ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา ไม่ใช่มีแค่เพียงเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้นที่เงินเริ่มฝืด เพราะจากการคุยกับบริษัทประมูลเมื่อไม่นานมานี้ เราพบว่า มีเจ้าของรถหรูอย่าง เบนซ์ บีเอ็ม วอลโว่ เริ่มที่จะผ่อนต่อไปไม่ไหว และต้องนำมาขายทอดตลาดเป็นจำนวนมาก และไม่ใช่เฉพาะพนักงานบริษัท พนักงานเงินเดือนเท่านั้นที่เอารถมาคืน แต่เริ่มเห็นเจ้าของกิจการ เสี่ยใหญ่ เศรษฐี นักบิน กัปตัน ผู้ที่มีเงินเดือนหลักแสน ที่มีการโทรเข้ามาร้องห่มร้องไห้ ให้ช่วยเกี่ยวกับการขายรถไม่น้อยเลยทีเดียว Show
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะสภาพเศรษฐกิจหลังจากยุคโควิด ที่คาดการณ์ว่ายังคงจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องไปอีกยาวไกล ทำให้ผู้ที่อาจยังไม่ได้รับผลกระทบมองว่า หากเอารถไปคืนไฟแนนซ์ตอนนี้ อาจเป็นผลดีกับระบบการเงิน และค่อยมาซื้ออีกทีตอนมีเศรษฐกิจดีก็เป็นได้ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการตัดหนี้ คือการคืนรถให้ไฟแนนซ์ เมื่อรู้ว่าไม่อยากผ่อนต่อ ผ่อนต่อไม่ไหว หรือไม่อยากมีภาระในภาวะแบบนี้ 3 ข้อควรรู้ คืนรถให้ไฟแนนซ์ แต่ “ยังไม่จบ” แน่นอน 100%
การคืนรถให้กับไฟแนนซ์ เป็นทางเลือกที่หลายคนมองว่าดี และคิดว่า ต้องจบแน่นอน แต่จริงๆแล้ว อยากให้รู้ก่อนว่า การคืนรถในรูปแบบนี้ ไม่ได้ จบ 100% ซะทีเดียว ถามว่าทำไมน่ะหรือ? เราจะยกตัวอย่างให้ดู รถอาจขายได้ไม่พอจ่ายหนี้หากซื้อรถยนต์หรู ราคา 3,000,000 บาท ผ่อนไปแล้ว 12 งวด งวดละ 50,000 บาท หากคิดเป็นเงินต้นทั้งสิ้น 300,000 บาท เท่ากับว่า หักหนี้ไปเหลืออยู่ที่ 2,700,000 บาท และเมื่อคืนรถให้ไฟแนนซ์ไปแล้ว หากไฟแนนซ์นำไปขายต่อ ได้แค่เพียง 2,000,000 บาท เท่ากับว่ามูลหนี้ที่เหลือจะอยู่ที่ 700,000 บาท ต้องผ่อนต่ออยู่ดีค้างค่างวดตอนคืน โดนดอกเบี้ยแน่นอนหลายคนที่โทรเข้ามาคิดว่า ค้างค่างวดอยู่ ไม่ต้องจ่ายก็ได้ เพราะเอารถเข้าไปคืนเรียบร้อยแล้ว จริงๆแล้ว ไม่ใช่แบบนั้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม ที่รถยังขายทอดตลาดไม่ได้ คนที่มีชื่ออยู่ในไฟแนนซ์ จะต้องผ่อนต่อจนกว่า ไฟแนนซ์รถจะขายได้ และมาหักกลบลบหนี้ และ ผ่อนต่อตามข้อแรก และถ้าไม่ผ่อน จะโดนค่าปรับ ค่าทวงถาม ดอกเบี้ย ตามสัญญาเงินกู้ ดังนั้น ต้องผ่อนต่ออยู่ดีอย่าปล่อยให้โดนยึด แล้วทำเรื่องคืนรถให้ไฟแนนซ์คำแนะนำจากบริษัทไฟแนนซ์ ที่เราได้ข้อมูลมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม จะคืนรถหรือไม่ ไม่ควรปล่อยให้ไฟแนนซ์ตามมายึดรถเด็ดขาด!เนื่องจากมีค่าตามทวงหนี้ ค่ายึดรถ ค่าขนย้าย และค่าต่างๆ อีกจิปาถะ ถึงแม้ว่าทางบริษัทไฟแนนซ์ แผนกทวงหนี้ ไม่มีอำนาจที่จะใช้กำลังการยึดรถก็ตาม สิ่งที่ควรทำคือโทรเข้าประนอมหนี้ กับทางไฟแนนซ์ อย่างเร่งด่วนค้างกี่งวด ถึงจะมายึดรถ? โดยปกติหากมีการค้างค่างวด 3 เดือน ขึ้นไป จะมีการติดตามยึดรถทันที โทรเข้าไปที่ไฟแนนซ์ ที่รถติดค่างวดอยู่ให้โทรไปปรึกษากับบริษัทไฟแนนซ์ที่ตัวเองผ่อนอยู่ เพื่อทำการขอคืน ทางบริษัทไฟแนนซ์ อาจยื่นข้อเสนอ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด คือการลดค่างวดรายเดือน ปรับดอกเบี้ย รวมถึง ยืดระยะเวลาผ่อนจ่าย แต่ถ้าดูแล้ว ยังไม่ไหว ทางบริษัทไฟแนนซ์จะให้คำแนะนำต่อไป บริษัทไฟแนนซ์จะเรียกรถคืน หรือ แจ้งให้ไปคืนที่คลังประมูลรถบริษัทไฟแนนซ์ จะให้โทรเข้าไปที่คลัง ของ บริษัทประมูล แล้วแต่ว่าอยู่จังหวัดไหน เช่น หากอยู่ระยอง ก็ไปคืนที่ สหการประมูล ถ้าอยู่ในกรุงเทพ ก็สามารถโทรเข้าตามข้อมูลนี้ (เท่าที่หามาได้ และควรเช็คความถูกต้องกับทางไฟแนนซ์ทุกครั้งก่อน)
ไฟแนนซ์ อาจให้คืนรถที่ ลานประมูลรถยนต์สำหรับการคืนรถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ ในหลายกรณี บริษัทไฟแนนซ์ และ ธนาคาร อาจให้คืนรถได้ที่ คลังรถยนต์ ของบริษัทประมูลทั้งหลาย โดยบางแห่ง สามารถคืนได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรอทำการเข้าประมูล ยกตัวอย่าง Apple Auction ที่เชื่อมกันกับทาง Thanachart จะให้มีการคืนรถได้ตลอดเวลา โดยจะทำการออกใบรับรถให้ได้ รถยนต์สภาพเป็นยังไง ก็คืนได้ ไม่เกี่ยงสภาพรถการคืนรถยนต์ ให้บริษัทประมูลรถยนต์ ตามคำแนะนำของบริษัทไฟแนนซ์นั้น ไม่ได้มีการเกี่ยงสภาพรถยนต์ เช่นอาจสกปรก ไปลุยโคลนมา หรือไม่ได้ล้าง มีการชนมา เฉี่ยวมา ภาษีขาด ประกันขาด เพราะ ทางบริษัทประมูลจะมีการล้างให้ก่อนอยู่แล้ว ก่อนนำเข้าประมูลรถ เอกสารที่จะต้องนำมาคืนรถ ที่คลังประมูลรถ หรือที่ไฟแนนซ์สิ่งที่ไม่ควรลืมในการนำเอารถเข้าคืนไฟแนนซ์ ที่คลังประมูลรถ หรือ ที่บริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ ก็คือ สัญญาเช่าซื้อฉบับปัจจุบัน สำเนาบัตรประชาชน ผู้ถือครองรถ เพียงสองอย่างนี้ ต้องเอาติดตัวมาด้วย เพื่อประกอบเอกสารใบรับรถ คืนรถเสร็จแล้ว ต้องแจ้ง ธนาคาร, ไฟแนนซ์เมื่อได้ทำการคืนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้ใบรับรถมา และต้องเอาใบรับรถนั้น ย้อนกลับไปที่ ธนาคาร และ ไฟแนนซ์(ในกรณีคืนรถที่คลังประมูล) เพื่อแจ้งว่าเอารถเข้าโกดังรถเรียบร้อยแล้ว รอการประมูล ขายทอดตลาดอย่างที่บอกไปในข้างต้น ไม่ใช่ว่า การเอารถไปคืนแล้วจะจบเรื่องกัน จะต้องมีการรอการประมูลรถอีกครั้ง เพื่อให้รู้ว่าราคาที่แท้จริงเป็นอย่างไร การประมูลรถ เมื่อได้เงินมาแล้ว ธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้จะเอาไปหักมูลหนี้ ดอกเบี้ย เงินต้น ค่าปรับ ฯลฯ แต่จุดสำคัญที่สุดก็คือ อาจต้องรอถึง 1-3 เดือน ในการเข้าคิวประมูลรถยนต์ และ ธนาคาร หรือ ไฟแนนซ์ จะเป็นผู้กำหนดว่า จะเข้าประมูลเมื่อไหร่ ดังนั้น ระหว่างรอยังคงต้องผ่อนรถต่อไปเรื่อยๆ รถเข้าขาย หรือประมูล ส่วนต่างเท่าไหร่ ก็ ต้องจัดการ ส่วนที่เหลือเช่นเดียวกัน หากราคาที่ขายได้ + สิ่งที่ผ่อนมาแล้ว น้อยกว่ามูลหนี้ ที่ค้างอยู่ ผู้ที่ครอบครองรถ จะต้องจ่ายส่วนที่เหลือเป็นเงินสด หรือ ต้องทำสัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ เพื่อทำการผ่อนค่างวดให้จบมูลหนี้ คำแนะนำจากผู้อยู่ในวงการ รวมถึงคำถามที่พบบ่อยอย่าปล่อยให้โดนยึดรถ คำแนะนำข้อแรก : อย่าปล่อยให้รถโดนยึด คืนรถ ดีกว่า ประณีประนอมดีกว่า เพราะถ้าเกิดการยึดรถ จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามมาอย่างไม่สิ้นสุด แม้ว่ามีค่างวดค้างอยู่ ก็สามารถคืนได้ ซึ่งต้องไปคุยกับทางบริษัทไฟแนนซ์อีกที ว่าจะรับคืนมาค้างค่างวดเท่าไหร่ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ รถจะได้ขายเมื่อไหร่? ขึ้นอยู่กับว่า ไฟแนนซ์เจ้านั้นๆ จะสั่งการให้มีการขายรถเมื่อไหร่ มักใช้เวลา 1-3 เดือน ในการขายทอดตลาด รถไม่สวย เข้าประมูล คืนรถ ได้หรือไม่? รถไม่สวย หมายถึง มีชนหนักมา มีการย้ายของจากรถคันที่จะคืนใส่อีกคันหนึ่ง หรือ ถอดของขาย เช่น ปกติเป็นเกียร์ขับสี่ ถอดเกียร์ขับสี่ออก ใส่ขับสองแทน เมื่อ รถถูกทำเช่นนี้ ผู้เข้าประมูลรถยนต์ จะเห็นสภาพ และจะตีรถเป็นเกรดที่ไม่ดี ดังนั้น หากรถไม่สวยแบบนี้ จะได้ราคาจบประมูลที่ไม่สูง ทำให้ต้องมานั่งใช้หนี้เพิ่มเติม ลองขายรถด้วยตัวเองก่อน อย่าขายเต๊นท์ ลองขายรถด้วยตัวเอง โดยการโพสต์ประกาศขาย ขายให้คนรู้จัก เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด และ ข้อแนะนำคืออย่าขายให้กับเต๊นท์ เพราะเต๊นท์จะต้องมีการกดราคาเพื่อบวกกำไร ทำให้ได้มูลค่าที่น้อย และยังต้องไปผ่อนรถต่ออีกต่างหาก ตั้งขายในเว็บได้ราคากว่า แต่ส่วนใหญ่ รถประมูลจะได้ ราคาที่ค่อนข้างสูงกว่า แต่ ในบางครั้งก็ต่ำกว่าได้เช่นเดียวกันรวมหลักการรีไฟแนนซ์รถ เมื่อรู้ว่าผ่อนไม่ไหว
|