หลายคนถามมามากมายเรื่องหนังสือภาษาสเปนดีๆ ไว้ประกอบการเรียนหรือศึกษาด้วยตัวเอง ในไทยเองก็มีหนังสือไม่ค่อยมาก เล่มที่แนะนำ ได้แก่
1. ไวยากรณ์สเปน – รัศมี กฤษณมิษ, วิภาดา เพ็ชรรักษ์, สถาพร ทิพยศักดิ์ ไวยากรณ์สเปน เขียนโดยคณาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ แต่อาจจะหายากสักหน่อย แนะนำให้ไปลองค้นหาในร้านหนังสือเงียบๆ หรือนอกเมืองค่ะ
2. Talk Spanish – BBC สำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษอยู่บ้าง และเน้นการเรียนการสอนที่สนทนา ไม่น่าเบื่อ พูดได้จริง อัพแนะนำให้เลือกหนังสือที่มีไฟล์เสียงด้วยค่ะ เท่าที่ทดลอง ของ BBC ชื่อ Talk BBC ใช้ได้ดีเลยค่ะ จะมีเนื้อหา บทสนทนา และแบบฝึกหัดให้พูดโต้ตอบ และสามารถซื้อเล่มไวยากรณ์มาคู่กันอีกสักเล่มค่ะเล่มนี้อาจจะต้องสั่งจากเมืองนอกค่ะ เวบไซต์แนะนำคือ book depository หนังสือมือหนึ่งถูกกว่า amazon มาก
3. Aprende Gramática y Vocabulario 1-4 – Francisca Castro เล่มนี้เป็นหนังสือไวยากรณ์ภาษาสเปน คำอธิบายเป็นภาษาสเปน มีเฉลยท้ายเล่ม ประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นไวยากรณ์และคำศัพท์ ข้อดีของหนังสือเล่มนี้คือแบ่งยูนิตย่อยค่อนข้างมาก ทำให้สามารถค่อยๆ ศึกษาเนื้อหาไปที่ละนิด บางบทอาจจะมีแบบฝึกหัดน้อยไปสักหน่อย แต่บางบทก็มีแบบฝึกหัดดีๆ แก้ข้อสงสัยได้หลายจุด เล่ม 1 สำหรับ A1 เล่มสอง A2 เล่ม 3 B1 และ เล่ม 4 B2 ตามลำดับ
4. Gramática de uso del español: teoría y práctica – Luis Aragones เล่มในรูป (สีแดง) จะเป็นรวมระดับ A1-B1 แต่ปัจจุบันหาซื้อแยกย่อยทีละระดับได้ค่ะ (สีเหลือง เขียว ฯลฯ) จริงๆ เล่มนี้ดีมากนะคะ เหมาะสำหรับคนที่อยากแม่นภาษาสเปนจริงๆ เพราะเนื้อหาลึกและแน่นค่ะ
***อธิบายเรื่องระดับสักเล็กน้อย*** ภาษาสเปนและภาษายุโรปอื่นๆ เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลียน จะมีระดับที่เหมือนกันคือ A1-C2 ข้างล่างคือตารางอธิบายระดับ สำหรับคำอธิบายในแต่ละระดับ จะมาอัพเดทเพิ่มเติมนะคะ เราสนใจภาษาสเปนมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว (2012) ที่ไปเรียนป.โท อเมริกา แล้วก็รู้สึกว่า คนใช้ภาษานี้กันเยอะมาก เทอมแรกเราก็เลยลงเรียน Spanish 101 ไปควบคู่กับวิชาเรียนอื่นๆ ปรากฏ ไม่รอดดด 55 เรียนไปได้ 3 ครั้ง ต้อง drop ไป เพราะอาจารย์สอนไปไวมาก แล้วนักเรียนส่วนใหญ่ จะเคยเรียนภาษาสเปนมาตั้งแต่ high school แล้ว เลยมาลงเรียน spanish 101 ในมหาวิทยาลัย แล้วเราไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อน ก็เลยเงิบมากกก ต้อง drop ในที่สุด ภาษาสเปนเป็นภาษาที่มีคนใช้มากเป็นอันดับต้นๆของโลก จากนั้นก็ห่างหายไปนานนน ตอนอยู่อเมริกาก็อ่านสเปนบ้างเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะซื้อหนังสือภาษาสเปนเก็บๆไว้เพราะสนใจ หวังว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาอ่านให้ได้ จนเรียนจบ กลับมาเมืองไทย (2014) เริ่มรู้สึกสนใจ กลับมาเริ่มเรียนใหม่ แต่ไม่อยากลงเรียน (ไม่มีเงิน 55 ประกอบกับมั่นใจในความถึกของตัวเอง) เราเคยเรียนภาษาอังกฤษมาพอสมควร ก่อนไปเรียนที่อเมริกา (เคยสอบมาหมดไม่ว่าจะเป็น CU-TEP, TU-GET, TOEIC, TOEFL, IELTS, GRE) ทำให้เรารู้ว่า การที่เราเรียนภาษาด้วยการเรียนในห้อง ช่วยเราเพียง 25% แต่อีก 75% มันคือการที่เราต้องฝึกฝนเองที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะ Reading, Listening, Writing, Speaking เมื่อก่อนเราภาษาอังกฤษไม่ได้ดีมาก โดยเฉพาะการพูด แย่มากกก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว (2005) …..มันมี Trigger ที่ทำให้เราหันมาตั้งใจกับภาษาอังกฤษมากขึ้น เกิดจากทริป backpack สิงคโปร์ (อ่าน ¨จุดเริ่มต้นของการเที่ยวต่างประเทศ เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (The beginning)¨ ) คือ….จากทริปจุดเริ่มต้นการท่องเที่ยวนั้น ด้วยความที่เราเป็นคนชอบวางแผน แล้วมันเป็นครั้งแรกที่เราไปต่างประเทศ และขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เราก็เลยวางแผนทริปนั้น จากการอ่านรีวิวจากในเวบ ในหนังสือ จนประหนึ่งเราเคยไปสิงคโปร์มาแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่เคยไป! ซึ่งภาษาเราก็ไม่ค่อยดีมาก แต่ด้วยความที่วางแผนมาแล้วเลยแทบไม่ต้องถามหรือสื่อสารกับผู้คนรอบข้างเลย ซึ่งอันนี้ผิดมากกกก สำหรับการเที่ยว เพราะเราจะเข้าถึงการเที่ยว วัฒนธรรมต่างๆอะไรได้ เราต้องสื่อสารกับคนในประเทศนั้น หรือ เพื่อนๆร่วมทางเราบ้าง แล้วววว…มันมีช่วงหนึ่งในทริปตอน check out ที่โรงแรม พนง.โรงแรมพูดอะไรสักอย่างกับเรา แต่เราฟังไม่ออก คือ มันเหมือนผ่านหูไปเลยอ่ะ แล้วน้องเราก็หันมาบอกเราว่า ¨คืน adaptor เขาไปสิ¨ (ตอน check in เรายืม adaptor มา) เราก็แบบ….เฮ้ย! ทำไมน้องฟังออก ทำไมเราฟังไม่ออก หูเรานี่แย่มากกก ขนาดนั้นเลยหรอ เฮ้ย! ภาษาอังกฤษเราอาการหนักว่ะ คือมันเหมือนตระหนักได้ ไปกระตุ้นต่อม ว่าแบบ…เราจะมานิ่งไม่พัฒนาภาษาอังกฤษไม่ได้แล้ว ภาษาอังกฤษมันสำคัญมากกก แล้วเราก็ไม่ได้เก่งภาษา ถ้าเราไม่เริ่มตอนนี้ เราจะยิ่งช้าหนัก เพราะปกติเราก็ช้ากว่าคนที่เก่งภาษาโดยทั่วไปอยู่แล้ว หลังจากกลับมาทริปนั้น เราเริ่มเลย เราพยายามหาวิธีทางในการพัฒนาภาษาอังกฤษ โดยวิธีหนึ่งที่ทำ คือ สอนภาษาอังกฤษ ไปสมัครเป็นติวเตอร์ ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยสอนมาก่อน แล้วก็บอกกับตัวเองว่า จะไม่สอนวิชาอื่น ถึงแม้จะต้องแถ จึงต้องไถ เราก็จะสอนภาษาอังกฤษ เรียนไปพร้อมกับนักเรียนไปเลยนี่แหละ เอาให้ได้อ่ะ เออ…แล้วมันก็จะกดดันนิดๆด้วย เพราะเราจะต้องอ่านเพื่อไปสอนตลอดเวลา เป็นการฝึกเราไปด้วยในตัว อีกวิธีที่เราทำ คือ การสมัครสอบ เพื่อกดดันให้ตัวเองอ่าน (ประมาณว่าลงเงินไปแล้ว ไม่อ่านไม่ได้แล้วนะ 55 อย่างเช่นที่เราลงสอบ CU-TEP, TU-GET หรือ TOEIC จริงๆบางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการเอาคะแนนไปยื่นที่ไหนเลย แต่เราลงสอบเพื่อกระตุ้นตัวเองให้อ่านภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง 55) (TOEIC นี่เคยสอบมา 4 ครั้งล่ะ เพื่อออออ 555) เราก็เลยมุ่งมั่นว่า เออ…ถ้าเราจะลองกับภาษาสเปนบ้างจะเป็นยังไง 55 คือ…ต้องทำให้อินให้ได้อ่ะ บิ้วมากกก ไม่งั้นมันไม่เวิร์คจริงๆๆ หาหนังสือมาอ่าน ฟังเพลงภาษาสเปน (เพื่อให้คุ้นกับสำเนียง) เข้าเวบข่าวภาษาสเปน กด Like เวบข่าวภาษาสเปนใน Facebook ให้มันเด้งๆขึ้นมาใน news feed (ให้คุ้นกับตัวหนังสือก็ยังดี) ก็ทำเหมือนๆตอนเราอ่านภาษาอังกฤษสมัยก่อน แล้วก็การสอบ เราก็ไป search หาการสอบภาษาสเปน แล้วก็พบว่าที่เมืองไทยก็มีศูนย์สอบ ซึ่งเป็นที่เดียวในประเทศไทย นั่นก็คือ ที่ ม.มหิดล ศาลายา (Mahidol University International College) จะมีสอบ 2 ครั้ง/ปี ช่วงประมาณ พ.ค. กับ พ.ย. http://www.muic.mahidol.ac.th/eng/?page_id=8967 มีทั้งหมด 6 ระดับ ค่าสอบก็ตามด้านล่าง Level A1: 2,370 THB Level A2: 2,890 THB Level B1: 3,090 THB Level B2: 3,920 THB Level C1: 4,380 THB Level C2: 4,430 THB (เอออ….2,000 กว่าบาทค่าสอบ สำหรับ A1 ก็พอกดดันให้อ่านหนังสือไปสอบได้อยู่นะ ถ้าค่าสอบ 200-300 นี่ มันไม่ตื่นเต้นพอ อาจจะขี้เกียจอ่านได้ เดิมพันต้องสูงจร้า 55)
ความง่าย คือ ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ / คำบางคำเหมือนภาษาอังกฤษเลย เปลี่ยนนิดหน่อยเท่านั้นเอง / ไวยากรณ์ก็คล้ายๆ ไม่เหมือนซะทีเดียว ความยาก คือ ผันกริยา tense อะไรเยอะแยะมาก conjugate / มีเพศ la/el ก็จะงงๆหน่อยในตอนแรก และ ด้วยความที่คนไทยจะไม่ค่อยคุ้นสำเนียงสเปน เราจะรู้สึกว่า listening เป็น skill ที่ฝึกยากหน่อย แล้วเขาจะพูดกันเร็วมากกก ข้อดี ในการเรียนภาษาสเปน คือ เวบไซด์ที่เราเรียนเองได้ในเนต มีเยอะมากกกก ฟรี!! แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ภาษาอังกฤษ ซึ่งสำหรับเรา เราว่าดีนะ เพราะถ้าคิดจากภาษาอังกฤษแล้วแปลงเป็นภาษาสเปน จะง่ายกว่า คิดจากภาษาไทยแล้วแปลงเป็นภาษาสเปน เวบข่าวภาษาสเปน : CNN español – http://cnnespanol.cnn.com BBC Mundo – http://www.bbc.com/mundo เวบไซด์เรียนภาษาสเปนฟรี (แบบภาษาไทย -> ภาษาสเปน) : http://www.dote-learning.org/ เวบนี้มีเรียนภาษาอื่นๆฟรีด้วย http://e-book.ram.edu/e-book/indexstart.htm อันนี้เป็น E-book ของม.