เชื่อมโยงหน้าเดียวกัน เชื่อมโยงไปเว็บเพจหน้าอื่น เชื่อมโยงไปเว็บไซต์ี่อื่น เชื่อมโยงด้วยรูปภาพ การเชื่อมโยงหน้าเว็บเพจ คือการกำหนดส่วนของข้อความ หรือรูปภาพที่ได้เลือกไว้
เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงไปยัง
รูปแบบคำสั่งการสร้างลิงค์
1. การเชื่อมโยงข้อมูลภายในเว็บเพจหน้าเดียวกัน คือ การเชื่อมโยงข้อมูลในหน้าเว็บเพจเดียวกัน โดยการคลิกลิงค์เพื่อเลื่อนขึ้นหรือลง หรือไปตำแหน่งที่ต้องการ รูปแบบของแท็ก HTML ตัวอย่างการใช้งาน ผลลัพธ์ที่ได้ ลองทำดู : คลิก download ไฟล์ ดังภาพ 2.
การเชื่อมโยงไปเว็บเพจอื่นภายในเว็บไซต์เดียวกัน คือ การเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจอื่นที่อยู่เว็บไซต์เดียวกัน เพื่อให้สามารถเลือกดูเนื้อหาตามลิงค์ของเรื่องที่ต้องการ
ตัวอย่างการเชื่อมโยงเว็บเพจกับหน้าอื่น ผลลัพธ์ที่ได้ ลองทำดู : คลิก download ไฟล์ ดังภาพ ทำความเข้าใจ การเชื่อมโยงเว็บเพจแบบ Relative Path Names ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ในการอ้างอิงไฟล์เว็บเพจ ไฟล์เอกสาร ไฟล์ให้ดาวน์โหลดที่เก็บในเว็บไซต์เดียวกัน การเชื่อมโยงเว็บเพจไปยังเว็บเพจในไดเรกทอรีเดียวกันจะสามารถเชื่อมโยงโดยใช้แท็ก <a href…> โดยพิมพ์ชื่อเว็บเพจที่ต้องการลงไปได้เลย เช่น ถ้าหากต้องการเชื่อมโยงเว็บเพจไปยังไดเรกทอรีที่ต่ำกว่า เราสามารถใช้ <a href…> แล้วอ้างอิงตำแหน่งของเว็บปลาย
โดยเราจะใส่ชื่อไดเรกทอรีและคั่นด้วยเครื่องหมาย “/” ตามด้วยไฟล์ที่เราต้องการเชื่อมโยง หากมีหลายชั้น หากต้องการเชื่อมโยงเว็บเพจไปยังปลายทางที่อยู่ในไดเรกทอรีที่อยู่สูงกว่า 1 ระดับจะมีวิธีการกำหนดคือ หากต้องการเชื่อมโยงเว็บเพจไปยังปลายทางที่อยู่ในไดเรกทอรีที่อยู่สูงกว่า 2 ระดับจะมีวิธีการกำหนดคือ
ในการอ้างอิงไดเร็กทอรี่ที่เหนือกว่า เราจะใช้เครื่องหมาย .. ในการอ้างอิง ตามตัวอย่างด้านบน จะสังเกตเห็นว่า การใช้วิธีการอ้างอิงตำแหน่งเว็บเพจแบบ
Relative Path Name จะทำให้เราไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งของเว็บเพจที่เรา
การอ้างอิงแบบเจาะจง เวลาเราเปลี่ยนที่อยู่ของเว็บไซต์ เช่น เปลี่ยนไดเร็กทอรี่ หรือนำเว็บไปฝากไว้ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เช่นต้องนำเว็บไปเก็บไว้ใน ไดเร็กทอรี่ “C:\www” เท่านั้น เราก็ต้องกลับไปแก้ไขโค้ด HTML ทุกๆ หน้าที่ระบุการอ้างอิงแบบเจาะจงให้อ้างอิงไปที่ไดเร็กทอรี่ “C:\www” แทน เปรียบเทียบกับการอ้างอิงจากตำแหน่งกันและกัน (Relative Path)
เราไม่ต้องแก้ไขใดๆขอเพียงอย่าย้ายตำแหน่ง 3. การเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเว็บไซต์ี่อื่น คือ การเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหรือน่าสนใจ โดยวิธีการระบุ URL ของเว็บไซต์นั้นในแท็ก <a href…> รูปแบบการใช้งาน การใส่ URL ที่ถูกต้อง สามารถเขียนดังนี้ เช่น http://www.pw.ac.th ไม่ใช่ www.pw.ac.th ตัวอย่างการใช้งาน ผลลัพธ์ที่ได้ ลองทำดู : คลิก download ไฟล์ ดังภาพ เราสามารถเปิด URL ในแท็บใหม่หรือหน้าต่างใหม่โดยใช้คำสั่งว่า target=“_blank” ลงไปหลัง URL เช่น ผลลัพธ์ที่ได้ 4. การเชื่อมโยงด้วยรูปภาพ
เพื่อทำให้เว็บเพจดูน่าสนใจขึ้น เราสามารถใช้รูปภาพเป็นจุดเชื่อมโยง แทนข้อความธรรมดาได้ รูปแบบของแท็ก <img src= “ชื่อภาพ.นามสกุลภาพ”> ตัวอย่างการเชื่อมโยงเว็บไซต์ด้วยรูปภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ 5. การเชื่อมโยงไปยังไฟล์ต่าง ๆ
เป็นการเชื่อมโยงไปยังไฟล์ต่าง
ๆ เช่น ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์วีดีโอ, ไฟล์โปรแกรม, ไฟล์เสียง, ไฟล์ .zip, และไฟล์มัลติมีเดีย ซึ่งการเชื่อมโยงจะเหมือนการลิงค์แบบธรรมดา เพียงแต่ระบุปลายทางไปยังไฟล์นั้น ๆ และระบุนามสกุล หากเป็นไฟล์รูปภาพ รูปแบบ <a href=“ชื่อไฟล์ที่ต้องการลิงค์”>ข้อความที่จะเชื่อมโยง</a> ตัวอย่างการลิงค์ไปยังไฟล์อื่นๆ ผลลัพธ์ที่ได้ ลองทำดู : คลิก download ไฟล์ ดังภาพ 6. การเชื่อมโยงไปอีเมล์ (E-mail)
ใช้ในกรณีที่ต้องการให้คนอื่นติดต่อเรา
โดยให้สร้างลิงค์ชี้ไปยังอีเมล์แอดเดรสของเรา เมื่อผู้ใช้คลิกที่ลิงค์จะส่ง รูปแบบ <a href=“mailto: ชื่อ E-mail Adree”>ข้อความที่เป็นลิงค์</a> ตัวอย่างการเชื่อมโยงไปอีเมล์ (E-mail) ผลลัพธ์ที่ได้ 7. การกำหนดสีของลิงค์ ปกติหากเราไม่กำหนดค่าสีของลิงค์ ค่าปกติคือสีน้ำเงินและมีเส้นใต้
การเปลี่ยนสีลิงค์เป็นการเปลี่ยนสีสันของลิงค์ให้มี
เพื่อป้องกันไม่ให้สีของลิงค์กลืนสีฉากหลัง เราสามารถกำหนดสีของลิงค์ในสถานะต่าง ๆ ได้ ดังนี้ รูปแบบแท็ก HTML <body link=“สี/รหัสสี” vlink=“สี/รหัสสี” alink=“สี/รหัสสี”> ตัวอย่างการกำหนดสีของลิงค์ |