การสื่อสารผิดพลาดในโรงพยาบาล

รพ.ปัตตานียันไม่ได้รักษาผู้ป่วยจนขาเน่าแต่เกิดจากขั้นตอนสื่อสารผิดพลาด

ปัตตานี-รพ.ปัตตานีแจงไม่ได้รักษาผู้ป่วยจนขาเน่าแต่เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดระหว่างหมอกับคนไข้ พร้อมรับเข้ามารักษาต่อจะดูแลเป็นพิเศษจนกว่าจะหายขาด

ปัตตานี-รพ.ปัตตานีแจงไม่ได้รักษาผู้ป่วยจนขาเน่าแต่เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดระหว่างหมอกับคนไข้ พร้อมรับเข้ามารักษาต่อจะดูแลเป็นพิเศษจนกว่าจะหายขาด

นายแพทย์ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัตตานี ชี้แจงกรณี นายบุรฮาน ตาเยะ อายุ 36 ปี เรียกร้องผ่านสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม และให้ตรวจสอบคุณภาพการรักษาของโรงพยาบาล เพราะได้รักษานายบุรฮาน จนแผลเน่าต้องหนีเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนต้องกลายเป็นหนี้สินจำนวนมาก ญาติต้องนำโฉนดที่ดินไปจำนองเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลว่า จากการสอบถามแพทย์ ที่ให้การรักษา ซึ่งมี 2 คน คือ หมอกระดูกและหมอผ่าตัดการรักษาทุกอย่างเป็นไปตามปกติ
จากการตรวจประวัติผู้ป่วยได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2561 ผู้ป่วยแจ้งว่าซ่อมบ้านแล้วถูกเหล็กทับ ครั้งที่ 2 ผู้ป่วยเข้ามารักษาตัว เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2561 มีอาการปวดมากขึ้นมีแผลเป็นหนองก็ได้ทำแผลแล้วให้นอนพักที่โรงพยาบาลซึ่งพบว่า แผลที่เป็นหนองไม่ใช่หนองธรรมดา แต่เป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อ จะคอยกัดเนื้อใต้ผิวหนัง ซึ่งโรคนี้จะต้องมีการผ่าตัดหลายครั้ง แล้วตรวจสอบว่าหมอที่รักษาได้แจ้งผู้ป่วยแล้ว แต่พอครั้งที่ 2 ผู้ป่วยขอย้ายโรงพยาบาลจึงไม่ได้ทำต่อในส่วนที่ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลเอกชนบานปลายคาดว่าน่าจะมีการผ่าตัดหลายครั้ง

ส่วนผู้ป่วยติดใจในเรื่องการใส่เฝือกจากการสอบถามหมอที่รักษา ทราบว่า ผู้ป่วยมีเนื้อเยื่อข้อเท้าบวมไม่ได้ติดเชื้อและใช้วิธีการรักษา เบื้องต้น ทราบว่า มีการใช้เฝือก รักษาซึ่งข้อนี้เมื่อได้ยินว่ามีการใช้เฝือกรักษาก็จะเข้าใจว่าใช้เฝือก แบบCest รอบวง ทั้งหมดจากการสอบถามพบว่า"หมอใช้เฝือกอ่อน"แบบครึ่งเดียว รองเอาไว้เพื่อไม่ให้มีการขยับ จะให้อยู่นิ่งๆเพื่อจะได้หายเร็วๆ

"เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นการเข้าใจผิด ในการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับหมอที่ทำการรักษายอมรับในข้อบกพร่องนี้ และได้เป็นประเด็นเพื่อนำมาแก้ไขและพัฒนาคุณภาพการให้บริการของโรงพยาบาลให้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งอาจทำสื่อเอกสารขึ้นมา เพื่อจะได้อธิบายผู้ป่วย และญาติได้เข้าใจ ในขั้นตอนของการรักษา" นายแพทย์ศักดิ์ชายกล่าว

เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้จัดเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยแล้ว และได้ร้องทุกข์ส่งเรื่องไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบ

ทั้งนี้ญาติ เปิดเผยว่ารพ.ปัตตานีให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวต่อจะดูแลเป็นกรณีพิเศษจนกว่าจะหายดี โดยนายแพทย์ที่มีชื่อเสียงปัตตานีจะรับเป็นคนไข้แต่ขอสงวนชื่อ

 

