วงเครื่องสายผสม ใช้ในโอกาส

เป็นวงเครื่องสายที่นำเอาเครื่องดนตรีต่างชาติเข้ามาร่วมบรรเลงกับเครื่องสายไทย การเรียกชื่อวงเครื่องสายผสมนั้นนิยมเรียกตามชื่อของเครื่องดนตรีต่างชาติที่นำเข้ามาร่วมบรรเลงในวง เช่น นำเอาขิมมาร่วมบรรเลงกับซอด้วง ซออู้ ขลุ่ยและเครื่องกำกับจังหวะต่างๆ แทนจะเข้ ก็เรียกว่า “วงเครื่องสายผสมขิม” หรือนำเอาออร์แกนหรือไวโอลินมาร่วมบรรเลงด้วยก็เรียกว่า “วงเครื่องสายผสมออร์แกน” หรือ “วงเครื่องสายผสมไวโอลิน” เครื่องดนตรีต่างชาติที่นิยมนำมาบรรเลงเป็นวงเครื่องสายผสมนั้นมีมากมายหลายชนิด เช่น ขิม ไวโอลิน ออร์แกน เปียโน  แอกคอร์เดียน กู่เจิง เป็นต้น

วงเครื่องสายผสม

   ได้แก่วงเครื่องสาย ที่นำเอาเครื่องดนตรีอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา โดยนำเอาเครื่องดนตรีพื้นเมือง  หรือของชาติอื่นเข้ามาร่วมบรรเลงด้วย   เช่น แคน,ระนาด,ขิม,ออร์แกน,เปียโน,หีบเพลงชัก,ไวโอลิน หากนำเครื่องดนตรีชนิดใดมาผสมก็เรียกวงเครื่องสายผสมนั้น เช่น วงเครื่องสายผสมขิม, วงเครื่องสายผสมออร์แกน เป็นต้น

เนื่องจากวงเครื่องสายวงเล็ก เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีที่มีระดับเสียงที่ดังออกมาจากตัวเครื่องไม่มากนัก อีกทั้งกลวิธีในการบรรเลงมีข้อจำกัดในการทำเพลงบางชนิด เช่น เพลงหน้าพาทย์ จึงไม่เหมาะที่จะนำมาใช้บรรเลงประกอบพิธีกรรม หรือ ประกอบการแสดง เช่น โขน ละคร เหมือนวงปี่พาทย์ แต่เหมาะสำหรับนำไปใช้บรรเลงเพื่อความบันเทิงหรือขับกล่อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานฉลองตำแหน่งต่าง ๆ ทั้งนี้วงเครื่องสายเหมาะสำหรับการบรรเลงในอาคารหรือสถานที่ที่ไม่กว้างมากนัก เพราะจะทำให้เสียงกระจายทั่วถึง

วงเครื่องสายเครื่องเดี่ยว ประกอบด้วย จะเข้ 1 ตัว ซอด้วง 1 คัน ซออู้ 1 คัน ขลุ่ยเพียงออ 1 เลา โทน - รำมะนา 1 สำรับ ฉิ่ง 1 คู่ ฉาบเล็ก 1 คู่ กรับ 1 คู่ และโหม่ง 1 ใบ

เครื่องดนตรีหรือเครื่อง ดีด สี ตี เป่า ของไทยที่นิยมเล่นกันมาแต่โบราณนั้น บางชนิดใช้บรรเลงเดี่ยว (คือบรรเลงคนเดียว) เช่น ซอและขลุ่ย และอีกหลายประเภทมีการประสมเป็นวงอยู่แล้ว แต่ยังไม่มี หลักเกณฑ์ที่ ลงตัว ต่อมาการประสมวงมีการพัฒนาขึ้น หลักสำคัญอยู่ที่การเลือกประเภทเครื่องดนตรี และเสียงของเครื่อง ดนตรีแต่ละชิ้น ให้มีเสียงประสานกลมกลืนกันให้เกิดเป็นเสียงดนตรีที่ไพเราะการประสมวงของดนตรีไทยมีดังต่อไปนี้

