รีไฟแนนซ์บ้าน เพิ่มวงเงิน 2565

 อย่างไรก็ตามหากเรามีความจำเป็นจริงๆ เราก็สามารถตอบรับเงินก้อนที่เติมเข้ามาก้อนนี้เอาไว้ได้ แต่เราต้องพึงคิดอยู่เสมอว่าเราต้องนำเงินก้อนนี้ไปใช้เพราะจำเป็น และก่อให้เกิดประโยชน์จริงๆ จะทำให้เราใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่สนใจจะรีไฟแนนซ์ หรือขอสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย 
ประเภทหนึ่ง ของผู้ที่กู้ซื้อบ้านหรือกู้สร้างบ้านกับสถาบันการเงิน และเมื่อผ่อนไปในช่วงระยะเวลาตามที่กำหนด ก็สามารถขอ รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อลดภาระการจ่ายค่างวดแต่ละเดือนได้ ซึ่งมีหลายสถาบันการเงินให้บริการดังกล่าว อีกทั้งในบางเงื่อนไขก็สามารถเพิ่มวงเงิน ได้ด้วย อย่างเช่นที่จะแนะนำต่อไปนี้กับ รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส 2565

Show

 

ว่าด้วยเรื่องการ รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส 2565  สำหรับลูกค้าผู้ขอสินเชื่อ บ้าน ธอส

เชื่อว่าหลายๆ คนที่ ขอสินเชื่อ ซื้อบ้านหรือปลูกสร้างบ้าน โดยส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้บริการ ธอส ซึ่งเป็นธนาคารที่ให้บริการเกี่ยวกับที่พักอาศัยโดยตรง และนอกจากสินเชื่อเกี่ยวกับการปลูกสร้างบ้านหรือซื้อบ้านแล้ว ธอส ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทการรีไฟแนนซ์บ้าน ธอส ล่าสุดก็มีข้อมูล รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส 2565 รวมถึงการ ขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อบ้าน ธอส 2565 ในเรื่องของเงื่อนไขและคุณสมบัติและอัตราดอกเบี้ย ให้ผู้ที่กำลังสนใจ รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส ที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนและอาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไปเป็นรายบุคคลตามลักษณะการขอสินเชื่อ เริ่มต้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในการ รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส 2565 คือสัญญากู้เดิม ไม่ว่าจะกู้สร้างบ้านหรือกู้ซื้อบ้าน ในการขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อบ้าน ธอส 2565 และ รีไฟแนนซ์บ้าน ธอส 2565 จะขาดเอกสารนี้ไม่ได้เป็นอันขาด นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมในส่วนของค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินการ รีไฟแนนซ์บ้าน ธอส ไว้ให้พร้อมด้วย เช่น ค่าประเมินราคาหลักการ ค่าธรรมเนียมในการปล่อยกู้ใหม่ เป็นต้น 

 

ไม่ได้กู้บ้านกับ ธอส จะขอ รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส 2565 และ เพิ่มวงเงินได้หรือไม่

สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้ขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้านหรือซื้อบ้านกับ ธอส จะสามารถทำการ รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส 2565 ได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ได้ ไม่ว่าจะเคยกู้ที่ไหนมาก็ตาม หากต้องการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ธอส หรือ ขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อบ้าน ธอส 2565 หากมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนด ก็สามารถทำได้แน่นอน เพราะฉะนั้น ถ้ามีตัวเลือกอีกหลายๆ แห่ง ก็สามารถเปรียบเทียบข้อมูล เช่น

เมื่อสมัครสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี พร้อมผลิตภัณฑ์เสริม MRTA โดยธนาคารรับภาระค่าจดทะเบียนจำนอง ตามที่ลูกค้าได้จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 1% ของวงเงินกู้ หรือ 200,000 บาท ทั้งนี้ ลูกค้าจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน ณ วันจดทะเบียนจำนอง และธนาคารจะโอนเงินจำนวนดังกล่าว เข้าบัญชีออมทรัพย์ ทีทีบี ให้ภายใน 7 วันทำการ แต่หากมีการไถ่ถอนหลักประกันและชำระหนี้คืนทั้งหมดภายใน 5 ปีแรกนับจากวันที่ทำสัญญา ธนาคารจะเรียกเก็บค่าจดทะเบียนจำนองจำนวนนี้คืน


ทั้งนี้ กรณีเลือกประเภทดอกเบี้ยที่ไม่มีค่าฟรีจดทะเบียนจำนอง ลูกค้าจะต้องชำระค่าจดทะเบียนจำนองให้แก่กรมที่ดินตามปกติ

ส่องสินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ปี 2565 เดือนธันวาคม จาก 7 แบงก์ ให้ดอกเบี้ยน่าสนใจ พร้อมเทคนิคยื่นกู้อนุมัติเร็ว เช็กได้เลยที่นี่!!