              รพ.พระนั่งเกล้า แจง กรณีญาติผู้ป่วยโควิด ร้องสื่อ ถูกเรียกเก็บค่ารักษา 3.4 หมื่น เหตุเพราะใช้บัตรประชาชนรุ่นเก่า ตรวจสอบข้อมูลบุคคลไม่ได้ ชี้ เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ยัน ไม่ต้องจ่ายเงิน

           จากกรณีหญิง 41 ปี ผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ขอความช่วยเหลือหลังถูกเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลชื่อดังของ จ.นนทบุรี เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจำนวน 3.4 หมื่นบาท จากพ่ออายุ 76 ปี ผู้ป่วยติดเตียงและติดโควิดอาการหนัก ที่ยังพักรักษาในห้องไอซียูของโรงพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า พ่อใช้บัตรประชาชนรุ่นเก่า ไม่มีเลข 13 หลัก ไม่สามารถบันทึกข้อมูลบุคคลได้ จึงต้องจ่ายค่ารักษา

            อ่านข่าว : งงเลย ! รพ. รัฐ เรียกเก็บเงินค่ารักษาโควิด 3.4 หมื่น เหตุเพราะใช้บัตร ปชช. รุ่นเก่า

           ความคืบหน้าล่าสุด (20 สิงหาคม 2564) ข่าวช่องวัน ได้ตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว ได้รับคำชี้แจงจากนางฐิติมา นาครินทร์ นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ว่า น่าจะเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด

           โดยกรณีนี้คนไข้ถูกส่งตัวมาจากศูนย์ซีไอ วายุพักษต์ ขั้นตอนการทำแอดมิดเข้าสู่ขบวนการของโรงพยาบาลตั้งแต่ต้นจนยุติ คนไข้เป็นคนที่ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีเลขบัตรประชาชนที่จะยืนยันตัวตนว่าเป็นคนไทย รายละเอียดถูกส่งมาทางไลน์เป็นกรณีเร่งด่วน ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานญาติเพื่อขอเอกสาร แต่ทั้งครอบครัว 11 คน ติดโควิดหมดจึงไม่มีใครยืนยันได้

           หลังจากส่งตัวมาที่โรงพยาบาลแบบเร่งด่วน หลักฐานมีไม่ครบ จึงยืนยันตัวตนไม่ได้ ทำให้ขบวนการเดินไปตามขั้นตอนของทางโรงพยาบาล ระบบจึงแจ้งให้ชำระเงิน พยาบาลในแผนกจึงทำตามขั้นตอน ซึ่งน่าจะไม่ทราบรายละเอียด

              

สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ทางโรงพยาบาลมีการยกเว้นให้ ถึงไม่มีสิทธิ์อะไรก็สามารถรักษาได้ และไม่ต้องจ่ายค่ารักษา ทั้งนี้ ญาติคนไข้แจ้งว่า ถูกดึงชื่อไปอยู่ส่วนกลาง หาหลักฐานไม่ได้เพราะต้องหาคนมารับรองว่าพ่อเป็นคนไทย เกิดที่เมืองไทย เรียนหนังสือที่ไทย แต่คนไข้อายุมากแล้ว พยานก็น่าจะตามหาลำบาก ตอนนี้จะต้องแก้ปัญหาระบบและขั้นตอนใหม่เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด และแก้ไขนำคนไข้ออกจากเคสการจ่ายเงิน

               ในตอนแรกระบบไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นคนไข้โควิด เพราะเร่งด่วนทำเอกสารด้วยการเขียนกระดาษ ระบบจะไม่ทราบว่าไม่ต้องจ่ายค่ารักษาหรือไม่ ทางโรงพยาบาลยอมรับว่าต้องแก้ไขตรงจุดนี้ เพราะมีคนไข้ลักษณะแบบนี้จำนวนมาก เคสดังกล่าวถือเป็นข้อบกพร่องของทางโรงพยาบาล

               อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งทาง ER ไปแล้วว่า ไม่ว่าจะต่างด้าวหรือคนไทยที่เป็นผู้ป่วยโควิดไม่ต้องจ่ายเงิน หลังจากนี้จะนำเรื่องเข้ากรรมการใหญ่เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบทั่วถึง คนไข้ทุกคนที่ป่วยโควิดไม่ต้องชำระเงิน ส่วนอาการคนไข้รายนี้ยังทรงตัวอยู่ รักษาอยู่ที่แผนกรักษาผู้ป่วยโควิด

>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน