รองเท้า ผ้าใบ training คือ

🏃‍♀ รองเท้าออกกำลังกายมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งรองเท้าวิ่ง รองเท้าฟุตบอล บาสเกตบอล รวมไปถึงรองเท้า Training หรือรองเท้าที่เหมาะกับการออกกำลังกายในร่ม มีจุดเด่นที่พื้นหน้ากว้าง ยืดหยุ่น และยึดเกาะได้ดีกว่ารองเท้าเฉพาะกีฬา ทำให้รองเท้าประเภทนี้สามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างหลากหลาย จะเป็นรองเท้าที่คนเข้าฟิตเนส ยกน้ำหนักต้องมี ซึ่งในปัจจุบันก็มีรองเท้าประเภทนี้ให้เลือกซื้อกันอย่างหลายรุ่น หลายแบรนด์ และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพ และรู้จักกับแบรนด์ต่าง ๆ มากขึ้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำ 5 รองเท้าออกกำลังกายประเภทนี้ให้ได้รู้จักกัน จะมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบกันเลย

 

ชี้เป้า 5 รองเท้า Training คุณภาพดี ใส่สบาย ออกกำลังกายได้หลากหลาย!

 

 

 👟 Nike Air Max Alpha Trainer 4 

 

รองเท้า ผ้าใบ training คือ

 

รองเท้าออกกำลังกายคู่แรกที่เราเลือกมาแนะนำ ขอเริ่มต้นกันที่แบรนด์ดังอันคุ้นเคยของหลายคนอย่าง Nike ที่นับว่าเป็นแบรนด์รองเท้าและอุปกรณ์ออกกำลังกายรวมไปถึง Lifestyle ชื่อดังระดับโลก ได้รับความไว้วางใจอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังออกแบบร่วมกับแบรนด์ดังมากมายทั่วโลก ซึ่ง Nike เองก็มีรองเท้า Training ออกมาวางขายเช่นกัน ซึ่งรุ่นแรกที่เราแนะนำจะเป็น Nike Air Max Alpha Trainer 4 รองเท้ารุ่นสำหรับออกกำลังกายภายในร่มโดยเฉพาะ สามารถนำไปใช้ออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ ราคาไม่แพง สามารถซื้อมาใช้กันได้แน่นอน ราคา 3,100 บาท

 

 👟 Nike MC Trainer 

 

รองเท้า ผ้าใบ training คือ

 

มาดูรุ่นต่อไป เรายังอยู่กันที่ Nike เช่นเดิม ต้องยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้เขาดีจริง ซึ่งรุ่นที่สองที่เราเลือกมาในวันนี้ เป็น Nike MC Trainer รองเท้าเทรนนิ่งอีกหนึ่งคู่จาก Nike ที่คุณต้องลอง ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้ก็มั่นใจได้ในเรื่องการยึดเกาะ ให้คุณออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะอยู่บนพื้นผิวสภาพไหน อีกทั้งยังมีการออกแบบที่กระชับกับรูปทรงของเท้า ลดการกระแทกอีกทั้งยัง แถมยังรองรับด้านข้างได้ดี เคลื่อนไหวได้รอบทิศทาง ที่สำคัญคือมีความทนทานสูง และราคาไม่แพง ราคา 2,300 บาท

 

 👟 Adidas Trainer V

 

รองเท้า ผ้าใบ training คือ

 

รู้จัก Nike กันมาสองแบรนด์แล้ว มาทำความรู้จักกับรองเท้าเทรนนิ่งแบรนด์ต่อไป ที่น่าจะรู้จักกันดีเช่นกันกับ Adidas โดยเราเลือกมาเป็นรุ่น Trainer V รองเท้าสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้จะมีความโดดเด่นในด้านความนุ่ม ยืดหยุ่น พร้อมที่บล็อกรองเท้าแบบ Geofit มีความนุ่มกระชับ ใส่ออกกำลังกายสบายเท้า ไม่อึดอัดแน่นอน เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราแนะนำว่าคุณต้องมี อีกหนึ่งไฮไลท์ของตัวนี้ที่คุณพลาดไม่ได้คือความสวยงามสีตัดกันอย่างลงตัว ราคา 2,900 บาท

