. ซ่อื สัตยส์ จุ รติ √ 6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

3. มวี นิ ัย 7. รักความเปน็ ไทย

√ 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มจี ติ สาธารณะ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

√ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร √ 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

√ 2. ความสามารถในการคิด 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

√ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

การจัดการเรยี นรู้

ขนั้ นำ
1. ครใู ช้คำถามกระต้นุ ความสนใจของนกั เรยี น เกยี่ วกับหลกั ของการใชท้ รพั ยากรรอบตวั เชน่ ในชีวิตประจำวนั

นักเรยี นใช้ทรพั ยากรอะไรบา้ ง โดยใหน้ กั เรยี นตอบคำถามและร่วมกนั อภิปราย
2. ครใู หน้ กั เรยี นดูตัวอยา่ งของใชท้ ่ีอยู่รอบตัวนักเรียน แลว้ ให้รว่ มกนั วิเคราะห์ถงึ ต้นทนุ ทรัพยากรที่

นำมาใชใ้ นการผลติ สินค้าดงั กล่าว โดยใหน้ ักเรยี นร่วมอภปิ รายและแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในชน้ั เรียน
3. ครกู ลา่ วชมเชยนักเรียน จากนน้ั สรุปประเด็นการแสดงความคิดเหน็ ว่าทรัพยากรตา่ งๆ ถกู นำมาใชง้ านเพ่อื

ตอบสนองความต้องการของมนษุ ย์ แตข่ ้อจำกดั ของทรัพยากรอาจมีไม่เพยี งพอต่อความตอ้ งการ จงึ ต้องมี
กระบวนการจดั การทรพั ยากรที่ถกู ต้องและมคี ณุ ภาพ จึงเป็นที่มาของการเรียนในเรอ่ื ง เศรษฐศาสตร์
ขัน้ ดำเนนิ การสอน
4. ครอู ธบิ ายความหมายของคำวา่ เศรษฐศาสตร์ พร้อมยกตัวอย่างจากสถานการณ์ตามแผนภาพการใช้เงิน จากหนังสือ
แบบเรยี น หรือตามสถานการณ์ตามแผนผังตัวอย่าง ดงั นี้

ตัวอยา่ งแสดงการวางแผนการใช้เงนิ ของนกั เรียนตามหลกั เศรษฐศาสตร์ ดงั น้ี

นักเรียน เศรษฐศาสตร์

ไดเ้ งินมา 100 บาทต่อวนั เงินท่ีมีจาํ กดั เพยี ง 100 บาท

นกั เรียนนาํ เงินที่ไดไ้ ปซ้ือส่ิงต่าง ๆ ความตอ้ งการท่ีไม่มีขีดจาํ กดั และเป็น
ท้งั ที่เป็นความจาํ เป็นจริง ๆ และ ความตอ้ งการท้งั ที่เป็นความจาํ เป็นและ
ความอยากได้ ซ่ึงนกั เรียนอาจจะ ความอยากได้ อยากมี
อยากได้ อยากซ้ือหลายอยา่ ง
รู้จกั วางแผนบริหารจดั การทรัพยากรที่
นกั เรียนวางแผนการใชเ้ งินโดยซ้ือของ มีจาํ กดั ใหต้ อบสนองความตอ้ งการของ
ท่ีอยากได้ โดยไม่กระทบต่อการซ้ือ เราใหม้ ากท่ีสุด = เศรษฐศาสตร์
ของที่จาํ เป็นจริง ๆ

5. ครใู ห้นกั เรียนศกึ ษา เร่อื ง ความสำคัญและประโยชน์ของเศรษฐศาสตร์ แล้วร่วมกนั วิเคราะหค์ วามสำคญั และประโชน์
ของเศรษฐศาสตร์ โดยทำเปน็ แผนผงั ความคิด เรือ่ ง ความสำคญั และประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์

6. ครใู ห้นักเรียนยกตัวอย่างคำตอบจากแผนผังความคิด ใหน้ กั เรียนในชั้นเรยี นร่วมกันแลกเปลี่ยนและอภิปรายความ
คิดเหน็ โดยครสู รปุ คำตอบทไ่ี ดเ้ ปน็ แผนผังความคดิ รวบยอดลงบนสไลด์ ตัวอย่างแผนผงั ดงั น้ี

เศรษฐศาสตร์ สาเหตุ ปัจจยั การเกดิ วชิ าเศรษฐศาสตร์

 ความตอ้ งการปัจจยั พ้นื ฐานของมนุษย์
1. อาหาร
2. เคร่ืองนุ่งห่ม
3. ท่ีอยอู่ าศยั
4. ยารักษาโรค

 ความตอ้ งการแกป้ ัญหาการใชท้ รัพยากรที่มีอยู่
อยา่ งจาํ กดั

ผล

 เกิดการเรียนรู้ คน้ ควา้ ทางดา้ นเศรษฐศาสตร์ เพ่ือนาํ ความรู้มาบริหาร
จดั การทรัพยากร ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด

7. ครูให้นักเรียนทำใบกิจกรรม เรื่อง ความสำคัญและประโยชน์ของเศรษฐศาสตร์
ขน้ั สรุป
8. ครูเฉลยคำตอบจากใบกิจกรรม แลว้ แลกเปลย่ี นความคิดเห็น ซักถามเรอ่ื งท่ผี เู้ รยี นสงสยั
9. ครสู รุปความรู้จากคาบเรียน คอื

เศรษฐศาสตร์ เป็นศาสตร์ทีศ่ ึกษาถงึ การจัดการบริหารทรพั ยากรท่ีมีอยู่อย่างจำกัด เพือ่ สนองความต้องการ
ของมนษุ ย์ทีไ่ มม่ ีขีดจำกัด อนั เป็นการบรรเทาหรอื แก้ปัญหาที่จะเกิดข้ึนของมนุษย์ และการศึกษาเศรษฐศาสตร์
ให้เข้าใจจะเปน็ ประโยชนท์ ง้ั ตอ่ ตนเอง ครอบครวั และสงั คมของเราดว้ ย

สื่อ/เอกสารประกอบการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนรายวชิ าสงั คมศึกษาฯ
2. เอกสาร ppt. เร่ือง ทำความรู้จักเศรษฐศาสตร์

ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. แผนผังสรปุ ความคดิ เรื่อง ความสำคญั และประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์
2. ใบกิจกรรม เร่อื ง ความสำคญั และประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์

ใบกจิ กรรม
เรอื่ ง ความสำคัญและประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์

คำชี้แจง ให้นกั เรยี นใหน้ กั เรยี นสรุปความรู้ เรอ่ื ง ความสำคญั และประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์ เป็นแผนผงั ความคดิ

ความสำคญั และประโยชนข์ อง
เศรษฐศาสตร์

ตอนที่ 2 ให้นกั เรียนยกตวั อย่างแนวทางการวางแผนการใชเ้ งินของตัวเอง ตามหลกั ของเศรษฐศาสตร์

แนวทางการวางแผนการใชจ้ า่ ยเงนิ

……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….

ถา้ ปฏิบตั ิ ถ้าไมป่ ฏบิ ตั ิ

ผลทเี่ กดิ ขน้ึ ผลทเี่ กิดขนึ้

..................................................... .....................................................
..................................................... .....................................................
..................................................... .....................................................
..................................................... .....................................................
.................................................... ....................................................

ชอ่ื -สกลุ ................................................................................................................ช้ัน.................เลขท่ี...............

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ใบงาน/ใบกจิ กรรม

คำชี้แจง :ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดับคะแนน

ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................ชั้น............เลขที่...........

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 ผลงานสอดคลอ้ งการนำไปปฏบิ ัติได้จริง
5 การตรงตอ่ เวลา/งานมรี ะเบียบ

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

บนั ทึกหลังสอน

1.ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้
 สอนไมไ่ ดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ เน่ืองจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................
2.ผลการเรียนของนักเรยี น
 จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นการประเมิน .......................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นการประเมนิ ...................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .................................
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรยี นทีไ่ ม่สนใจเรียน
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เร่ือง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมิน ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ....................................................... ผู้บนั ทึก
(…………………………………………………)
ครผู สู้ อน

บันทกึ หลังการสอน ตามแผนการจดั การเรียนรฉู้ บบั นี้ ไดร้ บั การพิจารณาจากกลุ่มงานบริหารฝ่ายวิชาการ แล้ว
ลงชอื่ ......................................................... ผู้รับรอง
(……………………………………………………)

หัวหนา้ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ลงชือ่ ..........................................................
(.........................................................)
รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ

แผนการจดั การเรียนรหู้ นว่ ยที่ 1
เร่ือง ทำความรจู้ กั เศรษฐศาสตร์

สาระการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ รายวชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562

แผนจดั การเรียนรทู้ ่ี 37 เรื่อง ทรพั ยากรกับความตอ้ งการของมนุษย์ เวลา 1 คาบ

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 3.1 เข้าใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใชท้ รัพยากรที่มอี ยู่
จำกัดไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพียง เพือ่ การดำรงชีวิตอย่าง
มีดุลยภาพ
ตวั ชีว้ ดั

ส 3.1 ม.1/1 อธิบายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์

จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ู่ตวั ชวี้ ัด
1) ความรู้ (K)

นักเรียนสามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั ทรพั ยากรทางเศรษฐศาสตร์ได้
2) ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P)

นกั เรียนสามารถวิเคราะห์และจำแนกแนวคดิ เก่ยี วกบั ทรัพยากรท่มี จี ำกดั กบั ความต้องการท่มี ไี มจ่ ำกดั ได้
3) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของทรพั ยากรทางเศรษฐศาสตร์

สาระสำคัญ
ทรพั ยากรกับความต้องการของมนุษย์ไมส่ มดลุ กัน ทำให้เกดิ ความขาดแคลนทรพั ยากรเปน็ ปัญหา

พ้ืนฐานนำไปสกู่ ารเกดิ ศาสตรว์ ชิ าเศรษฐศาสตรข์ ึ้นมาเพอื่ บรหิ ารจัดการทรพั ยากร

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

√ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ √ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง

2. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ √ 6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

3. มีวินยั 7. รักความเปน็ ไทย

√ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 8. มีจติ สาธารณะ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

√ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร √ 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

√ 2. ความสามารถในการคิด 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

√ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

การจัดการเรียนรู้

ขัน้ นำ
1. ครใู ชค้ ำถามเพื่อทบทวนความหมายของคำว่า ทรพั ยากร โดยให้นักเรยี นช่วยกนั อภปิ ราย หรอื หาความหมาย

ร่วมกนั
2. ครใู หน้ ักเรียนดูตัวอย่างรูปแผนผัง ทรัพยากรทางเศรษฐกจิ จากหนังสอื แบบเรียน แลว้ สรปุ เป็นแผนผัง ขน้ึ บน
สไลด์ ดังนี้

ทรัพยากรทางเศรษฐศาสตร์

ที่ดิน แรงงาน ทุน ผปู้ ระกอบการ

3. ครอู ธบิ ายนกั เรยี นว่า ทรัพยากรทางเศรษฐกิจ หรอื ปจั จยั ทางการผลิต มีความจำเปน็ ตอ่ การตอบสนองความ
ตอ้ งการของมนุษย์ ดังนั้นวันนเ้ี ราต้องเรยี นรู้เรือ่ ง ทรัพยากรทางเศรษฐกจิ ดา้ นตา่ งๆ ให้เข้าใจ

ข้ันดำเนินการสอน
4. ครใู ห้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น และอภิปรายเก่ยี วกบั ความสำคัญของทรพั ยากรทางเศรษฐศาสตรแ์ ต่ละประเภท
โดยครูใชค้ ำถาม ดังน้ี

- ท่ดี นิ มีความสำคญั อยา่ งไรในทางเศรษฐศาสตร์ (ลกั ษณะภมู ิประเทศ ภูมิอากาศเหนือพ้ืนดนิ ทรพั ยากรและแรต่ า่ ง ๆ ที่
อย่ใู นดนิ เป็นทรพั ยากรทางเศรษฐศาสตรท์ มี่ ีความสำคญั ต่อการผลิต)
- แรงงานมีความสำคัญอยา่ งไรในทางเศรษฐศาสตร์ (เป็นผ้ทู ีใ่ ชก้ ำลัง ความคดิ สตปิ ญั ญา ความรู้ ความชำนาญ ในการ
ผลิตสินค้าและบรกิ าร)
- ทุนมคี วามสำคัญอย่างไรในทางเศรษฐศาสตร์ (เปน็ อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เคร่อื งจักรต่าง ๆ ทเ่ี ปน็ ส่วนหนึ่งของการผลิต
สนิ ค้าและบรกิ าร)
- ผ้ปู ระกอบการมีความสำคญั อย่างไรในทางเศรษฐศาสตร์ (เปน็ ผรู้ วบรวมปจั จัยการผลิตอันไดแ้ ก่ ท่ดี นิ แรงงาน ทุน มา
ผลิตเป็นสินคา้ และบริการ)

5. ใหน้ ักเรียนศึกษา เรอ่ื ง ทรัพยากรทางเศรษฐศาสตร์ จากหนังสือแบบเรยี น จากน้นั ครูและนักเรียนร่วมกนั
สรุปเป็นแผนภาพความคดิ ดงั ตวั อย่าง

ทรัพยากรท่ีมีอยู่ : ท่ีดิน , แร่, ป่ าไม้ ,น้าํ
ในธรรมชาติ
ทรัพยากรที่เป็ น
ทรัพยส์ ิน ทรัพยากรท่ีมนุษย์ เครื่องมือ-เคร่ืองใชต้ ่าง ๆ
สร้างข้ึน เช่น เครื่องจกั ร , อาคาร
:

ทรัพยากรทาง
เศรษฐศาสตร์

ทรัพยากรท่ีเป็ น แรงงานเป็นผทู้ ี่ใชก้ าํ ลงั ความคิด ความรู้
มนุษย์ ในการผลิตสินคา้ และบริการ

ผปู้ ระกอบการ ผทู้ ่ีทาํ หนา้ ที่ในการรวบรวมปัจจยั การผลิต
มาผลิตสินคา้ และบริการ

6. ครยู กประเดน็ ปญั หาเก่ียวกบั ทรัพยากรมจี ำกัด แต่ความตอ้ งการของมนุษย์มไี มจ่ ำกดั แล้วร่วมกับนักเรียน
วิเคราะห์ เพ่อื สรุปเปน็ แผนภาพความคดิ ลงบนสไลด์ ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ ดงั ตัวอย่าง

ทรัพยากรมีจาํ กดั แต่ ความตอ้ งการของมนุษย์
มีไม่จาํ กดั

เกิดความขาดแคลน
นาํ ไปสู่

การผลิต การบริโภค การแบ่งสรร การแลกเปล่ียน

  7. จากนั้นครใู หน้ ักเรยี น ทำใบกิจกรรม เรอ่ื ง ความตอ้ งการทรัพยากรของมนุษย์

ขั้นสรุป
8. ครแู ละนกั เรียน ร่วมกันการอภิปราย เรอ่ื ง ความตอ้ งการทรัพยากรของมนุษย์ โดยใหแ้ สดงความคิดเห็นจาก

คำตอบในใบกิจกรรม ของนักเรยี น

9. ครสู รปุ ความรู้ เรือ่ ง ทรัพยากรและความต้องการของมนุษย์ วา่
ทรพั ยากรกับความต้องการของมนษุ ย์ไม่สมดุลกนั ทำใหเ้ กดิ ความขาดแคลนทรพั ยากรเป็นปัญหา

พ้นื ฐานนำไปสกู่ ารเกดิ ศาสตรว์ ิชาเศรษฐศาสตร์ขน้ึ มาเพอ่ื บริหารจดั การทรพั ยากร ทรัพยากรทาง
เศรษฐศาสตรเ์ ปน็ สง่ิ ท่มี จี ำกดั ดังนั้นจงึ มกี ารนำทรัพยากรทม่ี อี ยู่อย่างจำกดั มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ และ
เพยี งพอกับความต้องการของมนษุ ยม์ ากทสี่ ดุ

สื่อ/เอกสารประกอบการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวิชาสงั คมศกึ ษาฯ
2. เอกสาร ppt. เร่ือง ทรัพยากรและความตอ้ งการของมนษุ ย์

ช้ินงาน/ภาระงาน
1. แผนผังสรุปความคิด เร่อื ง ทรัพยากรทางเศรษฐศาสตร์
2. ใบกิจกรรม เร่อื ง ความต้องการทรัพยากรของมนุษย์

แบบสรปุ แผนผังความคดิ
เร่อื ง ทรัพยากรทางเศรษฐศาสตร์

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนให้นักเรยี นสรุปความรู้ เรอ่ื งทรัพยากรทางเศรษฐศาสตร์ เปน็ แผนผังความคดิ

………….

....................... ทรัพยากรทม่ี ี : เชน่ .............................................
....................... อยใู่ นธรรมชาติ ..........................................................
.......................
...................... ………….

ทรัพยากรทาง ทรพั ยากรที่มนุษย์ : เช่น .............................................
เศรษฐศาสตร์ สร้างขึ้น ..........................................................

....................... …………….…
.......................
....................... เป็นผู้ท่ใี ชก้ ำลงั ความคดิ ความรู้
...................... ในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร

…………….…

ผูท้ ที่ ำหนา้ ทใี่ นการรวบรวมปัจจยั การผลติ มาผลติ
สินคา้ และบริการ

ช่ือ-สกุล................................................................................................................ช้ัน.................เลขที่...............

ใบกจิ กรรม
เร่ือง ความต้องการทรพั ยากรของมนุษย์

ชื่อ-สกุล...................................................................................................................ชนั้ ............เลขที่............

คำช้ีแจง ให้นกั เรียนศกึ ษาลกั ษณะความต้องการของมนุษย์ จากนัน้ จำแนกลกั ษณะความต้องการของมนษุ ย์
เป็นแผนภาพความคดิ ตามหัวข้อทกี่ ำหนดให้

ความต้องการโดยทั่วไปไมม่ ที ่ีสน้ิ สุด ความต้องการเฉพาะอย่างซงึ่ มกี ารสิ้นสุด

------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------

------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------

------------------------------------------------------ ----------------------------------------------------------

ความต้องการ ความต้องการทอี่ าจทดแทนกนั ได้
ทรพั ยากรของมนษุ ย์
----------------------------------------------------------

----------------------------------------------------------

----------------------------------------------------------

ความตอ้ งการท่ีอาจกลายเปน็ นิสยั ความตอ้ งการทีม่ ีสว่ นเกย่ี วพนั กนั

---------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------- ปัญหาการขาดแคลน
ทรพั ยากร

ตัวอยา่ งสาเหตุ

------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------

ผลกระทบทเ่ี กดิ ข้ึน

------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ใบงาน/ใบกจิ กรรม

คำชี้แจง :ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดับคะแนน

ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................ชั้น............เลขที่...........

