ประจำเดือนมาก่อน1อาทิตย์ผิดปกติไหม

ประจำเดือนมาก่อน1อาทิตย์ผิดปกติไหม

เพราะการแต่งงานเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของชีวิต เป็นดั่งความฝันที่ผู้หญิงหลายคนปรารถนา ฉะนั้นอย่าให้ช่วงเวลาอันแสนสุขของคุณต้องหยุดชะงักเพียงเพราะละเลยที่จะตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะสุขภาพภายในอย่างมดลูกและรังไข่ ที่ไม่ใช้แค่การตรวจคัดกรองทั่วไป แต่เป็น “การตรวจอัลตร้าซาวด์” ซึ่งสามารถวินิจฉัยความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ประจำเดือนที่ว่า “ผิดปกติ” ต้องผิดปกติแบบไหน

เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ การมีประจำเดือนก็จะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ประจำเดือนที่เคยมาเป็นประจำสม่ำเสมอและไม่ได้สร้างอาการปวดท้องหรืออาการใดๆ กลับมีความผิดปกติไป เช่น มามากและนาน มาน้อยเกินไป มากะปริบกะปรอย หรือทำให้ปวดท้องมากกว่าปกติเพิ่มขึ้นทุกๆ เดือน รวมทั้งปวดท้องทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงการมีรอบเดือน หรือมีรอบเดือนแล้วมีลิ่มเลือดปนเป็นก้อนออกมา และเมื่อ “ประจำเดือนผิดปกติ” เมื่อไหร่ ก็ให้สงสัยได้ว่า...อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่เกิดขึ้นกับมดลูกหรือรังไข่ได้ จึงควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ผู้ชำนาญการ
แต่โดยปกติแล้ว ประจำเดือนของแต่ละคนก็จะมีปริมาณและจำนวนวันมาที่ไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่หากประจำเดือนมามากในระดับที่เป็นสัญญาณผิดปกติ ในทางการแพทย์จะพิจารณาดังนี้
  • ประจำเดือนมามากกว่า 7 วันขึ้นไป
  • มามากจนทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ ชั่วโมงหรือบ่อยมากๆ หรือต้องตื่นขึ้นมาเปลี่ยนผ้าอนามัยระหว่างนอนหลับ
  • ในผู้หญิงที่อายุเข้าเลข 50 หรือใกล้เข้าวัยทอง แต่ประจำเดือนกลับมามากขึ้น ทั้งๆ ที่ควรจะน้อยลง
ดังนั้น หากใครมีประจำเดือนมามากผิดปกติเหมือนใน 3 ข้อที่กล่าวมา รวมถึงปวดประจำเดือนมากขึ้น รอบเดือนมาๆ หายๆ หรือมีตกขาวมาก ก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยให้พบว่ามีโรคอะไรแฝงอยู่หรือไม่ จะได้รักษาให้ถูกทาง

วิธีตรวจหาโรคจากการที่ “ประจำเดือนผิดปกติ”

  1. การตรวจภายใน
  2. คือตรวจดูช่องคลอด ปากมดลูกด้วยการคลำหรือส่องกล้องว่ามีก้อน แผล หรือติ่งเนื้อหรือไม่ ร่วมกับการเก็บเซลล์จากปากมดลูกเพื่อนำมาเพาะหาการติดเชื้อหรือการอักเสบ ตลอดจนคลำตรวจขนาดของมดลูกและรังไข่ ตรวจด้วยการกดแล้วสังเกตอาการว่าเจ็บหรือไม่ หรือพบก้อนแปลกปลอมหรือเปล่า
  3. การอัลตราซาวด์
  4. เมื่อแพทย์ตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นแล้ว หากพบความผิดปกติที่มดลูกหรือรังไข่ การอัลตราซาวนด์ทั้งทางหน้าท้องและทางช่องคลอดจะช่วยให้พบโรคและช่วยให้วินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น

อาการปวดท้องประจำเดือนเป็นสัญญาณเตือนโรคอะไรได้บ้าง?

  1. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตซีสต์
  2. โดยมากจะพบว่ามีการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงและมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกเดือน หรือมีอาการปวดและเจ็บลึกๆ ที่ช่องคลอดหรือท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากตรวจแล้วพบโรค ก็สามารถทำการรักษาได้

    การรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตซีสต์

    ปกติแล้ว จะเลือกรักษาจาก 2 วิธีหลักๆ คือ
    • การรักษาด้วยยา การใช้ยา ก็เพื่อยับยั้งการทำงานของรังไข่ ซึ่งอาจทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือลดอาการปวดขณะมีประจำเดือน ผลการรักษาด้วยวิธีนี้มักขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วยแต่ละคน โดยการใช้ยาจะมีการติดตามและประเมินอาการเป็นระยะๆ จากแพทย์ ถ้าการรักษาด้วยยาไม่ได้ผล แพทย์จะแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัดต่อไป
    • การผ่าตัด จะเป็นการผ่าตัดเพื่อนำถุงช็อกโกแลตซีสต์ออก ซึ่งเป็นทั้งการรักษาและสามารถนำชิ้นเนื้อมาตรวจวินิจฉัยว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ด้วย ซึ่งในปัจจุบันผู้ป่วยมักนิยมการผ่าตัด 2 วิธีนี้ คือ การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง และการผ่าตัดผ่านกล้องทางหน้าท้อง ซึ่งการผ่าตัดผ่านกล้องจะช่วยลดปัญหาการเกิดพังผืด แผลเล็กกว่า เจ็บน้อยกว่า และผู้ป่วยจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง
  3. เนื้องอกมดลูก
  4. โดยมากพบว่า มีประจำเดือนมามากและนาน หรือมีลิ่มเลือดปนเป็นก้อน ปวดประจำเดือนมากขึ้น หรือในบางครั้งอาจมีอาการปวดคล้ายปวดประจำเดือน ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงการมีประจำเดือน ซึ่งก้อนเนื้องอกอาจเติบโตไปกดทับอวัยวะใกล้เคียงทำให้มีอาการแทรกซ้อนหรือเป็นโรคอื่นๆ ตามมาได้