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน เดือนพฤศจิกายน2565  หลายธนาคารยังคงเน้นให้อัตราดอกเบี้ยที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ล่าสุด ก็มีธนาคารและสถาบันการเงิน เตรียมที่จะปรับ อัตราดอกเบี้ยลอยตัว   ดังนั้นการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน ก็อาจจะต้องมีการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่นกัน


รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร

ข้อมูลจากรีฟิน refinn.com ระบุว่าปัจจุบันคนไทยกว่า 80% มีหนี้ และหนี้ที่ใหญ่ที่สุดของคนก็คือบ้าน ดังนั้นบรรดาแบงก์ต่างๆจึงได้มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านขึ้นมา เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบเรื่องสภาพคล่องให้กับลูกค้า ซึ่งการขอ สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน คือ การย้ายสินเชื่อบ้านที่เรากู้อยู่กับธนาคารเดิม ไปธนาคารใหม่ โดยจะต้องผ่อนมามากกว่า 3 ปี โดย ธนาคารใหม่จะให้ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิม ทำให้ผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง และผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น  รวมถึงเรายังสามารถนำบ้านหรือคอนโด ที่กำลังผ่อนกับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือติดขายฝาก มาทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อผ่อนกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยบ้านถูกกว่าได้เช่นกัน

ข้อดีก็คือลดดอกเบี้ยที่ต้องเสีย ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง สามารถช่วยให้เราหักเงินต้นได้มากขึ้น เมื่อภาระดอกเบี้ยน้อยลง ค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนก็จะถูกนำไปหักเงินต้นคงเหลือได้มากขึ้น ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนต่อไปก็จะลดลงอีก รวมทั้งค่าผ่อนบ้านต่อเดือนก็จะน้อยลงด้วย  

สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน เหมาะกับใคร

1. เหมาะกับคนที่ต้องการลดดอกเบี้ยบ้าน หรือ ผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง

2. คนที่ต้องการลดระยะเวลาการผ่อนบ้าน ผ่อนบ้านหมดไว้ขึ้น

3. สำหรับคนที่ต้องการวงเงินกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน หรือปิดหนี้ สินเชื่อ บัตรเครดิตให้หมดไป 


โดยส่วนใหญ่จะมีการรีไฟแนนซ์ หรือขอลดดอกเบี้ยบ้าน ก็ต่อเมื่อผ่อนบ้านไปแล้ว 3 ปีขึ้นไปหรือตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญากู้บ้าน ดังนั้น TNN Online จึงรวบรวม สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตล่าสุด จาก 7 แบงก์ มาฝากเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจ 

อันดับธนาคารวงเงินสินเชื่อ///เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย
(เฉลี่ย 3 ปีแรก)
1.ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 100% ของราคาประเมิน //ผู้กู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป 
1.99% 
2.ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารออกค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1%3.08%
3.ธนาคารทหารไทยธนชาต
เท่ากับยอดหนี้เดิม หรือ 90-95% ของราคาประเมิน // มีเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต3.15%
4.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 
กู้สูงสุด 95%ของราคาประเมิน//บ้านราคาตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
2.88%
5.ธนาคารกรุงเทพ  
กู้สูงสุด 100% //ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปของภาระหนี้คงเหลือ กรณีเป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่เป็นพันธมิตร//ทำประกัน 
2.78%
6.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 
วงเงินกู้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด//สำหรับวงเงินให้กู้รวมทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันตั้งแ่ 3 ล้านบาทขึ้นไป2.83%
7.ธนาคารไทยพาณิชย์ 
ไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม
4.90%

ที่มา : ธปท.  

*** อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์เฉลี่ย 3 ปี คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น***


สำหรับ สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน จาก 7 ธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยใน 3 ปีแรก ต่ำสุดในตลาดมีดังนี้


1. ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)  

ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านที่หลากหลาย และมีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.60% โดยใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ 2 ปีแรกที่ MRR-5.35% และปีที่ 3 MRR-3.55% และอีกหนึ่งทางเลือกที่มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.60% เช่นกัน โดยใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวคงที่ 3 ปีที่ MRR-4.75%

โดยการขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารนั้น ให้วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 100% ของราคาประเมิน ซึ่งผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ในการกู้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุดที่ 2.60% นี้ จะต้องอยู่ในเงื่อนไขของผู้กู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์  https://www.lhbank.co.th/Home/Index

2. ธนาคารกรุงไทย

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกรุงไทย จะมีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่อัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0.56% ในปีแรก และสามารถเลือกชำระค่างวดผ่อนต่ำล้านละ 3,000 บาทต่อเดือนในช่วงปีที่ 1 ได้ และมีระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 40 ปี โดยให้วงเงินกู้บ้านสูงสุด 100% มีให้เลือก 2 รูปแบบหลัก ๆ ด้วยกัน คือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแบบทำประกัน กับสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแบบไม่ทำประกัน ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบมีอัตราดอกเบี้ยต่างกัน

ส่วนกรณีขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ แบบทำประกัน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.00% โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ในปีแรกเพียง 0.56% และในปีที่ 2 และ 3 = MRR-2.00%  ส่วน กรณีการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ แบบไม่ได้ทำประกัน ของ ธนาคารกรุงไทย มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.08% โดยปีแรก เดือนที่ 1-9 = 0.56% และเดือนที่ 10-12 = 1.56% ปีที่ 2 และ 3 = MRR-2.00% โดยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR ปัจจุบันที่ 6.22%

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์  https://krungthai.com/

3. ธนาคารทหารไทยธนชาต

สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ของธนาคารทหารไทยชาต แบ่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มได้แก่ ลูกค้าทั่วไป และลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี TTB (Payroll) โดยในกลุ่มลูกค้าทั่วไปจะมีอัตราสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.69% ในกรณีของการสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภท 

 ส่วน ลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารทหารไทยชาต  TTB (Payroll) จะมีอัตราสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.64% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ต่ำที่สุดของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของธนาคาร มีวงเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาท

หากเป็นการรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมที่ดิน หรือ ห้องชุดคอนโดมิเนียม ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท วงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิม หรือสูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินธนาคารฯ แล้วแต่ราคาใดต่ำกว่า  ส่วนราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปวงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิม หรือสูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาประเมินธนาคารฯ แล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า รวมไปถึงให้ระยะเวลากู้นานสูงสุดถึง 35 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์  https://www.ttbbank.com

4. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน เฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีอยู่ที่ 2.75%  แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ในปีแรกเท่ากับ 1.75% และปีที่ 2 เท่ากับ 2.20% และใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวในปีที่ 3 เท่ากับ MRR-1.75% 

สำหรับเงื่อนไขมีอยู่ว่า หลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ราคาตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป และให้วงเงินกู้สูงสุดที่ 95% ของราคาประเมิน สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี และระยะเวลาผ่อนชำระรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์  https://www.krungsri.com/th/personal


5. ธนาคารกรุงเทพ 

สำหรับ ธนาคารกรุงเทพ ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.78% แบ่งเป็น ปีแรก=MRR-4.00% ปีที่ 2=MRR-3.75% และปีที่ 3=MRR-1.75% 

ส่วนกรณีที่หลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร โดยให้วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ แต่มีเงื่อนไขให้อนุมัติวงเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป และอยู่ในกรณีของการทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์  https://www.bangkokbank.com/

รีไฟแนนซ์บ้าน เพิ่มวงเงิน 2565

ภาพประกอบจาก :พีอาร์คุณาลัย


6. ธนาคารอาคารสงเคราะห์

อัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์  สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Re-in) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.83% โดยมีเงื่อนไขเฉพาะสำหรับ กลุ่มลูกค้าสวัสดิการ และให้วงเงินกู้สูงสุดตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร

ขณะที่ลูกค้าทั่วไป จะมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.93% และให้วงเงินสูงสุดตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์  https://www.ghbank.co.th/



7. ธนาคารไทยพาณิชย์ 

สินเชื่อทั่วไปที่รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น มาขอขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารไทยพาณิชย์ มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 4.90% โดยมีเงื่อนไขในการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อมากกว่า 70% และในกรณีที่รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น วงเงินที่ให้กู้สูงสุดต้องไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิมของวงเงินกู้ ส่วนลูกค้าทั่วไป ลูกค้าโครงการ / ลูกค้าองค์กร จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ขึ้นอยู่กับประเภทโครงการ หรือ ประเภทองค์กร และเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์  https://www.scb.co.th/

