ทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ขาด 3 ปีต่อได้ไหม

เปิดขั้นตอนการต่อภาษีรถจักรยานยนต์ 2566 มีวิธีการอย่างไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และทำที่ไหนได้บ้าง มาดูกัน

การต่อภาษีรถจักรยานยนต์ หรือการต่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ เป็นสิ่งที่เจ้าของรถจะต้องดำเนินการเสียภาษีทุก ๆ ปี ซึ่งถือเป็นระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับทะเบียนและภาษีรถตามกฎหมายรถยนต์ พ.ศ. 2562 ซึ่งในหมวด 3 ข้อที่ 17 ระบุไว้ว่า "รถทุกคันที่จดทะเบียนแล้ว ต้องเสียภาษีรถประจำปี เว้นแต่รถที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีประจำปี" เรียกได้ว่าเป็นหน้าที่ของผู้ใช้รถบนถนน ไม่ว่าจะใช้งานรถประเภทไหนก็ตาม ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์หรือรถประเภทอื่น ๆ ที่มีมากกว่า 4 ล้อ ก็จะมีอัตราตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเอาไว้แตกต่างกันไปทั้งรถใหม่และรถเก่า แต่ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ เมื่อไปต่อภาษีจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถทำได้ที่ไหน และมีค่าต่อภาษีอยู่ที่เท่าไหร่ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ในการต่อภาษีมอเตอร์ไซค์ 2566 ทุกขั้นตอนมาไว้ให้คุณแล้ว !

ต่อภาษีรถจักรยานยนต์มีขั้นตอนอย่างไร 

สำหรับรถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่จะทำการต่อภาษีนั้นจะต้องมี พ.ร.บ. เสียก่อน หากเป็นรถใหม่ที่อายุยังไม่เกิน 5 ปี สามารถซื้อ พ.ร.บ.จักรยานยนต์ ได้ที่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ทั่วประเทศ, ตัวแทนประกันภัย, เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา แต่หากรถมีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน โดยสามารถตรวจได้ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่งที่ได้การรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ส่วนค่าประกัน พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ จะมีราคาตามความจุกระบอกสูบ ดังนี้

1. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล

• ไม่เกิน 75 ซี.ซี. ปีละ 161.57 บาท

• เกิน 75-125 ซี.ซี. ปีละ 323.14 บาท

• เกิน 125-150 ซี.ซี. ปีละ 430.14 บาท

• เกิน 150 ซี.ซี. ขึ้นไป ปีละ 645.21 บาท

• รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปีละ 323.14 บาท

• ไม่เกิน 75 ซี.ซี. ปีละ 161.57 บาท

• เกิน 75-125 ซี.ซี. ปีละ 376.64 บาท

• เกิน 125-150 ซี.ซี. ปีละ 430.14 บาท

• เกิน 150 ซี.ซี. ขึ้นไป ปีละ 645.21 บาท

• รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปีละ 323.14 บาท

หมายเหตุ สำหรับรถจักรยานยนต์รับจ้างนั้น ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้ออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้วยการปรับลดอัตราภาษีลง 90% จาก 100 บาท/คัน เหลือเพียง 10 บาท/คัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566

• ไม่เกิน 75 ซี.ซี. ปีละ 161.57 บาท

• เกิน 75-125 ซี.ซี. ปีละ 376.64 บาท

• เกิน 125-150 ซี.ซี. ปีละ 430.14 บาท

• เกิน 150 ซี.ซี. ขึ้นไป ปีละ 645.21 บาท

• รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปีละ 323.14 บาท

รถจักรยานยนต์ที่ต้องการต่อทะเบียน 2566 แล้วมีอายุในการจดทะเบียนเกิน 5 ปี ต้องมีการตรวจสภาพรถก่อนทุกครั้ง โดยสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ ตรอ. ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก โดยจะมีค่าตรวจสภาพคันละ 60 บาท

ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ 2566ใช้เอกสารอะไรบ้าง

• เล่มทะเบียน หรือสำเนา

• ใบตรวจสภาพรถ (สำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปี)

• พ.ร.บ.จักรยานยนต์

เมื่อนำรถไปตรวจสภาพ (รถที่มีอายุเกิน 5 ปี) และมี พ.ร.บ.จักรยานยนต์ เรียบร้อยแล้ว นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นเสียภาษีประจำปีได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสามารถ ต่อภาษีประจำปี 2566 ได้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งสามารถดูวิธีการทำได้ที่ ต่อภาษีรถออนไลน์ประจำปี 2566

ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ 2566ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ ?

ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ได้กำหนดอัตราค่าภาษีประจำปีเอาไว้ว่า รถจักรยานยนต์ให้คำนวณภาษีประจำปีในอัตราดังต่อไปนี้

• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท

• รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท

• รถพ่วงข้างของรถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท

หมายเหตุ สำหรับรถจักรยานยนต์รับจ้างนั้น ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้ออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้วยการปรับลดอัตราภาษีลง 90% จาก 100 บาท/คัน เหลือเพียง 10 บาท/คัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566

สรุปได้ว่าการเสียภาษีหรือต่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2566 จะต้องจ่ายเงิน 100 บาท เท่ากันทุกคัน (เว้นแต่จักรยานยนต์รับจ้างที่ได้รับการปรับลดเป็นกรณีพิเศษ) ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก 100 ซี.ซี. หรือจะขนาดใหญ่ 1,200 ซี.ซี. ก็เสียในอัตราเดียวกัน ยกเว้นถ้ามีรถพ่วงต้องเพิ่มอีก 50 บาท

ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ 2566ได้ที่ไหนบ้าง

การต่อภาษีรถจักรยานยนต์นอกจากไปต่อที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว ยังสามารถต่อภาษีได้ในช่องทางอื่น ๆ เหมือนกับรถยนต์ทั่วไป ดังนี้

• สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ 

• บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru For Tax)

• ที่ทำการไปรษณีย์ (เฉพาะรถที่ยังไม่ต้องตรวจสภาพ)

• ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) (เฉพาะรถที่ยังไม่ต้องตรวจสภาพ)

• ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.30-15.30 น. (เฉพาะรถที่ยังไม่ต้องตรวจสภาพ)

• ห้างสรรพสินค้า โครงการ "ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)" เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จำนวน 14 สาขา ได้แก่ สาขาบางบอน, บางปะกอก, เพชรเกษม, อ่อนนุช, สุวินทวงศ์, รัชดาภิเษก, สุขาภิบาล 3, ลาดพร้าว, รามอินทรา, แจ้งวัฒนะ, บางใหญ่, บางนา, สำโรง และสมุทรปราการ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค, เซ็นทรัล ศาลายา, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล เวสต์เกต และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00-18.00 น. ศูนย์บริการร่วมคมนาคม ณ เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น.

• ต่อภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์ eservice.dlt.go.th

ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ช้าเสียค่าปรับเท่าไร

การชำระภาษีรถประจำปีล่าช้าจะมีค่าปรับในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน และหากขาดการต่อเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ เช่น การโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถ เป็นต้น

ทั้งนี้ การต่อภาษีรถจักรยานยนต์นั้นมีช่องทางที่สะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย เจ้าของรถควรหมั่นตรวจสอบวันครบกำหนดและชำระภาษีให้เรียบร้อย หากลืมหรือไม่ยอมต่อภาษีแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจก็จะถือเป็นการทำผิดกฎหมาย และต้องเสียค่าปรับซึ่งแพงกว่าค่าปรับการต่อภาษีช้าอีกด้วย

รถมอเตอร์ไซค์ทะเบียนขาดเกิน 3 ปีต้องทำอย่างไร

ทะเบียนขาด3ปีต่อได้ไหม

มอเตอร์ไซค์ ทะเบียนขาดเกิน3ปีเสียกี่บาท

พรบมอเตอร์ไซค์ขาด 3 ปีต่อได้ไหม