ความ กดดัน ใน การ ทํา งาน

• หน้าแรก

• Articles All

• People Management

• Talent Management

• 10 เคล็ดลับสร้างโอกาสให้ตัวเองภายใต้แรงกดดัน

     ถ้าใครต้องเผชิญกับภาวะ การทำงานมือเป็นระวิง แล้วคุณสามารถแสดงให้เห็นว่าแม้จะมีแรงกดดันเรื่องปริมาณงานใหม่ที่ไม่ถนัด และข้อจำกัดเรื่องเวลา ฯลฯ แต่คุณก็ยังทำงานได้ดีในทุกสถานการณ์ รับรองว่าความก้าวหน้าคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

     และนี่คือเคล็ดลับ 10 ข้อ ที่จะทำให้คุณทำงานได้ดีที่สุด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความกดดัน

     1. ลู่ตามทิศทางลม ความสามารถในการปรับตัวนั้นเป็นทักษะอันประเมินค่ามิได้ ถ้าหัวหน้าขอให้คุณช่วยอีกโปรเจ๊กต์หนึ่ง ก็ลองคิดซะว่าเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ที่เข้ามมาให้เรียนรู้ ถ้ารู้จักยืดหยุ่นบ้างก็จะอยู่ได้อย่างสบาย ๆ แน่นอน

     2. ขอความกระจ่าง อย่ากลัวว่าการถามมาก ๆ จะทำให้เจ้านายรำคาญ เพราะถ้างานด่วนมากองโครมอยู่ตรงหน้าคุณโดยไม่มีเค้าลางเตือนก่อนล่วงหน้า ก็จำเป็นที่จะต้องให้หัวหน้างานของคุณชี้แจงในเรื่องของเวลาการทำงาน ความคาดหวังที่หัวหน้าตั้งไว้ รวมทั้งเป้าหมายโดยรวมก่อนเริ่มงาน     3. จัดลำดับความสำคัญ ก่อนที่จะโดดลงไปคลุก คลีกับงานจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น คุณควรหาเวลาวางแผนทำโครงสร้างให้พอเห็นว่างานจะไปในทิศทางไหน คิดหากลยุทธ์ในการทำงาน คุณจะสามารถเห็นอุปสรรคหรือปัญหาใหญ่ ๆ ก่อนที่ปัญหาหรืออุปสรรคจะทำให้คุณทำงานช้าลง แล้วการวางแผนก็ทำให้คุณมีความคิดทะลุปรุโปร่ง เห็นกระบวนการทำงานแจ่มแจ้งด้วย     4. อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง จะเสียเวลามัว กังวลกับงานที่ยังไม่ได้เริ่มต้นไปทำไม โดดเข้าใส่แล้วจัดการทำให้จบไปไม่ดีกว่าหรือ ความกังวลจะได้พ้นไปจากคุณเสียที คราวนี้คุณจะเครียดน้อยลง และจะรู้สึกว่าอะไ ร ๆ รอบตัวเป็นเรื่องที่คุมได้สบาย     5. พักบ้าง การได้พักสั้น ๆ ระหว่างช่วงการทำงานจะช่วยลดความเครียดลงได้ ถ้าคุณรู้สึกมึนงงกับปัญหา ลองออกไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย หรือแวะคุยกับเพื่อนตรงมุมชงกาแฟบ้าง ก็ช่วยคลายเครียดได้แล้ว แต่ถ้ายังลุกจากโต๊ะไปไหนไม่ได้ ก็ให้นั่งหลับตาเฉย ๆ แล้วหายใจลึก ๆ สัก 2-3 นาที     6. ทำใจนิ่ง ๆ เข้าไว้ แม้แต่คนที่สุขุมเยือกเย็นที่สุดยังสติแตกได้เมื่ออยู่ใต้ความกดดัน ดังนั้นอย่าพยายามพาตัวเองเข้าไปสู่บรรยากาศที่จะสร้างความเครียดให้ตัวเอง ควรคิดให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรในช่วงที่เครียดจัด ๆ แล้วก็อย่าปล่อยให้คำวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบทำใหคุณจิตตก     7. ขอความช่วยเหลือ แม้ว่าคุณจะเป็นหญิง เหล็กขนาดไหน บางงานก็ทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว แต่ก็ยังเจอปัญหา ลองขอให้เพื่อนช่วย หรือจะปรึกษาหัวหน้าบ้างก็ได้ เพราะจะดีกว่าถ้าขอความช่วยเหลือตอนที่งานกำลังเดินทางไปถึงปลายทาง     8. อย่าลืมจุดหมาย เวลาทำงานหนักเกินไปหรือ ช่วงที่งานล้นมือ คุณอาจลืมไปเลยก็ได้ว่าทำงานนี้ไปเพื่อเป้าหมายอะไร เรื่องไหนสำคัญกว่า หรือเรื่องไหนควรให้เวลาความละเอียดลออมากกว่ากัน หมั่นคิดถึงจุดหมายไว้ด้วยดีกว่าเสียเวลาหลงทาง     9. จดเพื่อจำ หลังจากช่วงเครียดสุดขีดได้ ผ่านไปแล้ว วิธีลดความเครียดที่มีประโยชน์มากวิธีหนึ่งก็คือ จดบทเรียนที่ได้รับจากงานนี้ เช่น อะไรเป็นอุปสรรคของการทำงาน เกิดปัญหาขึ้นตรงจุดไหนบ้าง แล้วเขียนถึงทางออกไว้ด้วย เพื่อจะได้เตรียมตัวรับงานชิ้นใหม่ ซึ่งจะหล่นโครมมาบนโต๊ะคุณเมื่อไรไม่รู้     10.ทำบุญไว้บ้าง ผลจากการช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานในช่วงที่คนอื่นมีงานล้นมือ บุญกุศลจะกลับมาในวันที่คุณกำลังจมกองเอกสารอยู่

     “ทักษะการทำงานภายใต้แรงกดดัน” ถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญกับพนักงานทุกๆ ที่จะต้องมี เพราะในทุกองค์กร อาจจะกล่าวได้ว่าพนักงานจะต้องสามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้เป็นอย่างดี การทำงานแน่นอนว่าเราทุกๆคนจะต้องพบเจอกับแรงกดดันของงาน เพราะเป็นสิ่งที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าแม้แต่แรงกดดันจากตัวเองที่สร้างขึ้นจากตนเอง หรือแรงกดดันที่มาจากหัวหน้างานหรือเจ้าของกิจการ 

      หัวหน้าหรือเจ้าของกิจการก็อาจจะมองเพียงแค่ว่าอยากที่จะให้เราทำงานออกมาได้ดี หรือว่าประสบความสำเร็จถึงได้สร้างแรงกดดัน และคาดหวังในงานของลูกน้อง แต่ส่วนในมุมของลูกน้องก็อาจจะมองที่ว่าหัวหน้ากดดันมากจนเกินไปหรือเปล่าจนทำให้เกิดความเครียด

     “ความเครียด” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในชีวิต และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆคน แต่อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะมีวิธีการจัดการความเครียดของตนเองได้ยังไง และบางครั้งความเครียดก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามากจนเกินไปก็จะทำร้ายตัวของเราเองภัยคุกคามในที่ทำงานที่พบบ่อยมากที่สุดจะมีด้วยกันสองส่วนคือภัยทางด้านความเครียดและภัยทางด้านวิตกกังวล แต่ที่ทำให้รู้สึกแย่ที่สุดคือ คนบางคนก็มีความคิดที่ว่างานของพวกเขาเองนั่นแหละที่เป็นภัยต่อตัวเขาและเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดต่อตัวเขามากที่สุดกว่าเรื่องอื่นๆใด ด้วยเหตุผลเหล่านี้ หัวหน้างาน หรือแม้แต่เจ้าของกิจการก็จะต้องมีวิธีรับมือที่พร้อมจะจัดการและคอยสังเกตความเครียดที่เกิดกับพนักงาน และพนักงานจึงจำเป็นที่จะต้องรับรู้ถึงสัญญาณของความเครียดและการวิตกกังวล และอาจจะหาวิธีหรือการดำเนินการเพื่อลดความเครียดจากการทำงาน เช่น การลดแรงกดดันจากพนักงาน

…..แล้วตัวเราก็อาจจะมีคำถามที่เกิดขึ้นมาในหัวที่ว่า แรงกดดันสามารถกระตุ้นการทำงานของเราให้ดีขึ้นจริงหรือ?

วันนี้แอดก็จะมาแนะนำถึงวิธีการรับมือการทำงานภายใต้แรงกดดัน ว่าพนักงานอย่างเราๆจะสามารถนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ยังไงบ้าง

1. สติและสมาธิ

หัวใจสำคัญในการทำงานที่มีแรงกดดันที่มากคือ การที่เราสามารถควบคุมสติของเราได้นั้นเอง ดังนั้นเราจะต้องฝึกการใช้สติและสมาธิ รวมทั้งฝึกวิธีการควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ว่าจะต้องพบเจอกับสภาวะแรงกดดันในเรื่องใดก็ตาม เพราะสติและสมาธิจะช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมตัวเองภายใต้แรงกดดันได้ดีขึ้นเมื่อต้องทำงานต่อในสภาพที่ร่างกายและจิตใจที่ไม่พร้อมเท่าที่ควร เพราะถ้าหากเราขาดสติก็จะยิ่งส่งผลให้เราไม่สามารถควบคุมตนเองได้และอาจจะสร้างแรงกดดันที่มากขึ้นกว่าเดิม

2. ประสบการณ์

ครูที่ดีที่สุดในชีวิต ก็คงจะเป็นประสบการณ์ที่เราเคยผ่านมา หากเราเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตมาแล้ว นั้นก็แสดงว่าคุณกำลังเติบโตและก้าวหน้าขึ้นได้อีกขั้นแล้ว และหากเราลองนำประสบการณ์เหล่านั้นกลับมาทบทวนถึงวิธีการที่ใช้รับมือและแก้ปัญหาก็จะทำให้คุณรู้ข้อผิดพลาดที่ต้องปรับปรุง และได้เรียนรู้การพัฒนาวิธีรับมือให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

3. เตรียมพร้อมอยู่เสมอ

อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เราสามารถรับมือกับทุกๆปัญหาที่จะเข้ามา คือการที่เราต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นในการพร้อมทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการนอนให้พอ หรือกินอะไรที่มีประโยชน์ที่จะส่งผลให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่ดีและที่สำคัญคือการที่เราไม่ควรมองข้ามคือการ  Work-Life Balance คือ การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนให้เหมาะสม เพราะการทำงานที่หนักเกินไปจะทำให้เหนื่อยล้า เกิดความเครียดสะสม และทำให้เราเกิดการเบื่อง่ายกว่าปกติ

ดังนั้น เราทุกคนจะต้องหาช่องว่างของการสมดุลในชีวิต อย่านำความเครียดและการวิตกกังวลมากดดันตนเองมากจนเกินไปจนทำให้เราสูญเสียความเป็นตนเอง ลองออกไปหาอะไรทำที่เราชอบ หรือการปลีกตัวออกจากสิ่งเร้าที่จะก่อให้เกิดความเครียดและลองหาตรงกลางระหว่างตนเองให้เจอกันนะคะ