ราม มีที่ download ฟรี สำหรับภาษาสเปน คือ เลือกรหัสวิชาSN101-SN102 (Spanish 1-2) เวบไซด์เรียนภาษาสเปนฟรี (แบบภาษาอังกฤษ -> ภาษาสเปน) : http://www.openculture.com/free_spanish_lessons รวมหลายๆเวบไซด์น่าสนใจ (บางส่วนไม่ฟรี) http://www.englishnspanish.com/audio Download Spanish Basic Course Volume 1/2 http://www.spanishnewyork.com/automatic/verb-conjugation.php?parm=1 ฝึก conjugate http://learnspanishvideos.tv/ เป็นคลิปสั้นๆฝึกฟัง http://www.practicaespanol.com/ และเวบอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน เวบไซด์สอนภาษาสเปนแนวเนื้อเรื่อง ฝึกฟัง (แบบภาษาอังกฤษ -> ภาษาสเปน) : Mi Vida Loca http://www.bbc.co.uk/languages/spanish/mividaloca/ เซ็ตนี้เจ๋งมาก เขาทำเป็นเนื้อเรื่อง แล้วเหมือนเราเป็นตัวละครในเรื่อง + นักแสดงน่ารัก Extra en español https://www.youtube.com/watch?v=t_UNPtuQi2A อันนี้ก็เจ๋งอีกแล้ว เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชายอเมริกันที่มาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เพื่อนๆที่สเปน แล้วก็ฝึกภาษาสเปนไปด้วย Destinos http://learner.org/series/destinos/ เป็นเนื้อเรื่องเหมือนกัน แนวสืบสวน ไปในหลายๆประเทศที่ใช้ภาษาสเปน แต่ production จะโบราณหน่อย เพราะทำมานานแล้ว Youtube Channel ที่สอนภาษาสเปน : จริงๆมีเยอะมาก สามารถลอง search ว่า #learn spanish #aprender español ขึ้นมาตรึม Butterfly Spanish https://www.youtube.com/watch?v=hsLYD1Jyf3A Paulino LanguageTeacher https://www.youtube.com/watch?v=hZZ3H2E5Yeg ถ้าเป็นเพลง ก็มีนักร้องเยอะเลย เพราะมีทั้งแถบ ละตินอเมริกา, ในสเปนเอง และนักร้องในอเมริกาที่ร้องเพลงภาษาสเปน อย่าง (สามารถหาฟังได้ใน Youtube ได้เลยย)
ส่วนสุดยอดเวบที่ใช้บ่อยมาก ตอนอ่านภาษาสเปน https://translate.google.com/ google translate เลยจร้า นึกอะไรไม่ออก แปลไม่ออก copy paste ลงที่นี่เลยจร้า ไม่รู้จะเขียนเป็นประโยคยังไง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ แล้วให้มันแปลเป็นสเปนให้ ช่วยเราได้เยอะเลย ค่อนข้างใช้ได้โอเคกับการแปล English – Spanish / Spanish – English ถ้าจะเรียนภาษาสเปนตามสถาบันต่างๆ แบบเสียเงินเรียน ก็มีสอนหลายที่นะ เช่นตามศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ http://www.arts.chula.ac.th/~asc/home/?p=37 ม.