ข่าวครูละเมิดสิทธินักเรียน2565

คืบหน้ากรณีมีการแชร์คลิปในโลกโซเชี่ยล เมื่อครูในโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ใช้กรรไกรตัดกล้อนผมนักเรียนชายชั้น ม.2 ประมาณ 10 คน จนผมแหว่ง เมื่อช่วงเปิดเทอมที่ผ่านมา

จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารของชาวโซเชี่ยล ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น ถึงการกระทำของคุณครูเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร และเป็นการละเมิดสิทธิของเด็ก

ซึ่งต่อมาทราบว่าเหตุเกิดที่โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยนายพิษณุ คุณชื่น ผอ.โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้เรียกคุณครูดังกล่าวที่อยู่ในคลิป และเด็กนักเรียนชายที่โดนกล้อนผมทุกคนมาสอบถามเรื่องราว ก่อนที่ครูผู้ก่อเหตุจะขอโทษเด็กนักเรียน และทางโรงเรียนก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนครูคนดังกล่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด (22 พฤษภาคม 2565) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายกฤตพลฯ เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจากข่าวที่ออกไป ก็รู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เรามีการใช้ระบบเรียนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเปิดเทอมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเรียนออนไซต์ ทำให้เด็กนักเรียนหลายคนไว้ทรงผมยาวผิดระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ครูที่รับผิดชอบเรื่องระเบียบการแต่งกายและทรงผม จึงได้มีการทำโทษนักเรียนไปแบบนั้น

ซึ่งบทลงโทษเรื่องทรงผมอยู่ที่การพิจารณาของแต่ละโรงเรียน แต่การจะมากล้อนผมอย่างในคลิปตนเองก็เห็นว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา มีนโยบายที่จะให้นักเรียนทุกคนได้มาโรงเรียนอย่างมีความสุข รวมทั้งให้ผู้ปกครองรู้สึกสบายใจ

ดังนั้นอะไรที่ทำให้นักเรียนไม่มีความสุข ก็ไม่ควรทำ ส่วนบทลงโทษครูที่ก่อเหตุกล้อนผมนักเรียนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นๆ ว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร อาจจะเป็นการว่ากล่าวตักเตือน หรือคาดโทษไว้ก่อนก็ได้ แต่ไม่ถึงกับขั้นไล่ออก เพราะไม่ใช่การทำความผิดวินัยร้ายแรง

ส่วนหลังจากนี้ตนเองก็ได้สั่งการไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดที่รับผิดชอบ ให้ไปตรวจสอบกรณีนี้

นอกจากนี้จะสั่งกำชับทุกโรงเรียน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทั้งระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ให้ระมัดระวังอย่าให้เกิดเรื่องกล้อนผมนักเรียนในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด

ครูหนุ่มหนองคายพบตำรวจ ยอมรับสำนึกผิดแล้ว - ครูธัญก้าวไกล ร้อง รมว.ศึกษาฯ สนใจทำงานแก้ปัญหาบุคลากรการศึกษาที่บ่มเพาะความรุนแรงในโรงเรียนเร่งด่วน

16 พ.ย.2565 จากกรณีที่มีคลิป ครูคนหนึ่ง ของโรงเรียนวังหลวงพิทยาสรรพ์ จ.หนองคาย ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนอย่างรุนแรง โดยเป็นคลิปที่นักเรียนแอบถ่าย ขณะครูฝ่ายกิจการนักเรียน ลงโทษนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยความรุนแรง โดยในคลิปครูชายคนดังกล่าวได้กระชากคอเด็กนักเรียนมาตบ 2 ครั้ง ก่อนฟันศอกซ้ำไป 1 ครั้ง ท่ามกลางสายตาของนักเรียนที่ต่างตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พิพัฒน์พงษ์ สุวรรณโสภา ครูโรงเรียนวังหลวงพิทยาสรรพ์ อ.เฝ้าไร่ ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง ผกก.สภ.เฝ้าไร่ และ พ.ต.ต.มนัสวี บำรุงจิตร พนักงานสอบสวน พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า วันนี้มาให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ วันนี้ได้รับทราบถึงความผิดของตนเอง และรู้สึกผิดต่อการกระทำของตนเอง

พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง ผกก.สภ.เฝ้าไร่ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าพบตำรวจตั้งแต่วันแรกที่ถูกแจ้งความและตำรวจเรียกมาสอบปากคำแล้ว วันแรกยังกึ่งปฏิเสธ แต่ในวันนี้เหมือนยอมรับความผิดที่ก่อขึ้น ซึ่งต้องดูบริบทที่เกิดขึ้นว่าก่อนเกิดเหตุเป็นยังไง ขณะเกิดเหตุเป็นยังไง ทำไมถึงมีมูลเหตุอย่างนี้ ต้องดูให้รอบคอบ ยังไม่อยากรีบตัดสินใจ ยังไม่อยากฟันธง เพราะบางคนเห็นแค่คลิปแต่ยังไม่ทราบเหตุการณ์ทั้งหมด

ขณะที่ ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลระบุว่า นับวันยิ่งเห็นความรุนแรงในโรงเรียนจนลืมไปว่านี่คือสถานศึกษาที่ผู้ปกครองวางใจเมื่อส่งลูกมาโรงเรียน  เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นผู้กระทำกลับเป็นครูที่ละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชน ส่งผลต่อความรุนแรงทางตรงต่อร่างกาย ตัวอย่างข่าวครูข่มขืนนักเรียน และล่าสุดครูโหดซ้อมทำร้ายนักเรียนต่อหน้านักเรียนจำนวนมาก วันนี้เราต้องตั้งคำถามเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร

ทุกครั้งที่เราพูดเรื่องความรุนแรงไม่ใช่แค่การทำร้ายร่างกาย แต่ความรุนแรงนั้นบ่มเพาะในสถานศึกษาผ่านบทเรียนต่าง ๆ อีกทั้งกฎระเบียบชุดนักเรียนการไว้ทรงผมที่ไม่ส่งเสริมให้เด็กค้นหาตัวตน แต่กลับให้เด็กเรียนรู้การเป็นผู้ตาม ไม่กล้าถามไม่กล้าคิด เมื่อใครแตกแถวหรือคิดต่างก็จะมีครูทำโทษ ที่ในช่วงสามปีที่ผ่านมาข่าวได้มีการนำเสนอมากมาย เราเห็นสิ่งเหล่านี้ไม่เว้นแต่ละวัน

ธัญวัจน์ระบุว่า ตนยังคงขอเรียกร้องซ้ำๆไปยัง ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าการเปลี่ยนแปลงการศึกษานั้นต้องเปลี่ยนถึงรากฐาน และรัฐมนตรีควรเริ่มเห็นได้แล้วว่าความรุนแรงที่บ่มเพาะในสถานศึกษาเป็นภัยต่อเด็กและเยาวชน วันนี้โรงเรียนไม่เป็นที่ปลอดภัย โรงเรียนต้องเป็นโรงเรียน ไม่ใช่สถานกักกันทรมานเด็กเยาวชน คราวก่อนครูข่มขืน คราวนี้ครูซ้อมนักเรียน ต้องเปลี่ยนให้โรงเรียนเป็นสถานที่ทรมานเด็กก่อนหรืออย่างไรท่านถึงสนใจแกเปัญหาอย่างจริงจัง

ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ย้ำว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของครูที่ลงมือกระทำเพียงคนเดียว แต่ต้องสืบสวนผู้บริหารของโรงเรียนทั้งหมด  ทุกครั้งที่เกิดเหตุห่วงแต่เสียชื่อ ช่วยกันปกปิดผู้บริหารโรงเรียนที่พยายามทำปกปิดซึ่งเป็นสร้างวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดและไม่รับผิดชอบ ดังนั้นต้องเอาผิดผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาที่ไม่ปกป้องคุ้มครองสิทธินักเรียนและเข้าไปดำเนินการอย่างรวดเร็วเพียงพอ  ทุกวันนี้เรามีรัฐมนตรีศึกษาก็เหมือนไม่มีเพราะไม่ได้มีรัฐมนตรีที่มาจากความรู้ความสามารถ แต่มาจากการแบ่งโควตากันทางการเมือง ไม่ได้คิดว่าคนที่มาจากนักการเมืองจะไม่เก่ง แต่จากที่เราเห็น นักการเมืองที่บริหารประสบความสำเร็จ มีผลงาน ล้วนมาจากการ “ลงมือทำ” อย่างใส่ใจ