สมัครเน็ตแล้วเล่นไม่ได้ ทรู

ทำไมเน็ตช้า? โหลดอะไรก็ช้า ส่งข้อความแชทไม่ออก เล่นเฟสโหลดหน้าฟีดไม่ขึ้นซักที ต้องแก้ยังไง? ทำเองได้รึเปล่า? 

หลายคนที่เจอปัญหาเน็ตช้า โหลดนาน ส่งไลน์ไม่ออก เปิดเฟสไม่ได้หน้าฟีดหมุน เราลองมาทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้เน็ตช้ากันก่อนนะคะ ซึ่งแต่ละสาเหตุก็มีวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่แตกต่างกัน และวิธีเหล่านั้นอาจช่วยให้คุณเล่นอินเทอร์เน็ตได้ดีขึ้นค่ะ

1. มีคนใช้งานเน็ตเยอะ อยู่ในพื้นที่หนาแน่น
ลองปิด-เปิดเครื่องก็แล้ว รอมาตั้งนานทำไมยังช้าอีก? สัญญาณอินเทอร์เน็ตช้าเกิดได้จากปัจจัยหลายๆด้านค่ะ เช่น จำนวนของผู้ใช้งานในช่วงเวลานั้น, Web Browser ของผู้ให้บริการแต่ละราย (เช่น Website ของต่างประเทศอาจจะมีส่วนทำให้ช้าลง), การใช้บริการอยู่ในพื้นที่ๆ มีสิ่งกีดขวาง เช่น อาคารหนาแน่น พื้นที่ที่มีผู้ใช้งานเยอะ รถติด คอนเสิร์ต เป็นต้น

โดยปกติแล้วหากพื้นที่ที่มีการใช้งาน 4G หนาแน่น ตัวเครื่องของคุณจะสลับจากสัญญาน 4G ไปเป็น 3G โดยอัตโนมัติ ทำให้เล่นเน็ตได้ไม่สะดุด และเมื่อการใช้งานในพื้นที่เป็นปกติก็จะสลับกลับมาเป็น 4G เหมือนเดิม
วิธีสังเกตว่าตัวเครื่องของคุณจับสัญญาณอะไรอยู่ ให้ดูที่หน้าจอมือถือมุมบนขวามือ หากขึ้นสัญลักษณ์ 4G+ แสดงว่าจับสัญญาน 4G แต่หากเป็นสัญลักษณ์ H+ แสดงว่าเป็น 3G (ตัวเครื่องบางรุ่นขึ้น 4G และ 3G)

สำหรับบางคนที่เล่นเน็ตได้ช้า อาจจะเป็นเพราะตัวเครื่องของคุณไม่ได้จับสัญญาน 3G อัตโนมัติ ต้องตั้งค่าด้วยตัวเองที่ตัวเครื่องค่ะ ตั้งค่า 3G คลิก

หรือหากอยู่ในที่ที่มีคนเป็นจำนวนมาก อาจเลือกเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ที่มีชื่อไวไฟที่เชื่อถือได้ หรือเชื่อมต่อกับ AIS SUPER WiFi ดูวิธีการเชื่อมต่อ คลิก

หรือหากมีแพ็กเกจรองรับ สามารถเลือกใช้งาน 5G ที่เป็นสัญญาณที่รองรับการเชื่อมต่อจำนวนมากได้เป็นอย่างดี การตั้งค่า 5G สำหรับ iPhone คลิก

2. เปิดแอปฯทิ้งไว้เยอะ แคชเต็ม
อีกสาเหตุที่ทำให้เน็ตช้า มีหลายคนค่ะที่ชอบเปิดแอปฯค้างไว้ เล่นเฟสบุ๊ค เล่นไลน์ ส่องทวิตเตอร์ ไหนจะคลิกไปอ่านข่าวต่างๆอย่างเพลิดเพลินจนลืมปิด เจ้าแอปฯที่เปิดค้างไว้นี่แหล่ะค่ะ มันจะรันโหลดตลอดเวลา พอโหลดพร้อมกันหลาย ๆ แอปฯ เวลาเราเปิดแอปฯใหม่ก็จะทำให้ค้างช้า และยังมีผลต่ออินเทอร์เน็ตที่คุณใช้งาน มีโอกาสทำให้เน็ตที่เหลืออยู่ หายไปโดยที่ยังไม่ได้เริ่มใช้งานด้วยนะคะ
เพราะฉะนั้นแอปฯไหนที่ไม่ใช้งานแล้ว อย่าลืมปิดทุกครั้ง สำหรับคนที่ใช้ SAMSUNG หรือ Android อย่าลืม Clear Cache (ลบข้อมูล) ที่เครื่องของคุณอยู่เสมอ วิธีลบแคช คลิก
หรือหากใช้งาน iPhone เพียงปิดหน้าต่างที่ไม่ได้ใช้งานแล้วบ่อย ๆ ก็จะสามารถทำให้การใช้งานแอปต่าง ๆ เร็วขึ้นได้แล้วค่ะ

3. ใช้แอปฯเวอร์ชันเก่า จึงใช้งานบางฟีเจอร์ไม่ได้
อีกสาเหตุที่เรามักคิดว่าเน็ตช้า เพราะบางทีเข้าเฟซบุ๊กหรือไลน์แล้วโหลดไม่ขึ้น เข้าไม่ได้ หรือเข้าได้แต่ใช้งานได้ช้า นั่นเป็นเพราะเรายังใช้แอปฯเวอร์ชันเก่าจึงทำให้ใช้งานบางฟีเจอร์ไม่ได้
อาการก็จะช้าๆ ค้างๆ โหลดไม่ขึ้น เปิดไม่ได้ ซึ่งต้องทำการอัปเดตตแอปฯให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดปัจจุบันอยู่เสมอ โดยเข้าไป App Store หรือ Google Play ค้นหาชื่อแอปฯที่ต้องการอัปเดตเวอร์ชัน และกดอัปเดต (Update) ค่ะ

4. เล่นเพลิน จนแพ็กเกจหมด
แพ็กเกจอินเตอร์เน็ตของคุณยังไม่หมดใช่ไหมคะ? เล่นเพลินจนลืมว่าแพ็กหมดหรือเปล่า? ลองเช็กแพ็กเกจดูก่อนที่ myAIS คลิก และอีกสาเหตุยอดฮิตที่ต้องทำความเข้าใจ คือหลายคนใช้แพ็คเกจอินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัดที่ความเร็วลดลง เช่น แพ็กเกจ 89 บาท เล่นเน็ตความเร็ว 512 kbps ได้ 2GB ซึ่งถ้าเราเล่นครบ 2GB แล้ว ก็ยังเล่นเน็ตได้ต่อเนื่องอยู่นะคะ แต่ความเร็วจะลดลงเหลือ 128 kbps ตามเงื่อนไขของแพ็กเกจนั่นเองค่ะ

ทีนี้เราก็รู้สาเหตุที่ทำให้เน็ตช้าและวิธีแก้ไขกันแล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ?
หากทำตามทั้งหมดแล้วก็ยังช้าอยู่ สามารถแจ้งข้อมูลพื้นที่การใช้งานและส่งเรื่องให้พนักงานตรวจสอบ ที่นี่ค่ะข้อควรรู้เล็กๆ : จะสมัครแพ็กเกจอะไรดี? ทำไมรู้สึกว่าเน็ตหมดไวจัง อยากเข้าใจการตัดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจะได้ใช้งานแพ็กได้อย่างคุ้มค่า คลิก เพื่อทำความเข้าใจค่ะ

รวมขั้นตอนและวิธีที่ช่วยให้เล่นอินเทอร์เน็ตได้ดีขึ้นที่นี่
☑️ ขั้นตอนการเปิด/ปิด โหมดเครื่องบิน>>> แอนดรอยด์ | ไอโฟน/ไอแพด
☑️ จะลบแคชบนตัวเครื่องแอนดรอยด์ต้องทำอย่างไร?>>> คลิก
☑️ อัปเดตแอปฯเป็นเวอร์ชันล่าสุด สำหรับแอนดรอยด์ ไปที่แอปฯ "เพลย์สโตร์" > ไปที่เมนู "แอปฯและเกมของฉัน" > เลือกอัปเดตเฉพาะแอปฯที่ต้องการ หรือทั้งหมดก็ทำได้ แต่ขอแนะนำให้เชื่อมต่อไวไฟก่อนอัปเดต เพื่อประหยัดเน็ตบนแพ็กเกจของคุณค่ะ | สำหรับไอโฟน/ไอแพด ไปที่แอปฯ "แอปสโตร์" > ไปที่เมนู "อัปเดต" > เลือกอัปเดตเฉพาะแอปฯที่ต้องการ หรือทั้งหมดก็ทำได้ แต่ขอแนะนำให้เชื่อมต่อไวไฟก่อนอัปเดต เพื่อประหยัดเน็ตบนแพ็กเกจของคุณค่ะ
☑️ ขั้นตอนการสลับไปเล่นเน็ตที่สัญญาณ 3G ชั่วคราว>>> แอนดรอยด์ | ไอโฟน/ไอแพด

วิธีการแก้ไขปัญหาโทรศัพท์มือถือใช้งานเน็ตได้ช้าง่ายๆ ด้วยตัวเอง

วิธีการแก้ไขปัญหาโทรศัพท์มือถือไอโฟน (iPhone) และแอนดรอย (Android) ใช้งานเน็ตได้ช้าง่ายๆ ด้วยตัวเอง

รู้หรือไม่ บางครั้งเมื่อใช้งานโทรศัพท์มือถือไปนานๆ จะพบว่าเวลาเล่นเน็ต หรือใช้งานแอปพลิเคชั่น ประเภทโซเชียลต่างๆ เช่น เฟสบุ๊ก (Facebook) หรือ ยูทูป (YouTube) เพื่อดูข้อมูล หรือดูวีดีโอ บางครั้งรู้สึกว่าการโหลดรูปภาพใช้เวลานานกว่าจะขึ้น หรือเปิดคลิปวิดีโอกว่าจะเล่นก็เสียเวลานาน

ดังนั้นขอแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นง่ายๆ ด้วยตัวเอง 2 วิธีดังนี้

1. การเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode)
   เป็นการปิดการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายทุกอย่าง โดยเปิดโหมดนี้ไว้ประมาณ 2 - 3 วินาที หลังจากนั้นก็ทำการปิด เพื่อให้มือถือเชื่อมต่อสัญญาณกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง วิธีนี้เป็นวิธีพื้นฐานวิธีแรกที่ควรทำเมื่อพบว่าการใช้งานอินเตอร์เน็ตเริ่มช้า

   วิธีการเปิดโหมดเครื่องบิน ของโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอย (Android)
   มองหาสัญลักษณ์รูปเครื่องบิน โดยการใช้นิ้วลากหน้าจอจากด้านบนสุดลงมาเป็นเปิดแผงควบคุม

   

   ตัวอย่างภาพจากเครื่อง Samsung Galaxy Note 8 เครื่องรุ่นอื่นก็สามารถใช้หลักการเดียวกันในการหาปุ่มโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) ได้

   วิธีการเปิด โหมดเครื่องบิน ของโทรศัพท์มือถือไอโฟน (iPhone)
   มองหาสัญลักษณ์รูปเครื่องบิน โดยการใช้นิ้วลากหน้าจอจากด้านบนสุดลงมาเป็นเปิดแผงควบคุม

   

2. การปิด-เปิด เครื่องใหม่ (Restart)
   เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากตัวเครื่อง เช่นเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตอ่อน หรือเครื่องเกิดอาการช้าหน่วง หรือค้างได้

   วิธีการปิด-เปิด เครื่องใหม่ของโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอย (Android)
   ให้ทำการกดค้างที่ปุ่มพาวเวอร์ (Power) ค้างไว้ เพื่อทำการรีสตาร์ท (Restart) เครื่อง

   

   ตัวอย่างภาพจากเครื่อง Samsung Galaxy Note 8 เครื่องรุ่นอื่นก็สามารถใช้หลักการเดียวกันในการรีสตาร์ท (Restart) เครื่อง

   วิธีการปิด-เปิด เครื่องใหม่ของโทรศัพท์มือถือไอโฟน X (iPhone X) และรุ่นใหม่กว่า
   ให้ทำการกดปุ่มด้านข้างขวาค้างไว้พร้อมกับปุ่มเพิ่มเสียง จนเครื่องสั่นและขึ้นเมนูปิดเครื่อง แล้วให้ทำการสไลด์เมนูปิดเครื่องเพื่อปิดเครื่อง แล้วค่อยกดปุ่มเปิดเครื่องอีกครั้งหลังจากเครื่องดับสนิท

   

   สุดท้าย หลังจากที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือไปสักพัก แนะนำว่าให้หมั่นคอยรีสตาร์ท (Restart) เครื่องอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยให้มือถือของคุณสามารถกลับมาทำงานได้เหมือนใหม่ และรวดเร็วได้อีกครั้ง

เนื้อหานี้มีประโยชน์หรือไม่ กดที่ดาวเพื่อให้คะแนนความพอใจค่ะ