มี เงิน เก็บ 1 ล้าน ทํา อะไร ดี

ก่อนอื่นเราต้องขอแสดงความยินดีกับคุณซึ่งสามารถมีวินัยเก็บออมเงินได้เป็นก้อนใหญ่ถึง 1 ล้านบาท เราเชื่อว่ากว่าคุณจะสามารถทำเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ได้คุณต้องมีวินัยในตัวเองมากๆ เลยทีเดียว และเมื่อคุณเก็บเงินมาได้จนถึงระดับนี้แล้ว เราเชื่อว่า แทนที่จะเก็บเงินก้อนนี้เอาไว้เฉยๆ คุณต้องการที่จะนำมันไปต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น

โดยบทความนี้นำเสนอเพียงแนวทางต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น โดยเรารับประกันไม่ได้ว่าทุกๆ  คนจะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องตัดสินใจและศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ถี่ถ้วนทุกครั้งก่อนทำการลงทุน

หัวข้อหลัก

วางแผนการเงินก่อนเริ่มลงทุน!

มี เงิน เก็บ 1 ล้าน ทํา อะไร ดี

แม้ว่าการลงทุนจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้เงินงอกเงยยิ่งกว่าเดิม แต่การลงทุนก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน คุณอาจจะลงทุนผิดพลาดจนสูญเงินลงทุนไปทั้งหมดก็ได้ เพราะฉะนั้น นอกจากการวางแผนลงทุนเพื่อใช้สำหรับลงทุนแล้ว ควรจัดเก็บหรือออมเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อรองรับกรณีดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ เราไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินก้อนทั้งหมดเพื่อการลงทุนเพียงด้านเดียว โดยสามารถเลือกลงทุนแบบผสมผสาน โดยแบ่งเงินก้อนนี้ออกเป็นสัดส่วนตามการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงออกไป ซึ่งเมื่อมีความผิดปกติ เช่น การลงทุนในด้านใดให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่าที่คาดจากภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ก็สามารถปรับแผนการลงทุนไปทุ่มกับธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าได้

โดยการเลือกแผนการลงทุนนั้น นอกจากการคำนึงถึงผลลัพท์และรายได้แล้ว ควรเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับความชื่นชอบ และความถนัดของคุณ เพื่อที่จะบริหารจัดการได้โดยง่ายและมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้น

โดยตัวอย่างรูปแบบการลงทุน มีดังนี้ …

1. ธุรกิจส่วนตัว

ในการลงทุนสำหรับ ธุรกิจส่วนตัว นั้น คุณสามารถเลือกรูปแบบของสินค้าหรือบริการที่คุณต้องการจะขายได้อย่างอิสระ โดยต้องใช้ทั้งทุนและแรงมากกว่าการลงทุนอื่นๆ เป็นเท่าตัว ซึ่งก็มีความเสี่ยงอยู่หลายด้าน แต่ความเสี่ยงนั้น ก็อยู่ภายใต้การบริหารโดยเจ้าของซึ่งก็คือตัวคุณเอง

โดยคุณสามารถเริ่มต้นได้จากการประยุกต์นำความชื่นชอบส่วนตัวของคุณมาเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่ใช้เงินไม่มากก่อน อย่างเช่น การขายสินค้าออนไลน์ เพื่อดูแนวโน้มและความนิยมของสินค้านั้นๆ ซึ่งหากมีแนวโน้มดีก็นำเงินที่มีไปต่อยอดเพื่อขยายกิจการ หรือเพิ่มจำนวนสินค้า เพื่อสร้างรายได้ที่มากยิ่งขึ้น

2. ธุรกิจเฟรนไชส์ 

ธุรกิจเฟรนไชส์ นั้นคล้ายกับการเป็นเจ้าของกิจการรูปแบบหนึ่ง เพียงแต่แตกต่างกันที่ คุณซื้อส่วนหนึ่งจาก “แบรนด์” ของผู้อื่นมา หรือคล้ายๆ กับว่าคุณเป็นสาขาย่อยนั่นเอง ซึ่งการลงทุนเฟรนไชส์เป็นอะไรที่ทำได้ง่าย เนื่องจากมีการเตรียมรูปแบบสินค้า และบริการไว้แล้ว เพียงคุณซื้อมา หาทำเลในการขาย ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่าย

แต่! เพราะว่าความง่ายของเฟรนไชส์นี่แหละที่เป็นเหมือนจุดอ่อนของตัวเอง นั่นก็คือ มีจำนวนของเฟรนไชส์ในปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก และบางครั้งก็อาจเป็นคู่แข่งกับเฟรนไชส์ของแบรนด์เดียวกันกับตัวเองด้วย ด้วยความจำเจของเฟรนไชส์ที่ไปที่ไหนก็เจออาจทำให้รู้สึกเบื่อกันได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้น การเลือกทำเลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจเฟรนไชส์

3. หุ้น

การลงทุนใน หุ้น คือ การเข้าซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของร่วมกับกิจการ หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เพื่อร่วมการมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัท ซึ่งมูลค่าของหุ้นนั้นจะมีขึ้นและลงตามผลประกอบการของบริษัทนั้นๆ ซึ่งคุณสามารถใช้ความรู้ความเข้าใจในการตลาดที่มี เล็งซื้อหุ้นที่กำลังลงต่ำ แต่มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเพื่อทำการขายสร้างกำไร หรือที่เรียกว่า การเทรดหุ้น นั่นเอง 