รีไฟแนนซ์บ้าน เพิ่มวงเงิน 2565

ภาพประกอบ: AFP

เทคนิคการขอ สินเชื่อ  รีไฟแนนซ์บ้าน ให้ได้อนุมัติเร็ว

  • ตั้งวงเงินที่ต้องการ  โดยให้ตั้งวงเงินที่ตนเองต้องการว่าเท่าไหร่จึงจะช่วยภาระเราได้ แล้วลองตีมูลค่าบ้านคร่าว ๆ ที่คาดว่าจะได้  จะทำให้รู้ว่าโอกาสจะได้เงินตามนั้นมีมากน้อยแค่ไหน แต่ต้องคำนึงด้วยว่า สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ก็คือหนี้สินอีกก้อนที่ดอกเบี้ยถูกลงเท่านั้น ไม่ควรตั้งเยอะเกินความจำเป็น 
  • ศึกษารายละเอียด โปรโมชั่น - ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน หรือรายละเอียดของ สินเชื่อแต่ละธนาคารให้ละเอียดที่สุด  
  • เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน อาทิ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, เอกสารรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือน, สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารอย่างน้อย 6 เดือน เป็นต้น
  • ศึกษาเงื่อนไขของแบงก์เดิมว่ามีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย จากการรีไฟแนนซ์อะไรบ้าง เช่น ค่าเบี้ยปรับจากสถาบันการเงินเดิม, ค่าธรรมเนียมดำเนินการ, ค่าอากรแสตมป์, ค่าทำประกันอัคคีภัย, ค่าธรรมเนียมจดจอง, ค่าไถ่ถอน, ค่าจดจำนอง เป็นต้น 
  • เตรียมค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วน เพื่อที่จะได้ไม่ฉุกละหุกเมื่อต้องจ่าย
  • ยื่นกู้หลายๆธนาคาร จะได้เปรียบเทียบดอกเบี้ยรวมทั้งเงื่อนไขที่ตอบโจทย์ที่สุด 

 

การขอ สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน สามารถช่วยประหยัดดอกเบี้ยให้ผู้ขอสินเชื่อได้มากก็จริง แต่ที่สำคัญคือการศึกษารายละเอียด ข้อมูลของสินเชื่ออย่างละเอียดรอบคอบ  เพราะเงื่อนไขจะแตกต่างกันตามแต่ละธนาคาร โดยสิ่งที่ให้พิจารณาอันดับแรกคืออัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อของสินเชื่อรีไฟแนนซ์นั้น จะต้องต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อปัจจุบัน  หากสินเชื่อที่เรายื่นไม่ได้ลดภาระค่าใช้จ่ายลงมากเท่าไหร่ ก็ให้ลองยื่นธนาคารอีกหลายๆที่เพื่อดูอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งเงื่อนไข ว่าตอบโจทย์สำคัญนั่นคือ "ลดภาระ" ได้มากแค่ไหน

รีไฟแนนซ์ 2565 ที่ไหนดี

8 อันดับธนาคารน่าสนใจ ที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด ประจำเดือน มกราคม 2566.
1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) ... .
2. ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) ... .
3. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ... .
4. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ... .
5. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ... .
6. ธนาคารกรุงไทย (KTB) ... .
7. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB).

รีไฟแนนซ์บ้านจะได้เงินเพิ่มไหม

ส่วนมากแล้วเมื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารใหม่จะให้กู้สูงสุดอยู่ที่ 90-95% ของราคาประเมิน ซึ่งสามารถขอวงเงินกู้เพิ่ม โดยใช้ส่วนต่างของราคาบ้านกับยอดหนี้คงเหลือจากธนาคารเดิม ซึ่งจะทำให้ได้วงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์จำนวนมากเลยทีเดียว โดยจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพดังนี้

รีไฟแนนซ์บ้าน 2565 มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

รีไฟแนนซ์บ้าน มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?.
ค่าดำเนินการสินเชื่อ ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารกำหนด เช่น 0.025% ของวงเงินกู้.
ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท.
ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้.
ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย โดยปกติต้องทำทุก 1-3 ปี.
ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของมูลค่าจำนอง.

รีไฟแนนซ์บ้าน 2565 ทํายังไง

8 ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน มีอะไรบ้าง.
1. พิจารณาระหว่างธนาคารเดิมกับธนาคารใหม่ ... .
2. ตรวจสอบสัญญาการกู้ ... .
3. ตรวจสอบข้อมูลยอดหนี้คงเหลือ ... .
4. มองหาธนาคารที่เหมาะสม ... .
5. เตรียมเอกสารให้พร้อม ... .
6. ยื่นขอสินเชื่อสำหรับการรีไฟแนนซ์ ... .
7. เตรียมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ... .
8. ทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดิน.