มีใครสงสัยไหมว่า ถ้าเราพูดว่าข้อดีข้อเสีย หรือว่า จุดเด่นจุดด่อย เพื่ออธิบายถึงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือใครคนใดคนหนึ่ง เป็นภาษาอังกฤษจะพูดว่าอะไรดีนะ อันที่จริงเราสามารถพูดและเขียนได้หลากหลายแบบ เลยละสำหรับการอธิบายถึง ข้อดีข้อเสีย ตัวอย่างเช่น Strengths หมายถึง จุดแข็ง Advantages หมายถึง ข้อได้เปรียบ Reasons to support หมายถึง เหตุผลที่สนับสนุน Positive points หมายถึง มุมมองด้านบวก Pros หมายถึง ข้อดี (ย่อมาจาก ภาษาลาตินว่า for หรือ in favour of) ส่วนใหญ่ถ้าเป็นทางการหน่อยก็จะใช้ Advantages กับ Disadvantages หรือ Strengths กับ Weaknesses ก็ได้ คราวนี้ก็หายสงสัยกันแล้วอย่าลืมนำไปใช้กัน อย่าลืมใช้ให้ถูกคู่ของมันนะห้าม แยกกัน เช่น Strengths ก็ใช้กับ Weaknesses หรือ Pros ก็ใช้กับ Cons ในยุคของการสื่อสารที่ไร้พรมแดนนี้ ภาษาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องหันกลับมาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ในบ้านเมืองเราก็ไม่ได้มีเพียงคนไทยเท่านั้นที่อยู่อาศัยกัน มีชาวต่างชาติมากมายหลายสัญชาติ และบางครั้งเราเองก็ต้องสื่อสารพูดคุยกับพวกเขาเหล่านั้นด้วย และไม่ใช่แค่ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ในเรื่องของการทำงานก็ถือว่ามีความสำคัญ เพราะปัจจุบันหลายบริษัทก็มีคู่ค้าเป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นผู้ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ย่อมมีโอกาสในการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่มากกว่า และวันนี้หากเราเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะเริ่มฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอยู่ เราก็มี 3 ข้อดี 3 ข้อด้อยสำหรับการฝึกด้วยตัวเองมาฝากกัน ข้อดีที่ 1 สะดวกสบาย เมื่อเราฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เราก็จะได้รับความสะดวกสบาย เรียนแบบด้วยตัวเองก็จะรู้สึกถึงความเป็นอิสระ รู้สึกว่าไม่ถูกบังคับจึงไม่เครียด สามารถเรียนได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเรียนอยู่ที่บ้าน ฝึกท่องศัพท์เอง ซื้อหนังสือมาอ่านเองได้ เป็นต้น ข้อดีที่ 2 ไม่เสียค่าใช้จ่ายแพง การเรียนด้วยตัวเองทำให้ไม่ต้องเสียเงินไปเข้าคอร์ส ไม่ต้องจ่ายค่าติวเตอร์ เพราะเราสามารถฝึกฝนเองได้ที่บ้าน ซึ่งสามารถทำได้จากหลายทาง เช่น การดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษ หรือเลือกซื้อหนังสือเพื่อมาอ่านแล้วฝึกเอง เป็นต้น ข้อดีที่ 3 ทำได้ทุกที่ทุกเวลา การเรียนด้วยตัวเองทำได้ทุกที่ ทุกเวลา เมื่อเราสามารถจัดตารางเวลาเรียนที่สะดวกได้ ไม่ว่าจะฝึกบนรถระหว่างทางกลับบ้าน ฝึกระหว่างเวลาพักในช่วงเที่ยง หรือช่วงเวลาอยู่บ้าน เป็นต้น ข้อด้อยที่ 1 ไม่รู้ถูกหรือผิด การฝึกด้วยตัวเองอาจจะมีข้อดี แต่ก็อาจทำให้เราไม่รู้ว่าที่เราฝึกเองนั้น ถูกต้องตามหลักการจริง ๆ หรือไม่ เพราะเราอาจจะฟังจากเพลง ฝึกจากหนังที่เราดู แต่เราก็จะไม่เข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว รูปแบบประโยคบางประโยคนั้นหมายความว่าอย่างไร ข้อด้อยที่ 2 ไม่มีระเบียบแบบแผน เมื่อเราเลือกจะฝึกเอง ทำให้เราอาจจะไม่สามารถมีวินัยในการบังคับตัวเองให้ฝึกตามตารางที่วางไว้ได้ เช่นเราอาจจะรู้สึกเหนื่อยจากการเรียน การทำงาน จึงขอพักก่อน ไม่ฝึก ไม่เรียนตามที่เราตั้งใจไว้ หรือการผัดวันประกันพรุ่ง พรุ่งนี้ค่อยฝึกก็ได้เพราะไม่มีใครมาบังคับอยู่แล้ว ทำให้เราละเลย ไม่มีระเบียบแบบแผนในการเรียนนั่นเอง ข้อด้อยที่ 3 ล้มเลิกกลางคัน เมื่อเราฝึกเองเราก็อาจจะรู้สึกว่ามันยาก ไม่มีเพื่อนช่วยฝึก ทำให้เกิดการเบื่อ ท้อได้ง่าย จึงทำให้หลายคนล้มเลิก ไม่ประสบความสำเร็จได้ดั่งที่ใจหวังเอาไว้มีคำกล่าวว่าถ้าอยากเป็นคนแบบไหน ให้ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากถ้าเราตั้งใจจริง และควรพาตัวเองไปอยู่ในสังคมแบบที่เราต้องการ เช่น หาเพื่อนเรียนและฝึกไปด้วยกัน ทำให้การเรียน การฝึกเป็นเรื่องสนุก แบบนั้นก็จะช่วยให้เราพูดจาสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดั่งใจตามความมุ่งหมายที่ตั้งไว้ได้ในที่สุด น้อง ๆ คนไหนที่กำลังมีแพลนไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ก็กลัวจะไม่คุ้มค่าเวลากับเงินที่จะเสียไป ลองทดลองเรียนคอร์สระยะสั้นดูก่อนไหมคะ หลักสูตรระยะสั้น โดยปกติแล้วใช้ระยะเวลาเรียนประมาณ 2-8 สัปดาห์ เนื้อหามักจะเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่น และพัฒนด้านภาษา มาเช็ค ข้อดี-ข้อเสียของการเรียนคอร์สระยะสั้นในต่างประเทศกันเลย !! (ลองดู 7 คำถามก่อนเลือกโรงเรียนสอนภาษา เพื่อค้นหาโรงเรียนที่เหมาะกับตัวเอง)  ข้อดีของหลักสูตรคอร์สเรียนระยะสั้นในต่างประเทศ1. ได้เรียนภาษากับเจ้าของภาษา ไม่มีวิธีไหนจะมีประสิทธิภาพและดีไปกว่าการเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาตัวจริง เพราะรอบตัวน้องๆ จะเต็มไปด้วยการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน รวมถึงการพูดและได้ยินในบริบททางวัฒนธรรมที่ถูกต้อง และการเรียนรู้ทางภาษานี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้สภาวะแวดล้อมเหล่านี้ 2. ค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ข้อดีข้อแรก ของการไปเรียนต่อคอร์สระยะสั้นที่ต่างประเทศก็คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายนั่นเอง ทั้งค่าที่ ค่าครองชีพ การกินอยู่นั้นก็จะลดลงไปกว่าครึ่งเลย! 3. ความกดดันน้อยกว่าเดิม ในการเรียนหลักสูตรระยะยาว มักจะมีเงื่อนไขจำนวนมากก่อนที่จะจบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสอบและการทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งต้องใช้ความพร้อมและความพยายามค่อนข้างสูง จนในบางครั้งอาจจะเป็นการกดดันตัวเอง แต่หากคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลาของการค้นหาตัวเอง อาจลองเรียนเป็นหลักสูตรระยะสั้นไปก่อนจะดีกว่า จะได้ไม่กดดันตัวเองมากเกินไปด้วย 4. เสริมสร้างความมั่นใจก่อนเรียนหลักสูตรระยะยาว บางคนมีเป้าหมายว่าจะลงเรียนหลักสูตรระยะยาวในบางสาขาวิชาไว้แล้ว แต่ในการสมัครเรียนอาจจะสมัครยาก มีคู่แข่งเยอะ หรือต้องใช้พอร์ตงานนำเสนอความสามารถ การเรียนหลักสูตรระยะสั้นนี้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจก่อนไปเรียนหลักสูตรระยะยาว เพื่อให้คุณดูมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเรียนในสาขาวิชานั้นๆ มากขึ้น และคณะกรรมการคัดเลือกอาจพิจารณารับเข้าศึกษาได้ง่ายขึ้น หรือสำหรับบางสาขาวิชา เช่น การออกแบบ หลักสูตรระยะสั้นก็จะช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาผลงานของตัวเอง ก่อนจะนำพอร์ตงานไปยื่นกับทางมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัคร 5. ได้ประสบการณ์ใช้ชีวิตในต่างแดน หากน้อง ๆ เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน อาจจะเป็นกังวลถ้าต้องมาเรียนในระยะยาวอย่าง 1-2 ปี หรือมากกว่านั้น คงจะตัดสินใจยาก การเรียนหลักสูตรระยะสั้นในเมืองที่ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะไปเรียนต่อในระยะยาว ก็ถือเป็นความคิดที่ดีในการทดลองปรับตัวในเบื้องต้นว่า เมืองนี้ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองหรือไม่ และได้ประสบการณ์หลาย ๆ อย่างอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็จะสบายใจมากขึ้นเมื่อถึงวันที่ต้องส่งลูกมาเรียนหลักสูตรระยะยาวอย่างจริงจัง 6. ได้พบปะเพื่อนใหม่มากมายหลายชาติ ทำให้เราได้รู้จักวัฒนธรรม ภาษา สำเนียงที่มากมาย เราอาจจะได้ภาษาอื่นเพิ่มเติม ที่นอกจากภาษาอังกฤษก็ได้นะคะ 7. ได้ทดลองทานอาหารประเทศอื่น เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองชิม ลองทานอาหารชาติอื่นบ้าง บางอย่างอาจจะถูกปากมาก ๆ และบางอย่างก็อาจจะไม่คุ้นชินจนไม่อยากทานอีกก็มี 8. ทำอะไรที่ไม่เคยทำในไทย เช่น การทักทายแบบกอดกัน ชนแก้ม แต่งตัวที่ในประเทศไทยไม่เคยใส่ หรือการเล่นกีฬาที่ Adventure ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี การเข้าไปเรียนในสถานที่ใหม่นั้นอาจจะดูน่ากลัวในตอนแรก แต่หลังจากนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะจะได้มีโอกาสในการค้นพบจุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง อีกทั้งยังจะได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะปรับตัวและตอบสนองในทางที่ถูกต้อง 9. โอกาสในการท่องเที่ยว เพราะโดยปกจิแล้วการไปเรียนต่างประเทศ มักจะเป็นการไปเรียนยังทวีปอื่นที่ทำให้คุณสามารถไปเที่ยว ในสถานที่ที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ไปก็ได้ นอกจากนี้ยังมีบางหลักสูตรที่มีการไปออกภาคสนามในสถานที่ต่างๆ ด้วย 10. มองโลกกว้างขึ้น การที่ได้มีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ จะได้เห็นมุมมองความคิดที่หลากหลาย ไม่มีกรอบความคิดใดมากั้น ทำให้ได้มองโลกกว้างขึ้นและมีความคิดที่มีกรอบหรืออคติต่อคนอื่นน้อยลง เพราะการเรียนที่ต่างประเทศจะไม่ใช่การเรียนทั่วไป นักเรียนจะได้มีโอกาสในการเลือกหลักสูตรต่างๆ ที่ไม่มีสอนที่ประเทศของคุณ พบกับระบบการศึกษาแบบใหม่ๆ 11. ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับคุณสมบัติของตัวเอง การเรียนต่างประเทศช่วยเพิ่มทักษะทางภาษา และด้วยหลักสูตรที่ไม่เหมือนในไทย น้อง ๆ สามารถเขียนเพิ่มลงไปใน CV ได้เป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับคุณสมบัติของตัวเอง ข้อเสียของหลักสูตรคอร์สเรียนระยะสั้นในต่างประเทศ1. เรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาได้ไม่เต็มที่ ด้วยเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์อาจน้อยเกินไป สำหรับการเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาอังกฤษ หากคิดจะไปเรียนหลักสูตรระยะสั้น แนะนำว่าควรเตรียมตัวไปก่อนล่วงหน้าบ้าง เช่น