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 ผลงานสอดคลอ้ งการนำไปปฏบิ ัติได้จริง
5 การตรงตอ่ เวลา/งานมรี ะเบียบ

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

บนั ทกึ หลงั สอน

1.ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้
 สอนไมไ่ ดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................
2.ผลการเรียนของนักเรยี น
 จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นการประเมิน .......................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นการประเมิน ...................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรยี นทีไ่ ม่สนใจเรยี น
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทีไ่ ม่ผา่ นการประเมิน ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื ....................................................... ผู้บนั ทกึ
(…………………………………………………)
ครูผูส้ อน

บนั ทกึ หลังการสอน ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ฉบบั นี้ ไดร้ บั การพจิ ารณาจากกลุม่ งานบริหารฝ่ายวิชาการ แล้ว
ลงชือ่ ......................................................... ผูร้ บั รอง
(……………………………………………………)

หัวหนา้ กลุ่มสาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ลงชื่อ ..........................................................
(.........................................................)
รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นรูห้ นว่ ยที่ 1
เร่ือง ทำความรูจ้ กั เศรษฐศาสตร์

สาระการเรยี นรู้ เศรษฐศาสตร์ รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562

แผนจดั การเรียนรทู้ ี่ 38 เรื่อง การเลือกใช้ทรัพยากรและคา่ เสียโอกาส เวลา 1 คาบ

มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้

ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ทรัพยากรท่มี ีอยู่
จำกัดไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่อื การดำรงชีวิตอย่าง
มดี ลุ ยภาพ
ตัวชีว้ ดั

ส 3.1 ม.1/1 อธบิ ายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์

จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ูต่ วั ชวี้ ัด
1) ความรู้ (K)

นกั เรยี นสามารถอธิบายเกยี่ วกบั การเลือกใชท้ รัพยากร และค่าเสยี โอกาสได้
2) ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P)

นักเรียนสามารถค้นหาความรู้ด้านการเลอื กใช้ทรัพยากรได้
3) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เห็นความสำคญั และความจำเป็นในการศกึ ษาความรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ เพื่อเปน็ ประโยชน์ต่อการดำเนนิ
ชีวิตประจำวัน

สาระสำคัญ

การมที รัพยากรท่จี ำกัด ทำให้ต้องตัดสินใจเลือกสิ่งทีก่ ่อให้เกิดประโยชน์สูงสดุ การเลอื กสิ่งใดสง่ิ หนึ่ง

อาจสง่ ผลทำให้เกิดค่าเสยี โอกาสต่ออกี สิ่งหนึง่ ท่ไี ม่ไดเ้ ลือก

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

√ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ √ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง

2. ซื่อสัตยส์ จุ รติ √ 6. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

3. มีวินัย 7. รักความเปน็ ไทย

√ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 8. มจี ิตสาธารณะ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

√ 1. ความสามารถในการส่ือสาร √ 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

√ 2. ความสามารถในการคดิ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

√ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

การจดั การเรยี นรู้

ขั้นนำ
1. ครใู ชส้ ถานการณก์ ารใชท้ รัพยากร เพื่อให้นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์ คอื

นายวินยั ไดร้ บั ที่ดนิ เปน็ มรดกมาแปลงหนง่ึ เขาวางแผนทีจ่ ะนำทด่ี ินไปขายแลว้ นำเงินที่
ได้ ไปลงทุนในธรุ กิจรา้ นอาหาร แตน่ างวไิ ล ภรรยาไมเ่ หน็ ดว้ ย เพราะเหน็ ว่าเศรษฐกจิ ไม่
คอ่ ยดี พร้อมท้ัง เสนอใหน้ ายวนิ ยั เกบ็ ทีด่ นิ ไวแ้ ล้วปลอ่ ยให้ผอู้ น่ื เชา่ นายวินยั จึงตดั สนิ ใจเกบ็
ท่ดี นิ ไว้แลว้ ประกาศหาผู้เชา่ ทีส่ นใจ

โดยครใู ชค้ ำถามเพอื่ กระตนุ้ การวิเคราะหข์ องผู้เรียน คอื
- จากสถานการณท์ รพั ยากรในที่นี้หมายถงึ อะไร (ทีด่ นิ )
- นายวินัยตดั สนิ ใจอยา่ งไร (เก็บทด่ี ินไวแ้ ลว้ หาคนมาเช่า)
- การตัดสนิ ใจเลอื กของนายวินยั เกิดค่าเสยี โอกาสอยา่ งไร (เกิดค่าเสียโอกาสตำ่ สุด เนอ่ื งจากการปลอ่ ยทดี่ ินให้

เช่า กจ็ ะมีรายได้เขา้ มาโดยท่ีไมต่ ้องลงทนุ มาก แต่ถา้ ทำธุรกจิ ร้านอาหาร อาจจะมรี ายได้มากกว่า แตก่ ม็ ีโอกาส
ท่ีจะขาดทุนได้)
- นกั เรียนเห็นด้วยกับการตัดสินใจของนายวนิ ยั หรือไม่ อยา่ งไร (เห็นดว้ ย เพราะมีค่าเสยี โอกาสต่ำ)

2. ครูอธบิ ายให้นักเรียนฟงั ว่า ตามหลกั ของเศรษฐศาสตร์ มนษุ ย์เราต้องเลือกใชท้ รัพยากรใหเ้ กดิ ประโยชนค์ ุม้ คา่
ทีส่ ดุ และกอ็ าจเสยี โอกาสในบางทรพั ยากรทไี่ มเ่ ลอื กใช้ เพราะทรพั ยากรอาจมอี ยา่ งจำกัด มไี มเ่ พียงพอต่อ
ความตอ้ งการทง้ั หมดของมนษุ ย์

ขนั้ สอน
3. ครใู ช้สไลด์อธบิ ายทม่ี าและความสำคญั ของการเลอื กใชท้ รพั ยากร ประโยชนก์ ารเลอื กใชท้ รัพยากร และการเสยี
โอกาสของการไม่ใชท้ รัพยากร
4. ครใู หน้ กั เรยี นศึกษาเกยี่ วกับ การเลอื กใช้ทรัพยากร และการเสยี โอกาสของการไมใ่ ชท้ รพั ยากร จากหนังสอื
แบบเรยี น

5. ครูเขียนสรุปแผนภาพความคิดหลักทางเศรษฐศาสตรบ์ นสไลดเ์ พอ่ื ให้นักเรยี นรว่ มกันอภิปราย

ตัวอยา่ งแผนภาพ แนวคดิ หลกั ทางเศรษฐศาสตร์

ทรัพยากรทม่ี จี ํากดั แต่ ความต้องการของ
มนุษย์มไี ม่จาํ กดั

ปัญหาท่ีมนุษย์
ต้องเผชิญ

ปัญหาความขาดแคลน

หาทางออกใหก้ บั ปัญหา ทาํ ใหเ้ กิด
เศรษฐศาสตร์
ดว้ ยการ ดว้ ยการ ค่าเสียโอกาส
บริหารจัดการทรัพยากร ตดั สินใจเลือก ทาํ ใหเ้ กิด

จากแผนผงั ครสู ามารถใชค้ ำถาม คอื
เศรษฐศาสตรเ์ กิดข้นึ มาเพราะหลกั เหตุผลใด มสี าเหตมุ าจากปจั จยั ใดบา้ ง
(ตัวอย่างคำตอบ เศรษฐศาสตรเ์ กดิ ขึ้นจากการแก้ปญั หาและบริหารจัดการทรพั ยากร สาเหตมุ าจาก
ทรัพยากรมจี ำกัด แตค่ วามต้องการของมนษุ ย์มไี มจ่ ำกัด สง่ ผลให้เกดิ ปญั หาความขาดแคลน
ทรัพยากร จงึ เกดิ วชิ าเศรษฐศาสตรข์ ้นึ )

6. ครใู ห้นกั เรยี นทำใบกิจกรรม เร่ือง การเลอื กใชท้ รพั ยากร และคา่ เสยี โอกาส

ข้ันสรุป
7. ครใู ห้นักเรียนนำเสนอคำตอบจากใบกิจกรรมเพอ่ื แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ โดยครูชว่ ยสรปุ ให้เกิด
แนวความรู้ เร่ือง การเลือกทรัพยากร และค่าเสยี โอกาส ทถ่ี ูกตอ้ ง
8. ครสู รปุ ความร้จู ากบทเรียน คอื
การท่ีทรพั ยากรมอี ยูอ่ ย่างจำกัด หากไม่เพยี งพอตอ่ ความต้องการของมนษุ ย์ จะเกิดความขาดแคลน จึงทำให้
เกิดการเลือกท่ีจะใชท้ รพั ยากรไปในทางใดทางหนง่ึ เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการและใหเ้ กดิ ความพึงพอใจสูงสดุ
การเลือกใช้ทรพั ยากร ยอ่ มทำใหเ้ กิดการเสียโอกาสท่ีจะได้รบั ประโยชน์จากการเลอื กอีกทางหนงึ่

สือ่ /เอกสารประกอบการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนรายวิชาสังคมศกึ ษาฯ
2. เอกสาร ppt. เร่ือง การเลือกใชท้ รพั ยากร และค่าเสียโอกาส

ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. ใบกจิ กรรม เร่อื ง เร่ือง การเลอื กใช้ทรพั ยากร และคา่ เสียโอกาส

ใบกจิ กรรม
เร่ือง การเลอื กใชท้ รัพยากรและคา่ เสียโอกาส

ช่อื -สกุล...................................................................................................................ชนั้ ............เลขท.่ี ...........
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกทรัพยากรจากสถานการณต์ ่อไปน้ี แลว้ วเิ คราะหถ์ ึงค่าเสียโอกาสทเี่ กดิ ขน้ึ

************เมอื่ นกั เรียนมีเงนิ จำนวน 300 บาท***********

กระเป๋ านกั เรียน 250 บาท

รองเทา้ กีฬา 285 บาท

นาฬิกา 299 บาท

ทานบุฟเฟตช์ าบู 299 บาท อลั บ้มั ศิลปิ นท่ีชอบ 279 บาท

การเลอื กซือ้ อะไร /เพอ่ื อะไร ค่าเสยี โอกาส

---------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------

-------------------------------------------------------- -----------------------------------------------------------

นกั เรยี นมหี ลกั การเลอื กใชท้ รพั ยากร อยา่ งไรบ้าง จงอธิบาย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ใบงาน/ใบกจิ กรรม

คำชี้แจง :ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดับคะแนน

ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................ชั้น............เลขที่...........

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 ผลงานสอดคลอ้ งการนำไปปฏบิ ัติได้จริง
5 การตรงตอ่ เวลา/งานมรี ะเบียบ

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

บันทกึ หลังสอน

1.ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................
2.ผลการเรยี นของนักเรยี น
 จำนวนนกั เรยี นทผี่ า่ นการประเมนิ .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน ...................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไ่ี มส่ นใจเรยี น
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ขี ้อเสนอแนะ

ลงช่อื ........................................... ผ้บู ันทึก
(…………………………………………………)

ครผู ้สู อน

บนั ทึกหลงั การสอน ตามแผนการจดั การเรียนรูฉ้ บับน้ี ไดร้ บั การพิจารณาจากกลมุ่ งานบรหิ ารฝา่ ยวิชาการ แลว้
ลงชอ่ื ........................................... ผู้รบั รอง
(……………………………………………………)

หัวหนา้ กลุม่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ลงชื่อ ...........................................
(.........................................................)
รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารวชิ าการ

แผนการจัดการเรยี นรู้หนว่ ยที่ 2
เรอ่ื ง อุปสงค์และอปุ ทาน

สาระการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ รายวชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562

แผนจดั การเรียนรูท้ ี่ 39 เร่ือง ความหมายของอุปสงค์และอปุ ทาน เวลา 2 คาบ

มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกจิ ตา่ งๆ ความสมั พันธ์ทางเศรษฐกจิ และความ
จำเป็นของการรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก

ตวั ชว้ี ดั
ส 3.2 ม.1/3 ระบุปัจจยั ท่ีมีอทิ ธพิ ลตอ่ การกำหนดอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน

จุดประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ วั ชวี้ ดั
1) ความรู้ (K)

นกั เรยี นสามารถอธิบายความหมายของอปุ สงคแ์ ละอุปทานได้
. 2) ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P)

นกั เรียนสามารถวเิ คราะหค์ วามสมั พันธ์ของกฎอุปสงค์และกฎอปุ ทาน
3) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

สนใจศึกษาเรยี นรรู้ ะบบกลไกราคาและกลไกของตลาดในระบบเศรษฐกจิ

สาระสำคญั
อปุ สงคเ์ ป็นความต้องการซอื้ สนิ ค้าและบรกิ าร อปุ ทานเปน็ ความต้องการขายสินค้าและบรกิ าร

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

√ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ √ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง

2. ซ่อื สัตยส์ ุจรติ √ 6. มุ่งม่นั ในการทำงาน

3. มวี ินยั 7. รักความเปน็ ไทย

√ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 8. มจี ิตสาธารณะ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

√ 1. ความสามารถในการสื่อสาร √ 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

√ 2. ความสามารถในการคดิ √ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

√ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

การจดั การเรยี นรู้

ขน้ั นำ
1. ครใู ห้นกั เรยี นผลัดกนั เล่าประสบการณ์ของนักเรยี นเก่ยี วกับการใช้จ่ายเงินซอ้ื สนิ ค้า ในหัวข้อ เช่น

- นักเรียนเคยใช้จา่ ยในเร่อื งใดบ้าง
- นกั เรยี นมเี หตุผลในการใชจ้ ่ายอยา่ งไร
2. ครูกระตุน้ นักเรยี นดว้ ยคำถามท่เี กีย่ วข้องกบั การเลอื กซื้อสนิ คา้ และบรกิ าร เช่น
- นกั เรยี นมีหลกั ในการเลอื กซอื้ สินค้าและบรกิ ารอยา่ งไร
(แนวตอบ เชน่ ซือ้ เมื่อมีความจำเปน็ ตอ้ งใช้ ราคามีความเหมาะสมกับคุณภาพ ใช้ประโยชนไ์ ด้
หลายอย่าง ใช้ไดน้ าน และมคี วามปลอดภยั )
- เพราะเหตใุ ด นกั เรยี นจงึ ควรมคี วามรูเ้ ร่ืองการบรโิ ภค
(แนวตอบ เพราะจะได้เลือกบรโิ ภคสนิ คา้ และบริการไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและคุม้ คา่ )
3. ครูนำภาพสินคา้ ประเภทต่างๆ ท่พี อ่ คา้ แม่คา้ มาวางกองขาย พร้อมมปี ระกาศลดราคาสินค้า มปี ระชาชนไป
ซือ้ กนั จำนวนมาก มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกนั แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับภาพ
โดยการตอบคำถามต่อไปนี้
- ทำไมประชาชนหรือผู้บริโภคจึงพากันไปซ้อื สนิ คา้ จำนวนมาก
- ถ้านกั เรียนเห็นสนิ ค้าลดราคามากกว่าเดิม นกั เรียนจะไปซือ้ หรอื ไม่ อธิบายเหตผุ ล
4. ครอู ธบิ ายเช่ือมโยงใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า ถา้ ราคาสนิ ค้าต่ำผูบ้ รโิ ภคจะซอื้ สินคา้ นน้ั มากขึน้ แตถ่ า้ ราคาสินค้าสูง
ผบู้ ริโภคจะซ้ือสินค้าน้ันนอ้ ยลง ซง่ึ เป็นไปตามกฎอปุ สงค์ อุปทาน

ข้ันสอน
5. ครแู สดงเส้นอุปสงค์ พรอ้ มทงั้ อธิบายประกอบ ดงั นี้

กราฟแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งปริมาณ
ความต้องการซอ้ื ขนมเค้กและราคา

  จากกราฟแสดงให้เหน็ ความต้องการซ้ือขนมเคก้ ในระดับราคาต่าง ๆ กนั ในช่วงเวลาหน่ึง เช่น ท่ีจดุ A จะเห็นวา่
ทร่ี าคา 25 บาท ปริมาณซื้อขนมเคก้ 1 ช้นิ ท่ีจุด D ราคาลดลงเหลือ 10 บาท จะซื้อขนมเค้ก 4 ชิ้น
ดังนั้น เราจะเหน็ ไดว้ ่าความตอ้ งการซอ้ื สินค้าจะเพ่มิ สูงข้นึ เม่ือราคาลดลง แตเ่ มอื่ ราคาเพม่ิ สูงขึ้น ความต้องการซอื้ จะ
ลดลง เปน็ ตัวอย่างแสดงใหเ้ ห็นวา่ ปรมิ าณอุปสงค์ต่อสินค้าใด ๆ มกั จะมีความสัมพนั ธใ์ นทางตรงกนั ขา้ มกับราคาของ
สนิ คา้ นน้ั ๆ
6. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษากราฟแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งปริมาณความตอ้ งการซอ้ื และราคาแล้วใหน้ ักเรยี นตอบ
คำถาม ดังนี้

 ถ้าสินค้าและบรกิ ารมีราคาสูงข้ึน ความต้องการซ้ือสนิ คา้ จะเปน็ อยา่ งไร
(ความตอ้ งการซอื้ จะลดลง)

 ถา้ ราคาสินคา้ ลดลง ความตอ้ งการของผซู้ อ้ื จะเปน็ อย่างไร (ความต้องการซอื้ เพ่ิมขน้ึ )
 สรุปแลว้ อุปสงค์คอื อะไร (ปรมิ าณความต้องการซอื้ สินค้าหรือความสามารถในการซือ้ สนิ คา้ และบรกิ าร)
7. ครูให้นกั เรียนทำใบงาน เรือ่ ง อุปสงค์
8. ครูแสดงเส้นอปุ ทาน พร้อมทง้ั อธบิ ายประกอบ ดังนี้

กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งปริมาณเสนอขายไก่ทอดและราคา
จากกราฟแสดงให้เห็นปริมาณขายไก่ทอดในระดับราคาต่าง ๆ กัน ในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ที่จุด E ราคาไก่ทอด
ชิ้นละ 5 บาท ผู้ขายจะเสนอขายไก่ทอด 10 ชิ้น หรือที่จะ A ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 25 บาท ผู้ขายจะเสนอขายเพิ่มขึ้นเป็น
50 ชน้ิ ดงั น้นั เราจะเห็นได้ว่าปรมิ าณเสนอขายสินค้าจะเพิ่มสงู ข้นึ เมื่อราคาสินค้าเพ่ิมสูงขึน้ เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า
ปริมาณขายสนิ ค้าจะมคี วามสัมพนั ธไ์ ปในทศิ ทางเดยี วกันกบั สนิ คา้
โดยครูใหน้ ักเรยี นศึกษากราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างปรมิ าณเสนอขายและราคา แลว้ ใหน้ ักเรียนร่วมกันตอบ
คำถาม ดังน้ี
 ถา้ ราคาสนิ คา้ และบรกิ ารเพ่ิมสูงขึน้ ความต้องการซอื้ และขายสินค้าจะมีลกั ษณะอยา่ งไร

(ราคาสนิ คา้ สูง ความต้องการซื้อจะลดลง แต่ความตอ้ งการขายสนิ คา้ จะเพมิ่ ข้นึ )
 จากแผนภาพเส้นอุปสงค์และเส้นอุปทานมีลักษณะอย่างไร

(ตวั อยา่ งคำตอบปริมาณอปุ ทานจะสงู กว่าอุปสงค์ คอื ราคาสนิ ค้าและบริการ มรี าคาสงู อุปสงค์ (ความ
ต้องการสนิ คา้ ) จะลดลงแตอ่ ปุ ทาน (ความต้องการขายสนิ คา้ ) จะเพิม่ สูงขน้ึ )
 สรุปแล้วอุปทาน คอื อะไร(ปรมิ าณความตอ้ งการขายสนิ ค้าและบริการ)

9. ครูให้นกั เรียนทำใบงาน เรอื่ ง อปุ ทาน

ขั้นสรุป
10. ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคำตอบจากใบงาน เร่อื ง อปุ สงค์ และอปุ ทาน
11. ครสู รปุ ความรู้ เรอื่ ง ความหมายของอปุ สงค-์ อปุ ทาน คอื

อุปสงค์ คือ ความตอ้ งการซื้อสินค้าและบรกิ าร โดยมที ศิ ทางตรงกนั ขา้ มกับระดบั ของราคา กลา่ วคือ
เมือ่ ระดบั ราคาสินคา้ เพ่ิมขึ้น ความต้องการซอ้ื สินค้าชนิดน้ันจะลดลง

อปุ ทาน คอื ปริมาณเสนอขายสนิ ค้า โดยอุปทานมีความสัมพนั ธ์ในทศิ ทางเดียวกบั ราคา กล่าวคือ
เมื่อระดบั ราคาสนิ ค้าเพ่มิ ข้นึ ผขู้ ายจะยนิ ดีเสนอขายสินค้าในปรมิ าณทีเ่ พ่มิ ข้ึน

สื่อ/เอกสารประกอบการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียนรายวชิ าสังคมศึกษาฯ
2. เอกสาร ppt. เรือ่ ง อุปสงค์ อปุ ทาน

ช้ินงาน/ภาระงาน
1. ใบกจิ กรรม เรือ่ ง อุปสงค์ และ อปุ ทาน

ใบกิจกรรม เร่ือง อปุ สงค์

ชอ่ื -สกลุ …………………………………………………………………………………………ชัน้ ...............เลขท่.ี ............

คำชแี้ จง ตอนท่ี 1 ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี

1. เม่ือนกั เรียนเลอื กซื้อสินค้า ราคา มผี ลต่อการตัดสินใจเลือกซ้อื หรือไม่ อย่างไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. นักเรียนคดิ ว่าเมือ่ สินคา้ มีการลดราคา จะส่งผลตอ่ ผู้บริโภคอย่างไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. อุปสงคม์ ีความหมายวา่ อยา่ งไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. กฎของอปุ สงค์ มคี วามสำคญั อยา่ งไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรียนฝึกเขียนกราฟแสดงความสัมพันธข์ องอุปสงค์และราคาสนิ คา้ จากตารางทกี่ ำหนดให้

ราคา ชานมไข่มกุ (บาท/แก้ว) 35 30 25 20 15

ปรมิ าณความต้องการซื้อชานมไขม่ ุก (แก้ว) 5 8 10 15 20

-------------------

-------------------

ใบกิจกรรม เร่ือง อุปทาน

ชื่อ-สกุล…………………………………………………………………………………………ชนั้ ...............เลขท.่ี ............

คำช้ีแจง ตอนท่ี 1 ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้

1. เม่ือนกั เรยี นเปน็ เจา้ ของสนิ ค้า เพ่ือวางจำหนา่ ย เปา้ หมายสงู สดุ ของนกั เรยี นคอื อะไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. หากนักเรยี นเปน็ ผผู้ ลิตสินคา้ เมื่อราคาสนิ ค้าท่ีผลติ เพ่ิมสงู ข้นึ นกั เรียนจะประกอบการอยา่ งไรต่อไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. อปุ ทานมคี วามหมายวา่ อยา่ งไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. กฎของอุปทาน มคี วามสำคญั อย่างไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นฝึกเขยี นกราฟแสดงความสัมพนั ธข์ องอปุ ทานและราคาสนิ ค้าจากตารางท่ีกำหนดให้

ราคา ขนมเคก้ (บาท/ช้ิน) 70 60 50 40 30
ปริมาณความต้องการซือ้ ขนมเค้ก (ชิ้น) 20 16 14 10 6

-------------------

-------------------

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ใบงาน/ใบกจิ กรรม

คำชี้แจง :ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดับคะแนน

ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................ชั้น............เลขที่...........

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 ผลงานสอดคลอ้ งการนำไปปฏบิ ัติได้จริง
5 การตรงตอ่ เวลา/งานมรี ะเบียบ

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

บันทกึ หลังสอน

1.ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................
2.ผลการเรยี นของนักเรยี น
 จำนวนนกั เรยี นทผี่ า่ นการประเมนิ .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน ...................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไ่ี มส่ นใจเรยี น
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ขี ้อเสนอแนะ

ลงช่อื ........................................... ผ้บู ันทึก
(…………………………………………………)

ครผู ้สู อน

บนั ทึกหลงั การสอน ตามแผนการจดั การเรียนรูฉ้ บับน้ี ไดร้ บั การพิจารณาจากกลมุ่ งานบรหิ ารฝา่ ยวิชาการ แลว้
ลงชอ่ื ........................................... ผู้รบั รอง
(……………………………………………………)

หัวหนา้ กลุม่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ลงชื่อ ...........................................
(.........................................................)
รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารวชิ าการ

แผนการจัดการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 2
เรื่อง อปุ สงคแ์ ละอุปทาน

สาระการเรยี นรู้ เศรษฐศาสตร์ รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2562

แผนจดั การเรียนรูท้ ่ี 40 เรื่อง ปัจจยั ของอุปสงคแ์ ละอุปทาน เวลา 1 คาบ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐานการเรียนรู้

ส 3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจและความ
จำเป็นของการรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก

ตวั ชี้วดั
ส 3.2 ม.1/3 ระบปุ จั จยั ทีม่ ีอทิ ธิพลต่อการกำหนดอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ่ตู ัวชว้ี ดั
1) ความรู้ (K)

นักเรียนสามารถอธิบายปจั จยั ของการเกดิ อุปสงค์และอปุ ทานได้
. 2) ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P)

นักเรยี นสามารถจำแนกปัจจยั ท่ีทำใหเ้ กิดอปุ สงค์และกฎอุปทานได้
3) คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

นักเรยี นมีความสนใจในการศกึ ษาปจั จัยท่ีมอี ทิ ธพิ ลในการกำหนดอปุ สงค์ เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาใน
การเลอื กซื้อสนิ คา้ และบริการในการดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั ได้

สาระสำคญั

ปัจจยั พื้นฐานท่ีมอี ิทธิพลในการกำหนดอุปสงคห์ รือความตอ้ งการซอื้ ของมนษุ ย์ ไดแ้ ก่

ราคาสินคา้ และบรกิ าร รายได้ของผูบ้ ริโภค รสนิยม ความนิยม สมยั นิยมของผ้บู ริโภค และฤดูกาลหรอื เทศกาล

และราคาสนิ คา้ และบรกิ าร ราคาปัจจัยการผลติ เทคโนโลยี และจำนวนของผขู้ าย เป็นปัจจยั ที่มีอิทธิพลในการ

กำหนดอุปทาน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

√ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ √ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง

2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ √ 6. มุ่งมั่นในการทำงาน

3. มีวินยั 7. รักความเปน็ ไทย

√ 4. ใฝ่เรยี นรู้ 8. มีจติ สาธารณะ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

√ 1. ความสามารถในการส่อื สาร √ 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

√ 2. ความสามารถในการคดิ √ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

√ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

การจัดการเรียนรู้

ข้ันนำ
1. ครทู บทวน เนื้อหาเรื่องอปุ สงค์ อปุ ทานจากคาบเรียนที่แล้ว โดยใหส้ รปุ เปน็ แผนผังขน้ึ สไลดใ์ ห้นกั เรยี นดแู ละ
ร่วมกันอภปิ ราย วา่ จากแผนผงั น้ี นกั เรียนได้ความรอู้ ยา่ งไรบา้ ง

ราคาสินค้าและบริการสูงขนึ้ (มี ปริมาณเสนอซื้อ (อุปสงค์)
ราคาแพงขนึ้ ) ลดลง

กฎของอุปสงค์

ราคาสินค้าและบริการลดลง (มี ปริมาณเสนอซื้อ (อุปสงค์)
ราคาถูกลง) เพม่ิ ขนึ้

ราคาสินค้าและบริการสูงขนึ้ ปริมาณเสนอขาย (อปุ ทาน)
(มรี าคาแพงขนึ้ ) เพม่ิ ขึน้

กฎของอปุ ทาน

ราคาสินค้าและบริการลดลง ปริมาณเสนอขาย (อปุ ทาน)
(มรี าคาถูกลง) ลดลง

จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถาม ดงั นี้
ราคาเป็นปัจจยั สำคญั ต่อการตัดสินใจเลอื กซ้อื สนิ ค้าอยา่ งไร
(ตวั อย่างคำตอบ ผูบ้ ริโภคจะตัดสินใจเลอื กซ้อื สินคา้ ที่ราคาถกู ในปริมาณท่ีเพ่ิมมากขนึ้ )

ขน้ั สอน
2. ครใู หน้ กั เรยี นดูวิดที ศั น์เกย่ี วกบั เรอื่ ง ปจั จัยของอปุ สงค์ และอปุ ทาน แลว้ ทำใบกิจกรรม ท่ี 1
เรือ่ ง ปจั จยั การเกิดอุปสงคแ์ ละอุปทาน
3. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกนั อภปิ รายคำตอบจากใบกิจกรรม เร่อื ง ปจั จยั การเกดิ อุปสงค์และอุปทาน เพ่อื ให้เกดิ
เป็นความร้ทู ่ีถูกตอ้ ง
4. ครใู หน้ ักเรียน ศกึ ษา สถานการณ์ 2 สถานการณท์ ีเ่ กย่ี วข้องกับ ปัจจัยในการเกดิ อุปสงค์และอปุ ทานแล้ว
ให้นกั เรยี น ทำใบกจิ กรรม เพ่ือตอบคำถาม จากสถานการณท์ ก่ี ำหนดให้
(** สถานการณท์ ก่ี ำหนดให้อยใู่ นใบกจิ กรรมของนกั เรยี น**)
5. ครสู มุ่ เรยี กให้นกั เรยี นออกมานำเสนอ คำตอบจากใบงาน ให้เพือ่ นๆอภิปรายแลกเปลีย่ นข้อคิดเหน็

ขนั้ สรปุ
6. ครใู หน้ กั เรียนซักถามในข้อทส่ี งสยั เก่ยี วกบั ปัจจัยในการเกดิ อุปสงคแ์ ละอุปทาน
7. ครสู รปุ ความรู้จากบทเรยี นวา่

ปัจจัยพ้นื ฐานที่มอี ทิ ธพิ ลในการกำหนดอุปสงคห์ รือความตอ้ งการซ้ือของมนษุ ย์ ไดแ้ ก่
ราคาสนิ ค้าและบรกิ าร รายไดข้ องผ้บู ริโภค รสนยิ ม ความนิยม สมยั นิยมของผู้บริโภค และฤดกู าลหรือเทศกาล
และราคาสนิ คา้ และบริการ ราคาปจั จัยการผลิต เทคโนโลยี และจำนวนของผขู้ าย เป็นปจั จัยทม่ี ีอทิ ธพิ ลในการ
กำหนดอปุ ทาน

สื่อ/เอกสารประกอบการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นรายวิชาสงั คมศึกษาฯ
2. เอกสาร ppt. เร่ือง ปจั จยั ในการเกดิ อปุ สงค์และอปุ ทาน
3. วดิ ีทัศน์ เรอ่ื ง ปจั จยั ในการเกดิ อุปสงคแ์ ละอุปทาน

ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. ใบกิจกรรม เรือ่ ง ปจั จัยในการเกิดอปุ สงค์และอุปทาน (รปู แบบตารางสรปุ ความร)ู้
2. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง การวิเคราะห์ปจั จัยในการเกดิ อปุ สงคแ์ ละอุปทาน

ชอื่ -สกุล…………………………………………………………………………………………ช้นั ...............เลขท่.ี ............

ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง ปัจจยั ในการเกดิ อุปสงคแ์ ละอปุ ทาน

คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นสรปุ ปัจจัยในการเกดิ อุปสงคแ์ ละอปุ ทาน พร้อมวิเคราะห์ในปัจจยั แต่ละข้อใหถ้ กู ตอ้ ง

ปัจจัยในการเกดิ อุปสงค์ ปัจจัยในการเกิดอุปทาน

----------------- -----------------

ผลทเี่ กดิ ขน้ึ ผลทเ่ี กดิ ขนึ้

------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------

----------------- -----------------

ผลทเี่ กดิ ขนึ้ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ

------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------

----------------- -----------------

ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ

------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------

----------------- -----------------

ผลทเี่ กดิ ขน้ึ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ

------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------
------------------------------------------------- -------------------------------------------------

ช่ือ-สกุล…………………………………………………………………………………………ช้ัน...............เลขที่.............

ใบกจิ กรรม เร่ือง การวิเคราะห์ปัจจัยในการเกิดอปุ สงคแ์ ละอุปทาน

คำชี้แจง ให้นักเรยี นอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคำถามต่อไปนี้

กรณศี กึ ษาท่ี 1
แมพ่ าสม้ ไปตลาดในวันเสารเ์ พอ่ื ซือ้ ของประเภทอาหาร เครอ่ื งใชภ้ ายในบ้าน และกระเปา๋ นักเรยี นของส้ม แม่เลา่ ให้สม้
ฟังวา่ เดือนน้ีมีผลไม้จำนวนมาก เงาะและมังคุดราคาถูกมาก แมจ่ ะซ้อื มากกว่าเดอื นท่ีแลว้ พวกลูก ๆ จะไดร้ บั ประทาน
กันเต็มที่ แมพ่ าสม้ ไปทแี่ ผงลอยจำหนา่ ยอาหารประเภทเนอื้ สัตว์ แม่ตัดสินใจเลือกซอื้ เนื้อไกแ่ ทนเนอื้ หมเู พราะหมรู าคา
แพงข้นึ มาก แมเ่ ลือกซือ้ ผกั อกี 2 อย่าง คือ ผกั บุ้ง ผักกาด แม่ใหเ้ หตผุ ลวา่ ผักทงั้ 2 อยา่ งมคี ณุ ค่าทางอาหารและมรี าคาถกู
ไมจ่ ำเป็นต้องซอื้ ผกั อ่ืนที่มรี าคาแพง สม้ ชวนแมไ่ ปซอ้ื กระเป๋านกั เรียนใบใหม่ เพราะจวนเปดิ ภาคเรียนใหมแ่ ล้ว กระเปา๋
ใบเก่านั้นชำรุด ซอ่ มไม่ได้ แมบ่ อกให้ส้มเลอื กกระเปา๋ นักเรียนในราคาไม่เกิน 300 บาท เพราะแม่มีเงนิ จำกัด ส้มจงึ เลอื ก
ซ้ือกระเป๋านักเรียนทีด่ แู ล้วมีคณุ ภาพดี พอเหมาะกับราคา
ต่อจากนั้นแมก่ ็ซอื้ ถ้วยและจานอกี อย่างละ 3 ใบ แมบ่ อกกบั สม้ วา่ แมเ่ ลือกซือ้ จานและชามท่ีผลิตในเมอื งไทยเพราะ
คุณภาพก็ดีและราคาถกู แมเ่ ลา่ ต่อไปว่า นายจา้ งของแมเ่ ขาใชส้ ินค้าเครอื่ งครัวท่ีนำเขา้ จากต่างประเทศ เอาไวร้ บั แขก
เพราะจะมีพรรคพวกเพ่อื นฝงู ไปรับประทานอาหารทีบ่ า้ นเขาเสมอ ถึงแมว้ ่าราคาของจะแพง แตน่ ายจา้ งของแม่กพ็ อใจ
จะซ้ือ เมอ่ื แมซ่ ้ือของครบแลว้ ก็ชวนสม้ กลบั บา้ น
ระหว่างเดนิ ทางกลับน้นั แม่กพ็ ูดกับสม้ ว่า เม่อื 5-6 ปกี อ่ นน้ี ของในตลาดมีราคาคอ่ นข้างถูกทุกอยา่ ง แต่พอมีโรงงาน
อตุ สาหกรรมเข้ามาตั้งหลายแห่ง และมีนกั ทอ่ งเทยี่ วมาจำนวนมาก สินค้าก็เลยขายดีและมรี าคาแพงขึ้น

คำถาม
1. แม่มีหลกั ในการตดั สินใจซอื้ สนิ คา้ อยา่ งไรบา้ ง ยกตัวอยา่ งประกอบ

2. นายจา้ งของแมม่ ีหลกั ในการเลือกซ้ือสินค้าอย่างไร

3. สม้ มหี ลักในการเลือกซือ้ สินคา้ อยา่ งไร

4. เพราะเหตใุ ด ราคาสนิ คา้ ในทอ้ งถนิ่ ทค่ี รอบครัวของสม้ อาศยั อยจู่ ึงมีราคาแพงข้นึ กว่าเดิมมาก

กรณศี กึ ษาที่ 2
ในการประชมุ ของกลมุ่ ผผู้ ลติ เสือ้ ผ้าสำเรจ็ รปู ได้สรุปผลการประชมุ วา่ ปที ีแ่ ล้วประชาชนมีความต้องการซอื้ เสอ้ื ยดื
ทง้ั ชายและหญงิ และในช่วงแรกราคาเส้อื ยดื มรี าคาสูงจึงทำใหก้ ลมุ่ ผ้ผู ลติ หันมาผลิตเสอ้ื ยดื เป็นจำนวนมาก เกนิ ความ
ตอ้ งการของลูกค้า ทำให้เสื้อยืดลน้ ตลาดและพากันลดราคาถูกมาก ปนี ้กี ลุม่ ผผู้ ลิตจะลดปรมิ าณการผลติ ใหน้ อ้ ยลงเพ่อื
ไมใ่ หส้ นิ ค้าลน้ ตลาด และเน่ืองจากราคาผลิตภัณฑ์ใยสงั เคราะห์ท่ีนำมาผลติ เสื้อยืดมรี าคาสงู ข้ึน คา่ จา้ งแรงงานก็สงู ขึ้น ทำ
ใหร้ าคาเสอ้ื ยดื ค่อนขา้ งสูง อาจจะทำใหป้ ระชาชนลดความต้องการลง ประกอบกับมีข้อมูลจากการสำรวจพบว่า หนมุ่ สาว
สว่ นใหญ่หันมานิยมผา้ ฝ้ายสำเร็จรปู มากขน้ึ ดังนน้ั ผูผ้ ลิตบางรายจะปรับเปลย่ี นการผลติ สนิ ค้าจากเสอ้ื ยดื เปน็ เสอ้ื สำเร็จรปู
จากผ้าฝา้ ย และย้ายโรงงานจากภาคกลางไปทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนอื เพราะค่าแรงงานตำ่ กว่า
ภาคกลาง และใกล้แหล่งวตั ถุดิบ

คำถาม
1. ผู้ผลติ ในเรอ่ื งนตี้ ัดสนิ ใจผลติ สนิ ค้าประเภทเสอื้ ยดื ดว้ ยเหตุผลใด

2. เพราะเหตใุ ด ผู้ผลติ จงึ ลดปรมิ าณการผลิตเสือ้ ยดื ลงในช่วงปตี อ่ มา

3. เพราะเหตใุ ด ผู้ผลิตสินค้าบางรายเปลย่ี นแปลงการผลิตเสื้อยดื เปน็ การผลิตเสือ้ ผ้าสำเรจ็ รูปจากผา้ ฝา้ ย

4. ทำไมโรงงานผลติ ผ้าฝา้ ยจึงไปต้ังอยใู่ นภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ใบงาน/ใบกจิ กรรม

คำชี้แจง :ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดับคะแนน

ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................ชั้น............เลขที่...........

