กรณีที่มีปัญหาข้อมูลเครดิตและต้องการขอสินเชื่อกับธนาคารนั้น ปัจจุบันสถานะบัญชีต้องปกติ
ไม่อยู่ระหว่างถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรืออยู่ระหว่างประนอมหนี้ แนะนำให้ผู้กู้ไปตรวจสอบเครดิตกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ก่อน จากนั้นนำเอกสารดังกล่าวพร้อมเอกสารการปิดบัญชีเข้าไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารต่อไป กรณีไม่มีหนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิบเงินเดือน ให้ลูกค้าเตรียมเอกสาร ดังนี้ -สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน สามารถติดต่อได้ที่ธอส.ทุกสาขา หรือ www.ghbanksmart.com ผู้กู้ทำการเพิ่มชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในโฉนดก่อนทำการยื่นขอสินเชื่อหรือให้เจ้าของโฉนดมาเป็นผู้กู้ร่วมด้วย (ก่อนโอนกรรมสิทธิ์หรือเพิ่มชื่อฯ
แนะนำให้ลูกค้าเตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารแสดงรายได้มาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการประเมินวงเงินกู้เบื้องต้นก่อนเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหากกู้ไม่ได้ลูกค้าจะได้ไม่เสียเงินฟรี) หลักประกันที่จะซื้อหรือปลูกสร้างต้องมีลักษณะเป็น โฉนดที่ดิน(นส.4จ) หรือ นส.3ก หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด(อช.2) ธนาคารไม่รับพิจารณาหลักประกันเป็นที่ดิน สปก. และที่ดินเขตป่าสงวน กรณีกู้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองผู้กู้จะต้องมีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันของบ้านที่จะทำ
ทั้งนี้หลักประกันต้องมีศักยภาพในการใช้เป็นที่อยู่อาศัย คือมีทางสาธารณะตัดผ่าน สาธารณูปโภคครบเช่นไฟฟ้าและน้ำประปาเข้าถึง – บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ –
หนังสือรับรองเงินเดือน/หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ -Statement เงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน – สำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาวางมัดจำ/สัญญาเช่าซื้อการเคหะแห่งชาติ และหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีกู้ซื้อ) ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการยื่นกู้ มีรายละเอียดดังนี้ ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ กู้ใหม่และกู้เพิ่ม ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาหลักประกัน ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม(คิดเหมา) ค่าธรรมเนียม 1,000.- / ราย ค่าธรรมเนียมที่สำนักงานที่ดิน ค่าจดจำนอง ร้อยละ 1 ของวงเงินกู้ ค่าโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ 2.5 ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย โดยใช้ราคาที่สูงกว่าเป็นเกณฑ์ ค่าอากร ร้อยละ 0.5 ตามราคาซื้อขาย แต่ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน ธนาคารจะพิจารณาจากเกณฑ์รายได้ หลักประกัน LTV ภาระหนี้สินที่มี รวมถึงประวัติข้อมูลเครดิตต้องปกติ 40 ปี แต่ระยะเวลาการกู้เมื่อรวมกับอายุผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี -กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไปพิจารณาวงเงินให้กู้ไม่เกิน 85% ของราคาประเมิน และราคาซื้อขาย -กรณีลูกค้าสวัสดิการ พิจารณาวงเงินให้กู้ไม่เกิน 90-100% ของราคาประเมิน และราคาซื้อขาย
ไม่สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินเปล่าได้ แต่สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคารในคราวเดียวกันได้ ธอส. ให้สินเชื่อเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