ลงเรียนคอร์สภาษาเบื้องต้นจากเมืองไทยไปก่อนเพื่อให้พอมีพื้นฐาน หรือศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองที่จะไปเรียนต่อไว้บางส่วนแล้วไปเรียนรู้เพิ่มเติมเมื่อไปถึง เพราะถ้าไปโดยไม่มีการเตรียมตัวอะไรเลย อาจทำให้คุณไม่ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร 2. มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนต่างชาติน้อย ด้วยระยะเวลาเรียนที่จำกัด แค่เรียน ท่องเที่ยว และออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็แทบจะไม่เหลือเวลาว่างแล้ว จึงอาจทำให้คุณมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนชาวต่างชาติ คนท้องถิ่นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากเพราะถ้าได้ฝึกภาษากับคนในท้องถิ่นจะช่วยให้เรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น 3. มีเวลาในการสำรวจประเทศน้อย หากเข้าร่วมโปรแกรมหลักสูตรระยะสั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ นักเรียนจะมีวันหยุดสุดสัปดาห์เพียงไม่กี่ครั้งที่จะออกไปสำรวจพื้นที่รอบ ๆ โรงเรียน สถาบัน และไม่สามารถไปเที่ยวสถานที่ไกล ๆ หรือออกนอกเมืองได้มาก ทำให้เสียโอกาสในการผจญภัยไป แต่ถ้าเลือกปักหมุดสัก 2-3 สถานที่ที่อยากไปเยือนจริง ๆ และหากเตรียมตัวไปก่อนล่วงหน้าอย่างรอบคอบ ก็น่าจะพอทำให้แผนการท่องเที่ยวมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น 4. อาจรู้สึกว่าชีวิตเร่งรีบเกินไป และปรับตัวไม่ทัน เมื่อมีเวลาเรียนค่อนข้างจำกัด แต่ที่ต่างประเทศมีสิ่งน่าสนใจให้เรียนรู้มากมาย เราอาจจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งหมดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการชิมอาหารพื้นเมือง ร้านแปลก ๆ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ โปรแกรมเหล่านี้อาจจะแน่นมากอาจจะรู้สึกว่าชีวิตเร่งรีบและเหนื่อยเกินไป จนต้องยอมตัดใจบางโปรแกรมออกไป เพื่อให้มีเวลาได้พักผ่อนบ้าง และหลายคนที่ได้ไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกย่อมต้องเผชิญกับปัญหา Culture Shock ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการปรับตัว เพื่อความคุ้นเคยและเริ่มสนุก แต่พอกำลังจะปรับตัวได้เข้าที่เข้าทาง เริ่มหายคิดถึงเมืองไทย เริ่มสนิทกับเพื่อน ๆ ก็อาจใกล้ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับประเทศเสียแล้ว และทั้งหมดนี้ก็คือข้อดีและข้อเสียของเรียนภาษาคอร์สระยะสั้นในต่างประเทศ ไม่ว่าจะคอร์สระยะสั้นหรือแบบระยะยาว สิ่งแรกทีจะได้ก็คือประสบการณ์และการพัฒนาตัวเอง เมื่อได้ไปศึกษาต่อ น้อง ๆ อาจจะพบข้อดีมากกว่าข้อเสียด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็ได้ความรู้และได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาตัวจริง สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษใน สหราชอาณาจักรไอร์แลนด์ แคนาดาสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สามารถ ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาจากพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศของ SI-English ได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ |
ข้อดีข้อเสียของการเรียนภาษาอังกฤษ
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.apacode Inc.
