ยื่นประกันสังคมออนไลน์ มาตรา 33

เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทก็จะหักเงินบางส่วนของลูกจ้างทุกเดือนเพื่อนำไปเป็นเงินสมทบประกันสังคม และทุกครั้งที่มีการเงินสมทบประกันสังคม นายจ้างจะต้องนำเอกสารยื่นประกันสังคมออนไลน์ หลังจากนั้นนายจ้างสามารถเลือกวิธียื่นเงินสมทบประกันสังคมได้ 2 วิธี 

  1. นำข้อมูลส่งไปที่สำนักงานประกันสังคมด้วยตนเอง หรือนำส่งทางไปรษณีย์โดยชำระเป็นเงินสด หรือเช็ค
  2. ชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรี หรือธนาคารทีทีบี ภายในจังหวัดที่บริษัทตั้งอยู่ จากนั้นให้ส่งข้อมูลการชำระเงิน โดย

         ระบบดังกล่าวเป็นระบบที่ให้บริการแก่คนหางานที่เป็นผู้ประกันตนกรณีว่างงาน ที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงาน ซึ่งคนหางานที่จะได้รับสิทธิผู้ประกันตนกรณีว่างงาน จะต้องเป็นผู้ที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน โดยระบบจะอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนและรายงานตัวของผู้ประกันตนกรณีว่างงาน ให้สามารถขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งข้อมูลของผู้ประกันตนกรณีว่างงาน จะได้รับการตรวจสอบข้อมูลจากกรมการปกครอง เพื่อยืนยันตัวบุคคลในการใช้บริการในระบบดังกล่าวผ่านอินเตอร์เน็ต และยังสามารถออกหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน สำหรับใช้เป็นหลักฐานยืนยันในการขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในการขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

    ประกันสังคมเป็นสวัสดิการรูปแบบหนึ่งที่รัฐมอบให้แก่ลูกจ้างในสถานประกอบกิจการหรือบริษัท โดยลูกจ้างถูกหักเงินจากเงินเดือน 5% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 750 บาท/เดือน เข้ากองทุนประกันสังคม รวมกับเงินสมทบจากนายจ้าง เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปเป็นกองทุนรวมและช่วยเหลือภายใต้เงื่อนไขที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด

    ความคุ้มครองของประกันสังคม

    ยื่นประกันสังคมออนไลน์ มาตรา 33

    ประกันสังคมช่วยดูแลยามเจ็บป่วย

    ประกันสังคมเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐาน คนทำงานทุกคนควรรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการมีประกันสังคม โดยแบ่งสิทธิประโยชน์ออกเป็น 7 กรณีหลัก ๆ ดังนี้ 

    • การเจ็บป่วยหรือมีเหตุอันตราย

    สิทธิประกันสังคมช่วยคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยเมื่อต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งกรณีผู้ป่วยใน (OPD) และกรณีผู้ป่วยนอก (IPD) รวมถึงการทำทันตกรรมด้วย นอกจากนั้นยังมีเงินชดเชยสำหรับการขาดรายได้กรณีนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

    • เงินชดเชยในกรณีทุพพลภาพ

    หากผู้ประกันตนทุพพลภาพ ทางประกันสังคมจะจ่ายค่ารักษาต่อเนื่อง พร้อมมอบเงินชดเชยในกรณีขาดรายได้เมื่อต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

    • เงินเยียวยาในกรณีเสียชีวิต

    กรณีที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต ประกันสังคมจะมอบเงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท และมีเงินสงเคราะห์ในกรณีนี้ด้วย โดยแบ่งให้ผู้รับที่ระบุไว้ในหนังสือทำประกัน แต่ถ้าไม่ได้ระบุทางสำนักงานประกันสังคมแบ่งให้บิดา มารดา ทายาท สามีหรือภรรยาในจำนวนเท่า ๆ กัน

    • ค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่าย

    การใช้สิทธิประกันสังคมในการคลอดบุตรจะมีเงินค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่าย จำนวน 13,000 บาท คนหนึ่งสามารถเบิกได้ 2 ครั้ง 

    • การสงเคราะห์บุตร

    เงินสงเคราะห์บุตรเป็นเงินที่โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารของผู้ประกันตนจนกว่าบุตรจะอายุครบ 6 ขวบ สามารถยื่นขอเงินสงเคราะห์บุตรได้ครั้งละ 2 คน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

    • เงินสมทบชราภาพ

    เงินที่ประกันสังคมจ่ายให้ผู้ประกันตนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป และสิ้นสุดการเป็นสมาชิกประกันสังคม โดยเงินสมทบชราภาพของผู้ประกันตน แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

    เงินบำเหน็จ  - ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมไม่ถึง 180 เดือน รับเงินก้อน โดยจำนวนเงินที่ได้จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการส่งเงินสมทบประกันสังคม