 

 👟 Adidas Dropset 

 

รองเท้า ผ้าใบ training คือ

 

อีกหนึ่งรุ่นกับ Adidas ที่เป็นรองเท้า Training คุณภาพดีไว้ใจได้ ซึ่งรุ่นนี้จะเป็น Adidas Dropset เป็นรุ่นที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายแบบจริงจัง ใครออกกำลังกายอย่างหนักเป็นประจำเราแนะนำเลยว่าคู่นี้เหมาะแน่นอน ถึงแม้จะมีความแข็งแรงทนทาน ก็ยังมีความนุ่ม รองรับน้ำหนักได้ดีทรงหน้าเท้ากว้างใส่สบายทุกการเคลื่อนไหว ราคา 4,300 บาท

 

 👟 Under Armour UA TriBase™ Reign 4 

 

รองเท้า ผ้าใบ training คือ

 

ปิดท้ายบทความกันไปกับอีกหนึ่งแบรนด์ออกกำลังกายชื่อดัง ที่หลายคนให้ความไว้วางใจ ซึ่งแบรนด์ที่ว่าก็ไม่ใช่แบรนด์แปลกใหม่ที่ไหน แต่คือ Under Armour หรือแบรนด์อุปกรณ์กีฬาคุณภาพดี ซึ่งแบรนด์นี้เขาก็มีความหลากหลายทั้งเสื้อผ้า ไปจนถึงรองเท้ากันเลย โดยรองเท้ารุ่นที่เราแนะนำเป็น UA Tribase™ Reign 4 ซึ่งรองเท้าคู่นี้ก็มีความใส่สบาย นุ่ม ยึดเกาะพื้นได้ดี อีกทั้งยังใส่ได้นาน มีความทนทาน ด้วยวัสดุที่เป็นผ้าตาข่าย ที่สำคัญคือมาพร้อมกับเทคโนโลยี TriBase อันล้ำสมัย ช่วยเพิ่มพื้นสัมผัสให้กับผู้ใช้งาน อีกหนึ่งตัวช่วยในการยึดเกาะระหว่างออกกำลังกาย ราคา 4,290 บาท

 

ครบไปแล้วในบทความนี้กับรองเท้า Training 5 รุ่นแนะนำที่คุณต้องลอง ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะเหมาะกับการใช้ออกกำลังกายภายในร่ม ใครที่ไปฟิตเนส ยกเวทบ่อย ๆ เราก็แนะนำให้ลองไปเลือกซื้อกันดู ทั้งนี้เพื่อความพอดีในการสวมใส่ แนะนำให้ไปลองที่ร้านกันดูได้เลย ทั้งนี้อย่าลืมเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ รวมไปถึงมีอีกหลายรุ่นและหลายแบรนด์ให้เลือก ถูกใจรุ่นไหนต้องซื้อมาใช้กันเลย 💙

 

ป้ายยา 5 รองเท้าวิ่งเทรล คัดมาแล้วว่าคุ้มค่า เซฟทุกฝีก้าว!

รองเท้า ผ้าใบ training คือ

 

📣 นอกจากบทความดีๆ แล้ว เฮียร์ขอแนะนำโปรโมชั่นดี ในแบบนักช้อปตัวจริงต้องรู้ !! ⭐️ ส่องโปรโมชั่นทั้งหมดได้ที่นี่ >> https://salehere.co.th/promotions รับรองว่าคุณจะไม่พลาดโปรโมชั่นเด็ดๆ อย่างแน่นอน 🛒

ย้อนกลับไปสมัยยังเรียน เราใส่รองเท้าพละคู่เดียว เล่นได้ทุกอย่าง แต่ทำไมพอโตมา เล่นกีฬาเดียว บางทีกลับมีรองเท้าหลายคู่ ยิ่งเล่นหลายกีฬา รองเท้าก็ยิ่งเต็มบ้านกันเลยทีเดียว