ซึ่งการลงทุนประเภทนี้มีความเสี่ยงที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากคุณไม่มีอำนาจในการบริหารความเสี่ยงของกิจการที่คุณเข้าซื้อโดยตรง หากคุณไม่ใช่เซียนเล่นหุ้นที่ศึกษามาเป็นเวลาหลายปี เราแนะนำให้คุณเลือกลงทุนกับหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าการลงทุนในหุ้นจะไม่ต้องลงทุนลงแรงมากเหมือนธุรกิจอื่นๆ แต่ก็จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจต่างๆ มากมาย รวมถึงต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของตลาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การซื้อขายหุ้นเป็นไปได้ด้วยดี

4. กองทุนรวม

กองทุนรวม เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากไม่ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์ตลอดเวลาเหมือนหุ้นแล้ว ยังมีมืออาชีพคอยดูแล ทำการตัดสินใจซื้อขายให้แทนเราอีกด้วย โดยอ้างอิงจากวัตถุประสงค์ของการลงทุนของเรา เช่น ผลตอบแทนที่ต้องการ ความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อใช้เลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายสอดคล้องกับความต้องการของเรา โดยจะมีให้เลือกรูปแบบการลงกองทุนหลายประเภท ตั้งแต่กองทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างกองทุนที่ลงทุนในหุ้น กองทุนที่ลงทุนหุ้นต่างประเทศ ไปจนถึงกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนพันธบัตรรัฐบาล

5. เงินฝากประจำ

หากคุณเป็นคนใจเย็น และไม่ได้ต้องการรีบสร้างเม็ดเงินขนาดนั้น คุณสามารถเลือกฝากประจำเพื่อเพิ่มมูลค่ากับเงินก้อนนี้ได้ โดยเงินฝากประจำจะให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินปกติ 3-5 เท่า แต่ต้องแลกมาด้วยการที่เราไม่สามารถนำเงินนั้นออกมาใช้ได้เป็นเวลานาน โดยจะมีเงื่อนไขในการฝาก ดังนี้

  • ระยะเวลามีให้เลือกแบบ 24 เดือน / 48 เดือน / 60 เดือน (ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร)
  • เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยตามที่ตกลง
  • ได้รับยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
  • ต้องฝากเงินในจำนวนเท่า ๆ กันเดือนละ 1 ครั้ง วันที่เท่าไรก็ได้ (ขาดได้ไม่เกิน 2 ครั้ง)
  • หากถอนหรือปิดบัญชีก่อน 3 เดือน จะไม่ได้รับดอกเบี้ย
  • สามารถเปิดได้เพียงคนละ 1 บัญชีเท่านั้น

จึงเป็นรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีงานประจำและยังไม่มีเวลาไปบริหารการลงทุน … หากคุณกำลังมองหาธนาคารเพื่อทำการฝากประจำ เราขอแนะนำ บัญชีเงินฝากประจำ ธอส ที่ให้คุณออมเงินเพื่อความมั่นคงในระยะยาว ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ บัญชีเงินฝากประจำ ธอส

6. อสังหาริมทรัพย์

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่นิยมใช้เทคนิค Other People’s Money (OPM) หรือการนำเงินผู้อื่นมาใช้ลงทุนก่อน ซึ่งก็คือการกู้สินเชื่อ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างผลกำไรได้เป็นจำนวนมาก โดยคุณสามารถนำเงินก้อนที่ได้นี้ไปลงทุนกับการซื้อที่ดิน หรือบ้าน เพื่อปล่อยเช่า และนำเงินค่าเช่านั้นมาจ่ายเป็นค่างวดรายเดือนที่กู้มาจากธนาคาร

ข้อดีของการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์นั้นก็คือ มูลค่าของอสังหาฯ ที่คุณมีอยู่นั้นจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ซึ่งสามารถสร้างเงินก้อนโตให้กับคุณได้อย่างง่ายดาย หากคุณสามารถศึกษาทำเลและแนวโน้มของพื้นที่นั้นในอนาคตได้ เศรษฐีคนใหม่ก็อาจเป็นคุณ

7. สลากออมทรัพย์  

สลากออมทรัพย์ คือ การออมทรัพย์ลักษณะพิเศษที่เหมือนกับการฝากเงินกับธนาคารที่คุณจะได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่ผู้ฝากจะมีโอกาสถูกรางวัลตามหมายเลขบนสลากอีกด้วย เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวเลย

โดยในการซื้อสลากออมทรัพย์นั้นก็ต้องแลกมาด้วยระยะเวลาที่คุณไม่สามารถถอนเงินออกมาได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง มิฉะนั้นจะไม่ได้รับดอกเบี้ยและรางวัลตามที่กำหนด ซึ่งสำหรับใครที่คิดจะซื้อสลากออมทรัพย์ คุณต้องแน่ใจว่า มีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอและไม่ต้องถอนเงินออกมาใช้ก่อน

สลากออมทรัพย์ของแต่ละธนาคารนั้นจะมีข้อแตกต่างกันที่ราคาของตัวสลาก และเงินรางวัล โดย สลากที่มีมูลค่าต่ำ นั้นจะมีโอกาสถูกรางวัลสูง แต่รางวัลก็จะได้น้อยเช่นกัน ซึ่งแทบจะไม่แตกต่างกับดอกเบี้ยที่ได้จากธนาคารเลย … แต่ สลากที่มีมูลค่าสูง แม้จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ต่ำ แต่ผลตอบแทนที่ได้จากรางวัลนั้นมีมูลค่าสูงมาก

สรุป

บทความนี้น่าจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าการลงทุนแบบไหนที่คุณจะสามารถบริหารได้ดี และเหมาะสมกับคุณ … แม้การลงทุนจะเป็นการต่อยอดให้เงินงอกเงย แต่อย่าลืมว่าทุกการลงทุนนั้นแฝงมาด้วยความเสี่ยงเสมอ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเริ่มลงทุนอะไรก็ตาม ควรหาข้อมูล วางแผนและจัดการทุกอย่างให้ดีก่อนที่จะเริ่มทำเสมอ