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 ผลงานสอดคลอ้ งการนำไปปฏบิ ัติได้จริง
5 การตรงตอ่ เวลา/งานมรี ะเบียบ

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

บันทกึ หลังสอน

1. ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้
 สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน
 จำนวนนกั เรยี นท่ีผา่ นการประเมิน .......................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรยี นท่ไี มผ่ ่านการประเมิน ...................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .................................
 อื่น ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไ่ี ม่สนใจเรยี น
 อ่นื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมิน ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ ........................................... ผู้บันทึก
(…………………………………………………)

ครผู ู้สอน

บนั ทกึ หลงั การสอน ตามแผนการจัดการเรียนรูฉ้ บับน้ี ไดร้ บั การพจิ ารณาจากกลุ่มงานบรหิ ารฝา่ ยวชิ าการ แลว้
ลงชอ่ื ........................................... ผรู้ บั รอง
(……………………………………………………)

หวั หนา้ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ลงชอ่ื ...........................................
(.........................................................)
รองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารวชิ าการ

แผนการจัดการเรียนรู้หนว่ ยที่ 3
เรือ่ ง สถาบันทางการเงนิ : สถาบันขับเคลอื่ นเศรษฐกิจไทย

สาระการเรยี นรู้ เศรษฐศาสตร์ รายวชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2562

แผนจัดการเรียนร้ทู ี่ 41 เร่อื ง สถาบนั การเงินและธนาคารพาณชิ ย์ของไทย เวลา 1 คาบ

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจและความ

จำเป็นของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก

ตวั ชว้ี ัด

ส 3.2 ม.1/1 วเิ คราะห์บทบาทหนา้ ท่ีและความแตกตา่ งของสถาบนั การเงนิ

แตล่ ะประเภทและธนาคารกลาง

จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ ัวชวี้ ัด

1) ความรู้ (K)

นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของสถาบนั การเงนิ ประเภทของสถาบันการเงนิ และความสำคัญของ

สถาบนั ทางการเงนิ ได้

2) ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P)

นักเรยี นสามารถจำแนกประเภทสถาบนั ทางการเงินในระบบเศรษฐศาสตร์ได้

3) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

นักเรยี นมคี วามสนใจศกึ ษาสถาบนั ทางการเงนิ ในทางเศรษฐศาสตร์ เพอ่ื เปน็ ประโยชน์ในการดำเนนิ

ชีวติ ประจำวนั ได้

สาระสำคัญ

สถาบนั การเงิน เป็นแหล่งรวมธรุ กรรมทางด้านการเงิน ทงั้ ใหฝ้ ากเงินและการกยู้ ืมเงนิ อำนวยความ

สะดวกในการสรา้ งกระบวนการทางเศรษฐกิจ ทำใหเ้ กิดเงนิ หมนุ เวยี นในระบบ ชว่ ยให้เศรษฐกจิ ของ

ประเทศเกิดการขยายตวั และส่งผลให้ประชาชนภายในประเทศอยู่ดกี นิ ดตี ามมา

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

√ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ √ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง

√ 2. ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ √ 6. มุง่ ม่ันในการทำงาน

3. มวี ินยั 7. รักความเปน็ ไทย

√ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

√ 1. ความสามารถในการส่ือสาร √ 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

√ 2. ความสามารถในการคดิ √ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

√ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

การจดั การเรยี นรู้

ขน้ั นำ
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับความหมายของสถาบันการเงิน โดยใชค้ ำถามให้นักเรยี นรว่ มกัน
แสดงความคิดเห็น ดังน้ี

- สถาบันการเงินคืออะไร
- นักเรียนรจู้ กั สถาบันการเงินใดบา้ ง
2. ครใู ห้นักเรยี นจับกลมุ่ กนั คนละ 3 คน จากนน้ั ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเขียนช่ือสถาบนั ทางการเงินทีน่ กั เรียนรจู้ กั
ใหไ้ ด้มากทสี่ ุด กลมุ่ ที่ไดร้ ายช่อื มากท่สี ุดคอื ผชู้ นะ
3. ครนู ำเขา้ ส่บู ทเรยี นวา่ สถาบนั ทางการเงินมหี ลายประเภท มีความสำคญั แตกต่างกันออกไป เราต้องศกึ ษาให้
เขา้ ใจ เพ่ือใหส้ ามารถไปใชบ้ ริการได้อย่างถกู ตอ้ ง
ขน้ั สอน
4. ครใู ห้นกั เรยี นดวู ดิ ีทศั น์เกีย่ วกับเรื่อง สถาบนั ทางการเงนิ
5. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกนั อภิปรายซกั ถามจากการชมวิดที ัศน์ เรอื่ ง สถาบันทางการเงนิ
6. ครใู หน้ กั เรยี นศึกษา แผนผังความคิด เร่ือง สถาบันทางการเงิน จากหนังสอื แบบเรียน ดงั น้ี

สถาบนั การเงนิ

ประเภท “ธนาคาร” ประเภท “ไม่ใช่ธนาคาร”

ธนาคารกลาง ธนาคารพาณชิ ย์ ธนาคารท่ีมี สถาบนั การเงนิ อ่ืนทีด่ ูแลการเงิน
วตั ถุประสงค์ นอกเหนือไปจากธนาคาร
ธนาคารแห่ง เช่น ธนาคารไทย- เฉพาะด้าน
ประเทศไทย พาณิชย์ กสิกรไทย เช่น บริษทั เงินทุน บริษทั หลกั ทรัพย์
เช่น ธนาคารออมสิน บริษทั ประกนั ภยั สหกรณ์ โรงรับจาํ นาํ
กรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์

7. ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาเรือ่ ง ความสำคัญของธนาคารพาณิชย์ แลว้ สรปุ เปน็ แผนผังความคิด ดังตัวอย่าง

ให้คาํ ปรึกษาทางการเงิน
เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจาํ

รับฝาก-ถอนเงนิ หน้าท่ขี อง ให้เงินกู้ยืม
เงินฝากกระแสรายวนั ธนาคารพาณชิ ย์
บริการแลกเปลยี่ นเงนิ ตรา
ให้บริการโอนเงิน ต่างประเทศ

ชําระค่าสาธารณูปโภค

ขัน้ สรุป
8. ครสู รุปความรู้จากบทเรียนวา่

ธนาคารพาณิชย์ เป็นสถาบันการเงินท่ีมบี ทบาทสำคัญต่อเศรษฐกจิ เปน็ ธนาคารทด่ี ำเนนิ งาน
โดยเอกชนทำธุรกรรมการเงินรบั ฝาก-ถอน และให้กยู้ ืม โดยอยู่ภายใตก้ ารกำกบั ดแู ลของธนาคารแหง่
ประเทศไทย

สื่อ/เอกสารประกอบการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนรายวชิ าสังคมศึกษาฯ
2. เอกสาร ppt. เรือ่ ง สถาบนั การเงนิ และธนาคารพาณชิ ย์

ชิ้นงาน/ภาระงาน
1. แผนผังสรปุ ความคิด เรอ่ื ง หน้าท่ีของธนาคารพาณชิ ย์

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ใบงาน/ใบกจิ กรรม

คำชี้แจง :ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดับคะแนน

ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................ชั้น............เลขที่...........

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 ผลงานสอดคลอ้ งการนำไปปฏบิ ัติได้จริง
5 การตรงตอ่ เวลา/งานมรี ะเบียบ

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

บันทกึ หลังสอน

1.ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................
2.ผลการเรยี นของนักเรยี น
 จำนวนนกั เรยี นทผี่ า่ นการประเมนิ .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน ...................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไ่ี มส่ นใจเรยี น
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ขี ้อเสนอแนะ

ลงช่อื ........................................... ผ้บู ันทึก
(…………………………………………………)

ครผู ้สู อน

บนั ทึกหลงั การสอน ตามแผนการจดั การเรียนรูฉ้ บับน้ี ไดร้ บั การพิจารณาจากกลมุ่ งานบรหิ ารฝา่ ยวิชาการ แลว้
ลงชอ่ื ........................................... ผู้รบั รอง
(……………………………………………………)

หัวหนา้ กลุม่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ลงชื่อ ...........................................
(.........................................................)
รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารวชิ าการ

แผนการจดั การเรียนรูห้ น่วยท่ี 3
เร่อื ง สถาบันทางการเงิน : สถาบันขบั เคล่อื นเศรษฐกจิ ไทย

สาระการเรยี นรู้ เศรษฐศาสตร์ รายวชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562

แผนจดั การเรยี นรทู้ ี่ 42 เร่อื ง ธนาคารเฉพาะด้านและสถาบนั การเงินทไ่ี มใ่ ช่ธนาคาร เวลา 1 คาบ

มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานการเรียนรู้

ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสมั พันธ์ทางเศรษฐกจิ และความ
จำเป็นของการร่วมมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก

ตัวชวี้ ัด
ส 3.2 ม.1/1 วิเคราะหบ์ ทบาทหน้าทแี่ ละความแตกต่างของสถาบันการเงินแต่ละประเภทและธนาคารกลาง

จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ วั ชว้ี ัด

1) ความรู้ (K)

นกั เรยี นสามารถอธิบายความรู้เกี่ยวกับธนาคารท่ีมีวัตถุประสงคเ์ ฉพาะด้านและสถาบนั การเงนิ ทไ่ี ม่ใช่

ธนาคาร ได้

2) ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P)

นักเรียนสามารถจำแนกประเภทและหน้าทข่ี องธนาคารที่มวี ตั ถุประสงคเ์ ฉพาะดา้ นและสถาบนั การเงนิ

ท่ไี ม่ใชธ่ นาคาร ได้

3) คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

นักเรยี นมีความสนใจศึกษาสถาบนั ทางการเงนิ ในทางเศรษฐศาสตร์ เพ่อื เป็นประโยชน์ในการดำเนิน

ชวี ิตประจำวนั ได้

สาระสำคัญ

ธนาคารทม่ี ีวัตถุประสงค์เฉพาะด้านเปน็ ธนาคารทีจ่ ดั ต้ังขน้ึ เพ่อื วัตถปุ ระสงค์เฉพาะอยา่ งเพ่ือแก้ปัญหา

และพฒั นาเศรษฐกจิ เฉพาะเรือ่ ง สถาบันทางการเงนิ ทไี่ มใ่ ชธ่ นาคารมหี น้าทก่ี ระจายเงิน ทำใหม้ เี งิน

หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

√ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ √ 5. อยู่อย่างพอเพียง

2. ซือ่ สัตยส์ ุจรติ √ 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

3. มวี นิ ยั 7. รกั ความเปน็ ไทย

√ 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจติ สาธารณะ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

√ 1. ความสามารถในการสื่อสาร √ 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

√ 2. ความสามารถในการคดิ √ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

√ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

การจดั การเรียนรู้

ขน้ั นำ
1. ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพบนสไลด์ ทีเ่ ก่ียวกบั ธนาคารเฉพาะด้าน แลว้ ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกับ
ธนาคารเฉพาะดา้ นว่า มธี นาคารอะไรบ้างทนี่ ักเรียนร้จู กั และ แตกตา่ งจากธนาคารพาณชิ ย์ทัว่ ไปอย่างไร
2. ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมานำเสนอหนา้ ช้ันเรยี นเกีย่ วกบั หัวข้อดังกล่าว แลว้ ให้เพอ่ื นๆรว่ มแสดงความคิดเห็น
3. ครนู ำเข้าส่บู ทเรยี นวา่ สถาบนั ทางการเงิน มีธนาคารที่มวี ตั ถุประสงคเ์ ฉพาะด้านอยู่หลายธนาคารท่นี กั เรยี นควร
รู้จักและ มสี ถาบนั การเงินทไ่ี ม่ไดอ้ ยใู่ นรปู แบบของธนาคารดว้ ย ซึง่ เราจะได้เรียนในบทเรียนคาบนี้

ขัน้ สอน
4. ครอู ธบิ ายหวั ข้อเกย่ี วกับธนาคารทมี่ วี ตั ถุประสงค์เฉพาะดา้ น แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกันอภิปราย จากน้ันสรปุ เปน็
แผนผังความรู้ขึ้นสไลดใ์ หน้ กั เรียนดู ดังตัวอยา่ ง

ธนาคารออมสิน  ธนาคาร ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ที่มวี ตั ถุประสงค์ (ธกส.)
๐ เป็นธนาคารของรัฐบาล
๐ ระดมเงินฝากจากประชาชนรายยอ่ ย เฉพาะด้าน ๐ ใหก้ ารช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร
๐ ส่งเสริมการออมแก่ประชาชนผมู้ ีรายไดน้ อ้ ย ๐ ส่งเสริมอาชีพของเกษตรกร
๐ ส่งเสริมการกยู้ มื เงินแก่ประชาชนเพื่อ ๐ จดั ทาํ โครงการพเิ ศษที่ไดร้ ับมอบหมาย

ประกอบอาชีพคา้ ขาย จากรัฐบาล เช่น การรับจาํ นาํ พชื ผล
ทางการเกษตร

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการส่ งออกและนําเข้า 
(ธอส.) แห่งประเทศไทย (ธสน.)

๐ ใหก้ ารช่วยเหลือประชาชนในการกยู้ มื ๐ ใหบ้ ริการทางดา้ นการเงินแก่ผสู้ ่งออกสินคา้
เพ่ือสร้างที่อยอู่ าศยั ในอตั ราดอกเบ้ียต่าํ และนาํ เขา้ สินคา้ เพ่ือการลงทุน

ธนาคารพฒั นาวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม ๐ มุ่งเนน้ การบริการท่ีธนาคารพาณิชยย์ งั ไม่ทาํ
แห่งประเทศไทย (ธพว.) ในปัจจุบนั

ธนาคารอสิ ลามแห่งประเทศไทย

๐ สนบั สนุนเงินกู้ การค้าํ ประกนั การลงทุน ๐ เป็นธนาคารท่ีดาํ เนินธุรกรรมโดยไม่ผกู พนั กบั ระบบดอกเบ้ีย
ใหค้ าํ ปรึกษาแก่ธุรกิจขนาดยอ่ มและขนาดกลาง ซ่ึงสอดคลอ้ งตามหลกั ศาสนาอิสลาม

5. ครใู ห้นกั เรียนศกึ ษา คน้ คว้า จากหนังสอื แบบเรยี น เร่ืองสถาบนั การเงนิ ทไ่ี มใ่ ช่ธนาคาร จากนั้นทำใบกิจกรรม
เร่ือง สถาบนั การเงนิ ของไทยทไี่ มใ่ ช่ธนาคาร

ข้นั สรปุ
6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยคำตอบจากใบกจิ กรรม โดยอธิบายเพิ่มเติมในประเดน็ ท่ีนักเรยี นยงั ไมเ่ ข้าใจ
8. ครสู รปุ ความรจู้ ากบทเรียนวา่

ธนาคารทีม่ ีวัตถปุ ระสงค์เฉพาะด้านเป็นธนาคารท่ีจัดตั้งขึ้นเพอ่ื วตั ถุประสงค์เฉพาะอย่างเพื่อแกป้ ัญหา
และพฒั นาเศรษฐกจิ เฉพาะเร่อื ง สถาบันทางการเงนิ ทไ่ี ม่ใช่ธนาคารมีหนา้ ทกี่ ระจายเงนิ ทำให้มีเงิน
หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

สอื่ /เอกสารประกอบการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าสังคมศกึ ษาฯ
2. เอกสาร ppt. เร่ือง ธนาคารเฉพาะด้านและสถาบนั การเงินทีไ่ มใ่ ชธ่ นาคาร

ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. ใบกิจกรรม เร่อื งสถาบนั การเงนิ ท่ไี มใ่ ชธ่ นาคาร

ช่ือ-สกลุ .........................................................................................................................ช้ัน...............เลขท.ี่ ..............

ใบกจิ กรรม
เรอ่ื ง ธนาคารเฉพาะสถาบนั การเงินทไี่ ม่ใช่ธนาคาร

คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นสรปุ ความรู้ เกย่ี วกับหน้าท่ี ของ สถาบนั การเงินทไี่ มใ่ ชธ่ นาคาร ตามหวั ขอ้ ที่กำหนดให้

ตลาดหลกั ทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
---------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------

โรงรับจํานํา 
---------------------------------------------------------------------
มี 3 ประเภท คือ--------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------------

สถาบันทางการเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์
ท่ีไม่ใช่ธนาคาร ---------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------------
บริษทั ประกนั ชีวติ และบริษทั ประกนั ภัย
--------------------------------------------------------------------

บริษทั เครดติ ฟองซิเอร์
--------------------------------------------------------------------

บรรษทั เงนิ ทุนอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย
---------------------------------------------------------------------

บรรษทั เงนิ ทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม
-------------------------------------------------------------------

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน/ใบงาน/ใบกจิ กรรม

คำชี้แจง :ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดับคะแนน

ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................ชั้น............เลขที่...........

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 ผลงานสอดคลอ้ งการนำไปปฏบิ ัติได้จริง
5 การตรงตอ่ เวลา/งานมรี ะเบียบ

รวม

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

บันทกึ หลังสอน

1.ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................
2.ผลการเรยี นของนักเรยี น
 จำนวนนกั เรยี นทผี่ า่ นการประเมนิ .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน ...................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไ่ี มส่ นใจเรยี น
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ขี ้อเสนอแนะ

ลงช่อื ........................................... ผ้บู ันทึก
(…………………………………………………)

ครผู ้สู อน

บนั ทึกหลงั การสอน ตามแผนการจดั การเรียนรูฉ้ บับน้ี ไดร้ บั การพิจารณาจากกลมุ่ งานบรหิ ารฝา่ ยวิชาการ แลว้
ลงชอ่ื ........................................... ผู้รบั รอง
(……………………………………………………)

หัวหนา้ กลุม่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ลงชื่อ ...........................................
(.........................................................)
รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารวชิ าการ