เนื่องจากผมทำเพจเรื่องการออกกำลังกาย มักมีคนมาถามอยู่บ่อยๆ ว่า “เข้าฟิตเนส เล่นเวต แต่ก็มีวิ่งลู่ เข้าคลาสเต้น และอื่นๆ ด้วย ควรซื้อรองเท้ารุ่นไหน” ถ้าตอบเร็วๆ ก็พอจะตอบได้ว่า อยากใส่รุ่นไหนก็ใส่ไปเถอะครับ เอาแค่เป็นรองเท้ากีฬาที่สถานที่ยอมให้ใส่เข้าไปก็พอ เพราะสำหรับการออกกำลังกายทั่วไป เล่นเวตแมชชีน ฟรีเวตที่ไม่เกินน้ำหนักตัว รองเท้าอะไรก็ไม่ต่างกันเท่าไร

หลายคนจึงมีคำถามว่า “แล้วเรื่องการรับแรงกระแทกล่ะ ถ้าเอารองเท้าทั่วไปมาใส่วิ่ง ใส่กระโดด แล้วเข่าเสื่อมขึ้นมาจะทำยังไง” คนกลุ่มนี้อาจจะมองว่า เหตุผลที่เด็กๆ ใส่รองเท้าพละเล่นทุกกีฬาได้เพราะโดนบังคับ เด็กอาจจะบาดเจ็บก็ได้ แต่มันสะสมอยู่ ยังไม่แสดงออกมา

ทักษะ หรือ รองเท้า อะไรสำคัญกว่ากัน

ผมจึงอยากยกตัวอย่างแบบนี้ เคยเห็นนักกีฬาฟรีรันนิ่ง (free running) ไหมครับ คนที่กระโดดข้ามตึก ปีนกำแพง กระโดดลงมาจากชั้นสองได้ คุณคิดว่าอะไรสำคัญสำหรับเขามากกว่ากัน ระหว่าง ‘ทักษะ’ กับ ‘รองเท้า’ ตัวผมเองมั่นใจว่าคนที่ไม่มีทักษะ ต่อให้มีรองเท้าที่รับแรงกระแทกได้ดี มีเทคโนโลยีดีขนาดไหน ก็อาจจะเจ็บหนักได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ทักษะ

หรืออีกตัวอย่าง ในกีฬาวิ่งนั้นมีการวิ่งแบบเท้าเปล่า ทั้งแบบที่เท้าเปล่าไม่สวมรองเท้าเลยจริงๆ หรือแบบที่ใส่รองเท้าชนิดที่บางมาก นักกีฬาประเภทนี้เขาวิ่งได้กันจบมาราธอนไปจนถึงอัลตร้ามาราธอน ซึ่งถ้าไปดูสถิติแปลกๆ ในงานมาราธอน ก็จะพบว่านอกจากคนวิ่งเท้าเปล่า ยังมีคนใส่รองเท้าแตะ ใส่เกี๊ยะ และใส่อีกสารพัดรองเท้าวิ่งกันได้ ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรใส่ใจก็คือทักษะครับ

แต่ถ้าถามผมว่า “ใส่รองเท้าสลับประเภทกันมีผลเสียไหม” ก็มีครับ เช่น ใส่รองเท้าวิ่งแล้วไปยกฝึกแบบโอลิมปิกลิฟติ้ง หรือพาวเวอร์ลิฟติ้ง พื้นรองเท้าอาจจะมีโอกาสยวบและทำให้ทรงตัวได้ไม่ดี หรือถ้าใส่รองเท้าวิ่งไปเล่นแบดมินตัน เล่นบาสเก็ตบอล ก็อาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นลดลงและเพิ่มโอกาสทำให้ข้อเท้าพลิกได้ เพราะรองเท้าวิ่งพื้นจะหนาและออกแบบมาเพื่อให้เคลื่อนที่ไปด้านหน้า ตัววัสดุพื้นก็ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับกิจกรรมที่มีการเปลี่ยนทิศทางบ่อยๆ ดังนั้น ใครมีงบประมาณเพียงพอ ผมแนะนำว่าให้เลือกรองเท้าที่เฉพาะเจาะจงกับประเภทกีฬาครับ