    การรักษาเนื้องอกมดลูก

    ปกติแล้ว หากเนื้องอกมดลูกยังมีขนาดเล็กก็มักจะไม่มีอาการแสดงใดๆ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าเป็น...จนกว่าตรวจพบความผิดปกติ ซึ่งมักพบจากการตรวจสุขภาพประจำปี จากการตรวจภายใน หรือการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ ดังนั้นผู้หญิงทุกคนจึงควรพิจารณาเข้ารับการตรวจภายในเป็นประจำ หากตรวจพบโรคเร็วก็สามารถรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น
    • การฉีดสารเพื่อให้เกิดการอุดเส้นเลือดที่เลี้ยงเนื้องอกมดลูกโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นการรักษาโดยใช้เทคนิคทางรังสีวิทยา ด้วยการสอดสายผ่านหลอดเลือดแดงที่ขาหนีบไปจนถึงเนื้องอก แล้วทำการฉีดสารเพื่อให้หลอดเลือดอุดตัน ก้อนเนื้องอกที่ขาดเลือดไปเลี้ยงจะฝ่อลง เหมาะกับการรักษาเนื้องอกก้อนที่ยังไม่ใหญ่มาก
    • การผ่าตัดเฉพาะเนื้องอกออก หากเนื้องอกมดลูกมีรขนาดใหญ่ แพทย์มักแนะนำให้ทำการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดสามารถทำได้ทั้งผ่าตัดส่องกล้องทางช่องคลอด ผ่าตัดแบบเปิดผนังท้อง และแบบส่องกล้องผ่านหน้าท้องแผลเล็ก ซึ่งการจะเลือกผ่าตัดแบบใดนั้นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ประกอบ เช่น ระดับอาการ ระยะของโรค โรคอื่นๆ ที่เป็นอยู่ สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และความต้องการในการมีบุตรในอนาคต
โรคภายในช่องท้องและระบบสืบพันธุ์สตรี ส่วนใหญ่แล้วหากไม่ได้รับการตรวจสุขภาพหรือตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ ก็มักพบเมื่อมีอาการมากแล้ว ทำให้การรักษายากขึ้น และผู้ป่วยต้องเจ็บตัวหรือมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ดังนั้นการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ และการป้องกันที่ดีด้วยการฉีดวัคซีน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ควรพิจารณา

ภาวะผิดปกติของการมีประจำเดือนเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณเตือนเนื้องอกมดลูก ซึ่งส่วนใหญ่พบในหญิงวัยทำงานอายุ 30-40 ปี มากถึง 20-25%

เนื้องอกมดลูก คือเนื้องอกที่เกิดขึ้นในตัวมดลูก ซึ่งเป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา ไม่ใช่มะเร็ง อาจพบที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของตัวมดลูก มีขนาดต่างๆ กันไป อาจเป็นก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้ บางชนิดโตช้า บางชนิดโตเร็ว

ถ้าเป็นเนื้องอกก้อนเล็ก ผู้ป่วยจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ อาจตรวจพบโดยบังเอิญเมื่อไปตรวจสุขภาพหรือปรึกษาแพทย์ด้วยปัญหาอื่น และอาจไม่จำเป็นต้องให้การรักษา

ทำไมประจำเดือนมาก่อนกำหนด 1 อาทิตย์

เป็นภาวะที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ได้แก่ มาก่อนกำหนดหรือมาหลังกำหนดเป็นเวลา 7 วันขึ้นไป สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากร่างกายมีภาวะชี่ของตับติดขัด ไตพร่อง การทำงานของชงและเริ่นเสียสมดุล เลือดในมดลูกไหลซึมออก

ประจำเดือนมาก่อนเวลาเป็นอะไรไหม

การที่มีประจำเดือนก่อนกำหนด หรือ มากกว่า 1 ครั้งในรอบเดือน ถือเป็นความผิดปกติภายในโพรงมดลูกที่มีการลอกตัวหรือมีเลือดออกก่อนเวลาอันควร ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น มีเนื้องอกในมดลูก ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หรือ ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก เป็นต้นครับ

ประจำเดือนมาก่อน5วันผิดปกติไหม

อาการประจำเดือนมาน้อย โดยทั่วไป รอบเดือนของผู้หญิงอยู่ในช่วง 21-35 วัน และมีช่วงเวลาที่ประจำเดือนมาแต่ละครั้งประมาณ 3-5 วัน แต่บางรายอาจมีประจำเดือนประมาณ 2-7 วัน ซึ่งเป็นภาวะปกติ โดยเลือดที่ไหลออกมานั้น อาจมีปริมาณมาก ปานกลาง หรือน้อยแตกต่างกันไป

ประจำเดือนมาก่อนกำหนดได้กี่วัน

ผู้หญิงจะมีประจำเดือนทุกๆ 28 – 30 วัน (หรืออยู่ในช่วง 21- 35วัน) ผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาประมาณ 3 - 5 วัน หรือไม่ควรมาเกิน 7 วัน ปริมาณประจำเดือนที่ออกมาในแต่วันไม่ควรเกิน 80 ซีซี หรือเทียบได้กับการเปลี่ยนผ้าอนามัยประมาณ 4 ผืนต่อวัน (แบบที่มีเลือดชุ่มเต็มแผ่น)