วงเครื่องสายผสมขิม

วงเครื่องสายผสมขิม
ประวัติความเป็นมา
เป็นวงเครื่องสายที่นำเอาเครื่องดนตรีต่างชาติเข้ามาร่วมบรรเลงกับเครื่องสายไทย การเรียกชื่อวงเครื่องสายผสมนั้นนิยมเรียกตามชื่อของเครื่องดนตรีต่างชาติ
ที่นำเข้ามาร่วมบรรเลงในวง เช่น นำเอาขิมมาร่วมบรรเลงกับ ซอด้วง ซออู้ ขลุ่ย
และเครื่องกำกับจังหวะต่าง ๆ ก็เรียกว่า “วงเครื่องสายผสมขิม” หรือนำเอาออร์แกนหรือไวโอลินมาร่วมบรรเลงด้วยก็เรียกว่า “วงเครื่องสายผสมออร์แกน” หรือ “วงเครื่องสายผสมไวโอลิน” เครื่องดนตรีต่างชาติที่นิยมนำมา
บรรเลงเป็นวงเครื่องสายผสมนั้นมีมากมายหลายชนิด เช่น ขิม ไวโอลิน
ออร์แกน เปียโน แอกคอร์เดียน กู่เจิง เป็นต้น
ขิม 1 ตัว
จะเข้ 1 ตัว
ซอด้วง 1 คัน
ซออู้ 1 คัน
ขลุ่ยเพียงออ 1 เลา
โทน-รำมะนา 1 คู่
ฉิ่ง 1 คู่
สามารถเพิ่มกรับ ฉาบเล็ก ฉาบใหญ่ โหม่งได้ตามความเหมาะสม

โอกาศที่ใช้ในการบรรเลง
วงเครื่องสายเครื่องคู่ใช้บรรเลงในงานมงคลต่างๆโดยจะเน้นบรรเลงขับกล่อมและสร้างบรรยากาศภายในงาน

เพลงที่ใช้ในการบรรเลง
วงเครื่องสายจะนิยมเล่นเพลงโหงโรง เพลงตับ เพลงเถา เพลงรับร้องส่งร้อง
ลักษณะความรู้สึกของเพลง
วงเครื่องสายจะให้ความรู้สึกไพเราะ อ่อนหวาน นุ่มนวล
นิยมเล่นในภาคกลา

วงเครื่องสายผสม ใช้ในงานอะไร

เพื่อความบันเทิงหรือขับกล่อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานฉลองตำแหน่งต่าง ๆ ทั้งนี้วงเครื่องสายเหมาะสำหรับการบรรเลงใน อาคารหรือสถานที่ที่ไม่กว้างมากนัก เพราะจะทำให้เสียงกระจายทั่วถึง

วงเครื่องสายเครื่องคู่ใช้ในโอกาสใด

โอกาสในการนำวงเครื่องสายเครื่องคู่ไปใช้ ไปใช้แต่อย่างใด ซึ่งก็คือนิยมบรรเลงเพื่อความบันเทิง หรือการขับกล่อมเช่นเดียวกัน แต่โดยทั่วไปมีผู้นิยมนำวงเครื่องสายเครื่องคู่ไปใช้มากกว่าวงเครื่องสายวงเล็ก ทั้งนี้ เนื่องจากวงเครื่องสายเครื่องคู่มีจำนวนเครื่องดนตรีที่เพิ่มจำนวนชิ้นเข้ามาเป็นคู่ ๆ เช่น

วงเครื่องสายปี่ชวาใช้ในโอกาสใด

๑.๓ วงเครื่องสายปี่ชวา หมายถึง วงดนตรีที่ประสมวงด้วย ปี่ชวา ซอด้วง ซออู้ จะเข้ ขลุ่ยหลีบ กลองแขกและฉิ่ง เดิมเรียกว่าวงกลองแขกเครื่องใหญ่ ใช้บรรเลงเฉพาะงานมงคล สมัยต่อมาใช้ บรรเลงงานศพด้วย

วงเครื่องสายผสมขิมใช้ในโอกาสใด

วงเครื่องสายเครื่องคู่ใช้บรรเลงในงานมงคลต่างๆโดยจะเน้นบรรเลงขับกล่อมและสร้างบรรยากาศภายในงาน เพลงที่ใช้ในการบรรเลง วงเครื่องสายจะนิยมเล่นเพลงโหงโรง เพลงตับ เพลงเถา เพลงรับร้องส่งร้อง ลักษณะความรู้สึกของเพลง