สินเชื่อ (6)ธนาคารใช้วิธีการคำนวณจากยอดเงินต้นคงเหลือ คูณด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้(%) คูณจำนวนวันในเดือน (30 หรือ 31 วัน) หารด้วยจำนวนวันในหนึ่งปี (365 หรือ 366 วัน) ลูกค้ารายย่อยสามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระได้ หลังจากผ่อนชำระครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี โดยต้องมีประวัติการผ่อนชำระสม่ำเสมออย่างน้อย 24 เดือน และไม่อยู่ระหว่างประนอมหนี้ ลูกค้าสวัสดิการ สามารถขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยได้หลังจากครบกำหนดการใช้ดอกเบี้ยปีที่ 2 แต่ต้องตรวจสอบจากบันทึกต่อท้ายสัญญากู้เงินอีกครั้ง เนื่องจากบางโครงการจะกำหนดข้อห้ามเช่น ห้ามปิดบัญชี หรือเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยภายในระยะเวลากี่ปี ไม่แตกต่าง อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับโครงการที่ลูกค้าเลือกใช้ กรณีขอเลขที่บ้านใหม่-ใบคำขอเลขที่บ้าน กรณีปลูกสร้างอาคารทดแทนหลังเดิมแต่ไม่ต้องการเปลี่ยนเลขที่บ้าน(กรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินเป็นของบุคคลอื่นและไม่ได้กู้ร่วม) -ใบรับรองอนุญาตปลูกสร้าง ทด.13 หรือ ทด.14 (ต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานเขตหรืออบต.ในพื้นที่ ไม่สามารถใช้เฉพาะเอกสารขออนุญาตรื้อถอนได้) ธนาคารจะจ่ายเงินงวดให้แก่ลูกค้าก่อนมีผลงานการก่อสร้าง แต่ธนาคารจะบวกดอกเบี้ยเพิ่มร้อยละ 0.50 ต่อปี จนกว่าจะรับเงินงวดสุดท้ายแล้วเสร็จ ธนาคารจะจ่ายเงินงวดให้แก่ผู้กู้ โดยต้องมีผลงานการก่อสร้างอย่างน้อย 20% Refinance (3)กรณีไถ่ถอนมายังธอส.ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น กรณีเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล หรือเพื่ออุปโภคบริโภค ไม่สามารถไถ่ถอนมายังธอส.ได้ การไถ่ถอนจำนองมายังธอส. ต้องเป็นการไถ่ถอนจากสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต หรือสถาบันการเงินอื่น การเคหะแห่งชาติ บริษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) หรือบริษัทนิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. เท่านั้น หากเป็นกรณีทำสัญญาขายฝากต้องมีการทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดินด้วย กรณีไถ่ถอนจำนองย้ายสถาบันการเงินมายัง ธอส. วัตถุประสงค์เดิมต้องเป็นการกู้เพื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น ธนาคารจะพิจารณาจากประวัติการกู้ย้อนหลัง 24 เดือน โดตยต้องมีสถานะบัญชีปกติจากสถาบันการเงินเดิม เพื่อประกอบการพิจารณาค่ะ การประนอมหนี้ (3)ผู้กู้ร่วมคนใด คนหนึ่ง สามารถเข้ามาติดต่อขอประนอมหนี้ได้ หากไม่มีผู้กู้ร่วมสามารถมอบอำนาจได้ โดยให้ญาติที่อยู่ในเมืองไทยเข้ามาติดต่อกับทางธนาคาร โดยใช้หนังสือสอบมอบอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง เข้ามาติดต่อธนาคาร 1. เอกสารส่วนบุคคล 2. เอกสารรายได้ (เพื่อพิจารณาความสามารถในการประนอมหนี้) 3. เอกสารแสดงภาระหนี้ต่างๆ เช่น ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สัญญากู้เงินต่างๆ -กรณีทรัพย์หลักประกันอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑล สามารถติดต่อได้ที่ งานบริหารหนี้ ฝ่ายบริหารหนี้ กทม.และปริมณฑล (ธอส.สำนักงานใหญ่) หมายเลขโทรศัพท์ 02-202-1770-5 -กรณีทรัพย์หลักประกันตั้งอยู่ในเขตต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่งานบริหารหนี้สาขา สาขาในจังหวัดที่ทรัพย์ตั้งอยู่ หรือ ฝ่ายบริหารหนี้ภูมิภาค (ธอส.สำนักงานใหญ่) อาคาร 2 ชั้น 2 หมายเลขโทรศัพท์ 02-202-1742-3 ค่ะ การชำระเงินงวด (2)ผู้กู้สามารถชำระเงินงวดได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขา ตู้รับชำระหนี้เงินกู้(LRM) ตู้ ATM เครื่องชำระหนี้เงินกู้ไร้เงินสด(QR Non Cash Payment) และ Mobie Application GHB ALL หักเงินงวดจากบัญชีเงินฝาก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงเทพฯ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ ชำระเงินงวดผ่านตัวแทนรับชำระหนี้เงินกู้โดยใช้บัตร GHB Pay Card หรือใบเสร็จรับเงินที่มีแถบบาร์โค๊ด อาทิ – เคาน์เตอร์เซอร์วิส ผู้กู้จะต้องชำระเงินงวดไม่ต่ำกว่าที่ธนาคารกำหนดตามสัญญากู้เงินเป็นประจำทุกเดือน หากเดือนใดไม่ได้ชำระเดือนถัดมาผู้กู้จะต้องชำระเงินงวดพร้อมกัน 2 ยอด งวด คือ เงินงวดในเดือนที่ผ่านมาและเงินงวดเดือน ปัจจุบัน กรณีเดือนใดผู้กู้ชำระเงินงวดเกินกว่าที่ธนาคารกำหนด เงินส่วนที่เกินจะถูกนำไปตัดชำระเงินต้นทั้งจำนวน ไม่ถือเป็นชำระเงินงวดของเดือนถัดไป
คนไทยในต่างประเทศ (1)ผู้กู้ร่วมคนใด คนหนึ่ง สามารถเข้ามาติดต่อขอประนอมหนี้ได้ หากไม่มีผู้กู้ร่วมสามารถมอบอำนาจได้ โดยให้ญาติที่อยู่ในเมืองไทยเข้ามาติดต่อกับทางธนาคาร โดยใช้หนังสือสอบมอบอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง เข้ามาติดต่อธนาคาร Load More |