    เงินบำนาญ – ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป รับเงินบำนาญแต่ละเดือนจนเสียชีวิต โดยได้รับเงินอย่างน้อย 20% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายในการทำงาน หากเสียชีวิตภายใน 60 เดือนหลังรับเงินบำนาญ ทายาทจะได้รับบำเหน็จ 10 เท่าจากเงินบำนาญที่ได้รับอยู่

    • เงินชดเชยกรณีว่างงาน

    ผู้ประกันตนที่อยู่ในสถานะว่างงานต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน เพื่อรับเงินชดเชยช่วงว่างงาน ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ว่างงานได้รับเงินชดเชย 2 กรณี คือ

    ถูกไล่ออกจากงาน ด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวกับความบกพร่องด้านการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินชดเชย 50% ของเงินเดือน นานสูงสุด 6 เดือน

    ลาออกด้วยความสมัครใจ ได้รับเงินชดเชย 30% ของเงินเดือน นานสูงสุด 3 เดือน
    ความคุ้มครองของประกันสังคมถือเป็นประโยชน์ต่อลูกจ้างมาก ด้วยมอบเงินชดเชยรายได้ค่อนข้างครอบคลุม ทำให้สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้สิทธิประกันสังคมเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานของลูกจ้างทุกคน และนายจ้างต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

    ประเภทของผู้ประกันตนประกันสังคม

    ผู้ประกันตนประกันสังคม สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

    • ผู้ประกันตนมาตรา 33

    คุณสมบัติ: เป็นผู้ที่ทำงานในบริษัทเอกชน อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปี 

    ความคุ้มครอง: ครบทั้ง 7 กรณี ได้แก่ เงินค่ารักษาพยาบาล, เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพ, เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต, เงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย, เงินสงเคราะห์บุตร, เงินสมทบชราภาพ และเงินกรณีว่างงาน

    • ผู้ประกันตนมาตรา 39

    คุณสมบัติ: ผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อนระยะเวลาหนึ่ง และส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือน และลาออกไม่เกิน 6 เดือน

    ความคุ้มครอง: ได้รับการคุ้มครอง 6 กรณี ได้แก่ เงินค่ารักษาพยาบาล, เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพ, เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต, เงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย, เงินสงเคราะห์บุตร และเงินสมทบชราภาพ

    • ผู้ประกันตนมาตรา 40

    คุณสมบัติ: แรงงานนอกระบบอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปี และไม่เคยสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 มาก่อน

    ความคุ้มครอง: สามารถเลือกความคุ้มครองได้เองตามยอดที่จ่าย คือ จ่าย 100 บาท/เดือน ความคุ้มครอง 3 กรณี ได้แก่ เงินค่ารักษาพยาบาล, เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพ, เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต และอีกกรณีจ่าย 150 บาท/เดือน ความคุ้มครอง 4 กรณี โดยเพิ่มเงินสมทบชราภาพเข้ามา

    ผู้ประกันตนที่อยู่ในมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่ต้องหักเงินประกันสังคมเอง สามารถเลือกหักเงินผ่านบัตรเครดิตได้ด้วย เพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขั้น 

    จ่ายประกันสังคมผ่านบัตรเครดิต สะดวกคนจ่าย สิทธิประกันสังคมไม่ขาด

    การต่อประกันสังคมเมื่อออกจากงาน

    ยื่นประกันสังคมออนไลน์ มาตรา 33

    การต่อประกันสังคมระหว่างหางานใหม่

    สถานะผู้ประกันตนประกันสังคมจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ประกันตนเข้าทำงานในองค์กร โดยประกันสังคมทำการหักเงินสมทบจากเงินเดือนทุกเดือน สูงสุด 750 บาท สำหรับผู้ที่มีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป แต่เมื่อออกจากงานแล้ว หลายคนกลับปล่อยให้ประกันสังคมขาดการตัดเงินสมทบ ทั้งที่จริงผลประโยชน์จากประกันสังคมยังคงอยู่หากมีการต่อประกันสังคม เพียงจ่ายค่าเบี้ยประกันเดือนละ 432 บาท โดยสามารถตัดผ่านบัญชีธนาคารได้ แต่ปัจจุบันการต่อประกันสังคมผ่านออนไลน์ยังไม่ครอบคลุมการยื่นขอต่อประกันสังคมเป็นผู้ประกันตรมาตรา 39 กระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 ในประเทศไทย ได้มีพระราชกิจจานุเบกษาระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563  กล่าวว่าผู้ที่ต้องการยื่นเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถดาวน์โหลดเอกสารทางออนไลน์แล้วยื่นทางไปรษณีย์ โทรสาร อีเมล หรือไลน์ได้