จุฬา http://203.131.210.88/tw/ ม.ธรรมศาสตร์ http://lang.human.ku.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=16&Itemid=14 ม.เกษตร ม.ราม เรียนเป็นหลักสูตร ป.ตรี ก็ได้ เอาหนังสือมาอ่านเอง ว่างๆก็เข้าคลาส ค่าหน่วยกิตไม่แพง หนังสือที่เราใช้อ่านมี :
จริงๆหนังสือสอนภาษาสเปนมีเยอะมาก ไม่จำเป็นต้องอ่านตามที่เราแนะนำก็ได้ รีวิว การสอบภาษาสเปนที่ ม.มหิดล ศาลายา ก่อนสอบเราใช้วิธีการบิ้วตัวเองให้อ่านหนังสือ และ ต้องมาสอบ ด้วยการ ลงเงินค่าสอบไปก่อนเลย สมัครสอบตั้งแต่ปลายก.ย. กดดันตัวเอง 55 เราไปสอบ Level A1 มาเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2558 สถานที่สอบ ตึก MUIC อาคาร 3 มีป้ายบอกที่ทางเข้าตึก สอบ DELE Examination ชั้น 4 สอบห้องนี้เลย 3410 Level A1 มีคนสอบ A1 อยู่ 5 คนจร้า (น้อยไปไหม 55) เป็นคนไทย 2 ฝรั่ง 2 แขก 1 ส่วนใหญ่เขาไปสอบ A2 , B1 กัน ต่างชาติมาสอบเยอะเลย คนไทยไม่ค่อยเยอะ เราสอบพูดคนแรกเลยจร้า ก่อนสอบคนสอบอื่นๆที่เป็นฝรั่ง กดดันมากเลยอ่ะ ฝรั่งพูดสเปนกับ staff กันคล่องเชียว เรายังหูไม่กระดิกอยู่เลย เป็นครั้งแรกที่เราเจอสถานการณ์ ที่ต้องพูดภาษาสเปนแบบจริงจัง รายละเอียดการสอบ หรือ ตัวอย่างการสอบใน link ด้านล่าง http://dele.cervantes.es/?q=informacion-general/nivel-a1.html สำหรับการสอบจะมี 4 parts
Tarea 1 – อ่านจดหมายตอบคำถาม Tarea 2 – อ่านโน้ตตอบคำถาม Tarea 3 – จับคู่ข้อความ Tarea 4 – เติมคำในช่องว่าง จากการอ่าน
Tarea 1 – ฟังเป็นบทสนทนาแล้วตอบคำถามเป็นรูปภาพ Tarea 2 – ฟังเป็นข้อความ หรือ บทสนทนา แล้วจับคู่กับรูปภาพ Tarea 3 – ฟังเป็นเนื้อเรื่องแล้วจับคู่กับข้อความ Tarea 4 – ฟังเป็นเนื้อเรื่องยาว แล้วเติมคำในช่องว่าง (ยากสำหรับเรามากก)
Tarea 1 – เติมข้อความในแบบฟอร์ม และตอบคำถามสั้นๆ Tarea 2 – เขียนเป็นย่อหน้าสั้น หรือ จดหมาย ตามหัวข้อที่เขาให้มา
Tarea 1 – แนะนำตัวเอง พูด 1-2 นาที Tarea 2 – ให้เลือกหัวข้อ 3 ใน 5 แล้วพูด 2-3 นาที Tarea 3 – พูดตอบโต้กับคนสัมภาษณ์ (อันนี้แป้กสุด เพราะเราฟังไม่ออกว่าเขาถามว่าอะไร? T T) Tarea 4 – พูด ถาม จากในรูปภาพ
หลังจากสอบทำให้รู้ว่า หูดับ มากกก คือ listening นี่ฟังไม่ออกเยอะมากกกก speaking อือหือ….พอได้นะ ถ้าไม่ได้เป็นการพูดตอบโต้ คือ ….ฟังไม่ทัน และฟังไม่ค่อยออก ว่าเขาพูดว่าอะไร? เหรอหรามากกก พอฟังไม่ออกก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร แต่ถ้าเป็นให้ดูภาพแล้วตอบเนี่ย พอได้อยู่ |