อ่านออกเขียนได้ง่ายนิดเดียวตามนิยาม ‘ทุ่งสักอาศรม’ ศิวกานท์ ปทุมสูติการ “แก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้” ตามหนังสือ “เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว” นั้นมีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้ ๑. วิเคราะห์เหตุแห่งปัญหา เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้มีสาเหตุมาจาก ๒.
การแก้ปัญหาจะต้องจัดทำแผนงานโครงการเป็น ๒ โครงการสำคัญ คือ ๒.๑ โครงการป้องกันปัญหา โครงการนี้จะต้องจัดทำอย่างจริงจังและถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาแบบยั่งยืนที่ชั้น อนุบาล และชั้น ป.๑ นั่นก็คือ (๑) จัดกิจกรรมการเรียนการสอน “ระดับอนุบาล” ด้วยการเตรียมความพร้อมด้านทักษะภาษาให้เด็กมีความพร้อมต่อไปนี้ ฝึกเตรียมทักษะด้านภาษาเพียงเท่านี้ให้ได้อย่างครบถ้วนแท้จริง ไม่ต้องฝึกอ่านและเขียนคำแต่ประการใด เพราะว่าเมื่อขึ้นชั้น ป.๑ ครู ป.๑ ก็จะนำฝึกอ่านเขียนตามลำดับทักษะเอง การฝึกอ่านเขียนก่อนวัยอันสมควร จะเป็นโทษแก่เด็กมากกว่าเป็นผลดี มิหนำซ้ำยังทำให้ครูอนุบาลไม่มีเวลาฝึกเตรียมทักษะต่างๆ ดังที่กล่าวข้างต้นให้สมบูรณ์ได้อีกด้วย (๒) จัดการเรียนการสอนภาษาไทย ป.๑ เพื่อการอ่านออกเขียนได้อย่างมีมาตรฐาน ดังนี้ …ทั้งนี้โดยให้สอนวันละ ๒ ชั่วโมง (เช้า ๑ ชั่วโมง บ่าย ๑ ชั่วโมง) และสอนตลอดปีการศึกษา เท่ากับสอนด้วยเวลาเป็น ๔ เท่าของครูอาสานั่นเอง จึงมั่นใจได้ ๑๐๐% ว่าเด็ก ป.๑ ทุกคนจะขึ้น ป.๒ ด้วยความมีทักษะอ่านออกเขียนได้อย่างจริงแท้ ๒.๒ โครงการเฉพาะกิจแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ชั้น ป.๒ ถึงชั้นสูงสุดของโรงเรียน (๑) สำรวจสภาพปัญหาด้วยการให้เด็กชั้น ป.๒ ขึ้นไปเขียนตามคำบอกจาก “คำทดสอบ ๕๐ คำ” โดยที่คำทดสอบนี้มีมาตรฐานพื้นทักษะระดับชั้น ป.๑ ซึ่งมีค่าความยากง่ายเฉลี่ยองค์ประกอบของคำครอบคลุม • พยัญชนะต้นอักษรสามหมู่ ชุดคำทดสอบ ๕๐ คำ มีให้เลือกในหนังสือ “เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว” จำนวน ๒ ชุด อาจออก “คำทดสอบ” เพิ่มเติมจากหลักการมาตรฐานดังกล่าวได้อีกตามที่เห็นเหมาะสม (๒) จำแนกเด็กเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละไม่เกิน ๒๐ คน โดยพิจารณาให้เด็กเรียนช้าอยู่กับช้า เด็กเรียนเร็วอยู่กับเร็ว รวมทั้งดูวัยให้ใกล้เคียงกัน และดูคะแนนความสามารถที่ใกล้เคียงกันให้อยู่กลุ่มเดียวกันด้วย (๓) จัดให้มี “ครูอาสา” เป็นผู้รับผิดชอบจัดการเรียนการสอนเพื่อการแก้ปัญหาเป็นการเฉพาะ ครูอาสาคนหนึ่งจะรับผิดชอบเด็กได้ไม่เกิน ๔ กลุ่ม หรือไม่เกิน ๘๐ คน (๔) ครูอาสาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มละ ๑ ชั่วโมงต่อวัน เช่น ถ้ามีเด็ก ๔ กลุ่มก็จะต้องสอนวันละ ๔ รอบ รอบละ ๑ กลุ่มต่อ ๑ ชั่วโมง ดังนั้น
ครูอาสาที่รับผิดชอบสอนวันละ ๔ กลุ่ม ควรจะต้องว่างจากภารกิจอื่นอย่างสิ้นเชิง เพื่อจะได้ทุ่มเทเวลาเพื่อกิจกรรมการสอนแก้ปัญ (๕) ครูอาสาเขียนชาร์ตประกอบการสอนตามแบบฝึกในหนังสือ “เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว” ตั้งแต่บทที่ ๓ ถึงบทที่ ๖ และดำเนินการสอนไปตามลำดับเนื้อหาอย่างครบถ้วน โดยใช้กิจกรรมการสอนแบบบันไดทักษะ ๔ ขั้นทุกชั่วโมง คือ ขั้นที่หนึ่ง แจกลูก ให้ผูกจำ (๖) ครูอาสาดำเนินการสอนแก้ปัญหาไปจนครบถ้วนเนื้อหาเป็นเวลาไม่น้อยกว่ากลุ่มละ ๙๐ ชั่วโมง หรือไม่น้อยกว่า ๔ เดือน หรืออาจเกินกว่าเวลาที่กำหนดนี้ก็ได้ ทั้งนี้ให้ถือเอาความมีสัมฤทธิผลของทักษะของเด็กแต่ละกลุ่ม (และแต่ละคน) เป็นสำคัญ (๗) เมื่อสอนครบตามเนื้อหาในแบบฝึกดังกล่าวแล้ว ให้ครูอาสานำ “คำทดสอบ ๕๐ คำ” ที่ใช้ครั้งแรกก่อนเข้าโครงการมาทดสอบให้เด็กเขียนตามคำบอกอีกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการและผลสัมฤทธิ์ในการแก้ปัญหา (โดยทั่วไป ถ้าครูอาสาดำเนินการอย่างครบถ้วนตามเนื้อหาแบบฝึก กระบวนการ และขั้นตอนต่างๆ ดังที่กล่าวแล้ว โดยไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคแทรกซ้อน จะได้ผล ๑๐๐%) (๘) จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการเสนอหน่วยงานในสังกัดรับทราบต่อไป ๓. การกำกับติดตามและนิเทศ ‘อ่านออกเขียนได้ง่ายนิดเดียว’
หากเพียงทำตามกระบวนการที่กล่าวและนำเด็กฝึกตามแบบฝึกในหนังสือ “เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว” อย่างครบทักษะและขั้นตอน |