คู่เดียว ใส่เล่นทุกอย่าง

รองเท้า ผ้าใบ training คือ

แต่ถ้าถามว่า “ไม่ได้เล่นกีฬาอะไรจริงจังอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ แล้วต้องซื้อรองเท้ากีฬาคู่เดียวจริงๆ แล้วล่ะก็ จะซื้อรองเท้าประเภทไหนดี” ผมแนะนำให้ซื้อรองเท้าประเภท Training ครับ ซึ่งรองเท้าแบบนี้มักถูกออกแบบให้ใช้ออกกำลังกายทั่วไปในฟิตเนส เป็นรองเท้าที่นักกีฬาใช้ใส่ฝึกซ้อม เพราะมีบางวันที่นักกีฬาเองก็ต้องซ้อมกีฬาหลายประเภททั้งวิ่ง ทั้งกายบริหาร โดยรองเท้าพวกนี้มีลักษณะที่ดี คือ

– พื้นรองเท้าสูงเสมอกัน ส้นไม่หนา ปลายไม่เชิด
– พื้นแน่น ไม่ยวบ แต่รองรับแรงกระแทกได้บ้าง
– ตัวรองเท้ายืดหยุ่นพับงอได้
– หน้ากว้าง กางนิ้วเท้าได้เต็มที่ทรงตัวดี
– พื้นด้านข้างตัด ไม่โค้งมนเกินไป ทำให้เคลื่อนไหวเปลี่ยนทิศทางได้ดี

ดังนั้น ถ้าจะมีรองเท้าสักคู่ที่ใส่เต้นแอโรบิก เล่นฟิตเนส วิ่ง เล่นกีฬาอื่นๆ ได้ จบในคู่เดียว ก็ลองรองเท้าหมวด Training ดูนะครับ คิดเสียว่าเป็นรองเท้าพละของผู้ใหญ่ แต่ก็แนะนำให้เลือกดีๆ นะครับ บางรุ่นของรองเท้าเทรนนิ่ง จะเป็นเฉพาะสำหรับกีฬาเวตเทรนนิ่งจริงจัง ครอสฟิต หรือ พาวเวอร์ลิฟติ้ง แบบนี้พื้นก็จะแข็งไป

ทักษะ สำคัญที่สุด

จากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง ในอดีตผมเคยเป็นนักกีฬาตัวแทนมหาวิทยาลัย ทั้งบาสเก็ตบอล รักบี้ เทควันโด้ ยังไม่เคยเจ็บจากการออกกำลังกาย แต่พอเรียนจบแล้วหันมาวิ่ง ระยะแค่มินิมาราธอน (10 กิโลเมตร) เท่านั้นก็เกิดอาการบาดเจ็บที่เข่าทุกครั้งหลังวิ่ง ตอนนั้นผมมีสองทางเลือกคือ เปลี่ยนรองเท้าที่มีการช่วยซัพพอร์ตมากขึ้น กับเปลี่ยนท่าวิ่งดู ซึ่งผมก็ลองทำทั้งสองแบบ ตอนแรกใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนรองเท้าก่อน พบว่าอาการเจ็บก็หายไป แต่ผมเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ จึงได้ไปลองหัดวิ่งสไตล์เท้าเปล่าดู แล้วก็พบว่าอาการบาดเจ็บก็หายไปเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเรามีทักษะที่ดีติดตัวแล้ว เราก็กลับมาใส่รองเท้าวิ่งปกติคู่เดิมที่เคยใส่แล้วเจ็บ ก็เจ็บน้อยลง ทำความเร็วได้ดีขึ้น และปลอดภัยขึ้น

สุดท้าย ย้ำกันอีกครั้งว่าทักษะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการออกกำลังกายให้ปลอดภัย เมื่อเราได้ฝึกฝนจนชำนาญแล้ว อุปกรณ์ที่เหมาะสมก็จะมาเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้นครับ